Bloggang.com : haiku :

เสพงานศิลป์ ๔๘

ภาพจากเวบ deviantart.com


	"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ บางสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย ในงานศิลปของฉัน ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

Romance - Yuhki Kuramoto

ดวงตราไปรษณียากร "อัคราภิรักษ์ศิลปิน”

พระบรมสาทิสลักษณ์และข้อมูลจาก
นสพ.คม ชัด ลึก ๒๗ ก.ค. ๒๕๕๖
เฟซบุค ThaiStamp Shop

"ไปรษณีย์ไทยในงานแสตมป์โลก”

ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๕ ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน แสดงตราไปรษณียากรระดับโลก พ.ศ. ๒๕๕๖ (THAILAND 2013 WORLD STAMP EXHIBITION) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๒-๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ ชั้น ๕ พารากอนฮอลล์ โดยปีนี้ ทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เนรมิตให้เป็นอาร์ตแกลลอรีสุดอลังการ เปิดมิติแห่งการเรียนรู้งานศิลป์ผ่านดวงแสตมป์ ภายใต้แนวคิด "ศิลปะและความสุข" (Art and happiness) ทั้งนี้ ยังคงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์การจัดงาน

ภายในงานจะมีการนำเสนอคอลเลคชั่นแสตมป์ที่เกี่ยวกับงานศิลปะอันเป็นมรดกโลก ท่ามกลางบรรยากาศของศิลปะแขนงต่างๆ ที่มาร่วมเติมสีสัน ในส่วนของตราไปรษณียากร นอกจากโชว์แสตมป์ที่ติดอันดับหายากที่สุดในโลกแล้ว ยังได้จัดแสดงผลงานการประกวดแสตมป์จากนักสะสมทั่วโลกกว่า ๒,๕oo แผง และเอาใจนักสะสมแสตมป์ด้วยร้านจำหน่ายแสตมป์กว่า ๑oo ร้าน ที่มีแสตมป์ให้เลือกหลากหลายแบบ ตลอดจนเป็นโอกาสครบ ๑๓o ปี กิจการไปรษณีย์และแสตมป์ดวงแรกของไทย ยังมีนิทรรศการบอกเล่าความเป็นมาของไปรษณีย์ไทยและแสตมป์ไทย รวมไปถึงนิทรรศการและการออกร้านของการไปรษณีย์อาเซียน

ตลอดจนไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือ การจัดแสดงภาพฝีพระหัตถ์ที่แสดงถึงพระราชอัจฉริยภาพด้านงานศิลปะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมทั้งพระราชทานสิ่งสะสมส่วนพระองค์มาร่วมจัดแสดงด้วย

ก่อนจะไปพบกับงานจริงที่จะเดือนขึ้นเร็ว ๆ นี้ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ เมธิน ลียากาศ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด ตราไปรษณียากร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งเล่าถึงความสำคัญของแสตมป์ไทย ในสมัยรัชกาลที่ ๕ แสตมป์มีบทบาทสำคัญในด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากในปีพระองค์เสด็จฯ ไปดูกิจการไปรษณีย์ที่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย และเล็งเห็นว่าหากประเทศไทยมีกิจการไปรษณีย์ ก็จะทำให้การค้าเจริญรุ่งเรือง ส่งผลให้ตั้งแต่ครั้งนั้นประเทศไทยเจริญไปด้วยการค้าและการติดต่ออย่างมาก แสตมป์ที่ถูกผลิตออกมาเป็นชุดแรก พิมพ์จากประเทศอังกฤษ เทคนิคภาพแกะลายเส้น หรือเปรียบได้กับภาพพิมพ์ไม้ของญี่ปุ่น ซึ่งในสมัยนั้นมีเพียงวิธีเดียว

แต่การสะสมแสตมป์ได้เริ่มขึ้นเมื่อครั้งรัชกาลที่ ๕ ทรงครองราชย์ครบ ๔o ปี จึงได้จัดทำแสตมป์พระบรมสาทิสลักษณ์ ๔ ชุด โดยมีชุดที่โดเด่นที่สุดคือ ภาพพระบรมรูปทรงม้า ที่สั่งจัดทำขึ้นมา ๒ ชุดคือ แสตมป์ใช้ทั่วไปและแสตมป์ที่ระลึก และในรัชสมัยต่อ ๆ ก็เริ่มมีการจัดทำแสตมป์ในวาระโอกาสต่าง ๆ ขึ้นตามลำดับ เช่น แสตมป์ชุดวันชาติ แสตมป์ชุดเฉลิมฉลองในวาระสำคัญของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ แสตมป์ชุดการครบรอบของหน่วยงานราชการสำคัญต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งแต่ละชุดก็จะมีลักษณะพิเศษแตกต่างกันไป เหตุนี้เองจึงทำให้ผู้คนหันมาสะสมแสตมป์กันอย่างแพร่หลาย เพราะแสตมป์ไม่ได้เป็นเพียงตราไปรษณียากรต่อไป แต่ยังเป็นของที่ระลึกในโอกาสต่าง ๆ ของชาติไทยอีกด้วย

