No. 642 บล๊อกประจำ ศุกร์ - อาทิตย์ |
|
|
เมื่อหลายปีก่อน ได้ไปร่วมกิจกรรม ในที่สงบ คลองสิบ เส้นทางไปนครนายก |
ได้ทราบว่า ที่พักสงฆ์หรือ กุฏิของพระอาจารย์ ในป่า อ.หัวหิน |
ช้างป่าได้เข้าทำลาย ต้นไม้ กับกุฏิบางส่วน... ที่นั่นคือ ป่าละอู ขณะนั้นคิดเลยว่า ต้องเป็น |
ป่าที่สมบูรณ์ มีช้างป่า |
|
ต่อมา ได้ทราบข่าวว่า ที่นั่นมีน้ำตก อยู่ในวนอุทยาน แก่งกระจาน คนไปเที่ยวไปเที่ยวต้อง |
ระวังช้างป่าด้วย แล้วก็มีภาพช้างป่า เดินอยู่บนถนนที่ไป |
|
เลยเข้าไปดูในแผนที่ดาวเทียม คำว่า ป่าละอู อยูแนบชิดเทือกเขาตะนาวศรี ข้ามเขาไป |
เป็นเขตพม่า เมืองมะริด ลงไปอีกเป็น เมืองทวาย ครั้งหนึ่งเคยเป็นของไทย คนที่นั่นเชื้อสาย |
พม่า พูดไทยได้มาก น่าสนใจ
|
|
เพื่อนที่ทำงาน ได้นำทุเรียนป่าละอูมาฝาก กินไปคำแรก รู้เลยว่าทุเรียนอร่อย เนื้อละเอียด |
คล้ายหมอนทอง รสชาดมัน หวานนิด ดีมากเลย ห้างวิลเลจมาเก็ต ที่เราไปเดินบ่อย ช่วยชาวสวนเปิดขายทุเรียนติดต่อกัน
หลายปี
|
วันก่อนอยู่ที่หัวหิน ดูแผนที่กับข้อมูลต่าง ๆ แล้ว น้ำตกป่าละอู ไปตามถนน 3218 เป็น |
ถนนหน้าบ้าน ถ้าขับผ่านไปทางวัด ห้วยมงคลอีกประมาณ 50 กม.ก็จะถึง งั้นไปเที่ยวกัน
|
เลยขับรถไปเรื่อย ๆ ถนนค่อนข้างดี รถน้อย กะจะไปดูสภาพป่า ดูน้ำตก อาจจะเจอช้างป่า |
บ้าง ก็ดีเหมือนกัน เขาบอกว่าถ้าขับรถ ก็ให้ดับเครื่องอยู่กันนิ่งแล้วเขาก็จะไปเอง |
|
ปกติเห็นช้างป่า ใกล้กับสวนผลไม้ ต.พวา อ.แก่งหางแมว ที่จันทบุรี ผมเฉย ๆ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เจอหลายครั้งในฤดูแล้ง |
แหะ ๆ อยู่ห่างกันเกือบ 200 เมตร ไงก็ขับรถหนีได้ กลัวไม่กลัวดูภาพว่าชัดหรือเปล่า... 555
ขับรถไปเรื่อย ๆ สองข้างทางเป็นป่าโปร่ง สลับกับหมู่บ้าน ห่าง ๆ กัน ซ้ายมือเป็นทางแยกไป ไร่องุ่น จำได้ว่า
เคยไปเที่ยว วันนี้เราไม่ไป ตั้งใจไป ดูป่าละอู ขับไกลน่าจะประมาณสี่สิบกว่ากิโลเมตร เกือบ 50 กม..
