Missing Piece Meets the Big O



หลายคนมักมีเสียงกร่นบ่นเปรยออกมาให้ได้ยินเสมอ
ไม่เว้นแม้แต่ตัวฉันเองว่า
“เมื่อไหร่จะเจอคนที่ใช่”
“เมื่อไหร่จะเจอคู่แท้”
“เมื่อไหร่...เมื่อไหร่...และเมื่อไหร่”
และเมื่อไหร่ที่เสียงเหล่านี้ดังออกไปให้คนอื่นได้ยิน
เมื่อนั้นมักมีเสียงตอบกลับมาว่า
“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ
เดี๋ยวมันก็เข้ามาหาเราเอง...”
สารพัดคำ
สารพัดประโยคที่ทำให้เรารู้สึกว่า
ยิ่งพร่ำบ่นกับตัวเองมากเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกมันไร้สาระ
และไร้ประโยชน์มากเท่านั้น
เรียกว่า บ่นจนลืมบ่นกันไปเลย...

เรามักอุปโลกการตามหาคู่รักจากตำนาน
หรือนิทานปกรณ์รัมที่เล่าขานกันต่างๆ นานา
ว่ากันว่ามนุษย์เราเคยมีมือ สี่มือ ขาสี่ขา
แล้วถูกแยกจากกัน
บ้างก็ว่ามนุษย์ผู้ชายกับมนุษย์ผู้หญิง
กระทำความผิดทำให้ต้องแยกจากกัน
ซึ่งไม่ว่าจะเรื่องไหนๆ
มันก็บอกให้เรารู้และเชื่อว่า
เราต่างมีคู่แท้ที่ถูกพลัดพรากจากกันไปนานแสนนาน
เมื่อเรากลับมามีชีวิตอยู่อีกครั้ง
เราจึงต้องตามหาคู่แท้ให้เจอ
แต่เชื่อเถอะว่าหลายคนและหลายครั้ง
เราต่างมัวแต่วุ่นวายกับการตามหาคู่แท้
เรามัวคอยแต่จะมองหาใครสักคนเพื่ออยู่เคียงข้างเรา
เพื่อคลายความเหงา อ้างว้างและโดดเดี่ยว
แต่เรามักหลงลืมเสมอกับการตามหาหัวใจตัวเอง
เพื่อเข้าใจตัวเอง
และผ่านความรู้สึกเหล่านั้นด้วยตนเอง

ครั้งหนึ่งเคยอ่านหนังสือเล่มนี้เมื่อหลายปีก่อน
คิดอยู่ในใจว่า
มันก็แค่หนังสือธรรมดาๆ เล่มหนึ่งที่มีหน้าปกสวย
กระดาษเคลือบมัน
อธิบายด้วยรูปภาพและคำอธิบายสั้นๆ
เหมาะกับการเด็กๆ เล็กๆ ซะมากกว่า
ฉันเพียงแค่เปิดมันดูผ่านๆ คิดสบถอยู่ในใจว่า
“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย...”
ซึ่งความมักง่าย
และการมองข้ามความคิดของฉันในวันนั้น
ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดและไม่สมควรนัก

เพราะวันนี้ฉันกลับคิดถึงหนังสือเรื่องนี้อีกครั้ง
และนั่งเปิดดูอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ฉันตั้งใจที่จะเปิดมันทีละหน้า
นั่งดูประโยคสั้นๆ ที่ปรากฏบนหน้ากระดาษ
และด้วยถ้อยประโยคสั้นๆ เหล่านั้น
มันกลับทำให้ฉันมองเห็นตัวเองได้มากมายทีเดียว

ด้วยประสบการณ์จากการอ่าน
ฉันไม่แปลกใจนักหรอกที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
เพราะหลายครั้งที่ฉันมักหยิบหนังสือ
ที่ฉันชอบไม่ต่ำกว่าสองรอบ
จนบางเล่มก็นับรอบไม่ได้ด้วยซ้ำ
ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ
บางครั้งเราก็หลงลืมอะไรบางอย่างไป
บางครั้งเราก็รับรู้อะไรในครั้งแรกได้ไม่ครบถ้วน
ทำให้เราต้องเรียนรู้เรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่ใช่เพื่อกลับไปเริ่มต้นใหม่
แต่เพื่อกลับไปเรียนรู้
และลับวิธีคิดให้มันคมมากขึ้นเท่านั้นเอง

น่าแปลกใจที่วันนี้
เพื่อนฉันทักทายฉันขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยว่า
“did u meet the big O?”
ฉันไม่ตอบอะไร แต่ยิ้มอยู่ในใจ...
เพราะ Big O ของฉันก็คือ
“ตัวฉันเองนี่แหละ”
แล้วคุณล่ะ เจอ Big O หรือยัง ???