เมธินเล่าต่ออีกว่า ในปี ๒๕o๕ คนเริ่มกระแสการสะสมแสตมป์เริ่มมีมากขึ้น เห็นได้จากในปีเดียวกัน ไปรษณีย์ได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมตราไปรษณียากรขึ้น เพื่อให้ผู้ที่รักแสตมป์เข้ามาสมัครเป็นสมาชิก โดยมีผู้สมัครมากถึง ๒,ooo คน เป็นการเปิดช่องทางการรับรู้ของนักสะสม ซึ่งเมื่อครั้งนั้นหนึ่งสมาชิกคนสำคัญคือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ และปัจจุบันแสตมป์ที่สะสมไว้ส่วนพระองค์ ได้ตกทอดมายังพระธิดาองค์ปัจจุบัน จึงเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าดวงแสตมป์ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของการสื่อสารขั้นพื้นฐานเท่านั้น หากรู้จักสะสมเอาไว้ก็เหมือนกับการออมทรัพย์ ยิ่งนานวันก็จะยิ่งมีคุณค่ามากขึ้น ไปรษณีย์ไทยจึงพยายามรณรงค์ให้รู้จักคุณค่าความเรื่องราวของเมืองไทยผ่านดวงแสตมป์

“ยุคการสื่อสารที่มีช่องทางหลากหลาย แสตมป์ถูกใช้น้อยลง แต่ตัวแทนของแสตมป์ในยุคนี้คือนักสะสม ที่ยังมีความเหนียวแน่น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จึงเห็นความสำคัญ และเน้นการพัฒนารูปแบบแสตมป์มากขึ้น เพื่อให้ผู้คนได้เลือกสะสมมากขึ้น ตลอดจนเป็นงานอดิเรกที่มีสารประโยชน์ กล่าวได้ว่าการสะสมแสตมป์จะทำให้เป็นคนละเอียดถี่ถ้วน รู้จักการทะนุถนอม และมีความรู้เพิ่มพูนจากภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละยุค” เมธินปิดท้าย

ปัจจุบันประเทศไทยจัดทำแสตมป์ออกมาทั้งหมด ๑,oo๘ ชุด สามารถเข้าชมได้ในงานแสตมป์โลก ๒o๑๓ และหากต้องการรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย ดวงแสตมป์เป็นสื่ออีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย.

ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaipost.net
dailynews.co.th

"เทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินี โชว์ศิลปะจัดอิเคบานะขนาดยักษ์”

เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนม พรรษา ๘๑ พรรษา และร่วมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานกว่า ๑๒๕ ปี ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม ร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดงาน "เอ็มโพเรียม มาเธอร์เดย์: เลิฟบลอสซัม" (Emporium Mother's Day: Love Blossom) ครั้งแรกในเอเชียกับนิทรรศการศิลปะการจัดดอกไม้ในรูปแบบอิเคบานะขนาดใหญ่ ผลงาน "อาคาเนะ เทชิกาฮารา" แห่งสถาบันโซเกตสึ สุดยอดนักจัดดอกไม้ระดับโลกดีกรีท็อปทรีของประเทศญี่ปุ่น โดยงานดังกล่าวจะจัดให้ผู้สนใจชมฟรีในระหว่างวันที่ ๒ - ๑๓ สิงหาคมศกนี้ ณ ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม

ภายในงาน จัดแสดงอิเคบานะแห่งสถาบันโซเกตสึมากมาย โดยมีผลงานชิ้นไฮไลต์คือ อิเคบานะ อินสตอลเลชั่น ขนาดใหญ่สูงกว่า ๘ เมตร ตั้งอยู่หน้าศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม อวดโฉมความเป็นศิลปะการจัดดอกไม้ชั้นสูงในแบบฉบับอิเคบานะแห่งสถาบันโซเกตสึ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Art, Culture and Nature" ที่เชื่อมโยงศาสตร์และศิลป์ของอิเคบานะและโซเกตสึเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ตระการตาไปด้วยแสงและสีเต็มรูปแบบ รังสรรค์ขึ้นด้วยวัสดุไม้ไผ่สีเขียวสะท้อนภาพของพลังแห่งชีวิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งมักจะถูกนำไปใช้ในโอกาสที่เป็นมงคลฤกษ์ในประเทศญี่ปุ่น

อาจารย์ "อาคาเนะ เทชิกาฮารา" กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบครั้งนี้ว่า "การดีไซน์ด้วยรูปทรงพัดจะแสดงออกถึงจุดหมายปลายทางของความเบ่งบาน ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีของประเทศญี่ปุ่น และปรารถนาที่จะเทิดพระเกียรติพระราชวงศ์ไทยทุกพระองค์ ตลอดจนส่งมอบความสุขให้แก่ประชาชนคนไทยทุก ๆ คนผ่านผลงานชิ้นนี้"

นอกจากนี้ ยังสื่อให้เห็นถึงความหลากหลายในการแสดงออก อาทิ รูปทรงตรงที่ซ่อนความหรูหราสื่อความหมายถึงความซื่อสัตย์, ความงดงามอย่างนุ่มนวลของทรงโค้ง ที่เป็นผลมาจากการตัดกันของเส้นตั้งฉาก, ความสดชื่นมีชีวิตชีวาของสีขาวที่ประกายด้านในและสีเขียวขจีที่ปรากฏอยู่ภายนอก ทั้งยังรวมถึงพละกำลัง, ความนุ่มนวลและความสง่างามซึ่งมีอยู่ในไม้ไผ่ เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยความงดงามที่หลากหลายของหมู่มวลธรรมชาติ เปรียบดุจดั่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แม่แห่งแผ่นดินของปวงชนชาวไทย

ภายในงานบริเวณพื้นที่แฟชั่นอเวนิว ชั้น G และชั้น ๑ ยังได้จัดแสดงผลงานการจัดดอกไม้แบบศิลปะอิเคบานะ ถ่ายทอดความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีมายาวนานหลายร้อยปี ซึ่งถูกสร้างสรรค์อยู่ในแจกันหลากหลายรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป ที่ผสมผสานความประณีตในการคัดเลือกคุณภาพของดอก, ใบ, กิ่ง, ก้าน, วัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เข้ากับองค์ประกอบของศิลปะในการจัด ทั้งในเรื่องของสัดส่วน, ช่องว่าง, สี, แนวเส้นตั้ง, แนวเส้นนอน, ผิวสัมผัส รวมไปถึงความรู้สึก.

ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
animesongsorocaba.blogspot.com

"มุทิตาศิลป์”

นิทรรศการศิลปกรรม “มุทิตาศิลป์ (REJOICING)” เนื่องในวาระอายุครบ ๖o ปี ศาสตราจารย์วิโชค มุกดามณี จัดโดย ภาควิชาจิตรกรรม คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

และขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงานนิทรรศการ วันอังคารที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๘.oo น.
ประธานในพิธี พลเอกมงคล อัมพรพิสิฏฐ์ (อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และอดีตประธานกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)) ณ PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพมหานคร

นิทรรศการ : “มุทิตาศิลป์ (REJOICING)”
วันที่ : ๖ – ๓o สิงหาคม ๒๕๕๖
สถานที่ : PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพมหานคร
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๒๒๑-๓๘๔๑

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

"คอนเสิร์ตจันทร์กลางฟ้า”

การแสดงเครื่องสายจีน ที่เรียกว่า “กู่เจิง” ซึ่งบรรเลงโดย อาจารย์ หลี่ หยาง ศิลปินนักดนตรีกู่เจิงที่มีชื่อเสียง และได้รับรางวัลมากมายจากประเทศจีน เป็นการแสดงที่จะแสดงในคอนเสิร์ต “จันทร์กลางฟ้า : ทิพยสังคีตเครื่องสายจีน” จัดขึ้นโดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค รองศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์จิราพร ลิ้มปานานนท์ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงที่มาของคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า ปัจจุบันมูลนิธิมุ่งเน้นทำงานเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในด้านสุขภาพเป็นหลัก และยังมีการเผยแพร่นิตยสารฉลาดซื้อเป็นรายเดือน เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้อย่างถูกต้องและคุมค่า คอนเสิร์ตครั้งนี้จัดขึ้นก็เพื่อระดมทุนสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิดังกล่าว จึงถือโอกาสนำศิลปวัฒนธรรมชั้นสูงของจีนมาแสดงในรูปแบบของการแสดงสดที่หาชมได้ยากอีก ในคอนเสิร์ต “จันทร์กลางฟ้า : ทิพยสังคีตเครื่องสายจีน” จะจัดแสดงที่ หอประชุม ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันที่ ๕ - ๘ สิงหาคม นี้

ภาพและข้อมูลจากเวบ
curadio.chula.ac.th
เฟซบุค Saree Aongsomwang's

"สีสันพรรณไม้ เทิดไทบรมราชินีนาถ ครั้งที่ ๗ ”

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมงานแถลงข่าว"สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ" ครั้งที่ ๗ ซึ่ง มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ร่วมกับ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรุงเทพมหานคร กรมป่าไม้ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว กรมหม่อนไหม จัดงานสีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ ครั้งที่ ๗ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่พระราชทานโครงการพระราชดำริในด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาิติ และสิ่งแวดล้อม ล้วนเพื่อประโยชน์สุขของปวงชาวนาไทยทั้งสิ้น จึงได้จัดนิทรรศการในรูปแบบนิทรรศการมีชีวิต โครงการพระราชดำริฯ และโครงการพิเศษสุดแต่ละองค์กรที่พัฒนาขึ้นเพื่อมุ่งสู่สากล รวมทั้งการจำหน่ายผลิตผลจากเกษตรกร โดยตรงและผลิตภัณฑ์จากโครงการพระราชดำริ แจกกล้าไม้และพืชผักสวนครัว เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ. อาคารหอประชุมสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

ภาพและข้อมูลจากเวบ
dnp.go.th

"จิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ ๓๕”

การประกวดจิตรกรรมบัวหลวงของมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และปีนี้เป็นปี ที่ ๓๕ แล้วนั้น ได้ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินให้รางวัลเป็นที่เรียบร้อย

มีผู้สนใจส่งผลงานจิตรกรรมทั้ง ๓ ประเภทเข้าประกวดในปีนี้ ๑๔๒ ราย รวมจำนวน ๒๒o ภาพ โดยนำผลงานที่ได้รับรางวัล และผลงานที่ได้รับคัดเลือกร่วมแสดง รวมจำนวนทั้งสิ้น ๘๘ ภาพ มาจัดนิทรรศการจิตรกรรมบัวหลวงครั้งที่ ๓๕ ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

มูลนิธิธนาคารกรุงเทพ นับเป็นองค์กรหนึ่งที่ริเริ่มส่งเสริมและสนับสนุนศิลปินไทยรุ่นต่าง ๆ ให้มีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในสาขางานจิตรกรรมที่มีคุณภาพมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ดังเช่นการจัดเวทีการประกวดจิตรกรรมบัวหลวง ซึ่งจัดมายาวนานต่อเนื่องเป็นครั้งที่ ๓๕ แบ่งการประกวดผลงานออกเป็น ๓ ประเภท ได้แก่ จิตรกรรมไทยแบบประเพณี จิตรกรรมไทยแนวประเพณี และจิตรกรรมร่วมสมัย โดยได้รับเกียรติจากศิลปินบรมครูของวงการศิลปะไทยมาร่วมเป็นคณะกรรมการคัดสรรผลงานคุณภาพอย่างเข้มข้น ในครั้งนี้ผลงานที่ได้รับรางวัลมีรายละเอียดดังนี้

