นิมิตใหม่...จากกรรมพยากรณ์

หลายวันมานี่มีเรื่องให้ต้องคิด ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ต้องเจ็บปวดด้วยซ้ำ แต่น่าแปลกใจว่าทำไมหัวใจมันไม่เจ็บจี๊ด ๆ เหมือนถูกคนทำร้าย สงสัยอยู่เหมือนกันว่าหัวใจเราเจ็บจนด้านชาไปแล้วหรือเปล่า หรือเพราะเหตุผลอะไรกันแน่ ทั้ง ๆ ที่ควรเจ็บแต่ไม่รู้สึกเจ็บซักนิด รู้สึกเพียงแค่หัวใจมันดูโหวงเหวงชอบกล

เมื่อเกิดความรู้สึกโหวงเหวงกับใจตัวเอง เสมือนไร้ที่ยึดเหนี่ยว มันก็อดไม่ได้ที่จะหาอะไรไว้ให้ใจเกาะ อย่างน้อยก็ขอให้มีที่พักพิงไม่ให้ลอยไปไหนเท่านั้นเป็นพอ... ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจรักษาใจตัวเองด้วยการใช้ธรรมะเข้าลูบเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา และเกือบทุกครั้งที่สติไม่อยู่กับร่องกับรอย

ครั้งนี้ฉันเลือกงานของดังตฤณ ซึ่งถือเป็นลำดับแรก ๆ ในหัวสมองเมื่อหัวใจมีปัญหาเกี่ยวกับความรัก งานหลายชิ้นที่ดังตฤณอธิบายได้อย่างสมเหตุสมผลตามหลักของพุทธศาสนา และคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อขยายมุมมองของความรักให้เป็นที่เข้าใจในมุมกว้างและลึกขึ้น... “รักแท้มีจริงไหม ?” “ใครคือคู่แท้ ?” “ทำไมถึงเจ็บเพราะรัก ?” “จะสลัดทิ้งความเจ็บปวดเหล่านี้ได้อย่างไร ?” ..... คำถามเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีคำตอบด้วยกันทั้งสิ้น

อธิบายง่าย ๆ ด้วยคำว่า “กรรมใดใครก่อ คนนั้นก็รับกรรมเหล่านั้นไป” “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” “ใครสั่งสมบุญเมื่อชาติที่แล้วไว้อย่างไร ชาตินี้ก็มีบุญเก่าหนุนเสริมอย่างนั้น” คำเหล่านี้เรา ๆ ชาวพุทธอาจได้ยินกันหนาหู แต่จะมีใครมากน้อยที่เข้าใจคำเหล่านี้อย่างลึกซึ้งและถ่องแท้

กรรมพยากรณ์เป็นงานที่ฉันเลือกอ่านในยามที่ใจไร้ซึ่งที่ยึดเหนี่ยว อันที่จริงฉันพยายามหาหนังสือจากตามร้านหนังสือ แต่กลับไม่มีวางขายที่ไหนเลยสักร้าน จำต้องทนนั่งอ่านกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ จนมองเห็นตัวหนังสือซ้อนกันอยู่หลายครั้ง หนังสือเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องหนึ่งที่นำชีวิตเข้ามาผูกโยงกับเรื่องธรรมะ แสดงให้เห็นกรรม รวมถึงมโนกรรมที่ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ตามแต่บุคลิกของตัวละคร ซึ่งฉันคิดว่ามันสนุกกว่าการอ่านธรรมะเพียว ๆ มากกว่าเป็นไหน ๆ เพราะว่าการนำเสนอด้วยนิยาย ทำให้เราเห็นบุคลิกลักษณะของตัวละคร พร้อมกับบริบทต่าง ๆ ที่ตัวละครแต่ละตัวต้องเผชิญและฟันฝ่า บวกกับการแทรกสาระความรู้ทางธรรมผ่านความคิดและคำพูดของตัวละคร

ทุกท่วงทำนองที่ฉันกวาดสายตาอ่านบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นเหมือนทุก ๆ ครั้งที่ฉันอ่านนิยายและเฝ้ามองตามชีวิตตัวเองด้วยเสมอ หลายบทตอนจากนิยาย ทำให้ฉันต้องชะงักเมื่อค้นพบว่าสิ่งที่เขียนในหนังสือ ฉันเคยประสบมาแล้ว ฉันเคยทุกข์และเจ็บปวดต่อการผิดศีลและทำบาป จนกระทั่งหูตาสว่างถึงพร้อมจะตั้งสัตย์ปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ผิดศีลในข้อนั้นอีก แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่าย และก็ไม่ได้ยากเกินไปเมื่อมีบททดสอบผ่านเข้ามาให้เราต้องพิสูจน์ว่าเราได้ทำตามสัตย์ปฏิญาณของตัวเองไว้หรือเปล่า และหากเกิดตบัตสัตย์ขึ้นมา เดาได้ว่าชีวิตอาจจะต้องจมดิ่งลงเหวอย่างไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเป็นแน่

