happy memories
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2563
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 ธันวาคม 2563
 
All Blogs
 
รฦกมหาราชด้วยจงรักและภักดี (๒๕๖๓)





...ดั่งทองเปล่งสดใส

ชโลมไท้ไอศวรรย์

เฉลิมชนม์ไทยทั่วขัณฑ์

เฉลิมคัลห้าธันวา…



ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า นายนพแก้ว ประยูรเมธา พร้อมเพื่อนทางออนไลน์
นายนพแก้ว ประยูรเมธา ร้อยกรองถวาย








๕ ธันวาฯมหาราช ๒๕๖๓
( สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙ )

๏ คือเอกองค์สิริลักษณ์กวีศิลปศาสตร์
เลิศรู้ระเรืองราช สมัย

๏ คืออาจารย์คุณเนืองพิพัฒน์วรไผท
ถ้วนทุกแขนงใน วิชา

๏ คือสายธารบริสุทธิ์ชโลม ณ อจลา
ชื่นเย็นกระหม่อมข้าฯ นิกร

๏ คือผู้สร้างสุวคนธ์พระทัยมหะบิดร
งามกว่าทิฆัมพร รุจี

๏ คือนักคิดวิถิทองพระทัยพิริยะพลี
เพื่อปวงประชาชี อนันต์

๏ คือศูนย์รวมหฤทัยสยามจิระถวัลย์
ทรงทําและทรงธรรม์ ธเรศ

๏ คือยอดมังคละเกล้าเสถียรภควิเศษ
เทิดเก้าประดับเกศ ตระการ

๏ คือจอมเจ้าชนกาธิราชพระบริบาล
ปวงไทยตลอดธาร พระชนม์

๏ กรานกราบด้วยศิระข้าฯระลึกอภิกุศล
องค์ภูมิพลท้น บุรี

๏ กี่นับกาลพระเสด็จเสวยทิพยศรี
ความรักและภักดี มิคลาย

๏ ยังแซ่ซ้องอภิวาทและพร้อมอุระถวาย
รองบาทพระฤๅสาย นิรันดร์


น้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า ชโลธร ควรหาเวช
ผู้ใช้นามปากกา เพลงผ้า ปรพากย์
๕ ธันวาคม ๒๕๖๓
จาก เพจชโลธร ควรหาเวช








๕ ธันวามหาราช ราษฎร์รำลึก
คะนึงนึกถึงองค์พระทรงศักดิ์
เป็นศูนย์รวมดวงใจไทย...แนบในรัก
เป็นที่พักยามท้อขอพลัง

แม้เสด็จคืนสู่สวรรค์แล้ว
ยังเพริศแพร้วอยู่ในหัวใจหวัง
ยังประทับอยู่เหนือใจคนไทยดัง
พระทรงยังอยู่เหนือเกล้าเราทุกคน.


พระมหากรุณาธิคุณ จารึกในใจตราบกาลนิรันดร์
ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหาร พนักงาน และผู้ดำเนินรายการ
สถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่
จาก เพจปู จิตกร บุษบา






เหมือนจะไกล แต่กลับใกล้ ไม่เคยห่าง
ประทับอยู่ ระหว่าง กลางใจนี่
จะผ่านผันวันเคลื่อนกี่เดือนปี
ก็ยังมี 'พ่อหลวง' ในดวงใจ





ฉันไม่เคยแน่ใจใน "รัก" ไหน
เท่ากับความแน่ใจใน "รักนี้"
รักหมดใจตลอดไป, ไม่เคยมี-
สักวินาทีที่จักไม่รักเลย





คือรักที่...ไม่มีใครบอกให้รัก
คือรักที่...ใจประจักษ์รักสุดแสน
คือรักที่...ให้หมดใจไร้พรมแดน
คือรักที่...ตอบแทน ซึ่งความรัก





ทรงงาน...เหมือนพนักงานของประเทศ
ทุกขอบเขตไกลใกล้ทรงไปถึง
ทุกข์สุขทรงรับไว้ใฝ่คะนึง
คนไทยจึงรักเป็น "พ่อของแผ่นดิน"





ทั้งชีวิตที่ผ่านมาข้าฯ รู้เห็น
ได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขขี
ทอดสายตามองไปในปฐพี
สุขเพราะมีพระราชาที่ข้าฯรัก

จนบัดนี้รักนั้นยังมั่นอยู่
ด้วยข้าฯ รู้ข้าฯ เห็นเป็นประจักษ์
ถึงเหตุผลที่ข้าฯ ให้เต็มใจภักดิ์
เพราะท่านทรงงานหนัก ...เพราะ-รักเรา.


จาก เพจปู จิตกร บุษบา






ใครไม่รัก แต่ฉันรัก ประจักษ์จิต
เพราะในหลวง คือชีวิต ของปวงข้า
ป่ามีไม้ ได้สุขล้ำ น้ำมีปลา
ทรงเป็นฟ้า ห่มเมืองไทย ให้ร่มเย็น

ใครไม่รัก แต่ฉันรัก ประจักษ์จิต
ใครจะคิด อย่างไร ฉันไม่สน
ใครเล่าใคร ใครสร้างสรร บันดาลดล
ใครกังวล ห่วงใยเรา เท่าพระองค์

ใครไม่รัก แต่ฉันรัก ประจักษ์จิต
ขอถวาย ทั้งชีวิต ธ ประสงค์
จะรักษา ราชันย์ไว้ ให้ดำรง
ยอมปลดปลง ชีพเพื่อ เกื้อ"จักรี"


จาก เพจ Eung Apakorn






บันทึกนํ้าตาข้าแผ่นดิน

๐ ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่รัก
ไม่น้อมภักดิ์ภูมีศรีสมัย
ธุลีบาทเทิดวางอยู่กลางใจ
นํ้าพระทัยรดเกล้าทุกเช้า-เย็น