ประเภทจิตรกรรมไทยแบบประเพณี

รางวัลที่ ๑ เหรียญทองบัวหลวง
ผลงานชื่อ “ธรรม บุญ” ของ นายทรงฤทธิ์ เหมือยพรม

ความคิดเห็นงานจิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ ๓๕
โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณชลูด นิ่มเสมอ ประธานกรรมการตัดสินจิตรกรรมบัวหลวง

ประเภทจิตรกรรมไทยแบบประเพณี

รางวัลที่ ๑ ธรรม บุญของ นายทรงฤทธิ์ เหมือยพรม
งานชิ้นนี้ประกอบด้วยสภาพแวดล้อมทางกายภาพ วัฒนธรรมและกระบวนการทางศิลปะ อันได้แก่เทคนิคการปั้นปูนสด สีฝุ่นและทองคำเปลวกลมกลืนกันในแบบประเพณีเป็นอย่างดี พระพุทธไสยาสน์และพระธาตุเจดีย์ที่เป็นโครงภาพ บ่งชี้ถึงพุทธศาสนาในดินแดนอีสาน ภาพนูนต่ำระบายสีของผู้คนที่แสดงอาการรื่นเริงในพิธีบุญ ภาพลายเส้นที่ตัดกันในอีกมิติหนึ่ง เหล่านี้ทำงานร่วมกันจนเกิดผลทางอารมณ์ความรู้สึกและความงามทางศิลปะอย่างลึกซึ้ง ผสมกับเสน่ห์ของความเป็นพื้นถิ่นอีกสานอย่างลงตัว

รางวัลที่ ๒ เหรียญเงินบัวหลวง
ผลงานชื่อ “รัตนจงกรมเจดีย์” ของ นายเมธาสิทธิ์ อัดดก

รางวัลที่ ๒ รัตนจงกรมเจดีย์ของ นายเมธาสิทธิ์ อัดดก
ความสว่างและความจัดอย่างยิ่งของสีตรงใจกลางภาพจนทำให้ลายพฤกษาที่อยู่โดยรอบจางลง ให้ความหมายถึงพระบารมีของพระพุทธองค์โดยเฉพาะพระปัญญาบารมีที่แผ่ครอบคลุมทุกส่วนของจักรวาล จิตรกรแสดงออกถึงความงาม ความน่าตื่นใจด้วยการใช้สีที่สดสว่าง นับเป็นวิธีการใหม่ในงานจิตรกรรมแบบไทยประเพณี

รางวัลที่ ๓ เหรียญทองแดงบัวหลวง
ผลงานชื่อ “ผจญ” ของ นายบุญเสริม วัฒนกิจ

รางวัลที่ ๓ แรงบันดาลใจจากช่างเขียนพื้นบ้าน ๓ ของ นายอิทธิพล พัฒรชนม์
การใช้รูปทรงแบบไร้มายาของช่างเขียนพื้นบ้าน วิธีจัดภาพ การให้น้ำหนักเข้มตัดกับความเบาบางของบริเวณฉากหลัง ทำให้จิตรกรรมไทยแบบประเพณีชิ้นนี้มีกลิ่นอายของภาพเขียนพื้นบ้านของไทย

ประเภทจิตรกรรมไทยแนวประเพณี

รางวัลที่ ๑ เหรียญทองบัวหลวง
ผลงานชื่อ “รอยต่อแห่งศรัทธาของกาลเวลา” ของ นางสาวปานพรรณ ยอดมณี

รางวัลที่ ๑ รอยต่อด้วยศรัทธาของกาลเวลาของ นางสาวปานพรรณ ยอดมณี
การประสานรอยแตกเล็ก ๆ ของแผ่นพื้นรูปทรงอิสระด้วยรูปทรงย่อยและวิธีการที่ละเอียดประณีต ตัดกันอย่างรุนแรงกับรอยแยกขนาดใหญ่ตรงกลางภาพ ทำให้เกิดความลึกอย่างหาที่สุดมิได้อีกมิติหนึ่ง จิตรกรได้ประสานเชื่อมรอยแยกนี้ด้วยบันไดขนาดใหญ่ มีบันไดเล็ก พาดทอดจากล่างไปบน จากบนมาล่าง กระจายอยู่ในบริเวณต่าง ๆ ทำให้เกิดจินตนาการเกี่ยวกับ ที่ว่างและกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่จบสิ้น

รางวัลที่ ๒ เหรียญเงินบัวหลวง
ผลงานชื่อ “วัฎจักรวิถีใต้” ของ นางสาวหทัยรัตน์ รอดแก้ว

รางวัลที่ ๒ วัฏจักรวิถีใต้ของ นางสาวหทัยรัตน์ รอดแก้ว
วิถีชีวิตของชาวสวนยางในพื้นถิ่นภาคใต้ของไทย แสดงออกอย่างชัดเจนและสะเทือนใจในงานชิ้นนี้ ชีวิตและหยาดเหงื่อ น้ำพักน้ำแรงของพวกเขาเหมือนกับถูกจารึกลงอย่างแน่นแฟ้นบนแผ่นยางที่ถูกรีดออกมาแผ่นแล้วแผ่นเล่า เครื่องรีดยางจะคงทำหน้าที่ต่อไป วัฏจักรของชีวิตและอัตลักษณ์ของท้องถิ่นชาวใต้ก็จะคงถูกจารึกลงอย่างต่อเนื่องตลอดไป

