จากการศึกษาค้นคว้าของวิทยาศาสตร์ของสถาบันที่ศึกษาเกี่ยวกับทางด้านการแพทย์อย่าง Beth Israel Deaconess Medical Center (BIDMC) ได้พบข้อมูลและหลักฐานเพื่อสนับสนุนว่าขนาดของเอวนั้นจะสามารถใช้ทำนายการเกิดโรคหัวใจ โดยเฉพาะโรคหัวใจล้มเหลวในคนได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม

จากข้อมูลงานวิจัยพบว่าขนาดรอบเอวที่มากขึ้นเท่าใดก็จะส่งผลให้ร่างกายมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจล้มเหลวมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งความสัมพันธ์ลักษณะนี้สามารถเห็นได้ชัดในวัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง ข้อมูลและรายละเอียดของงานวิจัยชิ้นนี้ได้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ในหัวข้อที่เกี่ยวกับภาวะหัวใจล้มเหลวประจำวันที่ 7 เมษายน

ในปัจจุบันจำนวนวัยรุ่นในประเทศสหรัฐอเมริกากว่า 66 % ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรืออ้วนเกินปกติ โดยระหว่างปี 1989 ถึง 1999ถือเป็นระยะเวลาที่มีจำนวนประชากรเสียชีวิตหรือป่วยจากภาวะโรคหัวใจล้มเหลวเป็นจำนวนมาก การที่ร่างกายขาดเลือดมาหล่อเลี้ยงเนื่องจากหัวใจไม่สามารถทำงานในการสูบฉีดเลือดมาเลี้ยงได้ตามปกติจะส่งผลต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเกิดเลือดคั่งในหัวใจ ความดันในเส้นเลือดสูงขึ้น หรือโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดต่างๆ มากไปกว่านั้นร่างกายจะอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า การเดินหรือการเคลื่อนไหวก็ทำได้ไม่ปกติ จังหวะการเต้นของหัวใจก็จะเร็วขึ้นหรือผิดปกติ ในผู้ป่วยบางรายจะมีอาการไอแบบรุนแรง หรือมีเสียงดังข้างในทางเดินหายใจเมื่อหายใจเข้าออก

ในการค้นคว้าเก็บข้อมูล ทางนักวิจัยได้เก็บข้อมูลจากประชากรสองกลุ่ม กลุ่มที่ 1 เป็น ประชากรจำนวน 36837 คน เป็นหญิงที่มีอายุระหว่าง 48-83ปี และกลุ่มที่ 2 มีจำนวน 43487 เป็นชายที่มีอายุระหว่าง 45-79 ปี โดยคนเหล่านี้จะทำการให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ความสูง น้ำหนัก และขนาดรอบเอวของตนเอง จากนั้นทางนักวิจัยก็จะทำการเก็บข้อมูลของคนเหล่านี้เกี่ยวกับการเกิดโรคโดยจากข้อมูลที่บันทึกมาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 1998 มาจนถึงธันวาคมปี2004 ทางนักวิจัยได้รับการรายงานจากกรณีศึกษาว่า มี 382 ครั้งที่เกิดอาการเกี่ยวกับการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวครั้งแรกในหมู่ผู้หญิง โดย 357 รายต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และ 25 รายที่เสียชีวิต ในส่วนของผู้ชายมีจำนวนกว่า 718 ครั้งที่เกิดภาวะโรคหัวใจล้มเหลวครั้งแรก มี 679รายต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล และ39 รายเสียชีวิต

จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่บันทึกได้นั้นพบว่า 34% ของผู้หญิงในกลุ่มตัวอย่างมีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน และจำนวนกว่า 11% ที่เข้าขั้นเป็นคนอ้วนเกินปกติ ในขณะที่ 46% ของชายในกลุ่มตัวอย่างมีน้ำหนักเกิน และ 10% อ้วนเกินปกติ นักวิจัยได้ใช้การการหาค่า BMI(สัดส่วนของน้ำหนักกับความสูง)  การวัดขนาดรอบเอว และสัดส่วนของเอวต่อสะโพก และเอวต่อความสูง มาเป็นปัจจัยในการประเมินข้อมูลที่ได้ทั้งหมด และทำให้พบว่าขนาดของรอบเอวมีผลต่อการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว

กล่าวได้ว่าผู้หญิงที่มีค่า BMI อยู่ที่ 25 คืออยู่ในช่วงปกติจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวสูงขึ้น 15% ในทุกๆ 10 เซนติเมตรของการเพิ่มของรอบเอว ผู้หญิงที่มีค่า BMI อยู่ที่30 จะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวสูงขึ้น 18% ในทุกๆ 10 เซนติเมตรของการเพิ่มของรอบเอว และในส่วนของผู้ชายที่มีค่าBMI อยู่ที่ 25  จะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวสูงขึ้น 16% ในทุกๆ 10 เซนติเมตรของการเพิ่มของรอบเอว ผู้หญิงที่มีค่า BMI อยู่ที่30 จะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวสูงขึ้น 18% ในทุกๆ 10 เซนติเมตรของการเพิ่มของรอบเอว

นักวิจัยยังพบอีกว่าในการเพิ่มของค่า BMI ใน 1 หน่วยจะทำให้อัตราความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโรคหัวใจล้มเหลวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 4% เมื่อเทียบกับสภาวะปกติ

Home - How It Works - FAQ - Rates & Fees - Lending Policy - Why Choose Us? - About Us - Definitions - Signature Loans - Privacy Policy - Terms Of Use
Disclaimer - sitemap

Used Car Loans Atlanta GA
Used Car Loans Colorado Springs CO
Used Car Loans Omaha NE
Used Car Loans Raleigh NC
Used Car Loans Miami FL
Used Car Loans Cleveland OH
Used Car Loans Tulsa OK
Used Car Loans Oakland CA
Used Car Loans Honolulu HI
Used Car Loans Minneapolis MN