เทศกาลตรุษจีน....เทศกาลแห่งความสุข
และแล้วเทศกาลตรุษจีนก็กำลังจะมาถึงกันแล้วนะคะ สาวก็เป็นหนึ่งในลูกหลานคนจีน ก็เลยขอหยิบเอาเรื่องราวจากเว็บ //www.moohin.com/festival/chainess-newyear.shtml มาแบ่งปันกันคะ สาเหตุที่สาวอัพบล็อกเรื่องตรุษจีน เป็นเพราะว่าสาวกำลังจะกลับบ้านที่ยะลาในวันพรุ่งนี้ เพื่อไปอยู่กับครอบครัว แล้วจะกลับมาในวันศุกร์คะ ครั้งยังเด็กจะชอบเทศกาลตรุษจีนเป็นพิเศษ เพราะจะได้รับอั่งเปา แต่เมื่อโตขึ้น จึงให้ความสำคัญกับวันไหว้แทน หลายๆบ้านก็คงกำลังวุ่นวายกับการเตรียมของไหว้ สาวเองคงไหว้เจ้าที่บ้านเล็กน้อยก่อนไปยะลา ส่วนจิ๋วจะพาไปบ้านด้วยคะ พาไปฝากไว้สัก 1เดือน แล้วต่อยไปรับกลับคะ
วันตรุษจีน วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ของจีน (วันที่ 1 เดือน 1 ของวันจีน) ถือเป็นเทศกาลใหญ่ที่ประหนึ่งรวมเทศกาลวันตรุษ และอาจรวมเทศกาล ไหว้สิ้นปีเข้ากับเทศกาลวันตรุษ ซึ่งจะต่างกับวันไทย และวันสากลในขณะ ที่วันของไทยเป็นวัน- ข้างขึ้น และข้างแรม เดือนหนึ่ง มี 30 วัน ของจีนจะ เป็นเดือนสั้น และเดือนยาว เดือนสั้นมี 29 วัน เดือนยาวมี 30 วันวันจีนจะ ช้ากว่าวันข้างขึ้นข้างแรมในปฏิทินอยู่ 2เดือนยกตัวอย่างวันไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันที่ 15 เดือน 8 เมื่อดูในปฎิทินจะเป็นขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 หรือ สมมุติว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2535 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 2 ก็คิดกลับ เป็นวัน จีนจะเป็นวันที่ 8 เดือน 12จากนั้นนับต่อจากวันที่ 8 ไปเป็นวันที่ 9 เดือน 12 ของจีนคือวันที่ 1 มกราคม 2536 นับไปเรื่อยๆ จนครบวันที่ 30 เดือน 12 ของจีน ซึ่งจะตรง กับวันที่ 22 มกราคม 2536ของไทยดังนั้นวัน ตรุษจีน คือ วันที่ 1 เดือน 1 ของจีน ก็ จะตรงกับวันที่ 23 มกราคม2536 วันสิ้นปีจะมีการไหว้ หลายอย่าง นิยมเรียกว่า "วันไหว้" มักเรียก วันก่อน หน้าวันไหว้ว่า "วันจ่าย" เพราะเป็นวันสุดท้ายที่จะจับจ่ายซื้อของ ไหว้ของใช้ต่างๆก่อนที่ร้านค้าจะปิดธุรกิจหลายวันการไหว้ตรุษจีนจะนิยม เรียกกันว่า "วันชิวอิด" แปลว่า วันที่ 1 มีความน่า สนใจตรงที่ว่า คนจีน จะไหว้ "ไช้ซิ้เอี๊ย"หรือ "เทพเจ้าแห่ง โชคลาภ" ในเวลากลางดึกเมื่อ เวลา ย่างเข้าวันตรุษหรือวันชิงอิดไช้ แปล ว่า โชคซิ้ง และเอี๊ย แปลว่า เจ้า นอกจากนี้เวลาไหว้ยังมีฤกษ์ยาม และทิศ ที่จะตั้งโต๊ะไหว้ยังเป็นทิศ และเวลาเฉพาะใน แต่ละปี เพื่อความเป็นสิริมงคลของไหว้จะ ไหว้ง่ายๆ ด้วยส้ม และโหงวเส็กทึ้งกับ น้ำชา