รางวัลที่ ๓ เหรียญทองแดงบัวหลวง
ผลงานชื่อ “ผจญ” ของ นายบุญเสริม วัฒนกิจ

รางวัลที่ ๓ ผจญของ นายบุญเสริม วัฒนกิจ
จากที่ระบุไว้ในแนวความคิดของจิตรกร มนุษย์ต้องผจญกับสิ่งต่าง ๆ ในยุคเทคโนโลยีการสื่อสาร จิตรกรใช้ความคิดเรื่องมาญผจรในจิตรกรรมไทยแบบประเพณีมาเป็นโครงของภาพ และผสมรูปลักษณ์ที่มีอยู่เดิมเข้ากับรูปบุคคลลักษณะเหมือนจริงของชาวต่างชาติที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในโลกไอที เป็นการขยายขอบเขตของประเพณีไปสู่พื้นที่สากล

ประเภทจิตรกรรมร่วมสมัย

รางวัลที่ ๑ เหรียญทองบัวหลวง
ผลงานชื่อ “จิตรกรรมชั้นวางกระบวนจีน” ของ นางสาวสุพิมพ์ วรทัต

รางวัลที่ ๑ จิตรกรรมชั้นวางกระบวนจีน ๑ ของ นางสาวสุพิมพ์ วรทัต
อิทธิพลเขียนภาพจีนได้เข้ามามีบทบาทในงานจิตรกรรมของไทยมากขึ้นในระยะหนึ่ง จนมีชื่อเรียกเฉพาะว่าภาพเขียนสีกระบวนจีน ผลงานชิ้นนี้แม้จะตั้งใจให้เป็นจิตรกรรมร่วมสมัย แต่ก็มีลักษณะเฉพาะของจิตรกรรมไทยในแบบหนึ่ง การใช้สีแดงชาดที่ตัดกันกับสีอื่นอย่างรุนแรงในลายกำมะลออย่างกล้าหาญของจิตรกร สร้างความตื่นเต้นเร้าใจด้วยความงามความสะเทือนใจแก่ผู้ชม พร้อมไปกับการรับรู้อัตลักษณ์ของประเพณีและตัวตนของจิตรกร

รางวัลที่ 2 เหรียญเงินบัวหลวง
ผลงานชื่อ “เมาะ/ตีนอ” ของ นางสาวคีต์ตา อิสรั่น

รางวัลที่ ๒ เมาะ / ตีนอ ของ นางสาวคีต์ตา อิสรั่น
ชื่องานเป็นภาษาไทยมาลายู บอกกล่าวเบื้องต้นถึงสถานที่ที่จิตรกรเจตนาจะเสนอ คือ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความรุนแรง ความสูญเสียและความทุกข์ยากของจิตใจ ด้วยการใช้วัสดุ วิธีการและการวางตำแหน่งของมวลรูปทรง ทำให้งานชิ้นนี้ก่อความรู้สึกสะเทือนใจอย่างรุนแรงในความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของมนุษยชาติ โดยเกือบไม่ต้องสังเกตเรื่องราวที่จิตรกรได้นำมาเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์เลย

รางวัลที่ 3 เหรียญทองแดงบัวหลวง
ผลงานชื่อ “ปีติในรอยธรรม (มหาโพธิ์แห่งปัญญา)” ของ นายพงศ์ศิริ คิดดี

รางวัลที่ ๓ ปิติในรอยธรรม (มหาโพธิ์แห่งปัญญา) ของ นายพงศ์ศิริ คิดดี
ด้วยการซ้อนทับกันของรูปสัญลักษณ์ขนาดเล็กจำนวนมาก สร้างความอ่อนแก่ให้แก่น้ำหนักส่วนรวมและให้ความหมายทางความศรัทธาและความรุ่งเรืองของปัญญาได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้จิตรกรจะใส่อกเลา ๓ มิติที่เป็นเหลี่ยมแข็งสีดำผ่าลงมากลางภาพในแนวตั้ง มาทำลายความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนของงานจิตรกรรมลงไปบ้างแล้วก็ตาม

ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการจิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ ๓๕ ได้ ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ ๘ สิงหาคม – ๒๔ กันยายน ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๑o.oo – ๑๙.oo น.ทุกวันยกเว้นวันพุธ และนิทรรศการจะถูกนำไปจัดแสดงสัญจร ณ วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ ต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
โทร : o๒-๒๘๑-๕๓๖o-๑

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

"การประกวด Young Thai Artist Award”

กวี เรื่องสั้น นวนิยาย ชิงแสนห้า+ไปต่างประเทศ กับ YOUNG THAI ARTIST AWARD 2013

รางวัลยังไทยฯ รางวัลระดับเยาวชนปี ๒o๑๓ ชิงเงิน ๑๕o,ooo เปิดรับแล้ว วันนี้จนถึง ๑๖ กันยายน ๕๖ สาขาวรรณกรรมรับต้นฉบับ ๓ ชนิด นวนิยาย เรื่องสั้นและบทกวี ชนะเลิศรับ ๑๕o,ooo บาท พร้อมทัศนศึกษาต่างประเทศดีเด่นรางวัลละ ๕o,ooo บาท (๕ รางวัล)

มูลนิธิเอสซีจี และสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย จับมือแข็งขันในการจัดประกวดปีนี้

สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ได้รับการแจ้งจากมูลนิธิเอสซีจี ผู้จัดการประกวดรางวัล Young Thai Artist Award ว่าในปีนี้รางวัลดังกล่าวเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่บัดนี้ จนถึง ๑๖ กันยายน ๕๖ โดยผู้ส่งต้องเป็นเยาวชนอายุไม่เกิน ๒๕ ปี ส่งต้นฉบับผลงานแบบหนึ่งแบบใด ที่เขียนขึ้นมาใหม่ เพียง ๑ ผลงาน โดย

