การเดินทางเพื่อรำลึกถึงอดีต เชื่อมโยงสายใยความผูกพันสู่ปัจจุบัน
สวัสดีเพื่อนบล็อกวันเสาร์ค่ะ
บล็อกก่อนสาวได้เล่าเรื่องราวของการเดินทางไปเจอเพื่อนๆมาในช่วงปีใหม่แล้ว วันนี้ได้เวลาเปิดบันทึกของการเดินทางกันแล้วนะคะ เป้าหมายการเดินทางอยู่ที่การไปเยี่ยมญาติที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นความตั้งใจมากๆ หลังจากอาม่าเสียเมื่อ ๑๐ ปีก่อน ทำให้เราห่างหายกันไป ในปัจจุบันเหลือน้องอาม่าเหลือ ๒ คนแล้ว อาม่ามีลูกน้อย หลานก็มีเพียงลูกของพ่อ ๓ คนเท่านั้น ซึ่งสาวและพี่ชายยังไม่แต่งงาน สาวสงสารอาม่า อาก่ง หากวันนึงขาดพ่อไป เราคงขาดกัน สาวจึงตั้งใจสืบหา และสืบทอดทายาทให้อาม่า ที่หลับอย่างสบายที่วัด รวมทั้งเจอเพื่อนๆ และกลับบ้านที่ยะลาด้วย
สาวเดินทางจากจังหวัดตรัง เวลา ๑๑.๓๐ น. ในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔ เป้าหมายแรกอยู่ที่อำเภอสุไหงโกลก...ก่อนอื่นต้องขอย้อนไปไกล สาวเกิดที่จังหวัดยะลา เมื่ออายุ ๒ เดือน แม่ก็พามาอยู่ที่สุไหงโกลก ซึ่งเป็นบ้านพ่อ สาวอยู่จนชั้นมัธยม จึ้งย้ายกลับยะลา ความทรงจำก่อนย้ายคือ ที่ทำงานพ่อ
ต้นไม้สองต้นนี้เห็นตั้งแต่วันแรก จนตอนนี้สูงใหญ่มากแล้ว นานแล้วที่ไม่ได้มานอนที่อ.สุไหงโกลก สาวจะมาที่นี่ปีละครั้ง ในวันเชงเม้ง แล้วกลับไปนอนที่ยะลา ทั้งๆที่ผูกพันตั้งแต่เด็ก แต่มีครั้งนี้ในรอบ ๑๐ ปีที่ได้นอนที่นี่
ที่แห่งความทรงจำ และน้าสาวใจดี น้าสาวคนนี้สอนเรื่องการทำอาหาร สอนความอ่อนโยน น้าเลี้ยงแมวไว้หลายตัวจนปัจจุบัน
น้องแมวหน้าตาดี และอ้วนท้วนสมบูรณ์
แมวตัวนี้น่าสงสาร ตาบอดทั้งสองข้าง น้าได้มาไม่ทอดทิ้ง กลางวันขังไว้ กลางคืน นำออกมาให้วิ่งเล่นภายใต้การดูแล "ความทรงจำที่นี่งดงามเสมอ"
วันนี้ เมื่อเดินทางไปถึง มีพี่ชายใจดี จากห้องจีนศึกษา มารับสาวและพ่อไปกินหมูกระทะ แสนอร่อย พี่ชายน่ารักมากๆ
ยามคำคืนวันที่ ๑ ปีนี้สาวหลับอย่างเป็นสุข
เช้าวันรุ่งขึ้น(วันที่ ๒ มค.) มีเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ที่อยู่ที่นี่มารับ พร้อมลูกสาวที่เตรียมขึ้นชั้นมัธยม ความผู้กพันไม่เคยเปลียน กินข้าวเช้าแล้ว เพื่อนจึงพาไปส่งที่ด่าน เพื่อเดินทางไป โกตาบารู ประเทศมาเลเซีย
ช่วงก่อนมาจากตรัง แม่บอกว่าได้ข่าวว่าน้ำท่วม พยายามไม่ให้มา แต่ความตั้งใจมีมากมายเลยพยายามมา ตลอดระยะเวลาเดินทางจากพัทลุงถึงสุไหงโกลก ฝนไม่ตกเลย มาถึงสะพานข้ามแม่น้ำน้ำยังเต็มตลิ่ง แต่เดินทางได้
ป้ายที่สะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโกลกค่ะ
