No. 662 บล๊อกประจำ ศุกร์ - อาทิตย์
|
|
|
เราพากันขับรถเที่ยว ภาคเหนือของไทย ใช้รถเก๋ง 2 คันขับตามกันไป |
ขับเมื่อย ง่วง หิว ปวดฉี่ วิวสาย ....จอด..ซิครับ ไม่ห่วงเวลา... ขอเพียงอย่าไปถึงที่หมาย |
ไม่เห็นอะไร คือ มืด ก็พอ.. ถ้าไปถึงที่หมาย แสงทอดยาว |
หรือมีหมอก โอเค ชอบ... กันมาก |
|
อาหารไม่ห่วง เห็นร้านไหนคนเข้าไปกินเยอะ จอด.. หรือใครรู้ว่าร้านไหนอร่อย ราคาแพงไม่ว่า |
ขอเลี่ยงหน่อย อ้าว.. 555 |
เป็นแบบนั้นจริงๆ บางร้านราคาอาหารจานเดี่ยว 245 บาท 375 บาทแต่ ปริมาณอาหารให้ |
พูนจานโต เราแวะทานกัน เพราะเราไม่อายที่จะ แบ่งกันทาน สั่งอาหาร 5 จาน |
แบ่งกันทาน 7 คน อิ่มพอดี |
|
ที่ว่าขอเลี่ยง คือร้านที่เคยไป เห็นจานอาหาร เบ่อเริ่ม มีผัก ชีส กุ้งตัวขนาดนิ้วก้อยเด็กแกะเปลือกเหลือแต่หาง |
สามตัว กัดกินกุ้งรู้เลยว่า เป็นกุ้งแช่แข็งมาก่อน วางแหมะตรงกลาง ถ้าใช้ช้อนคาวตัก สองคำก็หมด อ้อ.. มีฝานผักยาว ๆ พาด |
เส้น แล้วใช้น้ำเกรวี่วาดเป็นเส้น สวยมาก ราคาจานละ 480 บาท |
ไปครั้งเดียวก็พอ ก็เขาคิด ค่าใช้อาคารสวย ที่เขาลงทุนไว้หลายล้านบาทไว้ด้วย แบบนี้ไม่เอา |
|
ไปเชียงใหม่ ทีมเที่ยว รู้จักที่กิน กันเยอะ เรียกว่าไปบ่อย มีทั้งอาหารเหนือ อาหารจีน |
ก๊วยเตี๋ยว บะหมี่ อาหารอีสาน สุดแซ่บ ยกเว้น ข้าวแกง เราก็ไปกิน |
ระหว่างที่ขับเที่ยวไปเรื่อย ๆ ในรถแต่ละคัน มีผลไม้ ขนม ผลไม้แห้ง สด น้ำดื่มอยู่ด้วย |
นั่งหลับไป ตื่นมาก็ ขยับ แหะ ๆ เปล่า แ ด...นะเออ คว้าของมากิน
|
จนพุงกางกันเป็นแถว... เชื่อหรือไม่เราไปเที่ยวกันได้ 2 วัน ผมที่เป็นคนขับตลอดทาง พอเพื่อน |
บอกว่าจะไปกินที่...... มีอาหาร.... เอิ่ม... คิดหนัก กินไม่ลงแล้ว |
คือมันอิ่ม กลัด เอ้ยเกี่ยงขอเกี่ยว กางเกงเกือบไม่ได้ บอกตรง ๆ เริ่มกลัวการกินอาหารขึ้น |
มาทันที .... |
|
บ่ายวันหนึ่ง หลังกินอาหารเที่ยง อร่อยมาก พวกปลาบึก ปลาคัง ลวกจิ้ม ฯ |
อิ่มมากจนจุก... เลยถามว่า จะไปนอนเล่นที่ไหนดี |
ไม่เอา มาเที่ยวมานอนได้ไง หุ หุ |
ได้เลย งั้นไปวัดป่าดาราภิรมย์ก็แล้วกัน อยู่ไม่ไกล ด้วย อยู่ อ.แม่ริม เป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่เสียงส่วนน้อยบ่น...หุ หุ |
|
ว้า พี่ไวน์นี่ยังไง ชวนเข้าวัด จะชวนไปเดินจงกรม นั่งสมาธิ หนูไม่เอานะ |