- กวีนิพนธ์ ฉันทลักษณ์จำนวน ๒oo - ๓oo บท
หากเป็นกวีไร้ฉันทลักษณ์ความยาว ๖o - ๘o หน้า
- เรื่องสั้น อย่างน้อย ๘ เรื่อง
- นวนิยาย ๑ เรื่องความยาว ๖o - ๘o หน้า

ส่งผลงานได้ด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ ไปที่ นายเจน สงสมพันธุ์ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศ เลขที่ 31 ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี ๓๓ แขวง/เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ๑o๘oo โทร. o-๒๙๑o-๙๕๖๕ ดาวโหลดในสมัครได้ที่ scgfoundation.org

รางวัลยังไทยฯ ถือเป็นรางวัลระดับเยาวชนที่ใหญที่สุดในประเทศไทย ซึ่งได้รับการยอมว่ามีมาตรฐานการคัดเลือกผลงานที่เข้มข้น เป็นการประกวดทั้งหมด ๖ สาขา มีความต่อเนื่องมากว่า ๑o ปี

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เวบพันทิป
เฟซบุค Young Thai Artist Award

"COTTO Better Together Design Contest 2013”

ใครว่าห้องน้ำไม่สำคัญ หลายประเทศในโลกหันมาให้ความใส่ใจรูปแบบของห้องน้ำสาธารณะกันมากขึ้น เพราะห้องน้ำถือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศ คอตโต้ (COTTO) แบรนด์กระเบื้อง สุขภัณฑ์ และก๊อกน้ำชั้นนำระดับโลก ที่นอกจากเป็นผู้ผลิตแล้ว วันนี้ยังอยากเห็นความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ในการพัฒนารูปแบบพื้นที่ห้องน้ำให้น่าใช้ จึงเปิดตัวโครงการ "คอตโต้ เบ็ตเทอร์ ทูเก็ตเตอร์ ดีไซน์ คอนเทสต์ ๒o๑๓" (COTTO Better Together Design Contest 2013) ภายใต้หัวข้อ "Global Design Inspiration" การประกวดออกแบบปรับปรุงห้องน้ำในระดับอุดมศึกษา ชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า ๒oo,ooo บาท พร้อมนำแบบที่ชนะการประกวดไปปรับปรุงจริงให้กับสถาบันของทีมที่ชนะด้วย

โดยโครงการกำหนดให้นิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในคณะสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน หรือสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมกลุ่มละ ๓ คน กำหนดพื้นที่ออกแบบห้องน้ำชาย-หญิง ประมาณ ๔-๘ ห้อง หรือ ๒o-๓o ตารางเมตร ภายในงบประมาณไม่เกิน ๖oo,ooo บาท

อนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็กเตอร์ธุรกิจ กล่าวถึงที่มาของโครงการว่า COTTO เป็นแบรนด์ชั้นนำที่ดีไซน์ผลิตภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันก็อยากเห็นพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ผ่านโครงการที่สร้างทักษะการสร้างสรรค์ ซึ่งโปรเจ็กต์รูปแบบนี้ COTTO ได้จัดดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๓ รวมระยะเวลา ๑๓ ปีแล้วที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงพลังความคิดลงบนแผ่นกระดาษ จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมาได้ปรับเปลี่ยนให้มีการนำแบบที่ชนะไปสร้างจริง เพื่อกระตุ้นให้นักศึกษาสร้างแบบผลงานที่มีคุณภาพ มาปีนี้จึงได้เพิ่มความเข้มข้นในการแข่งขัน โดยเปิดกว้างเป็นเวทีระดับประเทศ เพื่อให้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศได้ประชันฝีมือกัน ตลอดจนเชิญกูรูด้านการออกแบบแห่งเอเชีย และรุ่นพี่ที่ชนะการประกวดในปีที่ผ่านมา ร่วมแชร์ประสบการณ์เปิดแรงบันดาลใจให้กับน้องกว่า ๑oo คน

"สำหรับหัวข้อการประกวด "Global Design Inspiration" ที่กำหนดขึ้น ต้องการให้นักศึกษาแชร์ความประทับใจที่มีต่องานดีไซน์ระดับโลกออกมาในสไตล์ของตัวเองผ่านงานออกแบบ ซึ่งไม่ใช่แค่มีความสวยงามเท่านั้น ต้องใช้งานได้จริง สร้างได้จริง การออกแบบห้องน้ำถือว่าเป็นเรื่องยาก ดังนั้นจึงอาศัยการค้นคว้าหาข้อมูล เพื่อให้ทราบว่าทำอย่างไรจึงจะตอบโจทย์คนปัจจุบันได้ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความถึงการออกแบบพื้นที่ของห้องน้ำเท่านั้น นักออกแบบสามารถฉีกแนวด้วยฟังก์ชันเจ๋งๆ ที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน" อนุวัตรเผย