หลังจากอ่านข้อเขียนของฉันจบแล้ว
ได้โปรดอย่าลืมถามตัวเองว่า
มีหนังสือเล่มไหนที่คุณโปรดปรานบ้าง
แล้วอย่าลืมหยิบมันกลับมาอ่านซ้ำอีกครั้งล่ะ
เพื่อที่ความคิดในชีวิตของคุณจะคมขึ้นมาบ้าง...

ด้วยความปรารถนาดี

เที่ยงยี่สิบนาที
8 ตุลาคม 2551


Create Date : 08 ตุลาคม 2551
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2551 19:34:07 น. 4 comments
Counter : 859 Pageviews.

 
เล่มนี้เลย ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจความหมายมากยิ่งขึ้น
" เจ้าชายน้อย" เพราะว่ามันมีความหมายตั้งแต่ตอนได้หนังสือเล่มนี้มาแล้วแหละ

อีกเรื่องที่อ่านแล้ววางไม่ลงและอยากกลับไปอ่านอีกรอบ ก็นี่เลย เดอะรีดเดอร์ ชอบมักๆ


โดย: PeeT IP: 115.67.216.214 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:19:06:54 น.  

 




True love is not something that comes everyday, follow your heart, it knows the right answer.

If we deny love that is given to us, if we refuse to give love because we fear pain or loss, then our lives will be empty, our loss greater.

When you fish for love, bait with your heart, not your brain.

Love is not something you feel. It's something you do.

รักจริงจริง....


โดย: thai me up วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:1:09:10 น.  

 
หนังสือที่อ่านแล้วชอบก็มีหลายเล่ม แต่ล่าสุดอ่านหนังสือของพี่หนูดี วนิษา เรซ อ่านแล้วอ่านอีกขนาดพรุ่งนี้สอบก็ยังอ่านแทนหนังสือเรียน
หนังสือที่พี่พีทจ๋าบอกก็เคยหยิบมานั่งอ่านดูตอนว่างๆในห้องสมุด "เจ้าชายน้อย" ด้วยความที่ชื่อสะดุดตา คงต้องไปหามาอ่านต่อให้จบแล้วมั้งเนี่ย ระหว่างรอรักแท้ซึ่งไม่มีอยู่จริงในโลกนอกจากในนิยาย อิอิ


โดย: พิม...โสด IP: 222.123.3.69 วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:5:27:55 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาอ่านจ้าน้องโบ


โดย: อุ้มสี วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:14:38:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Stand by bowky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







ความเหงาคือความรู้สึก
เหมือนมีช่องว่าง
ที่ถมไม่เต็ม
ระหว่างตัวตนภายใน
ของเรา
กับสิ่งที่เราคิดว่า
เป็นตัวตนของคนอื่นๆ
มันไม่ได้ก่อรูปขึ้น
จากความไร้ญาติขาดมิตร
หากเกิดจากการพบปะ
ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ที่เรารู้สึกแปลกแยก
ทางความรู้สึกนึกคิด
ต่างหาก



เวลาที่คุณอยากบอกใคร
สักคนว่าคุณชอบ
และเกลียดกลัวสิ่งไหน
หรืออยากทำอะไร
ในชีวิต
แล้วเขาไม่เข้าใจ
สิ่งที่คุณพูด
คุณจะอ้างว้างหนาวใจ
ขึ้นมาติดหมัด
ในแง่นี้
การถวิลหาความรัก
ก็คือ
การค้นหาทางออก
จากสถานการณ์ดังกล่าว




เราอยากมีใครสักคน
ที่คอยบอกว่า
ฉันเข้าใจว่า
คุณรู้สึกอย่างไร
ไม่ใช่เพราะ
คุณบอกออกมา
แต่ฉันเอง
ก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
กับคุณ

การบรรจบอารมณ์
ความรู้สึกนี่แหละ
ที่ทำให้
เราเรียกเพื่อนสนิท
หรือคนรักว่า"คนรู้ใจ"



คนรู้ใจไม่ต้องรอ
ฟังคำอธิบายอันยืดยาว
ก็เข้าใจทุกอย่าง
ที่คุณอยากจะบอก
เพราะเขาเอง
ก็เคยผ่านประสบการณ์
ทางอารมณ์
แบบเดียวกันมาแล้ว
เมื่อมองจากมุมนี้

เราก็เข้าใจได้ทันทีว่า
เพราะเหตุใดมิตรภาพ
จึงถือเป็นความรัก
อีกสายพันธุ์หนึ่ง



จากความลับในความรัก
conditions of love
แปลโดย
จีระนันท์ พิตรปรีชา

Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Stand by bowky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.