๐ ยังหมอบกราบตราบชีวาจะหาไม่
จะว่างวันกําซาบใจ ยังไม่เห็น
ยังถวายแสงเทียนบําเพียรเพ็ญ
ถวายเป็นกุศลศรีทุกตรีกาล

๐ เจ็ดสิบปีมีกษัตริย์นักพัฒนา
เจ็ดสิบปีมีมาปาฏิหาริย์
อยากบวงขอสิบสามตุลาฯ วันร้าวราน
ให้เป็นเพียงวันวานที่ฝันไป

๐ เพราะพระองค์ทรงคุณค่าหาใดเหมือน
สามโลกเคลื่อนท่วงทบ จะพบไหม
เพราะพระองค์คือศูนย์จํารูญใจ
จึงทุเลาความอาลัยมิได้ที

๐ จะบอกหลาน บอกเหลน ในเรือนเหย้า
จะบอกเล่าเรื่องพระองค์ผู้ทรงศรี
ทุกข้าวคํา นํ้ากิน และดินดี
เพราะภูมีพลีองค์มาทรงงาน



เพลงผ้า ปรพากย์ ร้อยกรองถวาย
ส่วนหนึ่งจากหนังสือ "ธรณีกรรแสง ๑๓ ตุลาฯ มหาวิโยค"
จาก เพจชโลธร ควรหาเวช






จากหัวใจสามัญชน

หากเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลย
ภาพภาพนี้ก็เป็นเพียงภาพถ่ายของชายสูงวัยผู้หนึ่ง
ที่เห็นได้ชัดเจนว่ามีดวงตาจริง ๆ เพียงข้างเดียว
แต่สำหรับพสกนิกรชาวไทย
ชายผู้นี้ คือ มหาบุรุษ
คือพระราชาในดวงใจ
คือพระมหากษัตริย์ของราชอาณาจักรไทยผู้ยิ่งใหญ่
คือภูมิพลมหาราช
คือพ่อของแผ่นดิน
คือบุรุษที่พวกเราเห็นมาแต่เล็กแต่น้อยว่าทรงบุกป่าฝ่าดง
ขึ้นเขาลงห้วย ข้ามน้ำลุยทรายไปทั่ว เพื่อช่วยเหลือในทุกเรื่อง
ที่จะทำให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พอมีพอกิน เจ็บป่วยก็เข้าถึงการแพทย์ มีโอกาสได้รับการศึกษา
เดือดร้อนก็รับฟังให้ได้รับความเป็นธรรมหรือการดูแล
มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีน้ำ มีป่า มีดินอุดม มีเทคโนโลยี มีปัญญา มีธรรม
คือบุรุษที่มีฐานันดรสูงยิ่ง
แต่มีชีวิตที่ลำบากตรากตรำยิ่ง
ทำงานหนักยิ่ง
พักผ่อนน้อยยิ่ง
กว่าผู้ใด
ทรงทศพิธราชธรรมยิ่ง
ด้วยดวงพระเนตรเพียงข้างเดียวนั้น
ทรงมองเห็นความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนชาวไทย
มากกว่าดวงตาสองข้างของใครอื่นในประเทศนี้
ด้วยดวงพระเนตรข้างเดียวนั้น
ทรงทอดยาว กว้างไกล สู่อนาคตของประชาชนชาวไทย มากกว่าใครทั้งปวง
ด้วยพระวรกายชรานี้
ทรงทำงานเนิ่นนานกว่าใครทั้งปวง
เป็นความจริง เป็นสัจธรรม
ที่พสกนิกรชาวไทยล้วนประจักษ์ ล้วนซาบซึ้ง มาช้านาน
จึงหล่อหลอม บ่มเพาะ ความจงรักภักดี
ฝังตรึงลงในจิตใจของทุกผู้ทุกนาม
ความรักและเทิดทูนจำหลักลงในหัวใจ
สถิตในดวงใจอย่างแนบแน่น
มิมีวันรู้เลือน
มิมีวันสร่างซา
๕ ธันวาคม จะเป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งตลอดไป
เพราะเป็นวันที่คนผู้หนึ่งได้ถือกำเนิดมาในโลก
ให้พวกเราได้รัก
ได้เคารพเทิดทูนสุดหัวใจ
ได้เป็นแบบอย่าง
ได้ให้คำสอน
ได้ให้แนวทาง
ได้ให้ความปีติสุข แก่พวกเรา
นับเป็นวาสนาอันสูงส่งของพวกเรา
ที่ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๗๐
พระโพธิสัตว์ได้อุบัติขึ้นมาในโลกเป็นคนไทย
และคนชาติอื่นไม่มีวาสนาเช่นนี้เหมือนพวกเรา
ความรำลึกรักถึงพระองค์จะไม่มีวันเสื่อมคลาย
ตราบจนชีวิตข้าพระพุทธเจ้าจะหาไม่
ตราบชีวิตพวกเราจะหาไม่
ข้าพระพุทธเจ้าใช้เวลาพิมพ์ข้อความนี้นานกว่าปกติ
ด้วยน้ำตาหลั่งรินลงมากลบดวงตาเป็นระยะ
คิดถึงเหลือเกินแล้ว
ขอน้อมกราบดวงวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า
ผู้เสด็จเสวยสวรรค์
ผู้มุ่งสู่พุทธภูมิ
หากมีบุญวาสนาใดอยู่บ้าง และพระองค์มิได้ทรงดับขันธปรินิพพานเสียก่อน
ขอข้าพระพุทธเจ้ามีบุญวาสนาได้เกิดใต้ร่มพระบารมีอีกสักครา


ข้าพระพุทธเจ้า
นางสาว ศุภมาส เสนะเวส
พสกนิกรไทย
๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
พระองค์เสด็จจากไป ๔ ปีเศษแล้ว
จาก เพจศุภมาส เสนะเวส