สะพานรถไฟแห่งนี้ พ่อเคยเล่าว่าตอนเด็กไม่มีสะพานใหญ่ พ่อต้องข้ามสะพานรถไฟไปเรียนที่มาเลเซีย
หลังจากจัดการ passport เรียบร้อย เราก็ไปรอรถบัสที่ป้ายรถ เพื่อเดินทาง ค่ารถ ต่อคน 5.1 เหรียญ (สาวไปกับพ่อ) มาเลเซียใช้สกุล ริงกิต ราคาประมาณ 51 บาทไทย เดินทางจากรันตูปันยัง ไปยัง โกตาบารู มาเลเซียใช้เวลา 1.20 นาที
ไปถึงเมืองเค้าก็ดูเล็กๆสงบดี
ไปถึงมีปัญหาในการโทรศัพท์ เลยต้องซื้อซิมมาเลย์ใช้ ราคา 7 เหรียญ ฟรี 2 เหรียญ
จากนั้นก็โทรหาญาติ ติดต่อเรียบร้อยเราจึงตัดสินใจไปที่พักญาติซึ่งอยู่ไม่ไกลด้วยการเดิน (ที่นี่หารถโดยสารยากมากๆ) ระหว่างทางก็แวะหาของอร่อยทาน
น่ากินทุกอย่างเลย สาวเลือกกินหมี่ผัด กับ นาซิดาแฆ ที่ห่อในใบตอง น่าอร่อยห่อละ 20 บาทไทย
พร้อมขนมที่แสนอร่อย ชิ้นละ 5 บาทไทย
หิวน้ำกินชาดำเย็น ใสเชียว
กินเสร็จก็ได้เวลาไปที่พักญาติ เป็นคอนโด อยู่ชั้น 15
เมื่อไปถึงเจออากู๋ 3 น้องชายของอาม่าที่เป็นอัมพฤกษ์
อากิม ภรรยาของอากู๋
และลูกสาวขออากู๋ อาเรา แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา คุยกันสักพัก เรากับพ่อเลยขอตัวไปเดินเที่ยวในตัวเมือง ตรงนี้พ่อบอกเป็นปรัมพิธี ซึ่งข้างหน้าเป็นวังเก่า
ที่นี่เป็นธนาคารเก่าแก่(ถ้าจำไม่ผิด)
มัสยิดสวยมากๆ
ประตูวังเก่า
การท่องเที่ยวของที่นี่
สัญลักษณ์
ทางเข้าตลาด
ใจกลางเมือง
ห้างสรรพสินค้า
อีกหนึ่งห้าง
บริเวณหอนาฬิกา
ป้ายที่อยู่ข้างหอนาฬิกา
ห้างที่เราแวะไปซื้อของ ถือว่าเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่(ให้เราเดา) แต่ถ่ายรูปจากห้างไม่ชัดเลยถ่ายบนรถตอนกลับ
ขากลับอากู๋เล็ก น้องชายคนเล็กของอาม่า มารับกลับ ดีใจมากๆ อากู๋ดูไม่แก่เลย
นอกจากอากู่น้องอาม่าทั้งสองแล้ว เรายังมีอาที่ยังสาว และสวยด้วย มาครั้งนี้เราได้เจอกันไม่กี่คน แต่ก็พอใจแล้ว
บอกกับตัวเองว่าจากนี้ไปคงไม่เดียวดาย เพราะลูกหลานทางอากู่มีเยอะมากๆ จากนี้ไปเราจะไม่ขาดการติดต่อกับญาติๆอีก
เช้าวันที่ ๓ อากู๋เล็กมารับช่วงเช้าเพื่อไปส่งที่ท่ารถ จากลาครอบครัวที่อบอุ่นชั่วคราว ไม่นานจะกลับมา
ปิดท้ายด้วยรูปน้องแมวจากโกตาบารูค่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ รูปเยอะไปนิดนะคะ
Create Date : 15 มกราคม 2554 |
Last Update : 21 มกราคม 2554 19:04:13 น. |
|
53 comments
|
Counter : 5816 Pageviews. |
|
|
|
ว้าววว งานนี้ได้ไปเยี่ยมญาติ ดีใจด้วยจริงๆ
ประเทศเพื่อนบ้านของเราก็มีอะไรให้ดูเยอะนะคะ
เอิงอยากไปเที่ยวอีกเหมือนกัน เคยข้ามแดนไปทางสงขลาครั้งนึง
(นานกว่าสิบปีมาแล้วค่ะ) อิอิอิ