No. 663 บล๊อกประจำ จันทร์ - ศุกร์
|
|
|
ไปเที่ยวในไทย หรือ ตปท. บางแห่งยังอยากไปซ้ำ ๆ กี่หนก็ได้ เท่าที่สังเกตจะเป็นพื้นที่ |
ยังเป็นตามธรรมชาติไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก |
แม้ถนนไปจะยากลำบากเพียงใดก็ยังอยากไปสัมผัส ภูมิประเทศ ที่หนาวเย็น |
สถานที่แบบนั้น ในไทยก็มีเช่น ดอยอ่างขาง เชียงใหม่ คือที่จะไปเที่ยวในครั้งนี้ |
|
แต่ผมมีข้อแม้ว่า จะไม่ขับรถขึ้นไปเองสงสารรถที่ทำงานหนัก ทั้งเบรค คลัชทำงาน ไม่หยุด |
แต่กลิ่นโชยเหม็นไหม้ เมื่อเรา เปิดกระจกรถเมื่อพักรถจากรถคันหน้า ของเราคงเหม็นด้วย |
|
เพื่อนที่จะไปด้วยเห็นด้วย เพราะเคยขับ ลงเขาแห่งนี้ ใช้เอนจิ้นเบรค คือใช้เกียร์ต่ำ หรือเกียร์ |
โลว์แล้ว รถยังเร็วมาก เลยเบรคเท้าช่วย บ่อยหน่อย เบรคเลยแตก เหยียบแล้ว จมหาย |
เลยต้องใช้ข้างรถ สีกับเนินดินลูกรังข้างเขาแทน และแล้วรถก็หยุดได้ เกือบไป.. |
|
ครั้งนี้เราจะขับรถไปส่วนที่พอขับได้ แล้วนำรถไปฝาก แล้วนั่งรถสองแถวรับจ้างต่อ |
|
เช้าวันนี้ เราขับรถตามกันไป ตามถนนหมายเลข 107 เชียงใหม่ฝาง ถนนดีขับง่าย |
แม้จะขึ้นดอย คดเคี้ยวพองาม มีรถสวนมาบ้างแต่ไม่มาก เราขับไปถึง อ.เชียงดาว ไปตามถนน |
บายพาส เมื่อไปถึงทางแยก เข้าบ้านเมืองนะ เราแยกไปขวามือ ไปสู่ อ.ฝาง จะไป |
ดอยอ่างขาง เส้นถนนสั้น แต่สูงชัน
|
ส่วนทางแยกไป บ้านเมืองนะ เป็นถนนที่ราบเรียบ สูงชันน้อยกว่า แต่ไกลกว่า เป็นเส้นที่เรา |
ขับกันไป 3 ครั้งแล้ว แต่ เรา เลือกที่จะขับไปถนนเส้นนี้
|
คือสูงชันกว่า มุ่งสู่ ผ่าน อ.ไชยปราการ - อ.ฝาง ขับตามกันไป แซงค่อนข้างยาก |
มีรถบันทุกสิบล้อ รถหัวพ่วง นำหน้าก็ต้องใจเย็น คอยมองสัญญาณจากรถพี่ใหญ่
|
ถ้าลูกพี่กระพริบไฟขวามือ อย่าได้แซงเด็ดขาด มีรถสวนลงมา |
เราก็กะ ๆ เอา ว่าข้างหน้าสูงชันก็จริง น่าจะไม่คดเคี้ยว ขับจ่อท้ายคันหน้า พอได้สัญญาณ |
ไฟกระพริบซ้ายมือ รีบแซงขวาไปเลย
|
ส่วนใหญ่ก็รอด แหะ ๆ บางทีก็เหยียบช้าไป มีรถสวนลงมา ก็ต้องชิดซ้ายขับจ่อท้ายแบบเจียม |
เนื้อเจียมตัว อึดใจค่อยฮึดแซงจนได้
|
พอเลยตลาด อ.ไชยปราการหลาย กม ก็ถึงทางแยก วัดหาดสำราญ เลี้ยวซ้ายเป็นถนนหมาย |
เลข1249 สู่ดอยอ่างขาง... เห็นวัดอยู่ขวามือเลี้ยวเข้าไป เจอรถสองแถวเยอะมาก |
|
เพื่อนลงไปคุย โชเฟอร์พาไปส่งที่พักบนดอยอ่างขาง กับสถานที่เที่ยวกี่แห่ง ใน 2 วัน |
ตกลง ได้ราคา 2,000 บาท.. จะจอดที่วัดนี้ก็ได้ฟรี แต่อยากจะจอดแล้วมีคนดูแล โชเฟอร์ |
