ถ้าคุณหรือคนที่คุณรู้จักถูกทำให้เชื่อว่าตัวเองมีข้อจำกัด หรือคิดว่าความเป็นไปได้มันช่างยากเย็นเหลือเกินบนโลกใบนี้ หลายครั้งที่การปรับเปลี่ยนคำพูดแค่เพียงเล็กน้อย กลับสามารถเปลี่ยนแปลงโลกทัศน์และเพิ่มศักยภาพให้กับเราได้ชนิดที่เรียกว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือ เครื่องมือสำคัญที่ผมนำมาใช้ เพื่อช่วยให้หลาย ๆ คนสามารถพลิกมุมมองได้ นั่นก็คือ การใช้ภาษาอย่างมีศิลปะและมีสติ

     รูปแบบภาษาง่าย ๆ และได้ผลซึ่งผมชอบนำมาใช้นี้เรียกว่า “ประโยคแกนเปลี่ยน” โดยประโยคดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นสิ่งรบกวนแนวความคิดแบบเก่า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฟังสามารถเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับกรอบความคิดใหม่ ยกตัวอย่าง เช่น เวลาที่ใครซักคน (หรือตัวคุณเอง) พูดประโยคตีกรอบทางความคิดขึ้นมาว่า...

“ไม่ว่ายังไง...ฉันก็ทำไม่ได้หรอก”
“มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยสำหรับฉัน”
“ชีวิตฉันมันห่วยแตกที่สุดเลย”
“โลกนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่ายังไงซะ ฉันก็ต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดนั่นแหละ” 

     แต่ละประโยคที่กล่าวมานี้มีลักษณะ “ครอบจักรวาล” แฝงอยู่ หลายครั้งสามารถสังเกตได้จากคำว่า “ไม่ว่าจะยังไง” “ไม่มีทาง” “มีแต่” “เลย” “ตลอด” “ทุกคน” หรือ “ทุกที” ลักษณะครอบจักรวาลที่ว่า ก็หมายถึงความเชื่อหรือความคิดที่ไม่ได้พิจารณาถึงปัจจัยด้านเวลาหรือข้อยกเว้นใด ๆ ที่จะมาหักล้างความเชื่อหรือความคิดนั้นได้

     สำหรับคนที่คิดในลักษณะนี้ เขาจะคิดว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดทุกครั้งไป โดยไม่มีข้อยกเว้นและไม่มีวันสิ้นสุด นอกจากนี้ยังแฝงความคิดที่ว่า “ปัญหา” เหล่านี้มีพลังมากกว่าผู้ที่อยู่ในสถานการณ์นั้น ๆ ซึ่งเป็นโครงสร้างของการตีกรอบทางความคิดที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยๆ

     ผมมักจะสร้างแกน โดยเติมคำที่สามารถต่อท้ายจากประโยคที่เขาพูดเข้าไปแบบเนียน ๆ เพื่อเปลี่ยนแนวความคิดไปยังทิศทางใหม่ อันจะนำมาสู่การเพิ่มศักยภาพ บ่อยครั้งที่เจ้าตัวได้ยินปุ๊บ ก็เข้าใจว่าตัวเองเป็นคนต้นคิดเองแต่แรกซะด้วยซ้ำ มาดูว่าเรามีวิธีใดบ้างที่จะนำเอาความคิดตีกรอบจำกัดตัวเองมาสร้างกรอบใหม่ด้วยการเพิ่มวลีแกนเปลี่ยนได้ ลองอ่านช้า ๆ และจินตนาการว่าเป็นบทสนทนาระหว่างคนสองคน

      ความคิดจำกัดตัวเอง ประโยคแกนเปลี่ยน 

"ไม่ว่ายังไง...ฉันก็ทำไม่ได้หรอก" "...จนกระทั่งวันนี้"
"...จนถึงตอนนี้"
"มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยสำหรับฉัน" "...แต่ก็อีกไม่นานหรอก!"
"ชีวิตฉันมันห่วยแตกที่สุดเลย" "...แต่ก็อีกไม่นานหรอก!"
"โลกนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ" "…แต่ไม่ใช่สำหรับเรา!"
"ฉันรู้อยู่แล้วว่ายังไงซะ ฉันก็ต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดนั่นแหละ" "...หรือค่อยๆ เปลี่ยนที่ละนิด แต่ไม่ใช่ในคราวเดียว"
"...หรือเริ่มรู้สึกถึงความแตกต่างซะตั้งแต่ตอนนี้"

     ตอนที่ผมสอนโยคะ นักเรียนมักจะบอกผมด้วยความมั่นใจว่า “ทำท่ายืนด้วยศีรษะไม่ได้” (ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะยังไม่เคยลองทำด้วยซ้ำ) ผมก็จะเตือนสติพวกเขาด้วยคำพูดว่า “คุณทำท่ายืนด้วยศีรษะไม่ได้...จนกระทั่งวันนี้”

     เนื่องจากประโยคแกนเปลี่ยนนั้นง่ายและใช้ได้ผลดี ผมจึงมักจะเก็บไว้เป็นไม้ตายที่เอามาใช้อยู่บ่อยๆ ทั้งกับคนอื่นและแม้กระทั่งกับตัวผมเองด้วย ลองจำประโยคข้างบนไว้ให้ได้สัก 2-3 ประโยค แล้วลองเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันดู เวลาที่เราพูดออกไป พร้อมกับสายตาที่เปล่งประกาย เชื่อได้เลยว่าจะต้องนำมาซึ่งรอยยิ้มและมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจแน่นอนทีเดียว เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ผมหวังว่าหลายคนจะสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มศักยภาพการทำงาน รวมถึงการสื่อสารกับคนรอบข้างได้อย่างอย่างมีประสิทธิภาพนะครับ  

watches silicone loaf pans silicone mini muffin pans silicone muffin pans silicone pot lid silicone rhinestone watch silicone wine stoppers silk accent pillows silk bedskirts silk chandelier shades silk charmeuse wedding dress silk christening dress silk comforter setssilk dupioni dress silk dupioni wedding dress silk faille dress silk filled comforter silk filled duvets silk glove liners silk lamp shades for floor lamps silk lamp shades for table lamps silk pillowcase silk smocked dress silk sock liners silk trapeze dress silpat baking sheets silstar fishing rods silver cake stands for wedding cakes silver candle sconce silver candle sconces silver chafing dish silver chafing dishes silver dollar pancake pan silver grey hair dye silver ice tongs silver oxide watch batteries silver oxide watch batterysilver plated cake stands silver plated chafing dish

Create Date : 09 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 22:50:47 น.		0 comments
Counter : 403 Pageviews.
Share Tweet