เมื่อความเหงามาทักทาย จึงพากายและใจไปพักผ่อนที่กระบี่ ตอนที่ ๒
สวัสดีวันพุธ
ได้เวลาพาเที่ยวกระบี่ตอนที่สองแล้วค่ะ หลังจากทิ้งช่วงไปหลายวัน วันที่สองนี้สาวได้ไกด์พิเศษมาเสริมด้วย นั่นคือพี่ชาย ดีเจคนเก่งที่สวท.กระบี่ เราเจอกันเมื่อ ๔ ปีก่อน แต่ก็ติดต่อกันเรื่อยมา จนวันที่สาวมากระบี่ สารภาพว่าทีแรกสาวไม่คิดถึงพี่ชายเลย มานึกได้ช่วงเย็นวันแรก เลยลองโทรดู พอดีพี่ชายว่างเลยนัดเจอกันที่ร้าน "กระบี่ติ่มซำ" มื้อเช้าของเราวันนี้
แต่ก่อนไปเที่ยวต่อเรามาชมตอนแรกกันค่ะ
ตามไปเลยเลยที่นี่
ตอนที่ ๑ คลิกที่นี่ค่ะ
เช้านี้สาวออกจากที่พัก ที่ K.U.เกสเฮาส์ ช่วงแปดโมงเช้า ช่วงเดินทางสาวผ่านวัดสวยวันนึง เลยขอให้หลานชายเพื่อนที่พาไปส่ง แวะถ่ายรูป วัดนี้ชื่อ "วัดแก้วโกรวาราม"
ได้ยินว่าเพิ่งทำเสร็จไม่นาน
สวยมากๆเลยค่ะ
จากนั้นสาวก็ไปกินอาหารเช้าที่ร้าน "กระบี่ติ่มซำ" สาขา ๒ เยื้องโรงพยาบาลกระบี่ (สาวนัดเจอเพื่อนที่นี่ค่ะ )
กว้างขวาง คนเยอะ
เพื่อนมาแล้ว ได้เวลาเลือกอาหาร มื้อเช้าของเราค่ะ อร่อยมาก
หลังจากพูดคุยกันพอประมาณ พี่เค้าคงเห็นสาว เพราะสาวต้องรอเพื่อนอีกครึ่งวัน เลยพาสาวเที่ยวในครึ่งวันเช้า โดยเริ่มจาก "สะพานท่องเที่ยวป่าชายเลน"ข้างร้านติ่มซำนั่นเอง
ทางเดินป่าประมาณ ๖๐๐ เมตร ร่มรื่นมาก
เจอคนหาปูดำ
ตอนนี้เราเดินทะลุมาอีกด้าน ตรงนี้เค้าเรียกว่า "เขาขนาบน้ำ" สัญลักษณ์ของกระบี่
ได้เวลารู้จักไกด์ของสาวกันแล้ว
ขอสักรูป
ขากลับเราเจอลิงด้วย
น่ารักมากๆ
แบบครอบครัว
ออกจาสะพานท่องเที่ยวป่าชายเลน พี่ชายเห็นยังมีเวลา เลยพาสาวไปนั่งเรือเล่น เพื่อไป "เขาขนาบน้ำ" ฝั่งที่มีถ้ำ ตอนนี้เราไปที่ท่าเรือกัน
เราไปที่ฝั่งนี้ มีสัตว์น้ำมากมาย น่ารักดี
มีที่โม่หินด้วย พี่ชายบอกว่าเพิ่งทำ ไกด์แอบเห่อ พอไกด์เผลอเลยได้มารูปนึง ^_^
ตอนนี้เราได้พูดคุยกับคนเรือ เค้าคิดคนละ ๑๐๐ บาท เพื่อไปที่เขาขนาบน้ำ
นั่งเรือไปประมาณ ๑๐ นาทีก็ถึง
ตอนนี้ชุมชนดูแลกันเอง เลยมีค่าดูแลนิดหน่อย คนละ ๒๐ บาท
ป้ายด้านในค่ะ ที่นี่ร่มรื่น อากาศเย็นมาก
ก่อนขึ้นถ้ำ ขอเข้าห้องน้ำก่อน
ตอนนี้ได้เวลาไต่ถ้ำของที่นี่แล้วค่ะ
เป็นถ้ำเล็กๆ ที่มีการเอาเรื่องราวของประวัติศาสตร์มาใส่ไว้
