Review : Macarons จาก 3 ร้าน Mandarin Oriental,Macarons Et Moi & Lenotre
สวัสดีวันพฤหัสค่ะ
หายไปพักบล็อกหลายวัน วันนี้กลับมาตอบคำถามค่ะ จากบล็อกก่อน ซึ่งเป็นบล็อกของฝาก ที่สาวได้ macarons มาหลายยี่ห้อ หลายคนอยากรู้ว่า เอ แล้วแต่ละยี่ห้อ รสชาดต่างกันยังไง วันนี้สาวมารีวิวให้ชมกันนะคะ
ปล.ที่จริงอยากรีวิวในก้นครัวด้วย แต่สาวแค่ชิมบางกลิ่น เลยไม่อาจเอื้อม เลยขอรีวิวแบบ งูๆ ปลาๆ ในบล็อกแทนนะคะ ^_^
ก่อนอื่นต้องขอไป copy ข้อมูลประวัติจากกระทู้ที่สาวแอบปลื้มในพันทิบ มาใช้สักเล็กน้อย เพื่อให้บล็อกสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
Macaron แห่งปารีส และสองยักษ์ใหญ่ของวงการ
1) Macaron อ่านว่าอะไร ในกระทู้นี้ ผมจะเขียนทับศัพท์ภาษาไทยของ macaron ว่า "มาการง" ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นการอ่านออกเสียงที่ถูกต้องตามภาษาฝรั่งเศส
ซึ่งการอ่านออกเสียงที่ถูกต้องของคำว่า Macaron ในภาษาฝรั่งเศส ผมไม่คิดว่าจะมีพยัญชนะตัวไหนในภาษาไทยมาเขียนแทนได้โดยสมบูรณ์แบบนะครับ
เพราะตัว r ของภาษาฝรั่งเศส เป็นการออกเสียงแบบสั่นในลำคอ เหมือนขากเสลด ไม่ใช่ตัว ร.เรือ แบบภาษาอังกฤษ
เสียงที่ได้ก็จะใกล้เคียงกับคำว่า มากาครง หรือ มากาฮง ซึ่งทั้งสองคำก็ยังไม่เป๊ะอยู่ดี ดังนั้นเขียนว่า มาการงนี่แหละ เข้าใจง่ายสุดครับ ส่วนใครจะอ่านว่า "มาการอน" ตามรูปแบบภาษาอังกฤษก็ไม่ว่ากันครับ เพราะเวลาไปซื้อมาการงที่ร้านดังๆในปารีส (ซึ่งจะพูดถึงในกระทู้นี้) จะพูดว่า มาการอน เขาก็คงพอเข้าใจได้เหมือนกันครับ
2) Macaron กับ Macaroon ต่างกันหรือไม่
คำถามนี้ตอบยากนะ เพราะจริงๆทั้งสองคำ มันแผลงมาจากภาษาอิตาเลียนคำว่า maccarone ซึ่งมีรากศัพท์มาจากคำว่า ammaccare ที่แปลว่า ทุบ หรือ บด (ใครเก่งอิตาเลียนช่วยคอนเฟิร์มด้วยนะครับ ข้อมูลตรงนี้ ผมเอามาจากตำราภาษาอังกฤษอีกทีนึงครับ)
แต่ส่วนตัวผม macaron ต่างจาก macaroon อย่างชัดเจน และเป็นขนมคนละประเภทกันครับ โดย macaroon (มาการูน) จะมีส่วนผสมของมะพร้าว หน้าตาคล้ายๆบ้าบิ่นอบแห้งครับ ในขณะ macaron (มาการง) ของฝรั่งเศสจะหน้าตาสวยงามน่ารัก ผิวเรียบ และมีสีสันมากกว่า
ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ขนมสองอย่างนี้ ถูกเรียกสลับกันสับสนมากครับ เวลามีเพื่อนมาหาที่ปารีส แล้วให้พาไปซื้อ macaron บางทีก็จะบอกว่า "พาไปกินมาการูนอร่อยๆหน่อยสิ" ซึ่งผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะเข้าใจว่าคนที่ไม่ได้ศึกษาจริงจังก็คงเข้าใจผิดกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