ความจงรักภักดีที่ยิ่งใหญ่

ปรากฎให้ได้เห็นชัดเจนวิถี

แม้ผ่านเปลี่ยนเวียนไปอีกหลายปี

ความเศร้าที่มิรู้จบยังกลบตา



เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ ร้อยกรองถวาย
จาก เพจเจิรญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสกี้






ร ฤ ก ม ห า ร า ช

๐ สักกี่ห้วงมหรรณพมาทบทับ
จึงพอรับโศกาน้ำตาราษฎร์
สักกี่ห้วงพสุธา-นภากาศ
จึงพอวาดสักการ์คำอาลัย

๐ อีกกี่ชาติบรรจบจะพบคน-
ที่กอบเมฆเสกดลเป็นฝนได้
อีกสักกี่กัปกัลป์เวียนวันวัย
จะมีใครนำแฝกมาแบกดิน

๐ จะมีกี่เทเวศประเทศชาติ
มีรอยบาทอดิศรทุกก้อนหิน
ในโลกนี้มีอยู่กี่ภูมินทร์-
ประทับถ้วนทุกถิ่นท่ามธุลี

๐ จะมีพระเจ้าแผ่นดินใด ในโลกธาตุ
ฉลองพระบาทซ่อมซ้ำอยู่ย้ำที่
ไม่มีใดในโลกจะโชคดี
เท่าแผ่นดินที่มีองค์ภูมิพลฯ


เพลงผ้า ปรพากย์ ร้อยกรองถวาย
ส่วนหนึ่งจากหนังสือ "บันทึกนํ้าตาข้าแผ่นดิน" นํามาโพสต์อีกครั้งเพื่อน้อมระลึกถึง
วันถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร.๙
จาก เพจราชบัลลังก์ จักรีวงศ์






"แสงตะวันส่องฉายยามบ่ายคล้อย...ไม่ถดถอยคอยทำตามรอยพ่อ"






หากวันนี้.. ร่มโพธิ์ไทร.. ยังไม่ลับ
คงได้ยินเสียงสดับรับสั่งได้
จะยิ้มรื่นอย่างชนะไปทำไม
ถ้าเมืองไทยยังจมปลักและหักพัง

พระสุรเสียง... วานนี้.. ไม่มีแล้ว
ดุจดวงแก้ว.. ลอยไกลไม่กลับหลัง
ทุกวันนี้.. มีแต่โกรธ.. โทษชิงชัง
แบ่งฝ่ายฝั่ง.. ใส่สมองของคนไทย

ลืมคำสอน.. พร้อมพรักสมัครสมาน..
ลืมวันวาน.. กว่าจะมี.. วันนี้ได้
ลืมพระบาท.. ยาตรทั่วถิ่น.. แผ่นดินไทย
ลืมเหงื่อไหล.. ท่วมพระพักตร์พระราชา

ในวันนี้.. ธ เสด็จ.. เสวยสวรรค์
ขอกราบบาทพระทรงธรรม์ผู้เลิศหล้า
กราบบังคมทูลถ้อยคำด้วยน้ำตา
ขอบุญญา.. บารมี.. ช่วยชี้ทาง

ให้คนไทยตั้งสติมีความคิด
ให้รู้ถูก.. รู้ผิด.. แม้คิดต่าง
นึกถึงพ่อ.. ก็จะเห็นแนวเส้นทาง
อย่าจืดจาง.. จงรู้รัก.. สามัคคี...


Cr.นิด เชียงใหม่
๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๓
จาก เพจรูปหายากน่าประทับใจ รูปพ่อของแผ่นดิน






ชายคนหนึ่ง ซึ่งยิ่งใหญ่ หาใดเท่า
ไต้ร่มเย็น ดั่งเป็นเงา ต้นไม้ใหญ่
ให้ชีวิตให้ ความรัก ความเข้าใจ
และโอบกอด ด้วยสายใย ความผูกพัน

ไต้ร่มเงา แห่งนี้ ที่มีพ่อ
หากจะขอ สิ่งใด แทนให้นั้น
ยากจะขอ สิ่งใด แทนให้กัน
นอกจากรัก ผูกพัน ในพระคุณ





ยอกร น้อมบังคม ก้มกราบบาท
มหาราช จอมบดินทร์ ปิ่นสยาม
๕ ธันวา ศุภฤกษ์ เบิกฟ้างาม
ทุกเขตคาม แซ่ซ้อง ถวายชัย

เฉลิมพระชนม์ พรรษา มหาสวัสดิ์
ขอพระบารมี ปกป้องรัฐ ทุกสมัย
น้อมรำลึก องค์พ่อหลวง ของปวงไทย
ธ สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์


จาก เพจฟา ติมา






เมื่อฟ้าโน้มลงดินหาสิ้นฟ้า

พสุธาอาลัยทุกแห่งหน

จากธุลีสู่ธุลีมิมืดมน

ยังเป็นฝนชะโลมดินหาสิ้นไป



รำลึกในพระคุณอันใหญ่หลวง
รักพ่อเสมอ
จาก เพจ Toy Bunruang






กราบพระบาท มหาราช ผู้ยิ่งใหญ่
สุดอาลัย น้ำตาริน ถวิลหา
เสด็จสู่ สวรรคาลัย ในชั้นฟ้า
ไทยประชา หวนให้ ใจเยียบเย็น

จะทำดี เพื่อพ่อ ตามพ่อสอน
จะช่วยผู้ เดือดร้อน ผ่อนทุกข์เข็ญ
จะรู้รัก สามัคคี กว่าที่เป็น
จะรวมใจ ไทยให้เห็น เป็นหนึ่งเดียว

น้อมถวาย ความดี นี้แด่พ่อ
ผู้เลี้ยงหล่อ รวมไทย ให้แน่นเหนียว
พระบารมี ปกเหนือใต้ ไทยกลมเกลียว
จะยึดเหนี่ยว พ่อกลางใจ ไทยนิรันดร์


ขอพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้าน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
จาก เพจราชบัลลังก์ จักรีวงศ์







พ่อบอกว่า ครองแผ่นดิน โดยธรรมหนอ
พ่อก็ทำ ตามคำพ่อ ไม่ท้อถอย
ผืนทะเล จรดฟ้าฝั่ง ยังภูดอย
พ่อย่ำรอย ด้วยตอกย้ำ ความห่วงใย

พ่อใช่อยู่ อย่างกษัตริย์ ขัตติยะ
พ่อมานะ เหนืออีสาน ดั้นด้นถึง
ทั้งออก ตก จรดยันใต้ ได้ตราตรึง
เป็นที่พึ่ง ของประชา มาช้านาน

ภาพคุ้นตา สะพายกล้อง มองแผนที่
ไม่เคยมี เสาร์ - อาทิตย์ คิดสร้างสรรค์
บ้านของพ่อ ทำไร่นา สารพัน
ใช่เรื่องฝัน พ่อขวนขวาย ไทยงอกงาม

ถึงวันนี้ พ่อไม่อยู่ ดูแลแล้ว
ยอดขวัญแก้ว เคยปกปัด เคยรักษา
มีบางคน กลับข่มด่า ตินินทา
บ้างด่าว่า ไม่เคยทำ อย่างพ่อเลย

พ่อทำผิด สิ่งใดหรือ ใยถือโกรธ
ถ้าพ่อผิด ขอยกโทษ พ่อได้ไหม
อย่าซ้ำเติม เพียงลองคิด พ่อทำไว้
สิ่งที่ดี มีมากมาย พ่อเคยทำ ฯ.



จาก เพจภาพพ่อ










งามเอย...งามพระจริยวัตร
สมหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์แห่งกรุงศรี
เป็นร่มไทรแก่ไพร่ฟ้าทั้งธานี
บำบัดทุกข์ทั้งปฐพีเพื่อปวงไทย

พระเสด็จคืนสวรรคาลัยล่วง
เราทั้งปวงจะสานต่องาน "พ่อ" ไหม?
งานซึ่ง"พ่อของแผ่นดิน" พลิกถิ่นไกล
ให้อยู่ได้สุขต่อและพอเพียง

ยามอยู่ "ทรงพระเจริญ" สรรเสริญท่าน
ยามจาก "บังคมคัล" สะอื้นเสียง
มาเถิดมาเอาบ่าเอาไหล่เคียง
ทำสิ่งซึ่งจะหล่อเลี้ยงแผ่นดินเรา

ยามพระทอดพระเนตรมาในคราใด
จะทรงชื่นพระราชหฤทัยยิ่งกว่าเก่า
เมื่อเห็นคนทั้งแผ่นดินไม่ดูเบา
เดินตามทางดั่งเงา...สานต่องาน

งามเอย...งามเถิดพสกไทย
งามด้วย "งาน" ได้ไหมทุกทุกท่าน
งามด้วยจิตโอบเอื้อรู้เจือจาน
งามชื่นบานเพราะคนไทยตั้งใจจริง.


จาก เพจปู จิตกร บุษบา






คลื่นธารทองของพสกฯ
(อีกวันประวัติศาสตร์)

๐ เหลืองเป็นกําลังพระทัยแด่ในหลวง
เหลืองดั่งห้วงธารทองรองพระบาท
เหลืองให้เสียงซ้องดังไปทั้งชาติ
เหลืองพิลาสให้เรืองรองนองแผ่นดิน

๐ เหลืองให้สีความสุขนั้นลุกโชน
เหลืองพิโลนทุกอณูไม่รู้สิ้น
เหลืองให้โลกทั้งสากลได้ยลยิน
เหลืองระรินให้ความมืดมันจืดจาง

๐ เหลืองให้ความชั่วร้ายมลายฤทธิ์
เหลืองให้มิดรูปรอยความถ่อยกร่าง
เหลืองให้รักโดดเด่นทุกเส้นทาง
เหลืองสล้างให้ดวงตาได้จารึก

๐ เหลืองให้เห็นพลังเงียบยะเยียบแย้ม
เหลืองให้แก้มแต้มยิ้มอิ่มรู้สึก
เหลืองให้เห็นรูปธรรมในสํานึก
เหลืองผลึกถวายสวัสดิ์กษัตรา

๐ เหลือง หัวใจเหล็ก ให้เด็กมันดู
เหลืองจากความเชิดชูเหนือเกศา
เหลืองให้เด็กสว่างไสวนัยนา
เหลืองจงรักพระราชาเป็นอย่างไร


เพลงผ้า ปรพากย์ ร้อยกรองถวาย
๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
ประชาชนเฝ้ารับเสด็จในหลวง-พระราชินีและพระบรมวงศ์
ในการเสด็จเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต
ที่วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง เมื่อ ๑ พ.ย.๖๓
จาก เพจชโลธร ควรหาเวช






น้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้

๐ นํ้าพระทัยหยาดลงตรงทุกฝ่าย
จะเลือกซ้าย เลือกขวา ก็หาไม่
พระเมตตาทรงหยิบยื่นทั้งผืนไทย
ราชประชาสมาสัย รวมใจรัก

๐ นํ้าพระทัยกษัตราชื่นสาโรจน์
ล้วนประโยชน์ผ่องเพ็ญอยู่เป็นหลัก
รินชโลมบริบาลมานานนัก
สมเป็นราชอาณาจักรแห่งอาทร

๐ เฉกโพธิ์ทองแผ่ก้านตระการคง
นั้นไม่เคยเลือกวิหงค์มาหลบร้อน
โพธิ์สง่าทุเลารินทินกร
โอบเอื้อทุกสัญจรอย่างเมตตา

๐ นํ้าพระทัยหยาดลงตรงทุกที่
เย็นเกศีไปทุกห้วง แล้วปวงข้าฯ
ยิ่งนานวัน ยิ่งผ่องเพ็ญเป็นราชา-
งามสง่าด้วยทรงกลดทศธรรม

๐ หลอมเป็นหนึ่งพึ่งพา ประชา-ราช
ประเทศชาติเป็นศรี-สุข ทุกฉนํา
สร้อยแสงดาวพราวพร่างสว่างนํา
ดับแสงดําในดวงตาประชาชน


เพลงผ้า ปรพากย์ ร้อยกรองถวาย
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
จาก เพจชโลธร ควรหาเวช






พระเสโทไหลหล่อพระวรกาย

ด้วยทรงงานถวาย...ทูล'หม่อมพ่อ

โปรยยิ้ม ทายทัก รักเกินพอ

ประชาชนที่เฝ้ารอ ก็รักพระองค์.


