Bloggang.com : สาวไกด์ใจซื่อ : ❤++++++❤ สาวไกด์ฯ ตะลุยสิงคโปร์ ตอน ๓ - Science Center, Eski Bar, Suntec ❤++++++❤

❤++++++❤ สาวไกด์ฯ ตะลุยสิงคโปร์ ตอน ๓ - Science Center, Eski Bar, Suntec ❤++++++❤

ประกาศ

เนื่องจากเจ้าของบล็อกต้องการเปลี่ยนแบ็คกราวด์

ทว่าพอเปลี่ยนแล้วตัวอักษรไม่ปรับอัตโนมัติ

ตอนนี้เมล์ไปถามเว็บมาสเตอร์แล้วค่ะ

กำลังรอการแก้ไขอยู่นะคะ

จึงเรียนมาให้ทราบค่า

สวัสดีค่า

จากตอนที่หนึ่ง ว่าด้วยการเดินทางจากสนามบินไปออร์ชาร์ดและกบหม้อดิน

ตอนที่สอง สวนนกจูร่ง

ตอนที่๒/๒ สวนจีนและผู้เฒ่าเต่า

ตอนที่๒/๓ อาหารอินเดียและไนท์ซาฟารีแล้ว

วันนี้จะเปลี่ยนไปเที่ยวในร่มบ้างค่ะ

เนื่องด้วยจากการเช็คสภาพอากาศวันก่อนเดินทางที่ www.cnn.com (ซึ่งจะเช็คได้ ๕ วันนับตั้งแต่วันที่เช็ค – แต่ผลพยากรณ์อากาศอาจเปลี่ยนแปลงได้นะคะ ต้องคอยเช็คการเปลี่ยนแปลงด้วย) ปรากฏว่าวันนี้จะมีฝนก็เลยวางแผนว่าไปเที่ยวในร่มแทนแล้วกัน รวมทั้งไซเอนซ์เซนเตอร์นั้นวันจันทร์ปิดทำการ ก็เลยไปวันอาทิตย์นี้นี่แหละ โอเคสุดแล้วค่ะ

สำหรับการเดินทาง ดูรายละเอียดด้านล่างนะคะ

เนื่องด้วยการที่กว่าจะตื่นกันก็แปดโมงครึ่งของเวลาท้องถิ่น (เป็นตัวอย่างการเที่ยวที่ไม่ดีค่ะ

ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง) กว่าจะไปถึงไซเอนซ์เซนเตอร์ก็สิบเอ็ดโมงเข้าไปแล้ว (เดินทางจากออร์ชาร์ดใช้เวลาราวๆ ๑ ชั่วโมงค่ะ)

ไปถึงหลังจากซื้อบัตรเข้าเรียบร้อย (โดยต้องระบุรอบหนัง Omni Theatre ว่าเราจะดูรอบกี่โมงด้วย เพราะหนังมีให้เลือกก็จริงแต่แต่ละเรื่องฉายรอบไม่เหมือนกันค่ะ) โดยที่เราซื้อ Value Package เป็นค่าเข้ากับภาพยนตร์ในราคา ๑๒.๘ เหรียญ ค่ะ

จากนั้นก็เริ่มเข้าชมส่วนต่างๆ โซนต่างๆ ก็มีทั้ง

Chemistry Exhibition (ซึ่งอันนี้เราไม่ค่อยได้ดูละเอียดค่ะ)

The Mind’s Eye ซึ่งเป็นอันแรกที่เราจะเจอเลย ซึ่งเป็นโซนที่ทำให้เราคิดได้เลยว่า “ต่อให้เห็นกับตา ก็อย่าเชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ”

อย่างภาพนี้ทั้งที่ภาพไม่ได้เคลื่อนไหวเลย แต่ถ้าเราเดินจากเริ่มต้นไปจนปลายทาง โดยสายตามองที่บานประตูต่างๆ ตลอด จะเหมือนกับว่า ประตูค่อยๆ เปิดออกค่ะ

หรืออย่างรูปนี้ มันก็สามารถตัดหัวเราไปวางบนถาดสำหรับเสิร์ฟให้คนอื่นกินได้ กร๊ากกกกก

The Human Body ซึ่งจะมีเครื่องมือเครื่องไม้ให้เราได้ทดสอบและเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกาย (ซึ่งมีอันหนึ่งที่สมัยเด็กๆ เราเชี่ยวชาญมาก คือ ปุ่มสี่ปุ่มสี่สีสี่เสียง ที่จะมีต้นแบบให้ แล้วเรากดตาม (เป็นการทดสอบความจำ) ซึ่งเมื่อก่อนเราได้เป็นสิบกว่าเกือบยี่สิบ แต่ล่าสุดนี่ได้แค่ ๗ เองง่ะค่ะ

)

The Aviation ซึ่งจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการบินต่างๆ เช่น จะมีให้ทดสอบปีกแต่ละแบบว่า ทำไมท้ายที่สุดแล้วเครื่องบินต้องมีปีกอย่างที่เราเห็น เพราะถ้าเป็นสามเหลี่ยมมันจะต้านลมยังไง เป็นสี่เหลี่ยมจะต้านลมยังไง (แต่ให้เราทดลองโดยแม่เหล็กและน้ำหนืดแทนลมค่ะ) แล้วก็มีให้ทดลองบังคับขับเฮลิคอปเตอร์จำลองอันเล็กๆ (ซึ่งทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง แต่เราสองคนเป็นคนจำนวนน้อยที่ทำสำเร็จ

