ถ้าหาก....
เราต่างก็เกิดมาตัวคนเดียว และจากไปคนเดียวเท่านั้น..."
เพราะประโยคนี้ทำให้ฉันไม่กลัวความโดดเดี่ยว ไม่รังเกียจความเหงา เพราะเราต่างก็เกิดมาอย่างโดดเดี่ยวและจากไปอย่างโดดเดี่ยวอย่างว่าจริง ๆ
ฉันรู้ดีใคร ๆ ต่างก็ต้องเผชิญกับความเหงาและความโดดเดี่ยว หลายคนหาทางออกด้วยการหาเพื่อนเมา หาเพื่อนกินข้าว หาเพื่อนทำโน่นทำนี่ หาเพื่อนไปที่นั่นไปที่นี่ แต่เชื่อเถอะว่ามันเป็นความยากมากที่เราจะมีเพื่อนสักคนที่จะสามารถไปไหนมาไหนกับเราได้ทุกที่ และตามใจเราได้ตลอดศก... เอาง่าย ๆ เพื่อนที่เราเคยเรียนมาด้วยกัน ทำงานห่างกันไม่ถึงสามสิบกิโล สามปีแล้วไม่ได้เจอกันยังมี...
เคยแอบคิดเล่น ๆ เหมือนกันว่า... ถ้าหาก...ฉันนั่งอ่านหนังสือคนเดียว แล้วมีคนแปลกหน้าเดินเข้ามายิ้มให้ ...แล้วมันจะเป็นยังไง ถ้าหาก...ฉันนั่งกินข้าวอยู่บนโต๊ะอาหารคนเดียว แล้วมีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาร่วมโต๊ะด้วย ...แล้วมันจะเป็นยังไง ถ้าหาก...ฉันกำลังฟังเพลงที่ฉันชอบ แล้วมีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาขอร่วมฟังด้วย...แล้วมันจะเป็นยังไง ถ้าหาก...ฉันกำลังดูหนังอยู่ แล้วมีคนแปลกหน้าพูดเปรยขึ้นมาเกี่ยวกับหนังที่กำลังดู ...แล้วมันจะเป็นยังไง ถ้าหาก...ฉันกำลังจิบกาแฟและอ่านหนังสือเล่มโปรด แล้วมีคนแปลกหน้าเข้ามาทักทายเสมือนมาด้วยกัน ... แล้วมันจะเป็นยังไง
บางทีเดินไปไหนมาไหนคนเดียว มันก็มีความรู้สึกอยากเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง เผื่อจะได้ผ่อนคลายความเหงาลงได้บ้าง... บางทีก็แอบคิดเล่น ๆ เหมือนกันว่า
ถ้าหาก..ฉันเดินไปนอกบ้าน แล้วส่งยิ้มให้คนแปลกหน้า ... แล้วเค้าจะเป็นยังไง ถ้าหาก..ฉันเดินเข้าไปร้านกาแฟที่เคยนั่งประจำ แล้วกล่าวทักทายสวัสดีกับโต๊ะข้าง ๆ ...แล้วเค้าจะคิดยังไง ถ้าหาก..ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ แล้วแบ่งปันหนังสือเล่มนั้นให้คนข้าง ๆ หรืออ่านออกเสียงดัง ๆ ...แล้วเค้าจะมีท่าทียังไง ถ้าหาก..ฉันกำลังทานข้าว แล้วตักกับข้าวแล้วยื่นให้โต๊ะข้าง ๆ พร้อมส่งรอยยิ้มให้...แล้วเค้าจะมีสีหน้ายังไง
หลายครั้งที่คิดอยู่ในใจ หลายครั้งที่อยากเดินเข้าไปหาผู้คนแปลกหน้าและปฎิสัมพันธ์ด้วย หลายครั้งที่อยากหยิบยื่นสิ่งดี ๆ ให้กับเพื่อนร่วมโลกที่ไม่รู้จักกัน ...แต่ทุกครั้งที่ความคิดเหล่านี้ผลุดขึ้น ก็ได้แต่ยิ้มให้ตัวเองทุกครั้งไป
โลกเปลี่ยนไป..คนเปลี่ยนแปลง...ประชากรโลกเยอะขึ้น แต่ก็ไม่เคยทำให้ความเหงาลดหายไปได้เลย...
แด่เพื่อนที่ชื่อว่า ความเหงา และ ความโดดเดี่ยว
ตีหนึ่งสี่สิบ 28 มีนาคม 2552
kon tee chai - budokan
Create Date : 28 มีนาคม 2552 |
Last Update : 30 มีนาคม 2552 4:15:55 น. |
|
3 comments
|
Counter : 463 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เด็กชายเบียร์ IP: 114.128.75.247 วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:2:19:53 น. |
|
|
|
โดย: PeeT IP: 124.121.113.201 วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:20:51:40 น. |
|
|
|
โดย: สอง IP: 203.144.180.65 วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:03:17 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ความเหงาคือความรู้สึก เหมือนมีช่องว่าง ที่ถมไม่เต็ม ระหว่างตัวตนภายใน ของเรา กับสิ่งที่เราคิดว่า เป็นตัวตนของคนอื่นๆ มันไม่ได้ก่อรูปขึ้น จากความไร้ญาติขาดมิตร หากเกิดจากการพบปะ ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ที่เรารู้สึกแปลกแยก ทางความรู้สึกนึกคิด ต่างหาก
เวลาที่คุณอยากบอกใคร สักคนว่าคุณชอบ และเกลียดกลัวสิ่งไหน หรืออยากทำอะไร ในชีวิต แล้วเขาไม่เข้าใจ สิ่งที่คุณพูด คุณจะอ้างว้างหนาวใจ ขึ้นมาติดหมัด ในแง่นี้ การถวิลหาความรัก ก็คือ การค้นหาทางออก จากสถานการณ์ดังกล่าว
เราอยากมีใครสักคน ที่คอยบอกว่า ฉันเข้าใจว่า คุณรู้สึกอย่างไร ไม่ใช่เพราะ คุณบอกออกมา แต่ฉันเอง ก็รู้สึกอย่างเดียวกัน กับคุณ
การบรรจบอารมณ์ ความรู้สึกนี่แหละ ที่ทำให้ เราเรียกเพื่อนสนิท หรือคนรักว่า"คนรู้ใจ"
คนรู้ใจไม่ต้องรอ ฟังคำอธิบายอันยืดยาว ก็เข้าใจทุกอย่าง ที่คุณอยากจะบอก เพราะเขาเอง ก็เคยผ่านประสบการณ์ ทางอารมณ์ แบบเดียวกันมาแล้ว เมื่อมองจากมุมนี้
เราก็เข้าใจได้ทันทีว่า เพราะเหตุใดมิตรภาพ จึงถือเป็นความรัก อีกสายพันธุ์หนึ่ง
จากความลับในความรัก conditions of love แปลโดย จีระนันท์ พิตรปรีชา
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
กินซอสจิ จะด้ายไม่เหงา *-*