พี่ชายบอกว่าตรงนี้เคยมีต้นตะเคียนอยู่ต้นนึง ต่อมามีคนมาถ่ายหนังเลยตัดทิ้ง T_T
เค้าจะแบ่งเป็นโซนค่ะ ตรงนี้โซนที่ ๑
ตอนนี้มาดูร่องรอยประวัติศาสตร์ที่มนุษย์ทำขึ้น ได้ยินว่าทำไปหลาย
ถ้วยชาม ประหนึ่งว่าเป็นของโบราณ
มาดูโซนที่ ๒ กัน
และส่วนที่เป็นจริง ที่นี่เคยเป็นที่พักของทหารญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒
ดูกันเสร็จ ได้เวลาลง พี่ชายบอกว่าถ้าให้ครบเครื่องต้องลงทางช่องนี้ เล็กแคบ สาวกลัวแทบแย่ แต่ช่างภาพเราก็เพลินเพลิดเพลินใหญ่ ถ่ายไปหลายรูป
ในที่สุดก็ถึงซะที
ถ่ายรูปบันไดทางลงเป็นที่ระลึก
จากนั้นเราก็เดินไปอีกโซน
เดินไปนิดนึงก็ทะลุอีกฝาก สวยมาก
ตรงนี้พี่ชายไปเจอกล้วยไม้ริมน้ำที่เกือบตาย เลยหยิบมาช่วยชีวิต โดยเอาไปใส่ในร่องหิน พร้อมขยะอีกหนึ่งกำมือ...ขอแอบถ่ายหน่อย
ได้เวลากลับแล้ว
ก่อนลงเรือ ขอถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึกหน่อย
จากนั้นเราก็เดินเล่นในโซนนั้น เจอเสาที่เค้าเตรียมทำลานวัฒนธรรม เสียดายจัง ถ้าทำเสร็จแถวนี้คงถ่ายรูปไม่สวย
เราเลยถ่ายรูปในหน้าประวัติศาสตร์ ก่อนจะไม่มีวิวนี้
ตอนนี้เราเดินไปเรื่อยๆ จนถึง "ลานปูดำ"
และ"หลักกิโลเมตร 0"
สาเหตุที่เรียกว่าลานปูดำ เพราะมีปูดำตัวใหญ่
อยู่ตรงนี้เราจะได้วิวของเขาขนาบน้ำด้วย
เสร็จแล้วก็ได้เวลากินข้าวเที่ยง หิวพอดี พี่ชายพาสาวไปกินที่ร้าน "ไทรงามเบเกอรี่"
เป็นร้านของคนตรัง เป็นญาติกับ โกแก่ หมูย่างเจ้าดังของตรัง มีป้ายเป็นหลักฐาน
วันนี้พี่ชายกิน "ข้าวขาหมู"
ของสาวเป็น"หมี่แห้งเป็ด"กับน้ำเก็กฮวยค่ะ
เสร็จแล้วก็พาสาวไปส่ง เพื่อรอเพื่อนพาเที่ยวต่อในรอบบ่าย ขากลับสาวเลยขอถ่ายไฟแดงสวยๆ ของที่นี่ มีหลายแบบเลย สาวได้รูปคนยุคหินมา
ขอจบตอนที่ ๒ ด้วยรูปตัวเอง เจอกันใหม่ตอนที่ ๓ ตอนจบของทริปกระบี่
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
Create Date : 24 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 24 ตุลาคม 2555 18:40:52 น. |
|
48 comments
|
Counter : 6238 Pageviews. |
|
|
|
แวะมาทักทายตรงนี้มั่งค่ะ
ช่วงนี้ฉัตรไม่ได้แชร์บล๊อกนะคะคุณสาว ไปอัพเดทที่แฟนเพจเป็นหลัก ทางกลุ่มก็ให้คุณติงลี่เค้าแชร์ กับคุณเป็ดรับงานวันเกิดไปค่ะ
คุณสาวสบายดีนะคะ