จาก เพจปู จิตกร บุษบา






ฟ้าห่มดิน

ดุจแสงสุรีย์ศรีจากแดนสรวง
มาห่มห้วงพิภพให้อบอุ่น
อวลละอองทองทบนพคุณ
ละเมียดละมุนสว่างอยู่กลางใจ

แม้ต่างวัน ต่างเวลา สุธาสถิต
จะต่างในพระราชกิจ ก็หาไม่
ต่างรัชกาล ต่างพระองค์ดํารงชัย
แต่ความรักจากปวงไทยมิต่างเลย


เพลงผ้า ปรพากย์ ร้อยกรองถวาย
๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
จาก เพจชโลธร ควรหาเวช


31



เกิดในรัชกาลที่ ๙

ก้าวย่างสู่รัชกาลที่ ๑๐

ใต้ร่มพระบารมี

เทิดไว้เหนือเกล้าในแผ่นดิน

เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทย

ตลอดกาลนานเทอญ


จาก เพจหัวใจเดียวกัน หนึ่งเดียว





ขัตติยวงศ์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน





















ศิลปินผู้วาดพระบรมสาทิสลักษณ์...ครูนพแก้ว ประยูรเมธา
ขออภัยที่หาข้อมูลเกี่ยวกับท่านไม่ได้เลย ในเพจของครูก็มีข้อมูลแค่ว่า
ศึกษาที่วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ ปัจจุบันสอนที่โรงเรียนไตรภูมิวิทยา


พระบรมสาทิสลักษณ์และข้อมูลจาก
เพจนพแก้ว ประยูรเมธา














'นภันต์ เสวิกุล' ผู้บันทึกย่างพระบาทที่ยาตรา


เรื่องเล่าจากหัวใจช่างภาพผู้ถวายงานการบันทึกภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เบื้องหลังภาพถ่ายหลายภาพที่ถูกแชร์ออกไปในโลกโซเชียล คือผลงานของผู้ชายคนนี้ ทว่า เหตุผลในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาแม้เพียงเล็กน้อยที่จะแสดงความเป็นเจ้าของภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความมุ่งหวังเพียงอย่างเดียวคือการเล่าถึงพระวิริยะอุตสาหะของพระองค์ที่ได้สัมผัสตลอดระยะเวลาของการทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท

๗๐ ปี สอน

๗๐ ปี จำ .. แต่ไม่ค่อยทำ

ที่จริง ผมว่า ผู้คนจำนวนไม่น้อย คงมีความสับสนอยู่บ้าง ว่าในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านครองราชย์กี่ปี?

ผมตอบให้ได้ว่า ๗๐ ปี ..

แต่บางคนอาจทำคิ้วขมวด ว่า "ก็พระองค์ท่านบรมราชาภิเษก พ.ศ. ๒๔๙๓ นี่นา"

ก็จะเล่าต่อว่า พระองค์ท่านทรงครองราชย์ตั้งแต่วันที่ ๙ มิถุนายน .. อันเป็นวันที่ ร.๘ เสด็จสวรรคต .. แล้วก็เสด็จฯกลับไปศึกษาต่อ (คนไทยมักจำวันนี้ได้ ที่ทรงเขียนไว้ในงันที่เสด็จฯกลับสวิตเซอแลนด์ ว่า "..มีราษฎรร้องขึ้นว่า "ในหลวงอย่าละทิ้งประชาชน")

เมื่อทรงสำเร็จการศึกษา ก็เสด็จฯนิวัติประเทศไทย พอจัดงานพระเมรุถวาย ร. ๘ แล้ว จึงได้ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ และมีพระปฐมบรมราชโองการว่า "จะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม"

ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีที่ทรงครองราชย์ .. นอกจากทรงงานอันมากมายเหลือคณานับแล้ว ยังได้พระราชทานพระบรมราโชวาทอีกนับพันๆครั้ง ถ้าพสกนิกรผู้ใด น้อมนำรับใส่เกล้า นำมาปฏิบัติให้ได้สักส่วนหนึ่ง เชื่อเหลือเกินว่า ประเทศชาติของเรา จะร่มเย็นเป็นสุข ผู้คน มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม ยากจะหาผู้คนในชาติอื่นใดเทียบเทียมได้

วันนี้ แทบจะเวลานี้ เมื่อ ๔ ปีล่วงมาแล้ว นับแต่พระองค์ท่านเสด็จสู่วรรคาลัย ..

ขอวิงวอนพวกเราทั้งหลาย ร่วมน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน ด้วยการประพฤติดี ประพฤติชอบ มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อ ให้อภัย ไม่ถือโกรธ ช่วยกันพาประเทศชาติบ้านเมือง ผ่านวันเวลาอันยากลำบากที่กำลังเผชิญอยู่ เพื่ออุทิศถวายแด่พระองค์ท่าน .. เพราะไม่มีใครแล้ว ที่จะรักเมืองไทย รักคนไทย เท่าพระองค์ท่าน ..