ให้ขับตามไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรค่าฝากคันละ 100 บาท.. |
|
ถ้าเพื่อน ๆ ไปน้อยคน ก็รอขึ้นคันที่จะเต็ม ค่าโดยสารไปส่ง ณ อ่างขางคนละ 80 บาท |
แต่ก็ต้องรถคนเต็ม ระยะทางเพียง 25 กม. ได้มั้ง
|
เราไปจอดในรีสอร์ทกึ่งร้านอาหาร จ่ายค่าฝาก เจ้าของสถานที่ ถ่ายภาพรถทั้งสองคันรวม |
ทั้งเราคนขับไว้ด้วย เราช่วยกันขนกระเป๋าขาตั้งกล้อง ไปใส่รถสองแถว
|
นั่งรถผ่านบ้านคน แบบทางภาคเหนือสมัยใหม่หน่อย ไม่นานก็เริ่มสู่ ดอยไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ |
ทางคดเคี้ยว ชัน.. มองลงไปไม่เสียวเลย หุ หุ ยกเว้นบางระยะเท่านั้น |
|
พอถึงทางแยก ที่ถนนสองสายมาพบกันคือ ต่างก็มุ่งสู่ดอยสูงอีกครั้ง พักใหญ่ถนนเริ่มต่ำลง |
รถวิ่งช้าลง เริ่มได้กลิ่นเบรคไหม้จาก คันหน้า
ส่วนเราไม่ห่วงเลย เพราะคนขับ |
เป็นมืออาชีพเจ้าถิ่น ถนนลดลงเรื่อย ๆ ผ่านแค้มป์ที่ตั้งเต็นท์นัก ท่องเที่ยว ลงไปอีก |
เริ่มจำสถานที่ได้แล้วว่า ลงสู่ อ่างกะทะ เอ้ยอ่างขางแล้ว เคยถามญาติชาวเจียงใหม่คำว่า |
ขาง หมายถึง หวงแหน หรือ ขางอีกคำแปลคือ กระทะ |
|
งั้นเรานั่งรถลงไปสู่อ่างหรือแอ่งดอย จะได้รู้ว่า เราควร หวงอ่างนี้หรือไม่ |
สองแถวพาสู่แหล่งชุมชน หน้าสถานีเกษตรอ่างขาง เลี้ยวลงสู่ซอยเล็ก ๆ ไปบ้านสวนอ่างขาง
|
เราไปถึง สิบโมงกว่า อากาศเย็น ใส่เสื้อลำลองกับสวมแจ๊กเก็ตอีกตัว เย็นสบาย |
|
เจ้าของรีสอร์ท เป็นชาย ใบหน้ายิ้ม คอยต้อนรับ พร้อม ชี้ให้ดูห้องพักที่เราจอง ให้รอลูกค้า |
ออกตอนเที่ยง...เขาช่วยขนกระเป๋าไว้ที่เคาเตอร์รับรอง จะเข้าพักได้ตอนบ่ายสองโมง |
งั้น ไปเที่ยวข้างในสถานีเกษตรก่อนดีกว่า |
|
โชเฟอร์ขับพาไปที่ ทางเข้าขอรับเงินจ่ายค่าธรรมเนียมเข้า รถไปจอดใกล้ ๆ ทางเข้า |
สดุดตา ต้นดอกสีชมพูเข้ม กำลังออกดอกบานสพรั่ง ต้นสูงน่าจะไม่เกิน 4 เมตรคงเป็นดอก |
นางพญาเสือโคร่งสีของดอกอ่อนกว่าซากุระ หุ หุ จำขี้ปากเขามา |
|
เคียงคู่ไปกับแนวต้นดอกนี้ เป็นแปลงไม้ดอก สีสวย ทำเอาพวกเราตื่นตาตื่นใจ ก็เหมือน ๆ |
นักท่องเที่ยวคนอื่น รีบลงไปแชะ ๆ ไม่ยั้ง |
อากาศยัง หนาว ดูนักท่องเที่ยวใส่เสื้อผ้า....
...
...
|
|
นำภาพมาให้ดูบางส่วนนะครับเยอะเกิน เราอยู่นานพอควร ก็เดินหาโชเฟอร์ที่ ยืนเมียงมองดู |
เขาบอกว่าจะพาเข้าไปข้างไหน เอาซิไปก็ไป |
เป็นถนนที่ทอดยาว ตัดผ่านเนินสูงต่ำปานกลาง
...
