Milk : ผู้ชายฉาวโลก




ช่วงหลัง ๆ นี้ฉันมักตามล่าดูหนังรางวัลออสก้าที่พึ่งประกาศผลไปหมาด ๆ เพื่อนฉันหลายคนมักยี่หระกับหนังประเภทนี้ แน่ล่ะ..หนังดี ๆ มักเป็นที่นิยมในกลุ่มคนเล็ก ๆ ไม่เหมือนกับหนังตามกระแสที่เมื่อพูดถึงชื่อก็ต้องร้องอ๋อกันไป...

เพื่อเป็นการให้รางวัลกับตัวเอง พร้อมกับดับความเหงาในหัวใจ บวกกับการหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ฉันเลือกที่จะเดินเข้าไปซื้อตั๋วหนังเรื่อง Milk ที่สร้างจากเรื่องจริงของ Harvey Milk ผู้เป็นเกย์และพยายามต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวเกย์ พูดแค่นี้ก็พอจะเดาเรื่องราวออกได้ว่าเนื้อเรื่องมันควรจะเริ่มต้นและจบลงยังไง ใช่..ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่พอเดาออก แต่เหนือสิ่งอื่นใดหนังเรื่องนี้ทำให้ฉันเห็นรายละเอียดของชาวเกย์ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนดังสำนวนที่ว่า “ซ่อนอยู่ในตู้” จนกระทั่ง Milk นี่แหละที่กลายเป็นผู้ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อชาวเกย์ พลังของการปราศรัย พลังแห่งการเดินขบวน มันทำให้ฉันอดคิดถึงการเมืองบ้านเราไม่ได้

แน่นอนว่าการถูกกดขี่ไม่ได้เป็นเหมือนสมัยนายกับทาสในอดีต แต่การกดขี่มันเกิดขึ้นทุกรูปแบบตราบใดที่ยังเต็มไปด้วยความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ไม่เท่าเทียม “Gay Rights Now…Gay Rights Now…” เสียงแห่งการเรียกร้อง การเดินขบวนดังทั่วท้องถนน ไม่ต่างกับการชุมนุมในบ้านเราที่ต่างเรียกร้องความชอบธรรมให้กลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็นม็อบมันสำปะหลัง ม็อบสมัชชาคนจน ม็อบอ้อย หรือแม้แต่ม็อบเสื้อเหลืองก็ตาม

ฉากหนึ่งที่ฉันคิดว่าการเมืองบ้านเขาต่างจากการเมืองบ้านเราก็คือ การจัดโต้วาที หรือการ debate ในกรณีการขับไล่ครูที่เป็นเกย์ออกจากโรงเรียน บรรยากาศทางการเมืองแบบนี้น่าจะมีให้เห็นในบ้านเรา ไม่ใช่ถึงเวลาเข้าประชุมในสภาได้แต่เหน็บแนม ประชดประชัน เสียดสี จับเอาสาระอะไรไม่ได้เลย น่าเสียดายที่บ้านเราไม่ค่อยมีบรรยากาศแบบนี้ให้เห็นนัก เพราะเราไม่ได้ถูกสอนให้เป็นเด็กที่ลุกขึ้นมาพูดด้วยเหตุผล แต่เราถูกสอนมาไม่ให้เถียง และให้เชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอก การเรียนรู้แบบนี้แหละที่ฉันคิดว่า “เรากำลังอยู่ในตู้” เพราะในชีวิตจริง ในความเป็นจริงเราต่างก็ต้องเผชิญกับโลก กับผู้ชายมากหน้าหลายตา แถมยังต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด สามารถอยู่ได้บนโลกกลม ๆ ใบนี้ให้ได้ “คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด” ดูเหมือนว่าประโยคนี้มันจะกลายเป็นกฎมาตรฐานของการอยู่บนโลกนี้ไปเสียแล้ว

ทุกการกระทำของ Milk มันคือการต่อสู้ ซึ่งไม่ใช่เพียงการต่อสู้เพื่อให้ชาวเกย์ได้อยู่อย่างมีสิทธิเสรีภาพ หรืออยู่อย่างมีศักดิ์ศรีเท่านั้น แต่ Milk ต่อสู้เพื่อการมีชีวิตอยู่ อยู่อย่างที่เขาเป็น... และเหนือไปกว่านั้นคือ การอยู่อย่างมีความหวัง ท่าทีของ Milk ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความกล้าหาญและเข้มแข็ง แต่ในบางห้วงลีลาของ Milk โดยเฉพาะในท่วงทำนองของการเสพดนตรีโอเปร่า เขาได้เข้าถึงความเป็นสุนทรียศาสตร์ และนั่นเองที่ทำให้ฉันรู้ว่า Milk มีหัวใจที่อ่อนโยนมากเพียงใด