“ผมเป็นคนทำโปรดักชั่น สมัยใหม่ก็ต้องบอกว่าเป็นโปรดักชั่นเฮาส์ และออแกไนเซอร์ เจ้าแรกของเมืองไทย ผมก็เป็นคนที่ทำสไลด์มัลติวิชั่นคนแรกที่เข้าไปสู่วงการโฆษณา ก็ทำให้ได้ไปทำงานให้กับคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติอยู่หลายปี จนกระทั่งในที่สุดตัวเองก็ได้เป็นคณะอนุกรรมการภาพนิ่งและภาพยนตร์ของสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ ร่วมกับผู้ใหญ่หลายคนที่ผมเคารพนับถือ”
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ ‘นภันต์’ ช่างภาพหนุ่มในเวลานั้นได้มีโอกาสติดตามขบวนเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนราษฎร

.“ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๐ กรรมการก็มอบหมายให้ผมเป็นคนที่ทำงานเก็บข้อมูลเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ปีแรกทำเรื่องรัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๙ ซึ่งในส่วนของรัชกาลที่ ๙ ทำให้ผมต้องตามเสด็จฯ แล้วก็ตามอยู่หลายปี ประมาณ ๖-๗ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๒ เป็นต้นมา โดยช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๒ -๒๕๒๕ เป็นช่วงเวลาที่ตามเสด็จฯเยอะ เพราะว่าเตรียมข้อมูลสำหรับงานฉลองกรุงเทพฯ ๒๐๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕”
เขาว่า แม้ภารกิจการถ่ายภาพจะไม่ได้เกินความสามารถ แต่งานครั้งนี้ก็หนักหนาสาหัสกว่าทุกงานที่ผ่านมา

“ปีแรกนี่เหนื่อยเลยเพราะว่าเราอยู่ประมาณรถคันที่ ๑๓, ๑๔, ๑๕ เมื่อพระองค์ท่านจอด... คือระหว่างเสด็จพระราชดำเนิน ถ้าพระองค์ท่านต้องพระประสงค์ พระองค์ท่านจะจอดก็จอด เพราะพระองค์ทรงขับรถเอง จอดปุ๊บเราก็วิ่งลงไป กว่าจะถึงเนี่ยบางทีพระองค์คุยจบแล้ว แล้วเราจะยืนคอยรถอยู่ก็ไม่ได้ ต้องวิ่งสุดชีวิตกลับมา ช่วงแรกมีผมคนเดียว ช่วงปีที่สองที่สามต่อมา คุณหญิงคณิตา เลขะกุล บ.ก.อนุสาร อสท.ในเวลานั้นตามไปด้วย เพราะท่านก็เป็นอนุกรรมการด้วย อีกคนที่มาหลังผมหน่อยก็คือคุณดวงดาว สุวรรณรังษี ที่เป็น บ.ก. อนุสาร อสท. รุ่นหลังๆ นั่นก็วิ่งกับผมมาเหมือนกัน”

ทุกเส้นทางที่พระองค์เสด็จฯ ไปทรงงาน เรื่องความยากลำบากไม่ต้องพูดถึง บางพื้นที่ต้องเดินเท้านานนับชั่วโมง

“เอาง่าย ๆ อย่างไปแม่แจ่ม สมัยโน้นไม่ใช่ขึ้นไปอินทนนท์แล้วลงมามีถนนลาดยางลงถึง ไม่ใช่ ต้องไปอ้อมฮอดแล้ววกเข้ามาข้างใน ถนนไม่มี ทางลูกรังอย่างเดียว ก็แปลว่าจะไปแม่แจ่มนี่สิบชั่วโมงไม่ถึง ขับรถไม่ถึง ไม่ใช่ไม่ถึงสิบชั่วโมงนะ สิบชั่วโมงไม่ถึง ออกตีสามบ้าง ตีสองบ้าง

แต่เราว่าลำบากแล้วพระองค์ท่านลำบากกว่าเราอีก เพราะว่าบางทีเราได้รูปแล้วเราก็หยุด แต่พระองค์ท่านยังไม่ได้น้ำ น้ำหมายความว่า พระองค์ทรงไปหาน้ำให้ชาวเขา เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขาไปสามลูกสี่ลูก บางทีเราก็ไม่ตาม”

เมื่อมองย้อนกลับไป นภันต์ยอมรับว่า แม้ตัวเองจะเหนื่อย “แต่พระองค์ท่านเหนื่อยกว่าแน่ ๆ แต่ไม่แสดงออก”

“อย่างที่เสด็จฯ ปลวกแดงเนี่ย วันนั้นทหารเป็นเจ้าภาพ เขาก็ไปปรับที่ เพราะราษฎรทั้งระยอง ทั้งปราจีนฯ มากันเต็ม ซุ้มรับเสด็จฯ นี่ยาวเป็นกิโล เขาก็เอาหินฝุ่นหยาบมาโรย สวยนะครับ แต่ร้อนนะฮะ ร้อนแบบสาหัสเลย แล้วมันก็คมด้วย เราเดินไปแป๊บเดียวก็จะเป็นลมแล้ว พระองค์ท่านประทับอยู่ถึงสี่ทุ่มกว่า”

พ้นจากอุปสรรคเรื่องการเดินทาง ภารกิจที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือการบันทึกภาพพระราชจริยวัตรให้สมพระเกียรติ

“สมัยนั้นสำนักพระราชวังค่อนข้างเข้มงวดในการถ่ายภาพพระราชอิริยาบถของเจ้านายทุกพระองค์ เช่น ก้าวเดินไม่ได้ ต้องให้พระองค์หยุดแล้วถึงถ่ายรูป ทำให้บางทีเราในฐานะคนทำสารคดีก็จะถูกเอ็ดประจำว่ารูปที่นำมาเผยแพร่เนี่ยพระองค์ไม่สวยในสายตาของผู้ใหญ่ แต่ผมคิดว่าการที่พระองค์ทรงมีพระเสโทเต็มพระพักตร์ ต่าง ๆ นานา สามารถถ่ายทอดสื่อความหมายได้ รุ่นผมก็จะกลายเป็นรุ่นหัวแข็ง ผู้ใหญ่ก็อาจจะโกรธ แต่ว่าเราก็ทำงานของเรา”

