พาเพื่อนเก่าเที่ยวสวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย)
สวัสดีวันเสาร์ค่ะ
ช่วงนี้สาวมาอัพบล็อกน้อย เนื่อจากเริ่มหมดมุข และตอนนี้เมมโมรี่กล้องเสีย รอเปลี่ยนอยู่ หลังจากนี้คงห่างไปอีกนิด เพราะรูปที่มีอยู่มีอีกเพียงเรื่องสองเรื่องเท่านั้น เอาเป็นว่าอย่างฟังเรื่องเครียดๆของสาวเลยค่ะ มาเที่ยวกันดีกว่า เมื่อเดือนก่อนก่อน(น่าจะสัก ๒ เดือน) เพื่อนสมัยมัธยม ที่ไม่ได้เจอกันเกือบ ๒๐ ปี ได้เจอกันใน facebook แล้วเค้าก็เลยพาครอบครัวมาเที่ยวตรัง เวลาน้อยนิด ทำให้สาวได้พาไปเที่ยวแห่งเดียวที่นั่นคือ สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย)
สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย)
ความเป็นมา
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ บริเวณสวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย) ในปัจจุบัน เป็นป่าสงวนแห่งชาติทุ่งค่าย ได้มีการพัฒนาโดย นายยอด คีรีรัตน์ ป่าไม้จังหวัดในสมัยนั้น โดยได้รับการสนับสนุนจากนายชวน หลีกภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นสวนรุกขชาติทุ่งค่าย
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้พัฒนายกฐานะเป็นสวนพฤกษศาสตร์ตามดำริของ ฯพณฯ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เนื่องจากมีการจัดตั้งองค์การสวนพฤกษศาสตร์ขึ้น แต่มีสวนพฤกษศาสตร์ที่มาตรฐานในภาคเหนือ คือสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ จึงได้ดำริให้กรมป่าไม้จัดหาพื้นที่ที่จะพัฒนาเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มี มาตรฐานสากลในท้องที่ภาคใต้ จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นโดยมี ศ.ดร.เต็ม สมิตินันท์ ผู้เชี่ยวชาญพฤกษศาสตร์ป่าไม้ เป็นประธานโดยมีข้อสรุปเลือกพื้นที่สวนรุกขชาติทุ่งค่าย ในท้องที่อำเภอย่านตาขาวจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชุมชน มีศักยภาพที่เหมาะสม ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ จึงเสนอให้กรมป่าไม้ จัดตั้งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ขึ้นเพื่อดำเนินงานตามมาตรฐานสากล อยู่ในกำกับดูแลของส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๔๖ มีการปรับปรุงระบบราชการ สวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย) จ.ตรัง มาสังกัดสำนักบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ ๒๐ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันสวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย) จ.ตรัง สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๕ (นครศรีธรรมราช) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สถาน ที่ตั้ง : สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) จังหวัดตรัง ม.2 ถ.ตรัง-ปะเหลียน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง 92140
ขอบคุณที่มา เว็บไวด์ อบต.ทุ่งค่าย //www.google.co.th/url?sa=t&source=web&cd=2&ved=0CB8QFjAB&url=http%3A%2F%2Fwww.thungkhai.go.th%2Findex.php%3Foption%3Dcom_content%26view%3Darticle%26id%3D110%26Itemid%3D109&ei=0P0OTsWEOI3IrQe2-KmIBA&usg=AFQjCNFx8QMFCyAVtLkq6H8irov-zQRHfw
เพื่อนมาจากพัทลุงมาพร้อมกับครอบครัวที่น่ารัก
ด้วยระยะทางห่างจากตัวอำเภอเมือง จังหวัดตรังเพียง ๑๓ กิโลเมตร ทำให้เราสามารถพาเพื่อนที่มีเวลาน้อยเที่ยวได้สบายๆ มาถึงเราก็เตรียมไปศึกษาเส้นทางกันเลยค่ะ