แต่ข้อผิดพลาดหรือความสับสนนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่ทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ในโรงแรมดังๆในเมืองไทย ที่หลังจากมีกระแส macaron ดังในบ้านเรา ก็เริ่มทำขนมนี้ไปวางขายใน deli หรืออยู่ในไลน์บุฟเฟ่ต์ ก็ยังเห็นในป้ายชื่อใช้คำว่า macaroon หรือบางที่หนักกว่า ใช้คำว่า French macaroon ก็มี
ขอบคุณ Le Vivier และขออนุญาตมาด้วยนะคะ แต่ถ้าบังเอิญผ่านมาเห็น จะให้ลบออกก็ยินดีค่ะ
มาถึง Macarons ร้านแรกวันนี้ที่สาวแวะไปซื้อกับอาสาม (laser) เป็น Macarons @ Mandarin Oriental Shop siam paragon
สาวได้มาสองกล่องค่ะ
ของที่ได้ในถุงนอกจาก Macarons ยังมีกล่องใส่น้ำแข็งแห้งให้เรา พร้อมถุงสวยๆด้วย
มาดูภายนอกกล่องที่ระบุชื่อร้าน
และป้ายราคา
มาถึงหน้าตาใกล้ๆ
อีกนิด
แถมอีกชุดนะคะ
มาถึงร้านที่สอง Macarons Et Moi ที่กบ (เหงาจับใจ)ซื้อมาฝาก
ด้วยความที่เพื่อนซื้อมาฝากเลยไม่ได้ถามว่าซื้อมาจากไหน แต่เท่าที่หามาได้ ตามนี้ Macarons Et Moi
ชิ้นละ 35 บาท ร้านนี้ก็ทำกล่องสวย สิ่งที่ใส่มาด้วยคือถุงใส่เจลทำความเย็น (น่าจะเรียกแบบนี้)
มาดูชื้อร้านใกล้ๆ
กล่องนี้ 15 ชิ้น
มาดูแบบใกล้ๆ
สีสันโดนใจมากๆ
ต่อ...
และสุดท้ายกับร้านMacarons Et Moi ค่ะ
มาถึงร้านสุดท้าย ของเอส่งเข้าประกวด macaron lenotre Siam Paragon
จากกระทู้นี้ เปิดศึก Macaroon ระหว่าง Oriental ปะทะ Lenotre
บอกราคาไว้ว่า ราคากล่องละ 90 บาท ตกชิ้นละ 18 บาท
มาดูระยะใกล้ๆ
ชุดที่ 2
ชุดที่ 3
สุดท้าย ของ lenotre
ทีนี้มาดูการเปรียบเทียบกัน จากขวา Mandarin Oriental,Macarons Et Moi & Lenotre ซ้ายสุด
ชุดที่สอง
ชุดที่ 3
ชุดที่ 4
ชุดที่ 5 รอบนี้ Macarons Et Mo พาเพื้อนมาด้วย
และชุดสุดท้าย Mandarin Oriental & Macarons Et Moi มาเป็นคู่
ตอนนี้เรามาดูไส้ในกัน รอบนี้ ขวามือคือ Lenotre ,Macarons Et Moi & Mandarin Oriental ทดลองถ่ายแบบมีแฟลชและไม่มีแฟลชนะคะ
ชุดนี้ใช้แฟลชค่ะ
มาถึงไล่ดูทีละยี่ห้อ เริ่มจาก Mandarin Oriental
Macarons Et Moi
และ Lenotre
มาถึงบทสรุป ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ สำหรับการได้ชิมมา 3 ยี่ห้อนะคะ