สำหรับการถ่ายภาพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ช่างภาพคนนี้บอกว่า ความง่ายอยู่ตรง “พระองค์ประทับนิ่งและนาน” ส่วนความยากคือเรื่องสภาพแวดล้อม

“เรื่องที่พระองค์ท่านทรงคุยกับราษฎรก็จะเป็นเรื่องเดิม ๆ ทรงรับสั่งถามว่า พอมีพอกินไหม อะไรคืออุปสรรคปัญหา น้ำมีไหม น้ำอยู่ที่ไหน ปีนี้ได้ข้าวเท่าไหร่ ต่าง ๆ นานา พระราชอิริยาบถของพระองค์นิ่ง ๆ เพราะฉะนั้นการถ่ายภาพก็ง่าย แต่เราอยู่ในตำแหน่งที่ถ่ายยาก เพราะว่าจะมีองครักษ์ เจ้าหน้าที่กองราชเลขาธิการ ถ้าเป็นปักษ์ใต้ก็จะมีล่าม ซึ่งจะบัง เราก็ต้องหลบ หลบเหลี่ยมให้พ้นแล้วก็ไม่ทำอะไรที่เป็นที่ผิดสังเกต เช่น ไม่ยุกยิก ต้องรู้ว่าถ่ายรูปแล้วต้องรีบลดกล้อง หลีกเลี่ยงการใช้แฟลช อันนี้เราก็จะรู้หน้าที่อยู่”
เมื่อถามถึงเบื้องหลังภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่พระองค์ประทับยืนถือแผนที่โดยมีฉากหลังเป็นภูเขา (ภาพปกเสาร์สวัสดีฉบับนี้) ซึ่งมีการแชร์กันเป็นจำนวนมาก นภันต์เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า

“รูปนั้นเป็นวันเสด็จฯ บ้านแกน้อย ที่จริงอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่เลย ขับรถชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงแล้ว แต่วันนั้นเราขับรถไปสี่ห้าชั่วโมงกว่าจะถึง พระองค์เสด็จฯ มากับเฮลิคอปเตอร์ เราไปยืนรอก่อน โอ้โห...ตัวละลาย เพราะว่าข้างหน้าคือฝุ่นแดงอันมหาศาล ทั้งภูเขาไม่มีต้นไม้เลย มีแต่ความแห้งแล้ง ตรงที่พระองค์เสด็จฯ เป็นบ้านมูเซอแดง แล้วก็เป็นโรงเรียน แล้วระหว่างที่พระองค์ท่านประทับกับราษฎร ผมยืนอยู่ห่างสักประมาณสิบเมตร ถ่ายรูปพระองค์เสร็จก็ยืนคอยอยู่เฉย ๆ ปรากฏว่ามีลมหมุน ฟรืด…ดินแดงก็วนขึ้นมาแล้วก็ไปคลุมพระองค์ท่านจนกระทั่งแผนที่หลุดไปจากพระหัตถ์ข้างหนึ่ง พระองค์ก็ทรงตะปบ ก็เห็นว่าฝุ่นเข้าพระพักตร์ ทุกคนก็ตกใจ พอฝุ่นจางหน่อย ตอนนั้นพระองค์ท่านทรงถอดฉลองพระเนตรออกแล้วทรงเช็ดพระเนตร แล้วทรงกางแผนที่ใหม่ ทรงงานต่อ เราร้องไห้เลย ร้องไห้เพราะว่าพระองค์ไม่ต้องมาอย่างนี้ก็ได้ ก็เป็นภาพที่ตัวเองประทับใจมาก ๆ

หลังจากนั้นอีกสามสิบปีถัดมา ผมไปที่นั่นอีกครั้ง มันเป็นอะไรที่ช็อค เพราะว่าจากภูเขาหลายลูกที่เป็นทะเลทรายในวันนั้น วันนี้มันเขียวไปหมด บ้านแกน้อยก็เป็นโครงการหลวงที่ทำรายได้สูงมาก

ต่อมาเมื่อประมาณสามปีที่แล้ว เนื่องจากผมจบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทางคณะสื่อสารมวลชนก็มาขอหนังสือผมเล่มหนึ่ง ชื่อ ‘ย่างพระบาทที่ยาตรา’ เอาไปเป็นคอนเซ็ปในการทำงานถวายฯ ผมก็เลือกรูปหนึ่งที่ชอบมากก็คือรูปนี้ แล้วให้เขาไปออกแบบมาอีกที ก็ทำออกมาเป็นอย่างที่เห็น เดิมรูปที่ผมถ่ายข้างหลังเป็นภูเขาก่อนทรงงาน แต่รูปที่ทำออกมา ใช้ภาพภูเขาหลังทรงงานเป็นฉากหลังแทน

หลังวันเสด็จสวรรคต เช้าวันที่ ๑๔ ตุลาคม ผมก็โพสต์รูปนี้ ซึ่งเป็นรูปที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ เขียนเจ็ดบรรทัด เล่าให้ฟังว่าตัวเองเห็นอะไรวันนั้น ก็ไม่คิดว่ามันจะถูกแพร่หลายไปมากมาย แสดงว่าคนสมัยนี้เขาก็อยากที่จะเข้าใจอะไรที่สิบบรรทัด”

ในวันที่ทราบข่าวว่าพระองค์เสด็จสวรรคต เขาบอกว่าในความโศกเศร้าเสียใจคือคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองว่า จะทำงานเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจให้มากขึ้น

