๑๓ ตุลาฯ ด้วยรักและภักดีชั่วนิรันดร์ พระอาทิตย์ทรงกลดวันพระราชพิธีบวงสรวงราชานุเสาวรีย์ ร.๙ ณ สนามม้านางเลิ้ง สำนักพระราชวัง เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถวายสักการะ ในระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๙.๐๐ น. ก่อนที่จะปิดเพื่อปรับภูมิทัศน์ของอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ ให้เสร็จสมบูรณ์ในปี ๒๕๖๗ “พระผู้มาโปรด” Requiem for King Bhumibol Something beyond sciences ใครฤาเช่นเซ่นสินบน ใครผู้ใดไหนจะหาญให้สั่งฟ้า ใครบัญชามาบังเกิดบรรเจิดเห็น ใครกำหนดบทบันดาลปรากฏเป็น ใครฤาเช่นเซ่นสินบนสั่งคนบัง อาทิตย์ตรงทรงกลดกว้างสว่างแผ่ ให้ชนแลทุกมุมเมืองเมลืองขลัง ใครลบหลู่ดูให้ชัดกระหวัดยั้ง ควรระวังสาบสูญสิ้นแผ่นดินยืน จาก เพจ Boonpachakasem Jeng Sermwatanarkul ครบรอบวันคล้ายวันสวรรคตของ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ปีนี้ นอกจากจะอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์วันบวงสรวงและวันที่ทำพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์แล้ว ขอรำลึกถึงพระองค์ท่านด้วยการอัญเชิญพระบรมสาทิสลักษณ์ผลงานของ คุณสุรเดช แก้วท่าไม้ มาให้ชมกันค่ะ ได้เห็นผลงานของ คุณสุรเดช ครั้งแรกในนิตยสารพลอยแกมเพชร ชอบสุด ๆ ทั้งลายเส้นและโทนสี หลังจาก หลังจากในหลวงร.๙ เสด็จสวรรคต คุณสุรเดช วาดภาพพระองค์ท่านทรงเปียโนและมีแมวติโตมองอยู่ รายการ "ผู้หญิงถึงผู้หญิง" ของช่อง ๓ เชิญท่านมาสัมภาษณ์ เราได้ดูพอดี เลยหาคลิปดูย้อนหลังแล้วแคปรูปเก็บไว้ ต้องขออภัยที่ภาพอาจไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่พระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวง ร.๙ จะชัดมาก อัญเชิญมาจากเพจของคุณสุรเดช พระบรมสาทิสลักษณ์แต่ละองค์วาดได้อย่างงดงามจับตาและยังตั้งชื่อได้อย่างไพเราะจับใจมากค่ะ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ อัพบล็อกนี้ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ พระองค์จะสถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า บล็อกเกอร์ไฮกุและครอบครัว มหาราชภูมิพล ๑๓ ตุลาฯ ๒๕๖๕ ครบเวลา ๖ ปี ผลัดศรีสูรย์ นวมินทร์ปิ่นฉัตรจรัสจรูญ เสด็จคืนอังกูรทิพย์อาภา ๖ ปีที่พระองค์ทรงลาจาก ๖ ปี ที่ถูกพรากแก้วเกศา ไม่มีวันไหนไม่คิดถึงพระราชา พระผู้เป็นยอดบิดาของแผ่นดิน มองดินมองฟ้า มองป่า-ฝาย ล้วนมีองค์พระฤๅสายอยู่ทั้งสิ้น นานาประโยชน์สร้างสุขทุกชีวิน นํ้าพระทัยภูมินทร์ดุจสายธาร ปวงประชาได้เก็บเกี่ยวประโยชน์ผล เพราะองค์ภูมิพลทรงสร้างฐาน พระพากเพียรมั่นคงทุกทรงงาน บริบาลด้วยพระทัยผู้พิทักษ์ ฝากรําพันไปกับลมที่พรมสาย ทูลถวายบาทบงสุ์ผู้ทรงศักดิ์ แสนคิดถึงจอมบดินทร์ มิสิ้นภักดิ์ ปวงไทย ยังสุดรักสุดบูชา พระผู้สถิตในดวงใจนิจนิรันดร์ ด้วยสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณอันมิสิ้นสุด เพลงผ้า ปรพากย์ ร้อยกรองถวาย ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ จาก เพจชโลธร ควรหาเวช "นิทานความรัก" ไม่เคยหวังพึ่งพา.."ชะตาชีวิต" ถึง"อาทิตย์อับแสง"..แฝงความเศร้า แม้"สายลม"นั้นอาจเกินคาดเดา "ฝน"กำลังตั้งเค้า.."เราสู้"ทน คืนนี้จันทร์ไม่แหว่งตะแคงข้าง จึงสว่างพร่างพรายกลาง"สายฝน" อยากให้เธอนั้นได้"ไกลกังวล" "เตือนใจ"ตนให้พ้นจากฝนพรำ แต่"แก้วตาขวัญใจ"..