|
ไม่หรอก..เพื่อนที่ไปวัดนี้ บอกว่าปัจจุบัน จริงแล้วนานแล้ว... วัดได้สร้างศาลา อาคาร และที่ |
สำคัญปลูกต้นไม้เยอะมาก สวย.. เราไปพิสูจน์กัน ว่าจะเหมือนวัดใน กท.หรือเปล่าที่มีแต่ |
เจดีย์ ตึก ปูน พื้นวัดคอนกรีต ไปไหนมีแต่เสียง รับดอกไม้ไหมคะ ปิดทอง.. อากาศร้อนแสงจ้า |
ที่วัดป่าดาราภิรมย์ จะร่มเย็นจริงหรือไม่ ปะ ไปดูกัน
|
เห็นภาพแรก คงเดาได้ว่า วัดนี้ มีศิลป ที่งดงาม แม้ว่าวัด อายุ ไม่ถึง 100 ปีถือว่าเป็นวัดใหม่เรียก รุ่น วินเทจ น่าจะได้
ที่ก่อสร้างอาคาร มณฑป ศาลาแบบมีศิลป งดงาม ให้สีได้สวย
ร่มเงา ยามบ่ายคล้อย ดูร่มเย็น ใช่ครับ ตอนน้้นผมยังใส่เสื้อแจ๊กเก็ต
วัดแห่งนี้ปลูกต้นไม้เยอะดี...เหมาะที่จะเป็นวัดศาสนาพุทธ
หลังจากไป วัดแห่งนี้มาแล้ว ได้เข้าอ่าน ข้อมูล ปรากฏว่า พระอาจารย์หลวงปู่มัน ภูริทัตโต ได้เดินธุคงค์
แล้วมาปักกลด ซึ่งเป็นป่าช้าเก่า ร้างมานาน พระอาจารย์ท่านเห็นว่า เหมาะสำหรับสร้างวัด
พื้นที่ มีลำรางน้ำไหลผ่าน อยู่ใกล้พระตำหนักดาราภิรมย์ ของพระราชชายาใน รัฐกาลที่ 5
เมื่อก่อนคงจะเปลี่ยว ไม่มีผู้คนอยู่อาศัยละแวกนั้น เกือบหนึ่ง กม.เป็นชุมชนแม่ริม
ต่อมา มีภิกษุ เข้ามาปักกลดบ่อย สานต่อตามพระอาจารย์หลวงปู่มั่น และชาวบ้านจึงคิดสร้างเป็นวัด เจ้าลดาคำ ณ เชียงใหม่ เป็นผู้ดูแลมรดก
ของเจ้าดารารัศมี จึงมอบ พื้นที่ให้สร้างวัดป่า เรียกว่า วัดป่าดาราภิรย์ เมื่อปี พ.ศ. 2484
ต่อมามีการบูรณะวัดให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของชาวบ้าน แต่ยังคงยึดปฏิบัติคือ ปลูกต้นไม้ขึ้นให้เป็นร่มเงา
ผมเดินชม ความสวย ความร่มเย็น ไปแม้จะไม่ทั่วถึง แต่ก็ไปได้เยอะ เห็นอาคารสูง น่าจะเรียกว่า มณฑป ตั้งอยู่ เลยเดินขึ้นไป
ชั้นแรก และชั้นที่สอง ข้างบนสงบ มาก.. เห็นชายและหญิง นั่งหลับตาทำสมาธิ ผมเลยรีบถ่ายภาพเงียบ ๆ จากข้างใน มอง
ไปภายนอก คือเกรงว่า ตัวเองจะเป็น คนทำให้คนอื่นเสียสมาธิ บาป หุ หุ
...
ลงมาข้างล่าง ถ่ายย้อนขึ้นไปให้เห็นยอด เพื่อให่ภาพ พอได้นะครับ..
ขณะเข้าวัด ตอนแรก ได้ถ่ายภาพ หน้าต่างประตูโค้งอีกด้าน เมื่อมาด้านนี้ เห็นแสง เงา สวย น่าจะเกือบบ่ายสองโมงเย็น
เลยแชะมาให้ดูอีกภาพ สีสวยดีครับ
มองไปอีกด้านเห็น ต้นไม้ร่มครึ้ม ตัดกับแสงสว่างของผนัง โบสถ์ สวยอีกแหละ..