เริ่มจาก Mandarin Oriental ราคาต่อชิ้น 40 บาท สำหรับคนบ้านนอกแบบสาว ราคานี้ค่อนข้างสูง แต่ก็สมกับแพคเกจจิ้ง
ในส่วนของรสชาด เนื้อในค่อนละเอียด ละเมียดละไม เนื้อแน่น ความหวานกำลังดี สำหรับสาวๆที่ต้องการลดความอ้วน สามารถกินชิ้นนึงได้แบบไม่ต้องกินข้าวเลย เพราะเนื้อแน่นมาก ถ้าจะให้อร่อยต้อง กินควบกับชาสักถ้วย คงดีไม่น้อย
มาถึง ยี่ห้อที่สอง Macarons Et Moi
ต่อชิ้น ราคาอยู่ที่ 35 บาท ราคานี้สิ่งที่สะดุดตาคือ กล่อง ทำกล่องได้สวย เหมาะสำหรับเป็นของฝากอย่างยิ่ง พอเปิดข้างในก็ร้อง ว้าวเลย เพราะสีสวยมากๆ เหมาะสำหรับเป็นของฝากอย่างยิ่ง
มาถึงรสชาด เนื้อแป้งจะเบากว่า Mandarin Oriental แต่ความหวานกินขาดชนะเลิศ สาวเลือกกินรสมิ้นท์ สีฟ้าเป็นชิ้นแรก เพราะชอบสีฟ้า 555 (ไม่เกี่ยวเลย) กินคำแรก สำลักค่ะ ^_^ เพราะหวานมาก ยิ่งเป็นคนที่ไม่กินหวานแบบสาวเลย ขอผ่าน แต่สำหรับคนที่กินหวานได้ สาวว่าเหมาะสำหรับเป็นของว่างอย่างดี เพราะชิ้นพอดีคำ สาวๆที่ไม่กลัวอ้วน กินสองชิ้นยังสบายเลยค่ะ
มาถึงสุดท้าย Lenotre ราคาต่อชิ้น 18 บาท ราคาสบายกระเป๋า รสชาดสบายใจ แม้จะไม่มีของทำความเย็นแถมเหมือนยี่ห้ออื้น แต่แพคเกจจิ้ง ก็ทำได้น่ารักกำลังดี ไม่น่าเกลียดจนเกินไป
มาถึงรสชาด ยี่ห้อนี้ทำเนื้อแป้งออกมาค่อนข้างโปร่ง และเบา ความหวานก็กำลังดี สำหรับสาวถ้าให้สาวเลือกกินก็คงเลือกยี่ห้อนี้ ไม่ใช่เพราะราคาถูกหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะ ของ Lenotre เหมาะสำหรับเป็นขนมสำหรับทานเล่นมากว่ายี่ห้ออื่น
ในจินตนาการสาว เวลาสาวกิน Macarons ของ Mandarin Oriental สาวคิดว่าตัวเองกำลังกินข้าว 555 เพราะกินชิ้นนึงเหมือนได้กินข้าว 1 จานเลย
ส่วน Macarons Et Moi สาวกำลังคิดถึงของหวาน ที่หวานมากๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากกินขนมแทนข้าว
ส่วน Lenotre สาวคิดว่าเป็นขนมจริงๆ ที่เราสามารถกินก่อน หรือหลังอาหารหลักได้สบาย แต่ข้อบกพร่องของยี่ห้อนี้คือ เนื้อโปร่ง และเบามากๆ แทบละลายในปากเลย แต่ข้อดีในความคิดสาว คือ หวานกำลังดี
ทั้งหมดนี้ คือ การ Review : Macarons ของสาวในวันนี้ ไม่รู้ว่าพอได้ไหม ช่วยวิจารณ์ด้วยนะคะ ว่าพอจะไปตั้งกระทู้ได้หรือเปล่า เพราะเป็นการรีวิวขนมครั้งแรกของสาวค่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
Create Date : 14 มิถุนายน 2555 |
Last Update : 14 มิถุนายน 2555 14:39:46 น. |
|
68 comments
|
Counter : 39152 Pageviews. |
|
|
|