ทุกท่วงท่า ทุกอากัปกิริยา ทุกอารมณ์ของ Milk ฉันบอกได้คำเดียวเลยว่า Sean Penn สมควรแล้วที่จะได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

ขอบคุณ Harvey Milk ที่ทำให้ฉันเห็นคุณค่าของตัวเอง และเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังอีกครั้ง

ตีสามสามสิบเจ็ดนาที
9 มีนาคม 2552





Create Date : 09 มีนาคม 2552
Last Update : 9 มีนาคม 2552 3:44:03 น. 4 comments
Counter : 822 Pageviews.

 
ช่วงนี้แฟนเราก็ออกตามล่าหนังออสการ์เหมือนกันค่ะ
เห็นว่าเล็งๆ เรื่องนี้ไว้เหมือนกัน


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:8:49:12 น.  

 

แวะมาอ่านจ๊ะ
ไม่ได้เจอกันทางออนไลน์เลยเน๊าะน้องโบ
พี่อุ้มคิดถึงเสมอจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:10:09:48 น.  

 
ฌอน เพนย์ สุดยอดจริงๆ ครับ
ชอบเค้าตั้งแต่เล่นเรื่อง i am sam แล้วครับ


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:22:07:17 น.  

 
มะได้ดูอ่ะ


อยากดูหนังกะแกใจแทบขาด แต่ทำไม๊ ทำไม ไม่เคยได้ดูสักกะที

ไว้เคลียร์งานเสร็จ จะขอไปนั่งซบไหล่แกดูหนังสักรอบ...สองรอบ นะจ๊ะ ... ที่รัก


โดย: PeeT IP: 124.121.119.9 วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:20:52:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Stand by bowky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







ความเหงาคือความรู้สึก
เหมือนมีช่องว่าง
ที่ถมไม่เต็ม
ระหว่างตัวตนภายใน
ของเรา
กับสิ่งที่เราคิดว่า
เป็นตัวตนของคนอื่นๆ
มันไม่ได้ก่อรูปขึ้น
จากความไร้ญาติขาดมิตร
หากเกิดจากการพบปะ
ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ที่เรารู้สึกแปลกแยก
ทางความรู้สึกนึกคิด
ต่างหาก



เวลาที่คุณอยากบอกใคร
สักคนว่าคุณชอบ
และเกลียดกลัวสิ่งไหน
หรืออยากทำอะไร
ในชีวิต
แล้วเขาไม่เข้าใจ
สิ่งที่คุณพูด
คุณจะอ้างว้างหนาวใจ
ขึ้นมาติดหมัด
ในแง่นี้
การถวิลหาความรัก
ก็คือ
การค้นหาทางออก
จากสถานการณ์ดังกล่าว




เราอยากมีใครสักคน
ที่คอยบอกว่า
ฉันเข้าใจว่า
คุณรู้สึกอย่างไร
ไม่ใช่เพราะ
คุณบอกออกมา
แต่ฉันเอง
ก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
กับคุณ

การบรรจบอารมณ์
ความรู้สึกนี่แหละ
ที่ทำให้
เราเรียกเพื่อนสนิท
หรือคนรักว่า"คนรู้ใจ"



คนรู้ใจไม่ต้องรอ
ฟังคำอธิบายอันยืดยาว
ก็เข้าใจทุกอย่าง
ที่คุณอยากจะบอก
เพราะเขาเอง
ก็เคยผ่านประสบการณ์
ทางอารมณ์
แบบเดียวกันมาแล้ว
เมื่อมองจากมุมนี้

เราก็เข้าใจได้ทันทีว่า
เพราะเหตุใดมิตรภาพ
จึงถือเป็นความรัก
อีกสายพันธุ์หนึ่ง



จากความลับในความรัก
conditions of love
แปลโดย
จีระนันท์ พิตรปรีชา

Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Stand by bowky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.