โลกจริงไม่สวยเท่านิยาย !!!

เมื่อเราเติบโต..สังคมมักจะบอกเราเสมอ ว่าเราต้องทำแบบนั้น เราต้องทำแบบนี้ เราถูกสั่งสอนมาตามขนบธรรมเนียม จารีต ประเพณี หรือศีลธรรม จรรยา ที่ตีตรามาพร้อมกับสิ่งที่ดีงาม ความดี ความเจริญ ต่าง ๆ นานาสารพัด แต่เคยคิดกันบ้างไหมว่า เราถูกสอนมาแบบนี้มาเป็นร้อยปี พันปี แต่ก็ไม่เคยเห็นคนในสังคมไทย หรือแม้แต่สังคมโลกจะดีขึ้นเลย

การเมือง ก็ยังทะเลาะกันอยู่ทุกวัน ข่าวดาราที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหู สิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรม ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ ปัญหาอุทกภัย ปัญหาคอรัปชั่น ปัญหาวัยรุ่นยิงกันตาย ปัญหาค้ายาเสพติด ปัญหาโลกแตก ปัญหาต่าง ๆ นานา ก็ยังเกิดขึ้นทุกวัน นั่นหมายความว่า ศีลธรรม จรรยา ที่สั่งสอนกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษมันไม่ช่วยอะไรเลยหรือ ????

มันคงไม่แปลกอะไรใช่ไหม ถ้าฉันจะบอกว่า เทศกาลวันแม่ปีนี้ ฉันไม่มีอะไรให้แม่ ฉันไม่มีอ้อมกอดให้แม่ ฉันไม่มีคำพูดหวาน ๆ ซึ้ง ๆ ให้แม่ ฉันไม่ร้องไห้เพราะความซึ้ง บอกรักแม่ ฉันไม่มีคำขอโทษใด ๆ ฉันไม่มีแม้แต่การสำนึกผิด ฉันไม่มีและยังไม่คิดที่จะทำอะไรดี ๆ เพื่อแม่ในวันแม่ เพราะถ้าจะรักก็ต้องรักทุกวัน ถ้าจะกอดก็ต้องกอดทุกวัน ถ้าจะทำตัวดี ๆ พูดจาดี ๆ รู้สึกดี ๆ ก็ต้องเป็นแบบนั้นทุกวัน..

นี่เรากำลังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงกันนะ แล้วโลกก็ไม่ได้สวยงาม เหมือนในนิยายหรือละครน้ำเน่าที่จะเสกสรรปั้นแต่งยังไงก็ได้ เราไม่ได้รวย เราเพียงแค่มีอาชีพ ทำมาหากิน สามารถดำรงชีวิตได้ให้ผ่านพ้น เรายังมีกิเลส เรายังมีความโลภ เรายังมีความอยาก เรายังทำตามใจตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี แต่เราก็ยังทำมัน..เพราะหัวใจ และความรู้สึกของเรามันไม่แข็งแรง..เราเลยมักตามใจตัวเองในเรื่องที่ผิด ๆ อยู่บ่อย ๆ เรามีทิฐิ เราอยากเอาชนะ คำขอโทษจากปากเรา..ไม่มีหรอกนะ คำว่ารักจากปากเรา ก็ไม่มีหรอกนะ มีแต่ความรู้สึกโกรธที่มันยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกวัน ๆ ...อีกเดี๋ยวเราก็ต้องจากกันแล้วจะอะไรกันมากมาย

(ฉันเป็นปีศาจ)

9 สิงหาคม 2556
บ่ายสองสิบนาที




Create Date : 09 สิงหาคม 2556
Last Update : 9 สิงหาคม 2556 14:13:50 น. 2 comments
Counter : 818 Pageviews.

 
Thank you very much


โดย: Kai (nookookai8 ) วันที่: 9 สิงหาคม 2556 เวลา:14:54:59 น.  

 
วันนี้ตั้งใจลางานมาหาแม่ เพราะอยู่ไกลกัน กลับมาหาเดือนละครั้ง มาแต่เช้า มานั่งคุยเป็นเพื่อนระหว่างที่เขานั่งกินข้าว..คนเดียว
อาจจะดีที่ฝนตกเลยได้ขับรถพาแม่ไปเดินซื้อผลไม้ในตลาด ไปทำผม (ไม่อย่างนั้นจะชอบซ้อนมอไซค์)

ไม่มีอะไรติดมือมาฝากแม่เลยค่ะ มีแต่ใจที่อยากทำอะไรให้เท่าที่จะทำได้ เพราะไม่รู้ว่าเราจะเจอกันอีกนานเท่าไหร่ ยามที่จากกัน จะได้ไม่เสียใจว่ายังมีอะไรค้างคา ที่ควรทำแต่ไม่ได้ทำให้..นะคะ ^_^


โดย: ^_^ IP: 223.205.32.209 วันที่: 9 สิงหาคม 2556 เวลา:16:56:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Stand by bowky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







ความเหงาคือความรู้สึก
เหมือนมีช่องว่าง
ที่ถมไม่เต็ม
ระหว่างตัวตนภายใน
ของเรา
กับสิ่งที่เราคิดว่า
เป็นตัวตนของคนอื่นๆ
มันไม่ได้ก่อรูปขึ้น
จากความไร้ญาติขาดมิตร
หากเกิดจากการพบปะ
ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ที่เรารู้สึกแปลกแยก
ทางความรู้สึกนึกคิด
ต่างหาก



เวลาที่คุณอยากบอกใคร
สักคนว่าคุณชอบ
และเกลียดกลัวสิ่งไหน
หรืออยากทำอะไร
ในชีวิต
แล้วเขาไม่เข้าใจ
สิ่งที่คุณพูด
คุณจะอ้างว้างหนาวใจ
ขึ้นมาติดหมัด
ในแง่นี้
การถวิลหาความรัก
ก็คือ
การค้นหาทางออก
จากสถานการณ์ดังกล่าว




เราอยากมีใครสักคน
ที่คอยบอกว่า
ฉันเข้าใจว่า
คุณรู้สึกอย่างไร
ไม่ใช่เพราะ
คุณบอกออกมา
แต่ฉันเอง
ก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
กับคุณ

การบรรจบอารมณ์
ความรู้สึกนี่แหละ
ที่ทำให้
เราเรียกเพื่อนสนิท
หรือคนรักว่า"คนรู้ใจ"



คนรู้ใจไม่ต้องรอ
ฟังคำอธิบายอันยืดยาว
ก็เข้าใจทุกอย่าง
ที่คุณอยากจะบอก
เพราะเขาเอง
ก็เคยผ่านประสบการณ์
ทางอารมณ์
แบบเดียวกันมาแล้ว
เมื่อมองจากมุมนี้

เราก็เข้าใจได้ทันทีว่า
เพราะเหตุใดมิตรภาพ
จึงถือเป็นความรัก
อีกสายพันธุ์หนึ่ง



จากความลับในความรัก
conditions of love
แปลโดย
จีระนันท์ พิตรปรีชา

Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Stand by bowky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.