) แล้วก็มีรูปเฮลิคอปเตอร์ให้ได้ไปถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกัน

จากนั้นเดินดูยังไม่ครบก็ได้เวลาที่ต้องไปดูภาพยนตร์ Omni Theatre ก็คล้ายๆ IMAX บ้านเราแหละค่ะ(ก่อนออกอย่าลืมประทับตราสีแดงนะคะ จะได้กลับเข้ามาใหม่ได้ ทางเดินจะมีเชื่อมตั้งแต่ร้านขายของฝากจนไปถึงที่โรงภาพยนตร์เลย)

เราจำเป็นต้องดู T-rex เพราะเป็นรอบบ่ายสอง ถ้าจะดู Greece มันรอบสี่โมงเย็น ซึ่งเย็นย่ำไปสำหรับเราค่ะ ซึ่งเรื่องทีเร็กซ์ก็ไม่ได้สนุกเท่าไหร่

จากนั้นเราก็กลับมาเก็บเกี่ยวความรู้ตอนจนราวๆ เกือบๆ สี่โมงเย็นก็ออกเดินทางมาที่สถานี Jurong East เหมือนเดิม แล้วก็นั่ง MRT ไปลงที่ Raffle Places เพื่อไปที่ Eski Bar ค่ะ (การเดินทางดูจากข้างล่างนะคะ)

ไปถึงในเวลาประมาณห้าโมงเย็นนิดๆ แล้ว (ช่วง 17.00-21.00 น. เป็นช่วง Happy Hour ลดราคาเครื่องดื่ม 30% ค่ะ)

ตอนแรกก็กล้าๆ กลัวๆ แล้วก็ตัดสินใจว่าไหนๆ ก็มาแล้วเข้าไปหน่อยแล้วกัน (จะกลัวทำไมเนี่ย

) เข้าไปปุ๊บก็หนาวเยือกเลยค่ะ หนาวมากกกกกกก ก็เลยถามพนักงานเค้าก่อนเลยว่า มีเสื้อกันหนาวให้ยืมมั้ย เค้าก็บอกว่ามีแล้วกุลีกุจอไปหยิบมาให้ เราได้สีชมพู คนที่ไปด้วยได้สีดำค่ะ (ซึ่งไม่แน่ใจว่าเค้ามีสีนี้ไว้แยกหญิง-ชาย หรือมีแค่สองสีนี้ แต่เผอิญว่าวันนั้นเราแต่งตัวโทนชมพู-ขาว แล้วคนที่ไปด้วยใส่โทนดำ ก็เลยเข้ากันพอดี ก็เลยปลื้มกับสีเสื้อกันหนาวที่เค้าเอามาให้มากๆ)

แต่เราเลือกที่จะไปนั่งโซนด้านใน (ซึ่งหนาวน้อยกว่า เป็นผับปกติมากกว่า ถ้าตรงโซนหนาวจัดนั่น ตรงบาร์จะมีน้ำแข็งโรยด้วยค่ะ)

นี่โซนด้านนอกที่หนาวจัดดดดดนะคะ

โซนด้านในนี่หนาวปานกลาง

หลังจากจับจองที่นั่งเป็นที่เรียบร้อยก็ดูเมนูเครื่องดื่มค่ะ มีไฮเนเก้นขวดเล็กขวดละ ๑๒ เหรียญ (แต่ถ้าซื้อเป็นแพ็คเก็จ ๕ ขวดเลย จะได้ที่ราคา ๕ ขวด ๓๕ เหรียญค่ะ) ที่ถูกสุดจะเป็นซอฟท์ดริ๊งค์ ๗ เหรียญ แต่เราเลือก Signature Drinking ของที่นี่ คือ Polar Bear ค่ะ (เค้ามี ๓ ตัวค่ะที่เป็น signature เราจดมาแต่ทำหายไปแล้ว

) ส่วนอีกคนเค้าสั่งมาการิต้า

หน้าตาของเครื่องดื่มที่สั่งมาค่ะ

หลังจากที่ทานเรียบร้อยก็จ่ายเงินไปค่ะ ถึงลดไปแล้วก็ยังแพงอยู่ดี (แพงกว่าอาหารอินเดียเมื่อวานนี้อีก เหอๆ

) แล้วเค้าจะมี service charge 10% และภาษีอีก 5% ด้วยนะคะ

สำหรับใครที่จะไปลองดริ๊งค์ที่นี่ก็แล้วแต่ละกันค่ะ ถ้าแค่อยากได้บรรยากาศก็สั่งซอฟท์ดริ๊งค์มานั่งดื่มก็ได้ (เพราะแค่ ๗ เหรียญเอง) หรือจะไปนั่งร้านอื่นๆ ก็ได้ค่ะ ซึ่งมีหลายร้านที่จัดร้านได้น่าสนใจมั่กๆ ค่ะแถวนั้น