เราจะไปสะพานเรือนยอดไม้ จุดไฮไลท์ของที่นี่กันค่ะ
ต้นไม้ใหญ่ข้างทาง
ป้ายทางขึ้น
เตรียมพร้อม
สะพานศึกษาธรรมชาติเรือนยอดไม้
ถูกสร้างขึ้นเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย(ณ ขณะนี้) โดยนายชนะ พรหมเดช หัวหน้าสวนพฤกษาสาตร์ฯ ในขณะนั้นได้ผลักดันให้มีการจัดสร้างสะพานเรือนยอดไม้แห่งนี้ขึ้นมา โดยได้รับงบประมาณส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวจำนวน 4,600,000บาท สร้างเสร็จและเปิดให้ใช้บริการเมื่อประมาณเดือนมกราคมปี พ.ศ.2547
สะพานศึกษาธรรมชาติเรือนยอดไม้ สร้างขึ้นโดยใช้โครงสร้างเป็นเหล็ก สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 300กิโลกรัม/1ตารางเมตร มีระยะทางให้เดินศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชินถึง 175 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวที่อยากจะเดินศึกษาธรรมชาติอย่าใกล้ชิดบนสะพานฯ นี้ ต้องเตือนไว้ก่อนว่าหากเป็นโรคกลัวความสูงคงจะแย่สักหน่อย เพราะว่าตัวสะพานฯ มีความสูงถึง 3 ระดับ ตั้งแต่ระดับ 10 เมตร, 15 เมตร และ 18 เมตร ประกอบด้วย 5 ช่วงสะพานและ 6 หอคอย หากใครเป็นโรคกลัวความสูง อาจจะเดินก้าวขาไม่ออก หรือว่าออกแนวแบบเดินไปแบบขาสั่นๆ เพราะว่าตัวสะพานไม่กว้างมาก ควรเดินเรียงหนึ่ง และไม่ควรวิ่งสะพาน ควรจะค่อยๆ เดินและซึมซับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม เพราะบนสะพานฯ สามารถมองเห็นธรรมชาติของป่าไม้อันสมบูรณ์ มีต้นไม้หลายสายพันธุ์ขึ้นเขียวครึ้มไปทั่ว และยังจะได้ศึกษาธรรมชาติของสังคมพืชระดับเรือนยอดไม้สูงๆ ได้อย่างชัดเจนในระดับสายตาด้วยไม่ว่าจะเป็น ใบ ดอกและผล อีกทั้งบนนี้ยังถือว่าเป็นจุดดูนก และสัตว์ชนิดอื่นๆ อาจจะได้พบกับสัตว์จำพวก นก กระแต ลิง พญากระรอกดำ ได้ตลอดทางโดยไม่ต้องแหงนหน้าขึ้นฟ้าให้เมื่อยคอหรือไม่ต้องใช้กล้องส่องทางไกลเลย
และนอกจากจะมีเส้นทางสะพานศึกษาธรรมชาติเรือนยอดไม้แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งเส้นทางที่จะพาไปศึกษาธรรมชาติกัน นั่นคือ ทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าพรุ ซึ่งเส้นทางการเดินป่าพรุนี้จะมีระยะทางประมาณ 1,200 เมตร ใช้เวลาในการเดินเท้าเที่ยวชมประมาณ 30-45 นาที สำหรับเส้นทางการเดินชมธรรมชาติป่าพรุ นั้นเป็นเส้นทางเดินแบบสบายๆ ทางสวนพฤกษศาสตร์ ทำทางเดินด้วยปูนให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติของป่าพรุซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นไม้ล่างที่เกิดขึ้นได้ดีในพื้นที่ลุ่มชุ่มน้ำ ตลอดทางเดินจะได้ศึกษากับพืชพรรณชนิดต่างๆ อาทิ ไผ่ หวาย ระกำ หลุมพี(ลักษณะคล้ายระกำ ออกพลเป็นทะลาย) หม้อข้าวหม้อแกงลิง และถี่โถปีนัง ดอกไม้สวยๆ หลากหลายสายพันธุ์ เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก เว็บผู้จัดการ //www.environnet.in.th/index.php?option=com_content&view=article&id=876&catid=5&Itemid=18
สวย ร่มรื่น
ขึ้นมาด้านบนจะมีคำอธิบายว่ามีอะไรบ้างในป่าแห่งนี้
สวยมากๆเลยค่ะ
ได้เวลาลงมาด้านล่าง
ขอรูปคู่กับเพื่อนสักรูป เป็นการส่งท้าย
ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ
Create Date : 02 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2554 20:19:30 น. |
|
46 comments
|
Counter : 6009 Pageviews. |
|
|
|
เห็นสะพานแบบนี้แล้วพี่ขาสั่นเลยน๊า
จะไม่ค่อยกล้าเดินข้ามเลย
กลัวความสูงอ่ะค่ะ
ว่าแต่ที่น้องสาวไปเม้นท์บอกพี่
พี่อ่านแล้วอยากกินข้าวผัดมังสวิรัติจังค่ะ