วัดนี้มีนักท่องเที่ยวมาก แต่ก็เดินเข้าชม สงบ...ไม่ส่งเสียงดัง ผมว่าระยะหลังนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่
เริ่มจะรู้วัฒนธรรมของเรา ที่จะยังความสงบในจิต เห็นความสวยงามที่ ไม่ต้องแย่งกันชม
ถ้าสังเกต จะเห็นนาฬิกา ติดอยู่หน้บรรณ...แสดงว่า เวลาของชีวิตเดินไปเรื่อย ๆ ไม่ควรประมาท ทำความดีไว้เยอะ ๆ
ว่าเข้านั่น.. แต่ก็จริงนะครับ
ที่นี่มีต้นไม้เยอะ แต่มีดอกไม้ให้เห็นอยู่บ้าง
เวลาบ่ายคล้อย เกิดแสงเเงา ความร่มรืน ตัดกับ ความเข้มของศิลปสถาปัตยกรรมอันสวยงาม
ภาพข้างบน จะเห็นนักท่องเที่ยวเดินไปมา ค่อนข้างมาก ที่นี่ไม่มี หรือ ไม่ได้ยินเสียงเรี่ยรายใด ๆ ดีจัง...
ผมมัวถ่ายภาพ ฉีกตัวแยกกับเพื่อนๆ ไปคนเดียว เห็นว่า นานเกรงว่า...เพื่อนจะรอนาน เลยเดินมาหน้าวิหารใกล้ประตูทางเข้า
ถ่ายภาพให้เห็น ส่วนกลางของวัด เอะไม่เห็นพรรคพวก เลยถือโอกาศเดินไปอีกทางหนึ่ง ลึกเข้าไป
พบศาลา สวยงาม เห็น ตรา..นี่คุ้น ๆ
ดีใจเลยครับ เป็นอาคารหรือศาลา ที่สอนนักศึกษาให้ เป็นครูสมาธิ สังกัด
เลยเดินเข้าไป ดูที่ประตู มีกระจกกั้น มีนักศึกษาทั้งหญิงชาย หนุ่ม สาว แต่งกายธรรมดา นั่งฟังการบรรยายการทำสมาธิ
พี่เลี้ยงครูสมาธิ กับทีมงาน เดินออกมาต้อนรับ คงคิดว่า ผมเป็นนักศึกษามาสายมั้ง ๆ หุ
เลยโบกมือว่า ผมมาเที่ยว วัด มาดูเฉย ๆ แต่มิได้บอกว่า ได้เรียนจบรุ่น 29 แล้ว หุ ห
เห็นนักศึกษาไปเรียนกัน พอประมาณ ดีใจ.. แม้พวกเขาจะเรียนยังไม่สำเร็จ แต่ไม่นานก็จะพบว่ามา ถูกทางแล้ว
ผมเองเมื่อหลายปีก่อน ตอนเย็น เลิกจากงาน ขับรถจาก สีลม ไปเรียนที่วัดธรรมมงคล ทุกวัน เว้นเสาร์อาทิตย์
เรียนวันละ สอง ชม.ครึ่ง 6 เดือนเรียนทฤษฏี เรียนปฏิบัติ เมื่อสอบข้อเขียน สอบปฏิบัติผ่าน
จึงมีสิทธิไปดอยอินทนนท์ ไปเดินธุดงค์ เมื่อปฏิบัติครบจึงจะถือว่า เรียบจบ
นอนในเต็นท์ของใครของมัน พบทั้งความร้อนกลางวัน สายฝนทีจู่ ตกมาเปียกหลังคาเต็นท์
กลางคืน หนาวเย็น.. จนเรียนสำเร็จ...
เลยถือโอกาศ ชักชวนเพื่อน ๆ ที่สนใจ ลองเมียงมองที่จังหวัดที่อยู่ ว่ามีที่ใด
เปิดสอน ไปเลยครับ สถาบันมี 100 กว่าสาขา.. เรียนฟรี..
เลือกเรียน เฉพาะเสาร์ ทิตย์ก็ได้ เรียนตอนสาย ถึงตอนเย็น สบาย ๆ |
ประโยชน์ในการทำสมาธิมีเยอะ แต่เห็นเด่นชัดคือ "นอนหลับง่าย"
|
ขอขอบคุณเพื่อนผู๋เอื้อเฟิ้อภาพ |
end 1,195,888 |
st. ผู้เข้าชม 1,186,907 |
= 8,981 |
งานเขียนประเภท Diarist |
|