ก่อนกลับก็ถ่ายรูปกับหน้าร้านเป็นที่ระทึกนิดหนึ่ง (เอาแบบสองเวอร์ชั่นให้ดูค่ะ ตอนเลนส์ยังหม่นมัวด้วยไอน้ำ – คิดดูว่าหนาวแค่ไหน กับตอนไอน้ำหายไปบ้างแล้ว)

หลังจากมีนเมากันนิดหน่อย (ดั๊นดริ๊งค์ตอนท้องว่างโหวงนี่คะ) ก็เดินทางต่อไปยังซันเทคเพื่อไปดูน้ำพุค่ะ

กว่าจะไปถึงก็หกโมงกว่าแล้วค่ะ ก็รอต่อคิวไปเดินวนรอบน้ำพุ (เค้าให้วนสามรอบ พร้อมกับเอามือแตะๆ น้ำ แต่เราเอาขวดน้ำไปตักใส่ด้วยค่ะ

)

สำหรับน้ำพุตรงนี้ถูกระบุว่าเป็นน้ำพุที่สร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนะคะ แล้วก็ถ้าดูตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว จะมีตึกอยู่รอบๆ น้ำพุ ๕ ตึก แทนนิ้วมือทั้งห้านิ้ว ส่วนน้ำพุนี่อยู่กลางฝ่ามือของตึกห้าตึกพอดี ทำให้ที่นี่มีแต่ความร่ำรวย เก็บเงินเก็บทองอยู่น่ะค่ะ (จริงๆ ข้อมูลมันละเอียดกว่านี้ค่ะ แต่ข้าพเจ้าความจำมีระยะสั้น

)

การแสดงจะเริ่มประมาณเกือบๆ หนึ่งทุ่ม แต่ตอนนั้นเราหิวกันมากๆ แล้วก็เลยพยายามหาร้านใกล้ๆ น้ำพุกิน (จะได้นั่งดูน้ำพุได้เลย) แล้วก็ตัดสินใจมากินที่...

มาที่...

มาที่...

(ขอร้องห้ามหัวเราะเยาะนะ

)

ร้านอาหารไทยร้านนี้ค่ะ

สยามคิทเช่น

เราสั่งก๋วยเตี๋ยวเส้นจันทร์ต้มยำทะเล (ซึ่งชามใหญ่ยักษ์น่ากลัวสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเราเป็นอันมาก

) ส่วนอีกคนเค้าสั่งชุดข้าวแกงเขียวหวาน

รสชาติใช้ได้ค่ะ ถึงไม่จัดจ้านขนาดบ้านเรา แต่ก็ไม่ถึงกับเสียรสชาติความเป็นไทย

ระหว่างการกินก็พอดีได้เวลาโชว์น้ำพุค่ะ ด้วยความเป็นสุภาพสตรีที่ดี ก็เลยให้อีกคนเค้าไปถ่ายซะ (เอ่อ..จริงๆ เห็นแก่กิน

) ก็คล้ายๆ กับที่เซนโตซ่าแหละค่ะ แต่เล็กกว่า จะมีการพ่นน้ำพุประกอบแสงสี มียิงเลเซอร์เป็นรูปต่างๆ ทั้งที่เป็นลายเส้น แล้วก็เป็นรูปจริงๆ (เค้าถ่ายเป็นวีดีโอตอนที่ยังเป็นลายเส้นมาด้วยค่ะ แต่เราเองลงบล็อกไม่เป็น

ดูแต่รูปไปแล้วกันนะคะ)

หลังจากนั้นก็กลับมากินหม่ำๆ ตบท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง (ตัวมะม่วงอร่อยมากค่ะ หวานฉ่ำหอมหวน แต่ตัวข้าวเหนียว – ไม่ผ่านค่ะ แข็ง ไม่อร่อยง่ะ)

จากนั้นก็ไปช็อปของกินเพิ่มที่คาร์ฟูร์นิดหน่อย (จริงๆ ได้ขนมปังจากร้าน Bread Talk ซึ่งตอนแรกคิดว่า เอาไว้สำหรับอาหารมื้อกลางวันวันพรุ่งนี้แล้วนะคะแต่ก็ไปซื้อของเพิ่มอีกนิดหนึ่ง แหะๆ) จากนั้นก็นั่งรถไปลงที่ MRT (มีรถบริการ รายละเอียดอ่านด้านล่างค่ะ)

วันนี้ถึงที่พักเร็วนิดหนึ่ง (เพราะเจ้าตัวจะรีบมานอนเตรียมดูบอลโลกรอบชิง – เค้าเชียร์อิตาลีค่ะ) ก็รีบอาบน้ำพักผ่อนกันแต่หัววันค่ะ

ตอนต่อไปจะพาไป ไชน่าทาวน์ เซ็นโตซ่า และคล้ากคีย์นะคะ (อ้อ..มีศูนย์อาหาร lauprasat ด้วยค่ะ)

การเดินทางไปไซเอนซ์เซนเตอร์ เอสกิบาร์ และน้ำพุซันเทค

Science Center
นั่ง MRT ลงที่สถานี Jurong East จากนั้นนั่งรถบัสสาย 66,178 หรือ 198 (แต่นั่งแป๊บเดียวเองค่ะ จริงๆ จะเดินก็ได้ แต่เราสองคนขี้เกียจ)