ไปไหนหนอ? ปล่อยฉันรอจนใจไหวระส่ำ หลังจากฝนหล่นสายมาร่ายรำ โปรดช่วยทำให้ทุกอย่างกระจ่างที ถ้า"ดวงใจกับความรัก"จักต้องจบ เธออย่าหลบตาฉัน..หันหน้าหนี ขออย่าได้ลวงหลอกบอกดีดี ฉันพร้อมที่จะ"ยิ้มสู้"อย่างผู้แพ้... แล้วเสียง"แว่ว".."คำหวาน"ผ่าน"ลมหวน" ดังย้อนทวนลมซัดที่พัดแผ่ เธอบอกว่า.."แสงเทียน"อาจเปลี่ยนแปร แต่"รัก"แท้แสงมันนั้นเรืองรอง พอ"แสงเดือน"เลื่อนรับจับผิวเนื้อ แก้มนั้นพลันระเรื่อ.."เมื่อโสมส่อง" วจี..ที่เธอนั้นได้กลั่นกรอง มาจากทุกทุกห้องของหัวใจ นี่มัน..คือ"ความฝันอันสูงสุด" ที่มนุษย์ผู้หนึ่ง..พึงมีได้ แค่"ยามค่ำ".."ยามเย็น"ได้เห็นใคร "ลมหนาว"ซัดพัดใส่..ไม่สำคัญ "ในดวงใจนิรันดร์"..นั้นคือรัก ให้เธอพักเคียงข้าง..ร่วมสร้างฝัน "ใกล้รุ่ง"แล้วฟ้าอาจขาดแสงจันทร์ แต่รักนั้นยังคงมั่น..ฉันสัญญา คุณภกฺติ ร้อยกรองถวาย จาก เพจ भक्ति : " ภกฺติ " แผ่นดินร่ำน้ำตาทุกสารทิศ แผ่นฟ้ามืดมิดสนิทด้วยเมฆฝน เมฆกลั่นเป็นน้ำตาฟ้าเบื้องบน น้ำตาคนก็หลั่งไหล...ใจชุ่มนอง มือประณมก้มกราบ...ทุกข์อาบหน้า เหมือนจะสิ้นวิญญาณ์พาหม่นหมอง ต่อแต่นี้หัวใจใครจะครอง และจะมองแหงนหน้าหาผู้ใด อนิจจาธานินทร์สูญสิ้น ‘พ่อ’ ‘พ่อ’ ผู้ทรงเกื้อก่อทุกสิ่งให้ ‘พ่อ’ ผู้เป็นเชือกน้อยร้อยมาลัย อันดอกดวงคือดวงใจ...พสกนิกร เมฆฟ้าร่ำน้ำตาเป็นห่าฝน แผ่นดินฉ่ำน้ำตาคนถึงสิขร ขวัญเอ๋ยขวัญ...ทั้งดินแดนล้วนแคลนคลอน กราบขอพรเทพสวรรค์ทุกชั้นฟ้า รับเสด็จ ‘พ่อหลวง’ สู่สรวงสวรรค์ บริบาลพระทรงธรรม์เป็นขวัญหล้า คราใดที่ ‘พ่อ’ ทอดพระเนตรมา รู้เถิดปวงประชารักกว่าใคร ไม่ว่า ‘พ่อ’ อยู่ที่นี่หรือที่นั่น ไม่ว่า ‘พ่อ’ อยู่แห่งนั้นหรือแห่งไหน ‘พ่อ’ ก็จะประทับมั่นนิรันดร์ไป คือประทับในหัวใจ...ไทยทุกคน จิตกร บุษบา ร้อยกรองถวาย ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ จาก เพจปู จิตกร บุษบา ’ฝึกฟื้นใจเมือง’ ๖ ปี" ผ่านไป..... แต่ความตอนหนึ่ง ที่ "สำนักพระราชวัง" ประกาศ เรื่อง "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร" สวรรคต ยังฝัง "หัวใจจำ" คนไทย มิเลือน ".......แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ ถึงวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เวลา ๑๕ นาฬิกา ๕๒ นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราชด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ ๘๙ ทรงครองราชสมบัติได้ ๗๐ ปี" วันนี้ "๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕" วันคล้ายวันสวรรคต "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" รัชกาล ที่ ๙ พระผู้ทรงเป็น "พ่อบนฟ้า" ของข้าแผ่นดินทุกคน เวียนมาถวิลถึงมิคลาย อีกครั้ง และวันนี้ "พ่อบนฟ้า" ของเรา ธ เสด็จลงมาสถิต เป็นขวัญประเทศ ปกเกล้าพสกไทยผู้เป็นดั่งลูกๆ ของพระองค์แล้ว เมื่อวาน (๑๒ ต.ค.๖๕) นายกรัฐมนตรี "พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" โพสต์เฟซ ข้อความ ว่า Prayut Chan-o-cha พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่านครับ เนื่องในโอกาสที่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และ "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี" จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๗.