บ้านคีรีรัตน์ หนึ่งใน ๒๐ โบราณสถานของจังหวัดตรัง
สวัสดีวันจักรีค่ะ
ช่วงนี้สาวชีพจรลงเท้าอีกแล้ว มีธุระเรื่อย ช่วงนี้ก็เพิ่งกลับมาจากไปเชงเม้งที่สุไหงโกลก เลยรีบกลับมาเอาของดองมาฝาก ไม่อยากทิ้งไว้นาน กับการ พาไปชมบ้านเก่า "บ้านตระกูลคีรีรัตน์" ซึ่งเป็น ๑ ใน ๒๐ โบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของจังหวัดตรัง ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานและระวางแนวเขตประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 119 ตอนพิเศษ 119 ง วันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๕ พื้นที่ ๑ ไร่ ๑ งาน
ซึ่งสาวได้มีโอกาสตาม อ.สุนทรี สังขอยุทธ์ หัวหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ และคณะไปติดนิทรรศการในบ้าน ถือว่าเป็นโอกาสดี มากๆ ขอบคุณ อาจารย์สุนทรี อีกครั้งค่ะ
หมายเหตุรูปชุดนี้เป็นรูปหลังจากปรับปรุงตัวบ้านแล้วนะคะ แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ เพราะต้องรอการตกแต่งภายใน ถ้าสมบูรณ์สาวจะไปเก็บภาพมาให้อีกครั้งค่ะ
ก่อนไปชมฝากกระทู้ที่ทำไว้ในห้องสมุดเมื่อสองสัปดาห์ก่อนเช่นเดิม ตอนนี้ข้อมูลยังลงเรื่อยๆ เลยเอามาฝากเรื่อยๆเช่นกันค่ะ ^_^
พ.ท.ออกัสฟิกเกอร์ บุคคลที่วงการตำรวจไทยควรระลึกถึง
ประวัติสังเขป เป็นอาคารเรือนไม้ ๒ ชั้น อยู่ริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน ในเขตบ้านทุ่งค่าย อำเภอกันตัง (ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๙๑ ตำบลทุ่งค่ายย้ายไปขึ้นกับกิ่งอำเภอย่านตาขาว) อาคารหลังนี้สร้างแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม ๒๔๙๐ รวมเวลาสร้างทั้งสิ้น ๑ ปี ๗ เดือน
อาคารล้อมรอบด้วยกำแพงทั้ง ๔ ด้าน โครงสร้างอาคารก่ออิฐสอปูน ตกแต่งด้วยลายปูนปั้นแบบตะวันตก มีลายฉลุไม้แบบจีนและแบบไทยมุสลิม หลังคาจั่วมลิลามุงกระเบื้องว่าว โครงสร้างหลังคาเป็นไม้พะยอมทอง
ภายในอาคารชั้นล่างเป็นห้องกว้าง พื้นปูนขัดมัน ชั้นบนปูพื้นด้วยไม้ตะเคียนทอง กั้นห้องด้วยไม้ทัง ใช้ลายฉลุไม้แบบจีนตกแต่งช่องลม มีโต๊ะบูชาภาพเขียนเทพเจ้ากวนอู ตั้งชิดผนังห้องโถง ด้านนอกเป็นระเบียงเปิดโล่ง มีบันไดสู่ชั้นล่างใกล้ประตูทางเข้า
วัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่ได้จากกิจการของนายกีวด เช่น อิฐ กระเบื้องมุงหลังคา และไม้แปรรูป นั้น ล้วนผลิตจากโรงอิฐและโรงเลื่อยที่มีอยู่ ยกเว้นปูนที่ต้องสั่งซื้อจากปีนัง และทรายที่ขนมาจากชายทะเลที่อยู่ใกล้ๆ ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างบ้านหลังนี้ เป็นเงิน ๓๖๐,๐๐๐ บาท
รูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่ปรากฏให้เห็นนี้ อาจได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม สิ่งก่อสร้างที่พบเห็นตามหัวเมืองต่างๆ ในภูมิภาคชายฝั่งทะเลตะวันตก อาทิเช่น เมืองภูเก็ต เมืองตรัง หรือต่างชาติ เช่น ปีนัง เป็นต้น ความประทับใจในรูปแบบการตกแต่งอาคารดังกล่าว เมื่อนำมาผสมผสานกับหลังคาเรือนไทยมุสลิมแล้ว จึงทำให้บ้านนายกีวดกลายเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมของท้องถิ่นที่แสดงให้เห็นพัฒนาการของชุมชนได้อย่างชัดเจน
ขอบคุณที่มา //www.oknation.net/blog/kontrangnews/2009/10/31/entry-4
รู้ประวัติแล้ว ได้เวลาชมตัวบ้านโดยละเอียดกันค่ะ เริ่มจากนอกตัวบ้าน กำแพง
อีกด้าน
มองไปด้านบน
จากด้านหลังบ้าน
เตรียมเข้าบ้าน ตรงนี้เป็นป้ายหน้าบ้าน
ประตูทางเข้าค่ะ
ภายในบ้าน หลังจากที่ทางหอจดหมายเหตุฯ ติดนิทรรศการเรียบร้อย
มีรูปเปรียบเทียบ ก่อนและหลังบูรณะด้วยนะคะ
รูปแผนที่ อยู่ด้านล่างฝั่งประตูทางเข้า
มีรูปเก่าๆของ ตระกูลคีรีรัตน์ด้วยค่ะ
รูปต้นตระกูล
ผนังทางไปหลังบ้าน
ได้เวลาเข้าไปหลังบ้านแล้วค่ะ
เตาแบบยุคเก่า
อีกฝั่ง
ไปใกล้ๆ
เงยไปด้านบน
มาถึงห้องฝั่งห้องครัวบ้าง เค้าเขียนว่าห้องเก็บเครื่องมือทำคลอด
ได้เวลาขึ้นด้านบนแล้วค่ะ
ห้องโถงกลาง
ระเบียงหน้าบ้าน ชั้นสอง
อีกมุม
มีเจ้าที่ตั้งอยู่ด้วย
มาถึงห้องนอน
ห้องเจ้าของบ้าน
ตู้เหล็กแบบนี้ เห็นหลายครั้งตามบ้านเก่า
ป้ายหน้าห้องบอกว่าเป็นห้องหอ
ภายในสักนิด
ก่อนลงด้านล่าง
ปิดท้ายตัวบ้านด้วยประตูด้านหลังค่ะ
ตอนนี้ได้เวลาเดินเล่นนอกบ้าน อ.สุนทรีบอกว่าด้านหลังเป็นแม่น้ำ
ถึงแล้วค่ะท่าน้ำ
ทางลง
ดูเงียบเหงา
ร่มรื่น
สบาย อาจารย์บอกว่าถ้าล่องเรือไปจะเจอหมู่บ้านทำหอยด้วย มีโอกาสคงได้ไป
มีเรือด้วย
ต้นไม้ ดอกไม้สวยๆ ริมน้ำ
ปิดท้ายทริปนี้ด้วยดอกไม้ริมทาง
และนี่คือสาเหตุที่สาวนำมาลงหมวดท่องเที่ยวค่ะ เพราะต่อไปที่นี่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวชมของตรัง
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ เจอกันบล็อกหน้า พาเพื่อนบล็อก Madame kp เที่ยวตรัง
Create Date : 06 เมษายน 2555 |
Last Update : 6 เมษายน 2555 15:10:28 น. |
|
38 comments
|
Counter : 9562 Pageviews. |
|
|
|