Eski Barนั่ง MRT ลงที่สถานี Raffle Place จากนั้นเดินไปที่ถนน Circular Quay ค่ะ ร้าน Eski Bar อยู่ตรงข้าม Irish Pub เลย

น้ำพุซันเทค
นั่ง MRT ลงที่สถานี City Hall จากนั้นเดินตาม City Link (เป็นทางใต้ดินค่ะ) ไปที่ Suntec ได้เลย พอไปถึงซันเทคปุ๊บ (มีข้ามสะพานลอย) จะเป็นตึก ๕ หรือไงเนี่ยค่ะ คอยดูป้าย Fountain of Wealth ไว้ แล้วเดินตามไปได้เลยค่ะ

สำหรับใครที่อยากช็อปที่คาร์ฟูร์ (ของกินที่นี่ถูกค่ะ ช็อกโกแลตเอย อะไรเอย) ก็เดินวนไปสุดปลายตรงนิทรรศการ เดินเข้าตึกไปแล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปอีกชั้นหนึ่งค่ะ ก็จะเจอคาร์ฟูร์เลย แล้วพอช็อปเสร็จจ่ายตังค์ เค้ามี Shuttle Bus บริการมาส่งที่ City Hall MRT Station ที่ประตู B ด้วยค่ะ

ค่าเข้าชม
ไซเอนซ์เซนเตอร์มีเป็นแพ็คเก็จ ค่าเข้าอย่างเดียวคนละ ๖ เหรียญ แต่ถ้าดูหนัง Omni Theatre ด้วยต้องบวกเพิ่มไป หรือซื้อเป็น value package ก็ได้

ข้อแนะนำอื่นๆ
สำหรับ Science Center เหมาะกับผู้ที่ชอบความรู้ในเรื่องต่างๆ ค่ะ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับบางคนได้ แต่ถ้าเป็นคนชอบความรู้แล้วจะอยู่ที่นี่ได้เพลินมากๆ ค่ะ เพราะมีเรื่องราวต่างๆ มากมายแล้วลักษณะก็เป็น interactive ในหลายๆ ส่วน ทำให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ไม่ใช่ไปอ่านๆ เฉยๆ ค่ะ

Eskibar ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนอกจากความหนาวเย็นน่ะนะคะ แต่ถ้าอยากไปเดินเล่นแถวนั้นก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจจะนั่งค่ะ

Suntec ถ้าใครดูเซ็นโตซ่าแล้ว ที่นี่จะยังน้องๆ เซ็นโตซ่านะคะ แต่ถ้าใครพลาดการดูน้ำพุที่เซ็นโตซ่ารอบทุ่มครึ่ง ก็อาจมาทดแทนด้วยการดูที่นี่แทนค่ะ

แล้วตอนจบของการแสดงจะมีการขึ้นข้อความเหมือน message จากคนที่มาที่นีด้วยนะคะ (ตอนเรานั่งๆ ดูยังมีข้อความต้อนรับคนไทยเลยค่ะ จากเพื่อนชาวสิงคโปร์ – น่ารักเชียวแหละ

) แต่ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าต้องไปส่งข้อความที่ไหน ถามพนักงานที่ร้านอาหารเค้าก็ไม่ทราบอะค่ะ

ขอบคุณทุกท่านสำหรับการแวะมาอ่านนะคะ

สำหรับท่านใดที่แวะมาบ้านสาวไกด์เป็นครั้งแรก
(หรือเคยมาแล้วแต่มีหนังสือกับหนังที่อยากแนะนำเพิ่มเติม)

เรียนเชิญ ที่นี่ค่ะ

Create Date : 27 กรกฎาคม 2549

Last Update : 1 สิงหาคม 2549 11:54:34 น.

83 comments

Counter : 3702 Pageviews.

มาเที่ยวสิงคโปร์ด้วยคนค่ะ หลังจากหายไปนาน ขี้เกียจอัพบล็อคจังเลยอ่ะ

โดย: W i n t e r b e r r y

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:59:42 น.

น่าสนุกมากๆเลยอ่าค่ะ ชอบจังเลยย

โดย: แมวน้อยของเสี้ยวเทียน

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:07:24 น.

เมื่อวานถอนหายใจเฮือกยาว เพราะอาหารน่าทานน่ะค่ะ หุหุ

โดย: p_tham

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:28:53 น.

สวัสดีค่ะ แวะมาเที่ยวด้วยคนนะค่ะ

โดย: 304 คอนแวนต์ (304 คอนแวนต์

) วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:21:19 น.

อยากกินเครื่องดื่มจังอ่ะ

โดย: J-Nap

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:47:50 น.

แวะมาตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
คุณสาวไกด์สวยน่ารักจังเลย...
ไปเที่ยวสิงคโปร์แบบนี้ได้รายละเอียดเยอะดีจังนะคะ

โดย: ทูน่าค่ะ

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:53:30 น.

ตามมาชมภาคต่อจ้า

เห็นรูปหัวอยู่ในถาดแล้วชอบจังเลยอ่ะ อยากไปถ่ายแบบนั้นมั่ง อิอิ

โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:07:09 น.