สองข้างทางมีต้นผลไม้ที่ผ่านการตัดแต่งกิ่ง หรือทำการ พรุนกิ่ง ใบให้โปร่งหลังการเก็บผล |
|
ใคร ๆ ก็ไปถ่ายภาพต้นไม้ กันเยอะ น่าสนใจ..ครับ |
แต่ใจผมไปอยู่ที่แปลง ผักชนิดต่าง ๆ อ้าว ไงอยากดู ผักคะน้า ฟัก ปวยเล้งเหรอ |
ดูนี่ซิครับ |
ถาม อากู๋ ว่าต้นนี้อะไร เขาเรียกว่า Chard ใบใช้ทำสลัด ดูแล้ว คงจะผสมข้ามพันธ์ สีเลยแตกต่างกัน
อาจจะเคยกินมาบ้างแล้ว ใบคล้าย ๆ กัน
ผักพวกนี้ น่าจะปลูกให้เราดูเป็นตัวอย่าง ไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย
ลายหรือสี จะแตกต่างกันนิดหน่อย แต่การปลูกในรุ่นนี้ ก้านใบสี จะเล็กว่า ปีก่อน ๆ โน้น เป็นด้วยเหตใด
ไม่รู้เหมือนกัน แหะ ๆ ผมถนัด แต่ ผักกาดกวางตุ้ง ทำอาหารเหนือ ผักกาดจอ หุ หุ
รสชาดเป็นแบบไหน จำไม่ค่อยได้แล้ว หุ หุ เคยทานตามภัตตาคาร.... พวกผักสลัด
...
กระหล่ำดอกม่วง น่าจะกินได้ ปกติจะใช้กระหล่ำดอกขาว ดองเปรี้ยว อมหวานนิด อร่อย
...
ปลูกแบบข้างล่างนี้ เห็นกันบ่อย โรงเรือนปกคลุมปิด ป่องกันแมลงหรือ หนอนกัดกิน...
ข้างล่างนี่ ฟักแน่นอน(น่าแตกเย็บไม่ไหวแล้ว) อาคุงกล่องเม้นท์บอกว่า เป็น "แตงญี่ปุ่น" เคยซื้อที่ดอยอินทนนท์ลูก 40 บาท
แต่ถ้าไปซื้อข้างล่างใน กท. ประมาณ 400 บาท เขาปลูกส่งขายญี่ปุ่น..
ข้างล่าง ผมเรียกว่า ฟักแม้ว เปล่าดูถูกชาวม้งนะครับ เขาเรียกกันแบบนั้นจริง ๆ ชาวม้งเป็นชาวไทยภูเขาที่ สมองดี ค้าขาย
เก่ง... ข้างบ้านพี่สาว แถวโป่งแยงเพื่อนบ้านปลูก พืชชนิดนี้ไว้เต็มพื้นที่หลายไร่ เพื่อเก็บยอด
พวกเราคงคุ้นเคย ยอด ซาโยเต้ นั่นใช่เลย แถว อ.เวียงป่าเป้า เป็นพืชพื้นบ้าน เขาปลูกทิ้งขว้าง
ผมเองก็ชอบผัดยอดผัก ซาโยเต้ เลยเก็บผล หรือ ลูกฝักแม้วแก่ไว้ 10 กว่าลูก
ไปเพาะที่ริมลำธาร
บ้านสวน อ.แก่งหางแมว ผลคือ รากที่เคยงอก ไม่งอกต่อ ค่อย ๆ เหี่ยวตายไป เลยไม่เห็น "ผล"
ผู้รู้บอกว่า เขาชอบอากาศเย็น อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากหน่อย เฮ้อ...
พืช หัว ข้างล่างทั้งหมด ยังไม่ทราบชื่อ รอเพื่อน ๆ ผู้รู้ช่วย เม้นท์บอกด้วยนะครับ จะได้ ปรับแก้ไข
ใช้ประกอบอาหาร อะไรได้บ้าง... รสชาด..แบบ....
ข้างล่างนี้ แน่นอน ถั่วลันเตา...
เป็นที่น่าสังเกต แปลงผักนี้แม้จะปลูกมาก คงไม่พอที่จะ ขาย... โครงการพืชไม้เมืองหนาว ปลูกไว้ให้ดูว่า ปลูกได้
ส่วนที่จะขาย ให้แก่คนทั่วไป หรือ ส่งขาย กท. ไว้ดูในตอนต่อไปนะครับว่า ที่ไหน
มองลงไปไกลสุดสายตา เป็นแปลงไม้ผล กับพืชล้มลุก... ต้องรีบกลับจากการถ่ายภาพกลับไปหาเพื่อน ๆ
ที่รถสองแถว ป่านนี้คงรอ...หิวข้าวเที่ยง แต่จะได้กินข้าวหรืออะไร ไว้ตอนต่อ...
|
ขอขอบคุณเพื่อนผู๋เอื้อเฟิ้อภาพ |
end 1,205,569 |
st. ผู้เข้าชม 1,195,888 |
= 9,681 |
งานเขียนประเภท Diarist |
|
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์
อ่างขางไปครั้งเดียว คือ 20 กว่าปีที่แล้วครับ 555
ตอนนั้นผมไปวันที่ 31 ธันวา
กางเต้นท์นอนที่สนามบาสโรงเรียน มีผมกับเพื่อนแค่ 3 คนเอง 555
ตอนนี้ไปช่วงเทศกาลแบบนี้
ห้องเต็มหมดแน่นอน
ดูภาพจากในบล็อกพี่ไวน์
อ่างขางสวยขึ้นมาก ดูเปลี่ยนไปมากเลยครับ
โหวตครับพี่