ทำไมการให้เงินตรุษจีนจึงเป็นเงินอวยพร
กิจกรรมเด่นอย่างหนึ่งของเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเด็กๆจะชอบมากคือการได้เงินแต๊ะเอียหรือจะเรียกว่าอั่งเปาที่แปลว่าซองแดงก็ได้จากผู้ใหญ่โดยหลายบ้านจะถือธรรมเนียมว่าให้กันเฉพาะคนในครอบครัวหรือสกุลเดียวกันแล้วอาจจะขยายวงไปถึงคนรักใคร่นับถือกันเหมือนญาติ
โดยแต่โบราณเรียกเงินนี้ว่าเงินเอี๊ยบส่วยจี๊ เอี๊ยบ แปลว่ากด , อัด , ห้าม ส่วย แปลว่าอายุ
เอี๋ยบส่วยจี๊เป็นดั่งหนึ่งเงินมงคลคุ้มครองชะตาตามตำรา ๑๐๐ธรรมเนียมจีนโบราณ ที่ผู้เขียนมี บอกว่าดั้งเดิมนิยมให้กันในวันสิ้นปีผู้ใหญ่จะเอาเหรียญทองแดง ๑๐๐ อันร้อยด้วยด้ายแดงผูกเป็นพวงให้เด็กในวันก่อนวันตรุษจีนหรือวันสิ้นปีนั่นเองเรียกเงินพวกนี้ว่าเอี๊ยบส่วนจี๊ โดยมีลูกเล่นเล็กๆ ว่า ส่วนที่แปลว่าอายุนี้พ้องเสียงกับคำว่า ส่วย ที่แปลว่าผี ปีศาจ และคำว่าซวย เอี๊ยบส่วย หรือเอี๊ยบซวยจึงแปลว่าห้ามความซวยหรือผี ปีศาจมาสู่
เงินร้อยด้ายแดงทั้งพวงนี้ ดั้งเดิมเด็กๆ คงห้อยไว้กับเชือกผูกเอวเกิดคำว่าแต๊ะเอีย แปลว่า ถ่วงเอว
บางบ้านมีการวางส้มสีทองและลิ้นจี่ไว้ที่หมอนแล้วให้เด็กๆรับประทานก่อนนอนในคืนวันตรุษจีน เรียกผลไม้นี้ว่าเอี๊ยบส่วยก้วย เพื่ออวยพรให้โชคดีซึ่งคนจีนในไทยไม่ได้นำธรรมเนียมวางเอี๊ยบส่วยก้วย ไว้ที่หมอนให้ลูกหลานทานแต่จะเป็นการนำส้มสีทองหรือ ไต้กิก ๔ ผลไปมอบให้แก่ผู้ใหญ่หรือญาติมิตรที่นับถือกันมากกว่า เรียกธรรมเนียมนี้ว่าไป๊เจีย
โดยมีเคล็ดธรรมเนียมว่าเมื่อเรารับส้ม ๔ ผล ที่ห่อในผ้าเช็ดหน้าผู้ชายของผู้ให้มา ก็ให้นำไปเปลี่ยนโดยนำส้มของแขกออกมา ๒ ใบ แล้วใส่ส้มของเราเข้าไปแทน ๒ ใบผูกห่อผ้าเช็ดหน้าคืนแขกไป ดังนั้นส้มสีทอง ๔ ผลนี้ ก็จะมีส้มของแขก ๒ ใบกับของเราอีก ๒ ใบ ถือเป็นการนำโชคดีมามอบให้และแลกเปลี่ยนโชคกันด้วย