หวัดดีค่ะ ตอนนั้นไปสิงค์โปรไม่เห็นได้ไปเทียวแบบนั้นเลยอะ ไปแต่ไนท์ชาฟารี

อิ อิ งั้นตามคุณสาวไกด์ไปด้วยนะค่ะ จะได้เทียวครบๆ

โดย: yee aeh

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:14:21 น.

ไปเที่ยวน้ำตก+มีของฝากเล็กๆ น้อยๆ มาให้ดูเล่นๆ ขำๆ ครับ

โดย: คุณหนูลมหวน (zardamon

) วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:28:52 น.

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ..... หน้าตื่นเต้วววววววจังเลยค่ะ ทำได้ไงคะ..... เอาหัวมาใส่จาน.... โอววววววววว

...............

น่ารักจังเลยอ่ะค่ะพี่สาวไกด์ฯ แบบว่าแต่ละรูปน่ารักน่าหยิกชมัดเลยค่ะ...

..............
ชอบ ๆ ๆ

โดย: largeface

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:33:06 น.

ตามค่ะ ตาม ขอตามไปเทียวด้วยนะค่ะ

โดย: asariss

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:46:40 น.

ตามมาเที่ยวด้วยฮะ

อยากฮะ อิอิ

ส่วนประเด็น ร้านอาหารไทย ไม่น่าหัวเยาะเราะ หลอกฮะพี่ไกด์

เป็นผม ผมก็กินนะ
อาหารอร่อยๆ อิ่มๆ ที่ไหนจะสู้ ข่าว บ้านเฮา ได้ อิอิ

ว่าแล้วก็หิวขึ้นมาตะหงิด

โดย: Nutty Professor

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:47:30 น.

อึยยยย หนาว

โดย: แพนด้ามหาภัย

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:58:24 น.

จ้ากกกกกกกกกกกกกกก

มาเสริฟ แต่หัว ไม่เอาๆ เอามาทั้งตัวได้มั้ยครับ (สาวๆนะ) อิอิ

เอสกี้ บาร์สุดยอดเลยครับ บรรยากาศน่านั่งมากๆ ยิ่งไปเป็นคู่เนอะ กึ๋ยๆๆๆๆๆ อิจฉา วุ้ย

โดย: infonoom

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:01:10 น.

อิอิอิ....หนีงามมาเที่ยวสิงคโปร์กะสาวไกด์ค่ะ

ข้าว 1 มื้อติดไว้ก่องน้า.....

โดย: Love U forever.

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:03:16 น.

มาไปรอบนึงแย้ว แต่โพสต์ไม่ได้ โดนไล่ให้ไปล็อกอินค่ะ

กลับมาอีกที จะบอกว่า สนเอสกิบาร์มากๆ ค่ะ อยากรู้ว่าหนาวแค่ไหน แต่ถ้าหนาวมากก็คงต้องขอบายเลยค่ะ เป็นคนขี้หนาวเอามากๆ

โดย: สายลมโชยเอื่อย

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:06:05 น.

วันอาทิตย์อยู่ กทม ป่าวคะ? สนใจบุฟเฟ่ต์ไหมเอ่ย

โดย: rebel

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:15:54 น.

โหเที่ยวแบบได้ความรู้และน่าสนใจมากๆ

หนาวๆ แบบนี้ต้องซด Vodka ค่ะ ช่วยได้

อยากไปมั่งจัง เราคิดว่าสิงคโปร์มีแต่ย่าน shopping เสียอีก

โดย: Chapter 1-17

วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:34:38 น.

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ เสียดาย ไม่รู้คอมที่บ้านมันเป็นอะไร ภาพขึ้นบ้าง ไม่ขึ้นบ้าง เดี๋ยวค่อยกลับมาดูอีกรอบ

โดย: Capulet J.

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:50:23 น.

หุหุหุ ชอบตอนหัวขาดจริงลิ้นจุกปากด้วย

เนียนจริงๆ

โดย: poser (poser

) วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:20:15 น.

The Mind’s Eye น่าสนใจจัง

แต่ Eski Bar
คงม่ายหวายอ่ะ เราขี้หนาว

ว่าจะบอกนานแล้ว
ชอบรูปโลโก้กับรูปในช่องคอมเมนต์จังเลยค่ะ

โดย: ทะเลอาบแสงจันทร์

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:39:45 น.

พาเที่ยวละเอียดเชียวค่ะ ... หนุกๆๆ

เอาไว้เดี๋ยวมาย้อนอ่านดูตอนอื่นด้วยค่ะ ...

วันนี้ต้องลาไปนอนก่อนค่ะ...

โดย: VA_Dolphin

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:20:08 น.

เดี๋ยวหาทางตัดหัว ส่งไปให้ทางบล๊อคก่อนนะ อิอิอิ

โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:32:52 น.

สนุกจัง อิอิ ตัดหัวมาเสริฟบนโต๊ะได้ด้วย

ตอนนี้อัพบล็อกด้วยเพลงแก้ขัดไปก่อน
เหอๆ จะสอบแย้ววว.

โดย: ธรณ์ธันย์

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:47:06 น.