๐๐ นาฬิกา ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นั้น ผมขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โดยพร้อมเพรียงกัน สำหรับ "อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" นั้น เป็นพระราชปณิธานของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และ "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี" ที่ทรงตั้งพระราชหฤทัย..... เฉลิมพระเกียรติ "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" และ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" โดยพระราชทาน "อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ" แห่งนี้ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แนวพระราชพระดำริของทั้งสองพระองค์ ผ่านองค์ความรู้เรื่องป่าและน้ำ อีกทั้งเป็นแก้มลิงรองรับน้ำ และเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ถือว่าเป็น "ปอดแห่งใหม่ ใจกลางกรุง" เพื่อทุกคนอีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน อยู่ในระหว่างดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยจะเปิดให้บริการสู่สาธารณชนในลำดับต่อไปครับ... ก่อนคุยกันต่อ ทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน ว่า.... อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นั้น ก็คือที่เป็น "สนามม้านางเลิ้ง" เดิมนั่นเอง เป็นที่ดิน "ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์" ราชตฤณมัยสมาคมฯ เช่าทำเป็นสนามม้ามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ หมดสัญญาเช่าไปนานแล้ว "สำนักงานทรัพย์สินฯ" ให้ส่งมอบคืนพื้นที่ ๒๗๙ ไร่ และได้รับคืนเรียบร้อย เมื่อ ๔ เม.ย.๖๑ จากนั้น "พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว" ทรงนำที่ดินทั้งหมดนั้น สร้างเป็น "อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ" จุดเด่นสำคัญ คือ "พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" ถือเป็นหัวใจและศูนย์กลางของ "อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ" แห่งนี้ เมื่อ ๑๐ ตุลาที่ผ่านมา..... "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ" เสด็จฯ แทนพระองค์ ไปทรงประกอบพิธี บวงสรวงอัญเชิญ.... พระบรมรูป "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" ขึ้นประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ขณะอัญเชิญพระบรมรูปขึ้นประดิษฐานบนแท่นฐาน ก็เกิดปรากฏการณ์ "พระอาทิตย์ทรงกลด" แม้ขณะนั้น เป็นเวลากว่า "บ่ายสี่โมงเย็น" แล้วก็ตาม ดังภาพที่เผยแพร่กันกว้างขวางขณะนี้ "พระบรมราชานุสาวรีย์" รัชกาลที่ ๙ แห่งนี้ ในหลวงและพระราชินี เสด็จฯ มาทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐาน เมื่อ ๕ ธ.ค.๖๔ และ ๑๓ ก.ค.๖๕ ทั้งสองพระองค์ เสด็จฯ ไปทรงเททองหล่อ "ส่วนพระเศียร" พระบรมรูป ณ พระอุโบสถ "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" พระบรมมหาราชวัง และวันนี้ ๑๓ ต.ค.๖๕ พระบรมรูปทั้งพระองค์อันเสร็จสมบูรณ์นั้น ได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนแท่นฐานเรียบร้อยดังกล่าว "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และ "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี" จึงเสด็จฯ มาทรงเปิด "พระบรมราชานุสาวรีย์" และเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป เข้าร่วมพิธีด้วย ก็นี่แหละ ผมจึงนำมาบอกต่อ.... เป็น "โอกาสแรก-โอกาสเดียว" ที่เราทั้งหลาย จะได้เข้าเฝ้าฯ "พ่อบนฟ้า" ซึ่งสถิต ณ บนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ เป็น "แก่นเมือง-แก่นใจ" ประชานิรันดร์ ทั้งได้เฝ้าฯ รับเสด็จ "พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว" และ "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี" ในโอกาส "มหามงคล" อันหาได้ยากยิ่ง พระปฐมบรมราชโองการ ณ วันเสด็จขึ้นครองราชย์ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป" นับต่อจากนี้ ก็ถึงครา..... ..........สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร เจิดหล้า บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมืองฯ เป็นที่ "ประจักษ์ตา-ประจักษ์ใจ" อาณาประชาราษฎร์ อีกทั้ง "พ่อบนฟ้า" ธ เสด็จลงมา "ฝึกฟื้นใจเมือง" ณ กาลนี้แล้ว จาก "ถิ่นกาขาว" ในรัชกาล ที่ ๙ ก็ถึงครายุค "ชาววิไล" ในรัชกาลที่ ๑๐ ณ กาลตราบต่อจากนี้ไป. จากคอลัมน์ "คนปลายซอย" โดย เปลว สีเงิน ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ ผลงานวาดพระบรมสาทิสลักษณ์อันงดงามของ คุณสุรเดช แก้วท่าไม้ จาก เพจสุรเดช แก้วท่าไม้ ภาพจากรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง เมื่อปี ๒๕๕๙ ไม่นานมานี้ โลกออนไลน์ได้เผยแพร่พระบรมฉายาทิสลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะทรงกำลังประทับอยู่หน้าเปียโนเพื่อพระราชนิพนธ์เพลง โดยมีแมวน้อยยืนเมียงมองไม่ห่าง สีสันลายเส้นอันงดงามวิจิตร ทว่าดุดันทรงพลัง สะกดจิตสะกดใจผู้ชมยิ่งนัก ภาพดังกล่าวเป็นผลงานของ สุรเดช แก้วท่าไม้ ศิลปินรุ่นใหญ่วัย ๕๓ ภาพที่เจ้าตัวสารภาพว่าเขียนขึ้นมาพร้อมคราบน้ำตา “นอกจากรูปพ่อรูปแม่ ผมชอบเขียนรูปในหลวง เพื่อเป็นบุญบารมี เป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเอง ผมได้รับแรงบันดาลใจจากภาพคัทเอาท์โรงหนัง สมัยนั้นเวลาถึงวันเฉลิมทีพระชนมพรรษาจะมีภาพเขียนในหลวงขนาดใหญ่ สวยเด่นจนต้องมองเหลียวหลัง ผมก็หัดวาดมาเรื่อย ใครวาดรูปเก่งก็จะได้ติดบอร์ดโรงเรียน เลยเถิดมาจนกระทั่งตอนโต รับจ้างเขียนหาเงินเรียนหนังสือ หรือเขียนเพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสสำคัญ ๆ” สุรเดช เล่าว่า การวาดรูปในหลวงนั้นยากที่สุดในบรรดารูปคนเหมือนทั้งหมด เนื่องจากชาวไทยทั้งประเทศต่างรู้จักพระองค์ท่าน และคุ้นเคยกับภาพในหลวงบนฝาบ้านไม่ต่างจากภาพถ่ายสมาชิกครอบครัว ฉะนั้นหากวาดผิดเพี้ยนนิดเดียวคนจะรู้ได้ทันที “เขียนรูปคนยากที่สุดแล้ว ถ้าเขียนรูปอื่นแล้วคลาดเคลื่อนไปสักหนึ่งหรือสองนิ้ว คนดูก็ยังไม่รู้สึกว่าผิดเพี้ยน แต่เขียนรูปคนผิดไปแค่เซนต์เดียวก็ไม่เหมือนแล้ว การวาดรูปในหลวงศิลปินจะเกร็งมาก เครียด ไม่เหมือนไม่ได้เลย เพราะคนจะมองว่าคุณฝีมือไม่ถึง เวลาเขียนรูปในหลวง ผมจะยึดตามคำสอนของ อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต นั่นคือ เวลาท่านเขียนรูปในหลวง เราไม่มีวันรู้เลยว่าท่านเอามาจากภาพต้นฉบับไหน ท่านจะไม่ยึดภาพใดภาพหนึ่งเป็นหลัก แต่จะหยิบเอาจากหลาย ๆ ภาพมาผสมผสานกันเพื่อสร้างชิ้นงานใหม่ขึ้น” ศิลปินทุกคนเมื่อก้าวสู่คำว่า ‘มืออาชีพ’ ผลงานที่ออกมาล้วนมีสไตล์เฉพาะตัวปรากฎให้เห็นอย่างเด่นชัด เช่นเดียวกับภาพเขียนในหลวงชิ้นล่าสุดของสุรเดช ผลงานภาพเขียนชิ้นล่าสุดที่สุรเดช แก้วท่าไม้บอกว่า ‘เขียนขึ้นพร้อมคราบน้ำตา’ “ขณะเขียนรูปนี้ผมอยู่ที่หัวหิน ทะเลยามนั้นราบเรียบ ฟ้าครึ้มเหมือนฝนกำลังจะตั้งเค้า บรรยากาศมันซึมๆเหงาๆ ทันทีที่ทราบข่าว น้ำตาผมก็ไหลออกมา” สุรเดชบอกเสียงเศร้า ก่อนอธิบายที่มาของภาพให้ฟังต่อว่า “ในภาพ พระองค์ท่านทรงเล่นเปียโนแต่งเพลงอยู่ ผมให้ลูกชายซึ่งเรียนด้านดนตรีวิเคราะห์การวางนิ้วของท่าน บวกกับหาข้อมูลเมื่อครั้งท่านเสด็จไปยังเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า ท่านแต่งเพลงอะไรไว้บ้าง สรุปแล้วน่าจะเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ชื่อเทวาพาคู่ฝัน โดยมีแมวชื่อติโตนั่งยิ้มมองมาอย่างมีความสุข เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตแรกที่ได้ฟังเพลงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ของพระองค์ท่าน” เผยแพร่บทความเมื่อ ๑๔​ ก.พ. ๒๕๖๑ ปีเกิด พ.ศ. ๒๕๐๖ การศึกษา             ศิลปบัณฑิต (จิตรกรรม) คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์  มหาวิทยาลัยศิลปากร   การแสดงผลงาน/ประสบการณ์การทำงาน : ๒๕๒๘-๒๕๒๙         การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ  ครั้งที่ ๘, ๙ ๒๕๓๕                 การแสดงนิทรรศการสีน้ำ “Impressions of Nature” กรุงเทพฯ ๒๕๓๖                 การแสดงนิทรรศการ “10th Art Exhibition in Commemoration of 50th  Anniversary” ที่กรุงเทพฯ  ชลบุรี  และเชียงใหม่ ๒๕๓๖-๒๕๓๘         การแสดงศิลปกรรมของอาจารย์คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์  มหาวิทยาลัยศิลปากร  ครั้งที่ ๑๐-๑๒ ๒๕๓๗                 การแสดงนิทรรศการศิลปกรรม “Landscape” ที่ Thailand Culture Centre  กรุงเทพฯ ๒๕๓๘                 การแสดงนิทรรศการ “Asian Watercolor” ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป กรุงเทพฯ ๒๕๓๙                 การแสดงนิทรรศการ “The Exposition De Koning Van Siam” ณ พิพิธภัณฑ์ Westfries  ประเทศเนเธอร์แลนด์ ๒๕๔๐                 การแสดงนิทรรศการ “White Group Art Exhibition”, Aben Adademia, Mannham ประเทศเยอรมนี ๒๕๔๑                 การแสดงนิทรรศการ “Thai Version I”, Calpoly ประเทศสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ๒๕๔๙ การแสดงนิทรรศการ “มากกว่าที่ตาเห็น” หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ๒๕๕๐ การแสดงนิทรรศการจิตรกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ “พระผู้ทรงงอานอันยิ่งใหญ่” หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ข้อมูลจาก siammanussati.com sculpture-deva.blogspot.com พระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์ ภาพและข้อมูลจาก thaipost.net เพจภาพพ่อ เพจ Kamron Pramoj เพจชูเกียรติ รัตนเสรีเกียรติ เพจ Matthew Buakham (M) บีจีและไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ ebaemi คุณ KungHangGerman และคุณ Hawaii_Havaii Free TextEditor Create Date : 14 ตุลาคม 2565 Last Update : 21 ตุลาคม 2565 4:34:46 น. 0 comments Counter : 1466 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณDeep Black Sea, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse, คุณeternalyrs, คุณSleepless Sea, คุณThe Kop Civil, คุณปรศุราม, คุณกิ่งฟ้า, คุณเริงฤดีนะ, คุณ**mp5**, คุณkae+aoe, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSertPhoto, คุณร่มไม้เย็น, คุณทนายอ้วน, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณInsignia_Museum, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณชีริว