ศรีธนญชัย
วัยเด็กของผม เรื่องเล่าที่ผมประทับใจและจำได้หลายตอนคงไม่พ้นเรื่องศรีธนญชัย ศรีธนญชัยยังเป็นความทรงจำที่บริสุทธิ์ จำไหวพริบทื่อๆตรงๆได้ดี ตัวเอกอย่างศรีธนญชัยไม่ได้ถูกรุกไล่ไปอยู่ทางฝ่ายอธรรมอย่างเช่นทุกวันนี้
ศรีธนญชัยเป็นเรื่องเล่าปากต่อปาก คงมีจุดกำเนิดมาจากยุคสมัยหนึ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ต่อมามีการจดบันทึก เล่าเรื่องราวชีวิตของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ปฏิภาณเอาตัวรอดหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้โดยลำดับ นับตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็กจนสิ้นอายุขัย ความสนุกครื้นเครงจากบทบาทของศรีธนญชัย ฉลาดแกมโกง หรือแกล้งคนให้ได้รับทุกข์เกิดความขบขันแก่ผู้อ่านผู้ฟัง
ไม่เพียงแต่บ้านเราเท่านั้นที่มีเรื่องราวของศรีธนญชัย แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนของเราอย่าง ลาว เขมร เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซียก็มี เพียงแต่นิทานศรีธนญชัยฉบับต่าง ๆ ในประเทศเหล่านี้มีไม่มากตอนนักและความซับซ้อนน้อยกว่าเรื่องศรีธนญชัยของไทย
ขอย้อนไปไกลสักหน่อยนะครับ ผมคิดถึงความคล้ายแต่ไม่เหมือนของเรากับอินเดีย นั่นคือ อารยธรรมอินเดียในยุคโบราณ ราว 4,500 ปีมาแล้ว อารยธรรมของชาวดราวิเดียนแห่งลุ่มน้ำสินธุ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองผิวดำมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เห็นได้จากหลักฐานทางโบราณคดีที่เมืองฮารัปปา และ โมเฮนโจ ดาโร มีการวางผังเมือง ตัดถนน บ้านเรือนสร้างด้วยอิฐ มีระบบระบายน้ำสองท่อดินเผาอยู่ข้างถนน มีอักษรภาพใช้แล้ว เมื่อพวกอารยันซึ่งเป็นชนเผ่าเร่ร่อนและเป็นนักรบบุกมาโจมตีและเข้าครอบครอง คนผิวขาวอารยันยึดเอาอารยธรรมที่เจริญกว่ามาเป็นของตนเอง หรือนัยหนึ่งคนที่แพ้กลับมีชัยชนะทางด้านอารยธรรม
ส่วนการรับอารยธรรมของอินเดียในสมัยโบราณของดินแดนแถบนี้ราวสองพันปีเศษมานี่เอง ผมเชื่อว่านิสัยใจคอแบบศรีธนญชัยไม่ใช่แค่เรื่องล้อเลียนชนขั้นปกครอง(บางตอน)ในนิทานเท่านั้น อาจเป็นวิถีชีวิตแบบหนึ่งของผู้คนที่ต้องการเอาตัวรอดเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของตัวเอง ถึงแม้จะเป็นเพียงภูมิปัญญาชาวบ้านในการแก้ไขปัญหาแบบข้างๆ คูๆ เอาสีข้างเข้าถูก็ตาม แม้คำสอนเกี่ยวกับจริธรรมจากอินเดียซึ่งเป็นอารยธรรมที่รุ่งเรืองกว่าเข้ามาก่อนแล้ว(ต่างจากพวกดราวิเดียนที่มีอารยธรรมเจริญกว่าผู้บุกรุก)แต่คำสอนนั้นคงไม่สามารถแทนที่วิธีคิดแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด
ที่น่าสนใจคือพฤติกรรมแบบศรีธนญชัยคงผ่านกาลเวลาหล่อหลอมมาหลายยุคหลายสมัย จนเป็นเอกลักษณ์อย่างที่เห็น การสืบทอดพฤติกรรมเหล่านั้นไม่ได้ตกหล่นไปไหน ยังอยู่ในสายเลือดของคนในแถบถิ่นอันเป็นอู่ข้าวอู่น้ำแห่งนี้ ผู้คนทุกระดับชั้นแสดงออกให้รับรับรู้ได้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ซึ่งยืนยันว่าศรีธนญชัยไม่ใช้เป็นเพียงนิทานของเด็กๆ แต่มีเลือดเนื้อจริงๆ
สมัยที่คนยังน้อย ความเป็นศรีธนญชัยย่อมนำความสุขความมั่งคงมาสู่ครอบครัวได้ไม่ยาก ไม่เดือดร้อนใครมากนัก ใครถูกกลั่นแกล้งก็เข้ารกเข้าพงถางไร่ทำนาไม่มีใครว่าอะไร ทรัพยากรมีมากจนต้องต้อนคนมาช่วยกันทำช่วยกันใช้ แต่สมัยนี้ผู้คนมากมาย เบียดเสียดยัดเหยียด แย่งกันกินแย่งกันอยู่ จะใช้วิธีคิดแบบเดิมเห็นทีจะพากันหมดความสุขกันทั้งเขาและเราแน่ๆเชียวครับ
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
28 comments |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2554 0:19:39 น. |
Counter : 3003 Pageviews. |
|
|
|
ขอโทษที่หายไปสองวัน งานเข้าค่ะ วันที่๒๖ก.พ.นี้เทศบาลและอบต.จัดงานกีฬากลุ่ม ทางคณะผู้บริหารของเทศบาลและอบต.๓แห่งได้ไว้ใจและมอบงานแต่งขบวนให้ เลยช่วงนี้สาละวนกับการsetชุด เสื้อผ้าหน้าผม ช่างแต่งหน้า เลยมีเวลาเข้ามาทักทายน้อยมาก พรุ่งนี้วันหยุดก็คงไม่ได้พักผ่อนอีกตามเคย ไม่เป็นไร มีงานดีกว่าไม่มี....พรุ่งนี้มีโปรแกรมไปไหนหรือเปล่าคะคุณim มีความสุขมากมายนะคะ....