ฮ่าๆ อยากถ่ายรูปแบบตัดเหลือแต่หัวบ้างน่ะค่ะ เคยไปดูอะไรแบบนี้ที่งานวัดภูเขาทอง ตลกดี ชอบๆ

เที่ยวทริปนี้ของพี่สาวไกด์ ได้ดูรูปเยอะดีน่ะ คราวหน้าถ้าเจอที่งานหนังสือจะทักนะ ฮ่าๆ :) (แล้วจะต๊กกะใจอ๊ะเป่า)

ป.ล.นักสืบไร้เวลา ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วอะค่า เสียดายจัง -_-"

โดย: foneko (fonkoon

) วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:05:12 น.

มาบอกว่าอาหารอินเดียที่ทาน ร้านอยู่ที่ซีแอตเติ้ลน่ะค่ะ แต่ก่อนเคยเรียนที่นั่น ไอติมกุหลาบไม่รู้ว่าเป็นรสเบสิคของเขาหรือเปล่า แต่คราวหน้าลองถามตามร้านอินเดียดูสิคะ เผื่อมี

โดย: แมวปิลาร์

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:56:12 น.

ตกใจหมดเลยครับ เข้ามาหน้าตาแปลก ๆ (หน้าตาบล็อคนะ ไม่ใช่ จขบ.)

รูปผลไม้หัว จขบ. นี่ทำเอาสะดุ้งเลยอ่ะ

โดย: เจ้าชายไร้เงา

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:40:34 น.

คืนนี้ไม่ต้องมาเยี่ยมเรานะ ก็ในภาพนั้นเห็นแต่หัวน่ะ เรากัว

แซวเล่นจ้าเทคนิคดีจังเลยเนอะ ทำได้เนียนมั่กๆ

มีความสุขกับวันหยุดค่ะ

โดย: Malee30

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:44:23 น.

ขอเดินตามครับ คนคู่หน้าเขาทำอะไร ไม่ดูครับ ไม่กินด้วยครับ แค่ขอเดินตามดูบรรยากาศด้วยคน หูยยยย หนาววววว

ป่านนี้ อิตาลีฉลองถ้วยบอลโลกนับร้อยๆรอบ เห็นเขาว่าถ้วยมีชำรุดด้วยครับ

โดย: yyswim

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:09:24 น.

มาส่งข่าวครับ Mad Men เขาไม่มีให้สมัครสมาชิกแล้ว เปิดให้อ่านฟรีทางเว็บตลอดรายการครับ

โดย: เจ้าชายไร้เงา

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:11:33 น.

ในข่าว เขาบอกว่าใช้ถ้วยบอลโลกแทนแก้วเหล้าครับ ดื่มไปดื่มมา มันหลุดจากมือ ขณะนี้นำไปซ่อมครับ เพราะ4 ปีข้างหน้าอิตาลีจะต้องนำมามอบคืน

โดย: yyswim

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:56:42 น.

มาเยี่ยมจ้า

โดย: Kontonnum

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:02:09 น.

อาทิตย์นี้จะกินเผื่อก่อนแล้วกันน๊า
คราวหน้านัดกันใหม่ ... มีอีกหลายร้านที่เราจะไปถล่มกัน...

โดย: hunjang

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:48:46 น.

เห็นรูปที่สี่แล้วต๊กกะจายเลยค่ะ

นึกถึงมนุษย์กินคนเลย

โดย: jan_tanoshii

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:52:22 น.

Science Center น่าสนใจค่ะ นักวิทยาศาสตร์(สติแตก)อย่างแฟนข้าพเจ้าต้องสนใจแน่ๆเลย

แวะมาขอบคุณที่สาวไกด์รีวิวความสุขของกะทิเอาไว้น่ะค่ะ เพิ่งมีโอกาสได้อ่าน เลยได้รับความสุขไปเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ทำรีวิว (รึป่าว) เอาไว้แล้วด้วยค่ะ

โดย: ขบวนการเหมียวเหมียว

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:59:11 น.

สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายน่ะค่ะ ช่วงนี้อาจจะหายไปนานอย่าลืมคิดถึงกันบ้างน่ะค่ะ

รักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ

โดย: หนุอุ๋ม (tenno_jung

) วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:48:34 น.

เอ่อ พี่ไกด์ฮะ

ถาดอาหารนั้น (ภาพที่ 3 ) จะมีคนกล้ากินมั้ยฮะ เอิ๊ก

โดย: Nutty Professor

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:27:48 น.

วันนี้อ่านแล้วด้วยอารมณ์ของเรื่องราวเหมือนได้ตามไปเองเลยค่ะ ชอบจังได้เข้าไปดูโซนThe Mind’s Eye ชอบจังค่ะ ...

คุณสาวไกด์ ... เรื่อง Hotelier ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ... หลายเรื่องเลยไม่ได้ดู เพราะว่าตัวเองเพิ่งเริ่มดูเรื่องเลิฟสตอรี่นี่ไปแบบจริงๆ จังๆ ค่ะ ตอนนี้ว่าจะเริ่มฟูลเฮ้าส์ แต่ว่าก็ยังไม่ได้เริ่มสักที สงสัยต้องหาเวลาซ๊าแล้ว

ว่าแต่จริงๆ นะค่ะ พระรองเรื่องเลิฟสตอรี่เค้าก็ดี๊ดีนะ คือ มีจุดมุ่งหมายคือ รักนางเอก รักมากๆ แบบประมาณว่าเสียสละได้เลย โห นับถือค่ะ สงสารมากกว่าจะเกลียดเลยค่ะ แต่ไอ้ที่ไม่ชอบเลยก็คือยัยนางรองนั่นมากกว่านะคะ แบบอะไรจะอยากได้ อยากยึดเป็นของตัวเอง " เธอจะต้องเป็นของฉัน " โห ฟังแล้วน่าสมเพชนะค่ะแบบนี้

โดย: JewNid

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:59:29 น.