“รู้สึกเสียใจว่าเรามีเวลาตั้งมากมายที่น่าจะทำอย่างนี้ให้กับเด็กสมัยนี้ ผู้คนสมัยนี้ได้เข้าใจพระองค์ท่าน เพราะแม้กระทั่งลูกผมก็ไม่เคยเห็นพระเจ้าอยู่หัว นอกจากเห็นในโทรทัศน์ ผมก็สัญญากับตัวเองว่าจะทำมากขึ้น”

เหตุผลไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ แต่ทรงเป็นยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์

“มีหลายครั้งที่ผมไปถ่ายภาพพระองค์ท่านแล้วเห็นพระองค์ประทับราบอยู่กับพื้น หัวเข่าเปื้อนทรายเต็มไปหมด ผมเคยยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเมื่อพระองค์ประทับบนบัลลังก์ในวันฉัตรมงคล พอเห็นภาพอย่างนี้เมื่อไหร่ผมก็น้ำตาไหล คือทำไมพระองค์ต้องมาทำอย่างนี้ ทรงงานทุกวัน ตีสามตีสี่ พระองค์ก็ยังทรงงาน พระองค์เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรทุกวัน ๑๑ โมงเช้า กลับมาได้เสวยพระกระยาหารค่ำตอนสี่ทุ่ม เป็นเราก็อยู่ไม่ได้ ไม่มีทาง แต่พระองค์ทรงทำได้ด้วยความเต็มพระราชหฤทัย

โครงการของพระองค์สี่พันกว่าโครงการ ทรงติดตามความคืบหน้าทุกโครงการด้วยพระองค์เอง แล้วโครงการเหล่านั้นก็ได้เดินทางไปสู่ความสำเร็จทุกโครงการด้วยพระองค์เอง ทรงคิดได้อย่างไร ทรงทำได้อย่างไร คนธรรมดาทำไม่ได้ ไม่มีวัน

ในฐานะช่างภาพบางครั้งก็สงสัยว่าพระองค์ท่านทรงถ่ายอะไร บางทีแอบ แอบเลยล่ะ แอบไปยืนข้างหลังว่าพระองค์ทรงถ่ายอะไร คือพระองค์ท่านทรงยกกล้องมาแต่ละครั้งทรงถ่ายของไม่ดีทั้งนั้น ดินแดงแห้งผาก รากไม้ ต้นไม้ล้ม พระองค์ทรงถ่ายภาพเหล่านี้ แต่อีกสิบปีกลับไปดูสิ ตรงนั้นจะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำใหญ่ พระองค์ท่านทรงถ่ายไปต้องคิดไปด้วยแน่ ๆ ว่าจะเอาไปทำอะไร เพราะฉะนั้นสิ่งที่ได้มาจากรูปของพระองค์ก็คือชีวิต”

ในฐานะช่างภาพที่มีโอกาสได้ตามเสด็จฯ และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ข่าวการเสด็จสวรรคตจึงเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเช่นเดียวกับพสกนิกรทั่วไป

“ตั้งแต่เสด็จสววรคตก็ร้องไห้ใหญ่ ๆ สักสองครั้ง มันเหมือนน้ำตาตกในมั้ง ทุกวันนี้ตื่นเช้ามาก็ยังถามตัวเองว่า จริงเหรอ แต่สุดท้ายก็คิดว่า พระองค์ท่านยังอยู่กับเรา ไม่เคยไปไหน พระเจ้าอยู่หัวทรงอยู่รอบ ๆ ตัวเรา ในคอมพิวเตอร์ผมมีแต่รูปพระเจ้าอยู่หัว กล้องถ่ายรูปผมในฐานะช่างภาพ ผมไม่เคยถ่ายรูปคน ใครมาจ้างผมถ่ายรูปคนผมไม่รับงาน เพราะผมคิดว่ากล้องผมถ่ายรูปพระเจ้าอยู่หัว ถ่ายรูปสมเด็จพระนางเจ้าฯ ผมไม่อยากถ่ายรูปอื่นแล้ว ถึงไม่ทำงานก็ไม่อยากถ่ายรูปคนอื่นแล้ว ผมก็จะถ่ายใต้น้ำ ถ่ายภูเขา ไม่ถ่ายคน”

ในวาระแห่งความสูญเสียนี้ นภันต์มีความในใจที่ต้องการส่งถึงคนรุ่นใหม่หรือคนที่อาจจะยังไม่ได้รับรู้ในพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

“เราต้องมีพระเจ้าอยู่หัวอยู่ในหัวใจ อยู่ในจิตวิญญาณของความเป็นคนไทย คนไทยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ไม่ต้องพระองค์ไหน ไม่ต้องอะไร ขอให้มีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่กับคนไทย เราก็จะเป็นคนไทย ถ้าเราคิดว่าเรารักประเทศเรา เราก็ต้องเคารพเทิดทูนพระมหากษัตริย์โดยไม่ต้องมีเงื่อนไข รักแล้วไม่ต้องถาม ไม่ต้องสงสัย ผมไม่เคยสงสัยอะไรเลย...ผมรัก”


ข้อมูลจาก bangkokbiznews.com









บีจีจากคุณเนยสีฟ้า กรอบจากคุณ KungHangGerman

Free TextEditor





Create Date : 05 ธันวาคม 2563
Last Update : 5 ธันวาคม 2563 22:33:58 น. 0 comments
Counter : 4196 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtoor36, คุณmcayenne94, คุณเริงฤดีนะ, คุณSleepless Sea, คุณกะว่าก๋า, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณชีริว, คุณtuk-tuk@korat, คุณหอมกร, คุณทนายอ้วน, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณnewyorknurse, คุณปรศุราม, คุณญามี่, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณTui Laksi, คุณkae+aoe, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณmultiple, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณSai Eeuu, คุณตะลีกีปัส, คุณnonnoiGiwGiw, คุณInsignia_Museum, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.