โอบกอดความรู้สึกตัวเอง

กิจกรรมดี ๆ สำหรับสาวโสด (อีกครั้ง) อย่างฉัน แถมต้องออกมาทำงานไกลบ้านเกิด ห่างครอบครัว มันคงหนีไม่พ้นกับการที่จะปล่อยเวลาให้ผ่านไปกับหนังดี ๆ สักเรื่อง หรือหนังสือดี ๆ สักเล่ม กับคนสันดานอย่างฉัน

วันนี้ฉันปล่อยใจไปกับหนังรักดี ๆ อีกเรื่อง มันอาจจะไม่ดีมากเหมือนหนังที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม แต่ฉันก็รู้สึกอิ่มใจทุกครั้งที่ได้ดูหนังรัก ที่มักจบอยู่สองอย่าง ถ้าไม่จบตรงที่ฉันยิ้มอย่างอิ่มเอมใจ ก็จบตรงที่น้ำตาไหลเอ่อด้วยความปลื้มใจ เพราะความซาบซึ้งในความรัก เพราะหนังทำให้เราเชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง เนื้อเรื่องทำให้เราเชื่อว่ารักแท้มีจริง ฉากรักทำให้เราอินน์ไปกับความโรแมนติก แต่สุดท้ายมันก็จบลงด้วยดีทั้งนั้น และถึงแม้นางเอกหรือพระเอกของเรื่องจะตายจาก หนังก็ทำให้เราเชื่อได้ว่าความรักสำคัญเสมอ...ฉันเองก็เชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน

ดูหนังจบเรื่องแล้วอดย้อนกลับมาดูตัวเองไม่ได้ บางทีก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกหนัง มีบุคลิกเฉิ่มเบอะ บ้างาน มองสิ่งรอบข้าง และมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุข แต่หารู้ไม่ในใจของฉันมันเปล่าเปลี่ยวสิ้นดี ฉันมันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากมีความรักดี ๆ กับเค้าบ้าง อยากมีชีวิตอยู่เพื่อใครสักคนที่เรารัก อยากรู้สึกหัวใจชุ่มชื่นเป็นสีชมพู เปล่งปลั่ง เป็นประกาย อยากมีใครสักคนที่เห็นคุณค่าและความสำคัญของฉันอย่างจริง ๆ จัง ๆ ไม่ฉาบฉวยเหมือนอย่างที่ผ่านมา อยากใช้ชีวิตด้วยรอยยิ้มประมาณว่า “อยู่ดี ๆ ก็ยิ้มออกมา” มันไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ แต่มันก็ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย

ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก อารมณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียว มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แล้วมันก็กลับเข้ามาอีก จำได้ว่าอารมณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งแรกตอนอายุ 16 จนถึงวันนี้สิบกว่าปีผ่านไปแล้ว และหัวใจมันก็ยังไม่เคยชินสักที แต่อย่างน้อยฉันก็เข้าใจชีวิต เข้าใจความรู้สึกตัวเองมากขึ้น ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องดี

เขียนมาถึงบรรทัดนี้ ได้ยินเสียงเพลงเพลงหนึ่งแว่วขึ้นมาในหัว ...

No Coming, no going,
no after, no before
I hold you close to me,
I release you to be so free
Because I am in you,
and you are in me
Because I am in you,
and you are in me.

ไม่มีการมา ไม่มีการจากไป...และตอนนี้ฉันกำลังโอบกอดความรู้สึกของตัวเองอยู่

นึก ๆ ดูแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกแบบนี้มันผ่านเข้ามาและผ่านออกไปได้อย่างไร รู้แต่ว่ามันไม่เคยทำให้ฉันหยุดหายใจได้ซะที เพราะมันผ่านเข้ามา และจากไป เราแค่ต้องเผชิญกับมันแบบรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้างก็เท่านั้น

18 กุมภาพันธ์ 2553
สามทุ่มสามสิบนาที



Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 30 พฤษภาคม 2553 20:46:15 น. 0 comments
Counter : 560 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Stand by bowky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







ความเหงาคือความรู้สึก
เหมือนมีช่องว่าง
ที่ถมไม่เต็ม
ระหว่างตัวตนภายใน
ของเรา
กับสิ่งที่เราคิดว่า
เป็นตัวตนของคนอื่นๆ
มันไม่ได้ก่อรูปขึ้น
จากความไร้ญาติขาดมิตร
หากเกิดจากการพบปะ
ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ที่เรารู้สึกแปลกแยก
ทางความรู้สึกนึกคิด
ต่างหาก



เวลาที่คุณอยากบอกใคร
สักคนว่าคุณชอบ
และเกลียดกลัวสิ่งไหน
หรืออยากทำอะไร
ในชีวิต
แล้วเขาไม่เข้าใจ
สิ่งที่คุณพูด
คุณจะอ้างว้างหนาวใจ
ขึ้นมาติดหมัด
ในแง่นี้
การถวิลหาความรัก
ก็คือ
การค้นหาทางออก
จากสถานการณ์ดังกล่าว




เราอยากมีใครสักคน
ที่คอยบอกว่า
ฉันเข้าใจว่า
คุณรู้สึกอย่างไร
ไม่ใช่เพราะ
คุณบอกออกมา
แต่ฉันเอง
ก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
กับคุณ

การบรรจบอารมณ์
ความรู้สึกนี่แหละ
ที่ทำให้
เราเรียกเพื่อนสนิท
หรือคนรักว่า"คนรู้ใจ"



คนรู้ใจไม่ต้องรอ
ฟังคำอธิบายอันยืดยาว
ก็เข้าใจทุกอย่าง
ที่คุณอยากจะบอก
เพราะเขาเอง
ก็เคยผ่านประสบการณ์
ทางอารมณ์
แบบเดียวกันมาแล้ว
เมื่อมองจากมุมนี้

เราก็เข้าใจได้ทันทีว่า
เพราะเหตุใดมิตรภาพ
จึงถือเป็นความรัก
อีกสายพันธุ์หนึ่ง



จากความลับในความรัก
conditions of love
แปลโดย
จีระนันท์ พิตรปรีชา

Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
18 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Stand by bowky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.