ร้านที่มันเย็นๆนั่นอ่ะ หนูว่าหนูเคยเห็นในทีวีด้วยล่ะ

อยากให้บ้านเรามีร้านแบบนั้นบ้างจัง เดี๋ยวจะไปสมัครเป็นลูกค้าประจำซะเลย อิอิ

โดย: ตุ๊กตาไขลาน

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:46:01 น.

โดย: สายลมอิสระ

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:54:18 น.

แวะมาอ่านต่อ ... science center น่าสนจัง ไม่เคยเข้าอ่ะ

ที่จริง บล็อกนี้น่าจะเอียงขวานะ เพราะทางซ้ายมันชนลาย bg น่ะ (แต่ก็ไม่เยอะหรอก)

ตอนแรกว่าจะเอียงซ้ายๆขวาๆ สักพัก แต่ชักชอบแล้วแฮะ เพราะพื้นที่ของเนื้อเรื่องเพิ่มขึ้นเยอะเลย เสียดายก็แต่พวกเมนูกองรวมกันแล้วรกไปหน่อย

โดย: ยาคูลท์

วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:39:45 น.

แมงปอขอบาย science center เป็นที่แรกเลยค่ะ
แบบว่าไม่ถูกกะอะไรที่มีความรู้

(แต่ eski bar น่าไปจังนะคะ

)

โดย: แมงปอเฒ่าเจ้าค่ะ

วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:47:45 น.

ตามมาเที่ยวอีกแว้ววววว

ปล. ไม่บอกดีกว่าว่าอิจฉาเต่าเรื่องอาราย เดี๋ยวโดนเซ็นเซอร์ เหอๆ

โดย: เจ้าหญิงวีนัส (ohvenus

) วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:3:45:21 น.

น่าไปจังเยย

โดย: hypnosis

วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:01:37 น.

เข้ามาขอบคุณครับ ที่คุณช่วยแนะนำกระทู้ ทั่วราชอาณาจักรนี้เราเป็นหลักอยู่แต่ละส่วน...ชาวจุฬาฯจึงควรรู้ค่าแห่งเกียรติภูมิจุฬาฯ ใน Blog ของคุณ pookpoi

ถ้าไม่ได้เห็นกระทู้นี้ คงเสียดายมาก
ผมส่งเมล์ กระทู้นี้ ไปให้เพื่อนๆผมอ่านด้วย

โดย: yyswim

วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:21:09 น.

ตามมาเก็บข้อมูลค่ะ เดี๋ยวต้องจดๆเส้นทางการเดินทางไว้ซะแล้ว

โดย: มาริอา

วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:39:07 น.

ว้าวว ว
หนี่ฯขอตามไปด้วยนะคะ

โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ

) วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:42:32 น.

แวะมาอ่านสักที ผลัดวันประกันพรุ่งมาซะนาน

ชอบภาพ ศีรษะคนบนโต๊ะอาหารมากเลยค่ะ หลอนดี

จุจำได้ว่า เคยคุยกับคุณไกด์ เรื่อง อากาศร้อนจนคนตาย
โดยบอกว่า ที่อินเดีย

ตอนนี้ ทางสหรัฐอเมริกา ก็มีคนตาย เพราะอากาศร้อน แล้วนะคะ
ติดตามข่าวหรือเปล่าเอ่ย

โดย: กระจ้อน

วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:21:54 น.

ตามมาดู ...
อีก เรื่อยๆ...

จขบ. สบายดีน้า....

โดย: สายลมแห่งขุนเขา

วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:25:54 น.

ตามมาเที่ยวต่อ งือออ เห็นแล้วต่อมอยากเที่ยวทำงานอีกแล้วค่ะ ^ ^"

โดย: bookmark

วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:15:38 น.

โอ้โห พลาดของดีที่ Science Center ซะแล้ว ไม่ได้ไปเลย สวนที่น้ำพุนี่ เพื่อนผมแวะไปเอาใส่ขวดกลับมาครับ (ผมเองไม่ได้ไปเพราะแต่มัวตะลึงกับ ร้าหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แถวๆห้างบนถนนออชาร์ต)

เห็นทีอาจจะมี สิงคโปร์ ภาค 2 ซะแล้วขอเก็บตังค์ก่อนเถอะ

ปล. ต้นเดือน กันยายน มีคิวไปเที่ยว จิ่วไจ้โกว ประเทศจีนครับ คุณสาวไกด์เคยไปหรือยัง

โดย: JasonSจัง!!!

วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:22:17 น.

ชอบที่ตัดหัวคนวางบนจานได้สุดๆ ละ

อันนั้นหัวสาวไกด์หน้าใสหรือเปล่าเอ่ย

โดย: LEE (lyfah

) วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:45:15 น.