การเฝ้าติดตามอ่านไปเรื่อย ๆ พร้อมกับการสำรวจตัวเองทุกท่วงทำนองนี้ ทำให้ฉันรู้ว่าไม่ว่าอดีตชาติภพที่แล้วฉันจะเป็นอย่างไร ส่งผลกรรมให้ฉันเกิดเป็นฉันในชาตินี้ เพื่อชดใช้กรรมเก่าแต่ก็ไม่ลืมที่จะสร้างกรรมใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าโตเป็นสาวมาจนป่านนี้ย่อมรู้อะไรดี อะไรชั่ว ขณะที่กำลังมีสติก็ขอปฏิบัติตนเองให้ดำรงอยู่ในความดีอย่างเต็มกำลัง อาจจะพลั้งเผลอไปบ้างด้วยอำนาจแห่งกิเลสที่บดบังตา ที่ผ่านไปแล้วก็แล้วไป เริ่มต้นทำความดีกันใหม่ ทำไปเรื่อย ๆ อาจจะเหนื่อยบ้างแต่มันมักแฝงความสุขในตัวเองเสมอ

ขณะที่ยังอ่านหนังสือเรื่องนี้ไม่จบ ไม่รู้มีแรงอะไรดลใจให้ฉันอยากถือครองและปฏิบัติตามศีล 5 โดยไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ซึ่งศีลข้อห้าสำหรับฉันถือว่าขาดตกบกพร่องมาตลอด วันนี้กลับรู้สึกว่าจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและจริงจังขึ้นมา อดรนทนไม่ไหวต้องรีบโทรไปบอกเพื่อนสนิทที่เคยยกแก้วชนกันบ่อย ๆ ว่าต่อไปนี้เราจะชนแก้วกับเธอด้วยน้ำอัดลมเท่านั้น ... เพื่อนฉันท่าทางอึ้งสนิทและพูดอะไรไม่ออก แต่ไม่ทันไรเพื่อนก็หัวเราะออกมาพร้อมกับส่งเสียงเย้ยหยันว่า “แล้ว...จะคอยดู” ... จริง ๆ มันก็น่าขำอยู่หรอก อยู่ดี ๆ ฉันก็ลุกขึ้นมาทำตัวเป็นนางชีที่ผิดแปลกไปจากคนเดิมที่มีความทะนงตัวอยู่ในตน ฉันรู้ดีว่าอีกไม่นานฉันต้องเจอบททดสอบของเพื่อนฉันเป็นแน่แท้ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าฉันจะต้องเจอบททดสอบอย่างไรในศีลข้อนี้ ฉันก็จะต้องผ่านบททดสอบนี้ไปให้ได้

ต้องขอบคุณผลงานของคุณดังตฤณ ที่ทำให้ฉันลืมตาตื่นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ฉันระลึกถึงสิ่งที่เรียกว่าทำความดี ทำให้ฉันมองเห็นคุณค่าในชีวิตฉันที่จะต้องหายใจต่อไปอย่างมีความหมาย นี่แหละน่าชีวิตมนุษย์ที่ต้องชดใช้กรรมเก่า และหมั่นเพียรเพื่อสร้างความดี

ตอนนี้ฉันตระหนักแล้วว่า “การรอคอยรักแท้หรือคู่แท้” มันไม่จำเป็นสำหรับฉันอีกต่อไป เพราะทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดจากผลกรรมที่ทำกันมาด้วยกันทั้งสิ้น เราทำได้เพียงแค่เฝ้าดูสิ่งที่มีอยู่ เกิดขึ้น ดับไปหรือเปลี่ยนรูปไปเท่านั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่อนิจจังหรือความไม่เที่ยงด้วยกันทั้งสิ้น แม้แต่ชีวิตเราเองก็ไม่เที่ยง แต่ในความไม่เที่ยงเราก็สามารถที่จะหายใจอย่างมีสติ คิดอย่างมีสติ พูดอย่างมีสติ และทำอย่างมีสติได้เช่นเดียวกัน

ขอบคุณเว็บไซท์ //dungtrin.com ที่ทำให้สมองและหัวใจของฉันมีมุมมองที่กว้างขึ้น และลึกขึ้น
ขอบคุณทุกเหตุการณ์ ทุกเรื่องราว ที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้เรียกสติตัวเองกลับมาทุกครั้ง
ขอบคุณกัลยาณมิตรรอบข้างที่คอยเป็นกำลังใจให้กัน พร้อมกับเขี่ยผงในตาให้กันและกัน
ตอนนี้มีกำลังใจใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และพร้อมจะทำความดีอย่างเต็มแรงค่ะ

เป็นกำลังใจให้เพื่อนมนุษย์ทุกชีวิตค่ะ
ปล. รู้สึกอิ่มเอมและเป็นสุข...