ส่วนเงินสิริมงคนั้น จะมีอีกตำราของผู้เขียนเรียกว่าเงินเอี่ยมเส่งจี่หมายถึงเหรียญเงินที่พิชิตความไม่ดีคำเต็มๆคือจับยี่แซเสี่ยวเอี่ยมเส่งจี๋ เป็นเงินเหรียญรูป ๑๒ ปีนักษัตรสำหรับเป็นเครื่องรางคุ้มครองทุกดวงชะตาให้สันติสุขปลอดภัย
แล้วต่อมาเงินเอี๊ยบส่วยจี๋ ที่เป็นเหรียญ ๑๐๐ อันร้อยเชือกแดงก็ดีเป็นเงินเอี่ยมเส่งจี๋ ๑๒ นักษัตรก็ดี ต่อมาก็พัฒนาเป็นการให้ธนบัตรใหม่ๆ ใส่ซองแดงเรียกว่าเงินอั่งเปาก็ได้ เงินแต๊ะเอีย ก็ดีสืบมาโดยคำนึงว่าเงินเอี๊ยมส่วยจี๋ได้หายไป หากเคล็ดการให้ก็ยังคงเพื่ออวยพรนั่นเองเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ผู้รับว่า
ถ้าเป็นผู้ใหญ่ให้เด็กเล็กๆนี่คือการอวยพรให้เจ้าตัวน้อยเจริญเติบโตแข็งแรง ถ้าเป็นผู้ใหญ่ให้ลูกหลานที่ทำงานแล้วก็เพื่ออวยพรให้เจริญก้าวหน้าสุขภาพแข็งแรง หากเป็นลูกที่ทำงานแล้วให้พ่อแม่ก็คือเพื่ออวยพรให้ท่านแข็งแรงอายุยืนยาว โดยการที่ลูกให้พ่อแม่และพ่อแม่ให้ลูกนั้น ต้องเป็นเงินของใครของมัน ไม่ใช่ว่าลูกให้พ่อแม่เมื่อพ่อแม่รับเงินอั่งเปาจากลูกก็ส่งคืนเงินทั้งซองกลับไปแต่ต่างฝ่ายต่างควรเตรียมเงินของตนไว้ให้เรียบร้อย
และเพื่อให้ครบถ้วนความรู้ แม้ว่าผู้เขียนจะเคยเล่าไปแล้วก็ตาม นั่นคือธรรมเนียมการให้เงินเป็นเลขคู่สี่ โดยเริ่มต้นนับแต่จำความได้ผู้เขียนจะได้เงินแต๊ะเอียจากคุณพ่อเป็นแบงก์ร้อยใหม่ ๔ ใบแล้วปีต่อมาก็เบิ้ลเป็นแบงก์ร้อยใหม่ๆ ๘ ใบ ปีถัดมาก็เป็นเงินใหม่ ๑,๒๐๐ บาทคือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี แต่ต้องให้หาร ๔ ลงตัว ปีต่อมาเป็นแบงก์ ๕๐๐ ๔ ใบเป็นเงิน ๒,๐๐๐ บาท มี ๒ความนัยว่า นัยหนึ่ง คือ มงคลพรเลข ๔ จากความหมายพ้องเสียงสี่ว่าให้เพื่อ...ซี้วี่อู่หอซิว แปลว่า ทุกชาติทุกเวลาให้มีแต่รับเข้ามาให้เพื่อ...อู่จี๊อู่สี่ แปลว่า ให้มีเงินมีอานาจวาสนา ส่วนการให้เพิ่มทุกปี เพื่ออวยพรตัวผู้ให้ว่าขอให้ท่านการค้าก้าวหน้ากว่าเดิม จึงให้ลูกๆ เพิ่มได้ทุกปี
ซึ่งเคล็ดธรรมเนียมเหล่านี้หากบ้านใดจะทำเหมือนหรือไม่เหมือนอย่างไร ก็ล้วนไม่เป็นไรทั้งสิ้นอยู่ที่ตัวของทุกท่านว่า มีความสุขสบายใจ
ขอให้ทุกๆคนมีความสุขมากๆนะคะ
Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 5 มิถุนายน 2559 16:19:06 น. |
|
40 comments
|
Counter : 2274 Pageviews. |
|
|
|
โตแล้วไม่มีแต๊ะเอีย
ตรุษจีนทีไร
นึกถึงขนมเข่งชุบไข่ทุกทีค่ะ