วันหัวเราะโลก (World Laughter Day)

         ฮ่า ฮ่า ฮ่า  เสียงหัวเราะโดยธรรมชาติของมนุษย์   (ไม่นับรวม  อิอิ  คริคริ  หุหุ  เหอๆ  ภาษาหัวเราะในสังคมบนโลกออนไลน์)  ไม่มีใครสอนให้มนุษย์รู้จักหัวเราะ  ว่ากันว่ามันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์มาตั้งแต่เกิดแล้ว  และไม่มีใครรู้ด้วยว่า ทำไม? มนุษย์ถึงต้องหัวเราะ?

 ทราบหรือไม่คะว่า?  ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคม  ถือเป็น “วันหัวเราะโลก”  (World Laughter Day)  วันหัวเราะโลกนี้มีการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2541  ณ ประเทศอินเดีย  โดยมีความคิดริเริ่มมาจาก  ดร.มาดาน  คาทาเรีย ผู้ก่อตั้งชมรมหัวเราะ (Laughter Club) 

“Please laugh for no reason for just one minute for world peace and send the vibrations into the universe.”   ได้โปรดหัวเราะโดยไม่มีเหตุผลแค่เพียง 1 นาทีเพื่อสันติสุขของโลก และส่งแรงกระเพื่อมนั้นไปสู่จักรวาล

          ดร.มาดาน  คาทาเรีย  ได้กล่าวขอร้องให้คนอื่นร่วมหัวเราะไปกับเขาโดยไม่มีเหตุผลในที่สาธารณะ  ซึ่งต่อมากิจกรรมนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก  และปัจจุบันได้มีชมรมหัวเราะมากกว่า 6000 ชมรมแล้ว

Madan kataria

และนี่เองจึงเป็นที่มาของ  “วันหัวเราะโลก”  (World Laughter Day) !!

          นักประสาทวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยประจำรัฐแมรี่แลนด์ นามว่า Robert Provine  หนึ่งในผู้ที่ทำการศึกษาเรื่องการหัวเราะ  ได้วิเคราะห์ว่า 10-15% ของการหัวเราะเท่านั้นที่เป็นผลมาจากการได้ยินหรือเห็นเรื่องตลก ส่วนที่เหลือนั้นคือการตอบสนองทางสังคม  ดังจะเห็นได้จากคนเราจะไม่ค่อยหัวเราะมากนัก เมื่ออยู่คนเดียว

          อาจจะเป็นเช่นนั้น….การหัวเราะ อาจเป็นการตอบสนองทางสังคมอย่างหนึ่ง  เพราะสาเหตุของการหัวเราะนอกเหนือไปจากการได้ยิน ได้ฟัง ได้คิดเรื่องราวตลก ๆ แล้ว  บ่อยครั้งการหัวเราะยังเกิดจากการหัวเราะแก้เก้อเขินหรือประหม่า  หรือหัวเราะเพื่อเรียกร้องความสนใจ  โดยเฉพาะในเพศหญิง  ที่มักจะหัวเราะเสียงดังกว่าปกติเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับเพศตรงข้าม  หรือกระทั่งหัวเราะอย่างไม่มีสาเหตุ   เช่น  เห็นผู้อื่นหัวเราะ  ก็รู้สึกหัวเราะตามไปด้วย  เป็นต้น

          และไม่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่มีความสามารถในการหัวเราะ  นักวิทยาศาสตร์ได้วิจัยพบว่า  สัตว์หลายชนิดก็สามารถหัวเราะได้เช่นกันแม้จะมีเสียงการหัวเราะที่ต่างกันก็ตาม  เช่น  ลิงชิมแปนซี  เสียงหัวเราะของมันจะเป็นไปตามลมหายใจเข้าและออก  เพราะไม่สามารถควบคุมจังหวะการหายใจได้  ในขณะที่เสียงหัวเราะของคนจะแบ่งลมหายใจในหนึ่งครั้งออกเป็นช่วง ๆ ได้เป็นเสียง ฮ่า ฮ่า ฮ่า Socks For Swollen Ankles Ebay Electric Fireplaces Aluminum Sling Chair Tagines To Buy Push Scooter Wheels Ravioli Attachment For Pasta Machine Athletic Tube Socks Sharp Aquos 120hz

  แต่ไม่ว่าคนหรือสัตว์จะหัวเราะอย่างไร….การหัวเราะ  ก็สร้างประโยชน์ให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี  เปรียบเหมือน “ยาวิเศษ”  เนื่องจากสามารถบรรเทาความเจ็บปวดและชะลออาการของโรคบางชนิดไม่ให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิมได้

ทั้งนี้เพราะในขณะที่คนเราหัวเราะ  ร่างกายจะกระตุ้นให้มีการหลั่งสารเอ็นโดฟิน (endorphine)  หรือสารแห่งความสุขออกมา  ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด  ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย  นอกจากสารเอ็นโดฟินแล้ว  การหัวเราะยังกระตุ้นการหลั่งสารซีโรโทนิน  (serotonin) และโดพามีน (dopamine)  ทำให้ร่างกายรู้สึกอารมณ์ดี  ลดความตรึงเครียดและความซึมเศร้า  

          การหัวเราะ  ยังเป็นการช่วยให้ร่างกายได้บริหารกล้ามเนื้อ  ไม่ว่าจะเป็นกล้ามบริเวณใบหน้าและกล้ามเนื้อร่างกาย  การหัวเราะจึงเทียบเท่าได้เหมือนกับการออกกำลังกาย  เพราะเมื่อเราหัวเราะจะทำให้การเต้นของหัวใจหรือชีพจรเต้นเร็วกว่าปกติ  และเมื่อร่างกายหยุดหัวเราะ  ร่างกายก็จะค่อย ๆ กลับสูภาวะปกติ  ซึ่งเท่ากับเป็นการบริหารหัวใจและปอดให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย

          เมื่อการหัวเราะ มีประโยชน์โดยตรงต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตดังนี้แล้ว  เรามาหัวเราะกันวันละนิด  เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีกันเถอะค่ะ 

อ้างอิง
- //en.wikipedia.org/wiki/World_Laughter_Day
- สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ //www.hiso.or.th
- กรมอนามัย //www.anamai.moph.go.th Panasonic Lumix Fz100 Ac Delco O2 Sensors Casio Exilim Np 60 Paraffin Greenhouse Heater Twin Size Sofa Bed Sleeper Ceramic Heaters Safe Airbeds For Camping Swivel Glider Recliner Chair

Create Date : 07 มิถุนายน 2556		0 comments
Last Update : 7 มิถุนายน 2556 13:15:55 น.
Counter : 5598 Pageviews.
Share Tweet