ตีห้าสามสิบนาที
13 มีนาคม 2552


Create Date : 13 มีนาคม 2552
Last Update : 13 มีนาคม 2552 5:26:18 น. 4 comments
Counter : 587 Pageviews.

 
อิอิ คนแรกเลย เรา เปงกำลังใจให้เสมอนะค่ะ


โดย: เด็กชายเบียร์ IP: 114.128.75.217 วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:20:16:20 น.  

 
55555



จะคอยเปงกำลังใจให้นะจ๊ะ..เพื่อนรัก สำหรับศีลข้อ 5

วันนี้มาทำงาน หิวมากกินอาหารญี่ปุ่นไปอ่านบล๊อคแกไป.. มีความสุขจัง ขอบใจนะที่ทำให้อมยิ้มได้เวลาเครียดๆ

....มีหนังสือจะแนะนำให้เพื่อนอ่านอีกเล่มนึง แบบว่าตอนนี้เพื่อนก็กำลังอ่านอยู่(แต่ยังไม่จบ) แล้วรู้สึกอิ่มเอม เหมือนกัน " ก่อนพ่อตาย 4" เล่ม 1-3 ยังหาไม่ได้ เด๋วเสร็จงานว่าจะรบกวนแกพาไปตะลุยหาซะหน่อย ...

ดูแลสุขภาพหัวใจตัวเองด้วยนะ ... ช่วงนี้เพื่อนยุ่งๆไม่มีเวลาดูแล ... รักนะ


โดย: PeeT IP: 124.121.119.9 วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:20:32:32 น.  

 
ความรู้สึกเหมือนกันเลย

:)


โดย: เฟิร์น IP: 125.25.6.60 วันที่: 24 มีนาคม 2552 เวลา:13:43:00 น.  

 
ขอทำความดีด้วยคนนะค่ะ

พิมเป็นกำลังใจให้ และพี่โบว์ก็เป็นกำลังใจให้พิมด้วยนะ คิดถึงพี่โบว์เสมอค่ะ


โดย: พิม IP: 222.123.2.81 วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:58:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Stand by bowky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







ความเหงาคือความรู้สึก
เหมือนมีช่องว่าง
ที่ถมไม่เต็ม
ระหว่างตัวตนภายใน
ของเรา
กับสิ่งที่เราคิดว่า
เป็นตัวตนของคนอื่นๆ
มันไม่ได้ก่อรูปขึ้น
จากความไร้ญาติขาดมิตร
หากเกิดจากการพบปะ
ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ที่เรารู้สึกแปลกแยก
ทางความรู้สึกนึกคิด
ต่างหาก



เวลาที่คุณอยากบอกใคร
สักคนว่าคุณชอบ
และเกลียดกลัวสิ่งไหน
หรืออยากทำอะไร
ในชีวิต
แล้วเขาไม่เข้าใจ
สิ่งที่คุณพูด
คุณจะอ้างว้างหนาวใจ
ขึ้นมาติดหมัด
ในแง่นี้
การถวิลหาความรัก
ก็คือ
การค้นหาทางออก
จากสถานการณ์ดังกล่าว




เราอยากมีใครสักคน
ที่คอยบอกว่า
ฉันเข้าใจว่า
คุณรู้สึกอย่างไร
ไม่ใช่เพราะ
คุณบอกออกมา
แต่ฉันเอง
ก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
กับคุณ

การบรรจบอารมณ์
ความรู้สึกนี่แหละ
ที่ทำให้
เราเรียกเพื่อนสนิท
หรือคนรักว่า"คนรู้ใจ"



คนรู้ใจไม่ต้องรอ
ฟังคำอธิบายอันยืดยาว
ก็เข้าใจทุกอย่าง
ที่คุณอยากจะบอก
เพราะเขาเอง
ก็เคยผ่านประสบการณ์
ทางอารมณ์
แบบเดียวกันมาแล้ว
เมื่อมองจากมุมนี้

เราก็เข้าใจได้ทันทีว่า
เพราะเหตุใดมิตรภาพ
จึงถือเป็นความรัก
อีกสายพันธุ์หนึ่ง



จากความลับในความรัก
conditions of love
แปลโดย
จีระนันท์ พิตรปรีชา

Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Stand by bowky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.