ข้างบนเป็นด่าน ตำรวจ เขาเอาไว้ตรวจไรไม่รู้ น่าจะตรวจคนต่างด้าวมากกว่า หุ หุ เห็นด่านคิดว่าใกล้ถึงแล้ว แต่ยังไม่ใกล้
กลับมาดูแผนที่ดาวเทียมภายหลัง ที่นั่นเป็นหมู่บ้าน ตลาด ชุมชนหนึ่งเท่านั้น เขาเรียกทั่วไปว่า ป่าละอู
หรือ ห้วยสัตว์ใหญ่
|
มีบริษัท กับกิจการใหญ่อยู่ ใกล้กับทางแยก
|
เจอทางแยกแบบนี้ เลี้ยวขวาไป ทีแรกคิดว่า น้ำตกน่าจะไม่ไกล ที่ไหนได้ 10 กว่ากิโลเมตร แต่ก็ขับรถเพลิน
ขับจาก ทางแยกวัดห้วยมงคล ท้องฟ้าคลึม สลับกับบางช่วงมีแดด แตเมือใกล้ป่าละอู ฝนเริ่มตกปรอย ๆ
พอเข้าเขตป่า ฝนตกหนัก และแล้ว เห็นกองขี้ช้างด้วย ไม่มาก ช่วงที่มีกองขี้ช้าง น่าจะเป็น ทางที่ช้างเดินข้ามถนนไปอีกป่า
แต่ก็แปลกใจ.. ที่ช้างลงมาจากเขา สู่ถนนในฤดูฝน ไม่เหมือนช้างป่า แถวบ้านสวนที่ จันทบุรี เขาจะลงมาหาน้ำในฤดูแล้งเท่า
นัน แสดงว่า ที่นี่ น่าจะมีช้างเยอะกว่า
ระยะทางไม่ไกลเท่าใด สองข้างทางเป็นป่า ไม่สูง ภูเขาก็ขนาดกลางไม่เหมือน ภาคเหนือ ไม่นานก็เห็นอ่างเก็บน้ำใหญ่ด้าน
ซ้ายมือขนานคู่ไปกับถนน
ขับรถไปเรื่อย ๆ สองข้างทางเป็นป่า แล้วก็เจอด่าน ของที่ทำการ เขาโบกมือให้ผ่าน สงสัยจะเห็นคน หล่อมั้ง 555
ขับไปอีกพักหนึ่ง แถวนั้นฝนไม่ตก แห้ง
...
สองข้างทาง เป็นป่าไผ่ กับ ต้นไม้ใหญ่เบญจพรรณ หรืออาจจะเกินกว่า เบญจ คือ 5 นะครับ
เป็นปากทางเข้าน้ำตก มีที่จอดรถทั้งสองข้าง เห็นที่ว่างก็เสียบเข้าไปจอดได้เลย
ข้างบน เป็นด่านเก็บเงิน มีนักท่องเที่ยว หลายสัญชาติหน่อย มาทั้ง มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถสองแถว เดินดิ่งลงไป
50 เมตรกว่า ซ้ายมือเป็นร้านค้า ห้องน้ำ ซ้ายมือเป็นลำห้วย น้ำไม่มาก แต่ใส เลยเดินผ่านศาลาประทับของ ในหลวงรัชกาลที่
9 ของพวกเรา พระองค์เสด็จมาที่นี่ เห็นภาพพระองค์ประทับบนรถเข็น พระภักต์เจือแย้มนิด ๆ
เห็นเพียงแค่นั้น ก็ปลื้มปิติมากมาย
ผมลงจากศาลาประทับแล้ว เดินผ่านลำห้วยน้ำใส ไหล เห็นปลาพลวงว่ายเป็นกลุ่ม
เดินบนสะพานไม้ไผ่ ไปอีกฝั่ง
....
ข้างบนเป็นศาลาของ เจ้าหน้าที่คอยดูแล ห้ามนำของขึ้นไปกินข้างบน เพื่อรักษาสภาพป่าให้ดี
จากจุดนั้น เดินข้ามสะพานคอนกรีต ไปอีกฝั่งเป็นดอย ป่าค่อนข้างทึบ
...
...