เรียกได้ว่าหัวข้อการประกวดครั้งนี้เปิดกว้างและท้าทายความคิด ด้าน ไชยยง รัตนอังกรู Trend Global Design ในฐานะบรรณาธิการนิตยสารด้าน Design & Lifestyle ได้พูดถึงหัวข้อและความสำคัญของการออกแบบห้องน้ำว่า "การออกแบบ" ควรมองการใช้ชีวิตของผู้คนเป็นกรอบแนวคิดในการออกแบบ เพราะคนปัจจุบันทำงานที่บ้านกันมากขึ้น แต่ละมุมห้องของบ้านจึงถูกเปลี่ยนไปตามการดำรงชีวิต เช่น ใช้ห้องนั่งเล่นเป็นห้องทำงาน ใช้ห้องครัวเป็นห้องปาร์ตี้ไปในตัว หรือแม้แต่ห้องน้ำที่เปลี่ยนไปเป็นมุมผ่อนคลายของหลาย ๆ คนไปแล้ว ภาระหนักของนักออกแบบยุคนี้คือต้องสังเกตพฤติกรรมของผู้คนให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของคนปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังแนะเพิ่มเติมอีกว่า "เนื่องจากปัจจุบันระบบเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจเริ่มซบเซา นักลงทุนทั่วโลกจึงเริ่มให้ความสนใจกลุ่มคนเอเชีย เพราะมีกำลังซื้อมาก วงการนักออกแบบเองก็ต้องคำนึงถึงด้านเศรษฐกิจไม่น้อย ดังนั้นความนิยมของนักลงทุนก็มีผลต่อการสร้างงานออกแบบเช่นกัน" ไชยยงแนะ

ผู้ที่สนใจเช้าร่วมโครงการสามารถส่งผลงานด้วยตนเอง หรือส่งมาที่นิตยสาร Wallpaper ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง ๒o กันยายน ๒๕๕๖ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ o-๒๓๙๑-๙๕๙๕ ต่อ ๑๕๓, o๘-๑๓๗๔-๘๘๕๔ หรือ cotto.co.th ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และที่พักประเทศฮ่องกง พร้อมเข้าชมงาน "BODW Business of Design Week 2013" โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ รวมถึงไปรับใบประกาศนียบัตร.

ภาพและข้อมูลจากเวบ
100ydesign.com
thaipost.net

"ประกวดศิลปกรรม "นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต" ครั้งที่ ๒๕”

โตชิบาเชิญชวนศิลปินและผู้สนใจทุกท่าน ร่วมส่งผลงานเข้าร่วมประกวด โครงการประกวดศิลปกรรม “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” ครั้งที่ ๒๕ ประจำปี ๒๕๕๖ ส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ – ๑๘ ส.ค. ๕๖ สามารถเข้าไปโหลดใบสมัครและระเบียบการได้ที่ toshiba.co.th

ภาพและข้อมูลจากเวบ
toshiba.co.th
เฟซบุค Toshiba CSR-Thai

“ชีวิตกับฤดู”

โดย ตนุพล เอนอ่อน
จัดแสดงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม – ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๖

พิธีเปิดนิทรรศการ วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๙.oo ณ แกเลอรี เอ็น ถนนวิทยุ

นิทรรศการศิลปะ "ชีวิตกับฤดู” โดยตนุพล เอนอ่อน บอกเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นทั้งในส่วนของสภาพแวดล้อมทางกายภาพ และในส่วนของสภาพแวดล้อมจิตวิญญาณ คือการรู้จักปรับตัวให้เข้ากับกฎเกณฑ์หรือความเป็นไปในธรรมชาติ เกิดความรัก ความเคารพ ความเชื่อ และความศรัทธา ซึ่งทำให้มนุษย์ดำรงอยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติมาอย่างช้านานและตลอดไป

ผลงานจิตรกรรมของตนุพล เอนอ่อน มีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งในด้านทัศนียภาพและภูมิปัญญาชาวบ้านในภาคอีสาน ศิลปินใช้เทคนิคสีอะคลิลิกและชาร์โคลบนผ้าใบ เส้นสายรายละเอียดที่ได้แรงบันดาลใจจากจิตรกรรมพื้นบ้านอีสาน มีการใช้เฉดสีที่เป็นเอกลักษณ์และรูปทรงที่เรียบง่ายแต่เฉพาะเจาะจงความ ศิลปิน

ภาพและข้อมูลจากเวบ
eventthai.com
galerienbangkok.com

"3D-ART EXHIBITION”

ปลื้ม-ทับทิม คู่รักวัยทีน เชิญชวนร่วมตื่นตาตื่นใจไปกับความมหัศจรรย์ภาพ 3 มิติขนานแท้จากญี่ปุ่น ในงาน “3D-ART EXHIBITION” จุดนัดพบถ่ายภาพสุดฮิปแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ

“ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย - ทับทิม มัลลิกา จงวัฒนา” เชิญชวนผู้สนใจและชื่นชอบการถ่ายรูปมาร่วมสัมผัสและค้นหาความมหัศจรรย์ภาพ ๓ มิติ ในงาน “3D-ART EXHIBITION” ที่ขนทัพกองทัพภาพ 3D ขนาดใหญ่จำนวนกว่า ๕o ภาพ จากแดนปลาดิบ ประเทศญี่ปุ่น มาแสดงบนพื้นที่ ๖oo ตารางเมตร ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบเดินทางมาสัมผัสความมหัศจรรย์ได้สะดวกยิ่งขึ้น และกลายเป็นจุดนัดพบถ่ายภาพสุดฮิปแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยการแสดงผลงานดังกล่าวจะจัดขึ้นและเปิดให้เข้าชมทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุด) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้-มกราคม ๒o๑๔ เวลา ๑o.oo-๑๙.oo น. ณ ชั้น B2 ศูนย์การค้า เดอะพาลาเดี่ยมเวิลด์ช้อปปิ้ง ประตูน้ำ ราคาบัตรผ่านประตูสำหรับคนไทย ผู้ใหญ่ ๒oo บาท เด็ก ๑oo บาท และต่างชาติ ผู้ใหญ่ ๓oo บาท เด็ก ๑๕o บาท