ไม่ได้ตามมาอ่านตั้งนานแน่ะพี่สาวไกด์ มัวแต่ออนเอ็มส่งรูปแล้วก็สอบมิดเทอม ^^"

พี่สาวไกด์ก็นารักเหมือนกันนิงับ ทีตอนนู้นยังอิดออดไม่เอารูปคู่ถ้วยบอลโลกมาให้ดูเรย..

หัวคนบนจานเคยอ่านเจอในหนังสือตอนเด็กๆว่าเค้าทำแบบนี้ แต่ก็เพิ่งเคยเห็นของจริงนี่แหละ เหอๆๆ

โดย: nanoguy (nanoguy

) วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:2:37:09 น.

ไปสิงคโปร์หลายครั้ง นังเพื่อนเจ๊ไม่เคยพาไปที่นี่เลย
สงสัยต้องกลับไปแก้มือ
ปล.ช่วงนี้เจ๊ไม่ค่อยได้มาเยี่ยมเยียนใครนะคะ ยุ่งขิงมากๆเลยค่ะ

โดย: นางกอแบกเป้

วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:41:38 น.

ว้าวได้เที่ยวอีกแร้วววันนี้ แถมได้ดูน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไม่อยากพลาด คือของกินทุกอย่างค่ะ น่าหร่อย ทั้งนั้นเลย

โดย: สะใภ้อิตาลี (caramella

) วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:05:40 น.

อ่านด้วยความเพลิดเพลิน...

ย้อนไปดูรูปนี้อีกทีก็สะดุ้งอีกที 555

โดย: นายเบียร์

วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:19:02 น.

มาแวะอ่านเรื่องคนมีความสุขครับ แต่ห้องหัวขาดน่าขนลุกดีแต้ๆ

โดย: Johann sebastian Bach

วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:58:03 น.

กินเผื่อแย้วนะ...
อิ่มจัง ตังค์อยู่(ไม่) ครบ

โดย: hunjang

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:7:59:18 น.

โดย: FaRaWaYGiRL

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:8:29:06 น.

โดย: rebel

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:14:46 น.

พลาดอะไรไปบ้างหรือเปล่าคะเนี่ย
ไม่สบายค่ะ แต่ว่าดีขึ้นแล้ว
ตามมาเที่ยวต่อค่ะ
ป.ล. เดี๋ยวจะทำลิงค์เพื่อนที่เข้าร่วมโครงการคนใหม่ให้นะคะ

โดย: I am just fine^^

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:39:50 น.

มาทักทายแล้วจ้า....

โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:08:05 น.

กินมั้ยๆ

โดย: Kontonnum

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:27:32 น.

เห็นคอมเม้นท์ที่บล็อกคุณ bookmark (ทำไมต้องเรียกมันว่าคุณด้วยฟะ

) เลยจะมาบอกว่าอัพครั้งหนึ่งหลายๆ บล็อกก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเรื่องที่อยากอัพจะเลือนหายไปซะก่อน ถ้ากลัวไม่มีคนอ่านก็บอกไว้ในหน้าหลักก็ได้

อ้อ เอียงซ้ายแล้วชนบีจี อ่านลำบากจังค่า

โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat

) วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:08:55 น.

...

เราสั่งก๋วยเตี๋ยวเส้นจันทร์ต้มยำทะเล (ซึ่งชามใหญ่ยักษ์น่ากลัวสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเราเป็นอันมาก)

แล้วกินหมดมั้ยครับ?...(ขอเดาว่าหมดเกลี้ยง

)

โดย: The Legendary Midfielder

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:46:06 น.

คิกคิก
ชอบรูปหัวสาวไก้ด์ใส่ถาดจัง

โดย: ป้ามด

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:05:05 น.

ไปเห็นคอมเม้นท์ที่บล็อกคุณยาคูลท์แล้วแนะนำว่าเปลี่ยนบีจีโลด

โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat

) วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:29:47 น.

จานเดียวมั่งดีมั้ย อิอิ

โดย: Kontonnum

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:08:55 น.

เต้ยขา...
ฝนตกจนเจ๊ตาลายเลยค่ะ

โดย: นางกอแบกเป้

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:21:48 น.

ประกาศ

เนื่องจากเจ้าของบล็อกต้องการเปลี่ยนแบ็คกราวด์

ทว่าพอเปลี่ยนแล้วตัวอักษรไม่ปรับอัตโนมัติ

ตอนนี้เมล์ไปถามเว็บมาสเตอร์แล้วค่ะ

กำลังรอการแก้ไขอยู่นะคะ

จึงเรียนมาให้ทราบค่า

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:23:52 น.

สวัสดีค่ะ .. บล็อกหน้าฝนก็มีฝนตกค่ะ เข้าบล็อกแล้วก็ต้องเตรียมร่มเหมือนรูปในกล่องเม้นท์

เรื่องฟูลเฮ้าส์เข้าไปดูในบล็อกรำพึงรำพันแล้วนะค่ะ ก็ตอนนี้กำลังดูแผ่นสองอยุ่เลย สงสัยว่าดูเรื่องนี้ติดใจความเปิ่นของนางเอกก่อนเลย เพราะว่าพระเอกยังไม่หล่อเตะตา

โดย: JewNid

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:56:59 น.