เท่าที่ทราบ น้ำตกป่าละอู มีน้ำตกรวม 15 ชั้น.. ดูซิว่าผมจะเดินไปได้กี่ชั้น หุ หุ แต่ที่นี่เขาแนะนำว่า ควรเดินไปเองชั้นที่ 5
ตั้งแต่เลยชั้นที่ 6 สวยก็จริง แต่เรียบชายแดนพม่า เพียง 2 กม.. อาจจะพบกับอะไรไม่รู้ได้ ควรติดต่อขอ เจ้าหน้าที่ พาเดินจะ
ดีกว่า
ทางเดิน ไม่ลำบาก ค่อย ๆ เดิน เขามีเชือกให้จับด้วย ดีจัง
ภาพข้างบน ใช้กล้องใหญ่ถ่าย แบบทั่วไป ดูแห้ง
เถาวัลย์ กอดเกี่ยวพันไปกับ ต้นไม้ สวยดี
เจ้าหน้าที่ บอกว่า ถ้าเดินไปเรื่อยๆ จะเจอ หย่อมดิน ผีเสื้อจะจับกลุ่ม กินแร่ธาตุ บางอย่างอยู่ แต่ไม่ทุกวันนะ
นักท่องเที่ยว เขาจะเดินไปแค่น้ำตกชั้นที่ 2
ภาพข้างบนใช้กล้องใหญ่ถ่ายเช่นกัน แบบแบบ วิดิโอ ดูแล้วเห็นความชื้นบนชั้นหิน ทั้งที่เป็นเลนซ์เดียวกัน เป็น งง..
ข้างบนเป็น เลนซ์ติดกล้องใหญ่ปกติ ถ้าย้อนกลับไป ดูภาพฝนตกที่ถนน เป็นกล้องติดหน้ารถชนิดวิดิโอ
นำมาหยุดภาพ พริ้นสกรีน แล้วก๊อบมา ดูไม่คมชัด แต่มุมกล้องกว้างกว่า
...
พอไต่ขึ้นชั้นที่ 3 ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินตามมาเลย เขาคงท้อ งั้นผมไปต่อ
....
...
...
ยืนถ่ายวิดิโอ กับ ภาพนิ่งที่นั่น กว่าครึ่ง ชม. เงียบ ได้ยินแต่เสียง น้ำตกไหล เสียงนกบางชนิด
ดูจะไม่เหมาะ เงียบเกินไป เลยเดินกลับ
เห็นผีเสื้ออยู่บ้าง ไม่มากนัก ถ่ายไม่ทัน หุ หุ
ย้อนกลับมา พักที่ป้อม เจ้าหน้าที่อุทยาน เลยได้คุยกับเจ้าหน้าที่ เขาเล่าว่า ผีเสื้อจะมีเยอะเป็นบางวัน ส่วนช้างป่า
จะเดินลงไปใกล้กับร้านค้า ตอน 2 ทุ่ม คงไปหาของกิน
ถ้าฝนตกหนัก จะงดให้นักท่องเที่ยว ลงไปริมลำธารน่้ำตก เพราะน้ำไหลแรง อันตราย
เจ้าหน้าที่ เห็นผมจะกลับ ก็กล่าว ขอบคุณที่เดินทางไปเที่ยว... รู้สึกเลยว่า เขามีจิตใจให้บริการพวกเราอย่างจริงจัง
ส่วนช้างป่า ตัวสมเสร็จ หรือ เลียงผา ไม่เห็นแน่นอน ไม่เป็นไร
ส่วนทุเรียนป่าละอู ไม่ได้ตั้งใจไปหา เพราะตอนไป ทุเรียนใกล้หมดแล้ว ทุเรียนพันธ์นี้ยังปลูกกันน้อย
ไว้ค่อยเจอกันในโอกาศต่อไป.. ส่วนน้ำตกชั้นสูงขึ้นไป ค่อยหาเพื่อนช่างภาพหนุ่ม ๆ ไปถ่ายกัน ขอให้ใจสู้ก็แล้วกัน
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
end 1,032,216 |
st. จำนวนผู้เข้าชม 1,021,122 |
= 11,094 |
งานเขียนประเภท Diarist |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ช้างป่าน่าจะชอบ
เพราะสภาพเป็นป่าที่ยังดูสมบูรณ์จริงๆ
ผมก็รู้สึกเหมือนกันครับพี่
เวลาเดินเข้าไปในธรรมชาติแล้วมันดูเงียบมากๆ
เปลี่ยวมากๆ
ผมจะยึดคติ ถอยดีกว่าเสมอครับ 5555
โหวตครับพี่