รักตัวเอง

<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 มีนาคม 2557
 

ใช้คนให้เป็นอย่างคุณธนินท์ เจียรวนนท์

ธนินท์ เจียรวนนท์ แต่งงานแล้วและมีบุตร 5 คน นายธนินท์เริ่มทำงานเป็นครั้งแรกที่ร้านเจริญโภคภัณฑ์ เมื่ออายุได้ 19 ปี โดยทำงานในตำแหน่งแคชเชียร์

ธนินท์ เจียรวนนท์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยได้รับการจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นของประเทศไทย

ประวัติ

ธนินท์ เจียรวนนท์ แต่งงานแล้วและมีบุตร 5 คน นายธนินท์เริ่มทำงานเป็นครั้งแรกที่ร้านเจริญโภคภัณฑ์ เมื่ออายุได้ 19 ปี โดยทำงานในตำแหน่งแคชเชียร์ หลังจากนั้นได้โยกย้ายไปทำงานที่สหพันธ์สหกรณ์ค้าไข่แห่งประเทศไทย และบริษัทสหสามัคคีค้าสัตว์ จำกัด (ตามลำดับ) จนเมื่ออายุ 25 ปี ได้กลับมาทำงานอีกครั้งที่เจริญโภคภัณฑ์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารระดับสูงของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รับผิดชอบบริหารงานในตำแหน่งประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำของไทย มีกลุ่มธุรกิจในเครือฯรวม 10 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร,กลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยและเคมีเกษตร, กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ, กลุ่มธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่าย, กลุ่มธุรกิจพลาสติก, กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม, กลุ่มธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมทั่วไป กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร และกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

ลำดับเศรษฐีของนายธนินท์

ในปี พ.ศ. 2549 นายธนินท์ ได้รับการจัดอันดับเป็นเศรษฐีอันดับ 390 ของโลก โดยเป็นคนไทยอันดับ 3 ของประเทศไทย รองมาจาก นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเบียร์ช้าง และ นายเฉลียว อยู่วิทยาเจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังกระทิงแดง จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บ[1]


 

จากส่วนหนึ่งใน "มุมคิด" เรื่องคนของ "ธนินท์" ซึ่งหยิบมาจากหนังสือ "36 กลยุทธ์ ธนินท์ เจียรวนนท์" เรียบ
เรียงโดยวิจักษณ์ วรบัณฑิตย์ .....

ท่านประธานธนินท์มักกล่าวกับผู้บริหารและผู้ร่วมงานในเครือฯอยู่เสมอว่า

"คนที่จะเป็นผู้บริหารระดับสูงไม่ควร
มองที่ จุดด้อยของคนอื่น แล้วมองแต่จุดเด่นของตัวเอง เพราะว่าถ้าพยายามมองจุดด้อยของคนอื่น ก็จะคิดว่าตัว
เองเก่งอยู่ทุกครั้งทุกทีไป จึงไม่ได้มีความพยายามปรับตัว เราต้องมองจุดเด่นของคนอื่น แล้วหาทางใช้จุดเด่น
ของเขาให้เป็นประโยชน์ จึงสามารถทำงานใหญ่ได้"

โดยท่านถือหลักการในการบริหารคนและองค์กรที่น่าสนใจ
อย่างยิ่งว่า

"องค์กรที่ดีต้องประกอบด้วยคน 4 รุ่นคือ รุ่นอายุ 50 ปี รุ่นอายุ 40 ปี รุ่นอายุ 30 ปี และรุ่นอายุหนุ่ม
สาวที่เพิ่งจบการศึกษา เพราะคนเราต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เก่งอย่างไรก็ต้องมีวันหยุด เมื่อหยุดแล้วจะหาใครมา
ทดแทน เราต้องมีการสร้างคนอีก 3 รุ่นลงมารองรับไว้ก่อน"


ท่านประธานธนินท์ มีเหตุผลว่าธุรกิจจะดำเนินไปได้หรือขยายตัวได้และจะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่คน ทุกอย่างล้วน
มาจากคน เงินก็มาจากคน เทคโนโลยีก็มาจากคน

"ผมถือว่าคนเป็นทรัพยากรสำคัญที่ล้ำค่าอันเป็นหัวใจของทุกองค์กร เราจึงต้องมีคนที่มีความรับผิดชอบสูง มี
ความมานะพยายาม มีความรู้ความสามาถ และมีความซื่อสัตย์สุจริตอยู่ในองค์กรให้มากๆ จึงจะสามารถนำ
องค์กรหรือบริษัทไปสู่ความสำเร็จได้"

หากบริษัทอยากจะเจริญก้าวหน้าอย่างไม่สิ้นสุด ก็ต้องพัฒนาคนไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน ต้องสร้างคนให้มีคุณภาพ
เมื่อมีประสิทธิภาพก็เกิดประสิทธิ ผลในการทำงาน ซึ่งสร้างประโยชน์ทั้งต่อบริษัท และสังคม ไม่มีอะไรที่ให้
สังคมได้ดีที่สุดเท่ากับการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถ
ท่านประธานจึงให้ความสำคัญกับคนที่มีความรับผิดชอบสูง มีความอดทนเยี่ยม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมี
ความขยันหมั่นเพียรก่อน

เหตุผลคือ หาก "คน" มี 4 ประการแรกแล้ว สามารถพัฒนาตัวเองให้เป็นคนเก่งได้

"มนุษย์เราทุกคนมีความสำเร็จอยู่ในตัวเองทั้งนั้น ชีวิตคนทุกคนต้องมีจุดเด่นที่สามารถนำพาชีวิตไปสู่ความ
สำเร็จได้ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่าเป็นคนที่เหลิง หลงตัวเองว่าเก่ง เพราะวันนี้เก่ง พรุ่งนี้อาจจะไม่เก่งก็ได้ อาจ
จะมีคนเก่งกว่าเราก็ได้ และถ้าเราเหลิงจะมีแต่ถอยหลัง อย่าลืมว่าโลกของเรามีแต่จะก้าวไปข้างหน้า"


ผู้บริหารที่จะประสบความสำเร็จนั้น นอกจากตัวเองจะมีความรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจอย่างถูกจังหวะ
รวมถึงมองการณ์ไกลแล้วยังต้องได้รับความร่วมมือจากพนักงานในระดับปฏิบัติการอย่างเต็มความสามารถ นั่น
คือการเป็นเจ้านาย ที่ดีต้องอย่าทำตัวเหมือน "นก" แต่ให้เป็นเหมือน "หนอน"
เพราะการทำตัวเหมือน "นก" ก็มักแต่ชอบบินสูงอยู่บนฟากฟ้า คิดว่าตัวเองเหนือผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้ง
ก็อยู่สูงเกินไปจนมองไม่เห็นความเป็นไปบนพื้นดิน
และการที่ ซี.พี.แตกบริษัทย่อย แบ่งกลุ่มธุรกิจออกไป เช่น กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม กลุ่มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
กลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และเคมีเกษตร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ฯลฯ นั้นก็เป็นวิธีการกระจายอำนาจ
กระจายหน้าที่ความรับผิดชอบ กระจายความเสี่ยง และการสร้างคน

"ผมมองคนอื่นว่าเก่งกว่าผมเสมอ ผมไม่เคยมองใครว่าเก่งสู้ผมไม่ได้ สำหรับคนที่ทำงาน กับเรา ผมยึดหลักว่าจะ
ต้องเปิดโอกาสให้เขาแสดงความสามารถ เมื่อใครแสดงความสามารถออกมาเราจะต้องส่งเสริมสนับสนุนเขาให้
มีตำแหน่งสูงๆ ขึ้นไป เราต้องพยายามรักษาเขาให้อยู่กับเรานานที่สุด เราจะต้องสร้างคนที่มีความสามารถให้
เกิดขึ้นมากๆ"

นอกจากนี้ ท่านประธานยังยึดคติพจน์

"ความล้มเหลวคือแม่ของความสำเร็จ"

"ผมชอบคนที่ทำงานเสียหายแล้วรู้ว่าเสียหายอย่างไร และผมจะให้โอกาสเขาแก้ตัวใหม่ แต่ถ้าทำเสียหายแล้ว
บอกว่าทำดีที่สุดแล้ว ทำถูกต้องแล้ว แถมยังโยนความผิดไปให้คนอื่น คนอย่างนี้ผมไม่กล้าใช้ให้ทำงานอีกต่อไป"

ยิ่งการจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น ท่านประธานธนินท์ยังมีมุมมองที่น่าสนใจ

"การที่จะทำอะไรให้สำเร็จ อย่าเพิ่งไปคิดว่า เรามีกำไรเท่าไหร่ เราจะได้ผลประโยชน์อะไร เราน่าจะคิดว่างานชิ้น
นี้เรามีโอกาสทำได้ดีที่สุดหรือเปล่า แล้วทำสำเร็จได้หรือไม่ เราจะทำงานชิ้นนี้ให้ดีที่สุด เราต้องทำให้ดีกว่าคน
อื่น แล้วความสำเร็จจะตามมา"

(จากส่วนหนึ่งใน "มุมคิด" เรื่องคนของ "ธนินท์" ซึ่งหยิบมาจากหนังสือ "36 กลยุทธ์ ธนินท์ เจียรวนนท์" เรียบ
เรียงโดยวิจักษณ์ วรบัณฑิตย์ )


Car Financing Las Vegas NV
Car Financing Oklahoma City OK
Car Financing Albuquerque NM
Car Financing Tucson AZ
Car Financing Fresno CA
Car Financing Sacramento CA
Car Financing Long Beach CA
Car Financing Kansas City MO
Car Financing Mesa AZ




Create Date : 23 มีนาคม 2557
Last Update : 23 มีนาคม 2557 23:46:56 น. 0 comments
Counter : 360 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Hiomardrid
 
Location :
พะเยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add Hiomardrid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com