งานนี้รับรองว่าทุกท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจและสนุกไปกับความมหัศจรรย์กับภาพถ่าย ๓ มิติพิศวงที่เสมือนจริงที่จะช่วยสร้างจินตนาการและดึงผู้ชมให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพถ่าย ด้วยเทคนิคการเขียนภาพแบบ ๓ มิติ ตามแบบฉบับของญี่ปุ่นขนานแท้ ซึ่งมาจากฝีมือการวาดของศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่น Mr.Hattori Masashi ที่มีความโดดเด่นการวาดภาพ ๓ มิติ เพราะมีการแสดงออกด้านเทคนิค และนวัตกรรมฉูดฉาด จนมาเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปิน ๓ มิติ และได้เป็นตัวแทนของประเทศในงาน “No Time Art” ได้เคยจัดงานแสดง นิทรรศการศิลปะ ๓ มิติ ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและนานาประเทศ สำหรับคนที่ชื่นชอบผลงานศิลปะชนิดนี้ไม่ควรพลาด และลองมาสัมผัสความสนุกแปลกใหม่ไร้ขีดจำกัดและประชันโพสท่าสวยเพื่อเป็นที่ระลึกได้ที่งาน 3D-ART EXHIBITION เท่านั้น!

ภาพและข้อมูลจากเวบ
แซบดารา.com

พิพิธพาเพลิน ตอน “มัทนะพาธา”

มิวเซียมสยาม จัดกิจกรรมพิพิธพาเพลิน ตอน “มัทนะพาธา” โดยนำแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของความรักที่เป็นที่รู้จักกันมานานกว่า ๙o ปี และเพื่อเป็นการเผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านการประพันธ์ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มิวเซียมสยาม ขอจัดกิจกรรมเพื่อตอบรับกับกลุ่มสุภาพสตรี โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ชมการแสดงละครเวที เรื่อง “Just Love.....มัทนะพาธา” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบทประพันธ์อันเป็นอมตะในพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ร่วมรับรู้ถึงเรื่องราวที่น่าประทับใจของวรรณกรรมไทยที่ไม่แพ้ชาติตะวันตก ในวันที่ ๙ – ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๑๙.oo น. ณ มิวเซียมสยาม (ชมฟรี โดยไม่ต้องสำรองที่นั่ง) ผู้ที่กำลังอินกับความรัก ไม่ว่าจะเป็นรักในรูปแบบใด สามารถรับชมได้ในสไตล์ความรักของคุณที่งานนี้

นอกจากนั้นยังสามารถเข้าร่วมกับกิจกรรม Workshop ที่หลากหลาย เช่น การทำบุหงาสด, น้ำปรุงดอกกุหลาบ, การจัดช่อดอกไม้ (Bouquet), ขนมชั้นดอกไม้ และขนมช่อม่วง ในวันที่ ๙ - ๑๑ และ ๑๗ - ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ (ค่าใช้จ่ายเข้าร่วม Workshop ท่านละ ๘o บาท ต้องสำรองที่นั่ง)

สอบถามเพิ่มเติม โทร. o๒-๒๒๕-๒๗๗๗ ต่อ ๔๑๔, ๔๑๕ หรือ เฟซบุค

ภาพและข้อมูลจากเวบ
museumsiam.org

"หลังจากบทสนทนาที่หายไป”

สำหรับนิทรรศการกลุ่มครั้งนี้ “ After Missing Dialogue” เป็นการรวมตัวกันแบบเบา ๆ ของนิสิตนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษา (พวกเรา) จากคณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลับศิลปากรมาแล้วตั้งแต่ปี ๒oo๘

ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่า การเริ่มต้นพูดคุยถึงสิ่งต่าง ๆ ได้เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปีนั้น และน่าจะก่อนหน้านั้นเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แท้ที่จริงแล้ว นิทรรศการครั้งนี้ แต่เริ่มเดิมที พวกเราคาดการณ์ไว้ว่า จะเป็นการแสดงผลงานศิลปะ ที่รวมเอากลุ่มเพื่อนที่มีในรุ่น ๖๑ ทั้ง ๘๖ คนมาจัดแสดงร่วมกัน แต่ท้ายที่สุดก็สามารถรวบรวมมาได้เพียง ๒๑ ศิลปิน ซึ่งมีรายนามดังที่เหลือนี้ ขวัญชัย สินปรุ, ปัญญวิชญ์ พิพัฒจิรโชติ, ติณณภพ งานสถิร, ตฤณภัทร ชัยสิทธิศักดิ์, ปราบ พนิชเรืองไกร, ธนากร ชุ่มเชื้อ, พัชรพงศ์ มีศิลป์, สุรพงศ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา, วิทยา ก๋าคำ, ปรีชา รักซ้อน, ธีรวัฒน์ นุชเจริญผล, พชร ปิยะทรงสุทธิ, สริต เสริมสิทธิพร, ธนากร บัวปลอด, พัชราภรณ์ ใบโพธิ์สุวรรณ, พรหมคีรี สุพรมอินทร์, มีชัย สุวรรณสาร, อรสา ชาลีจังหาญ, รื่นฤทัย รอดสุวรรณ, จุฑารัตน์ ขยันสลุง และสุวรรณ ชุมพล ทั้งนี้ ก็ด้วยเหตุผลหลายประการ ยกตัวอย่างซ้ำ ๆ เช่น หลายคนหลังจากจบการศึกษาก็แยกย้ายกลับถิ่นฐานภูมิลำเนาของตน ซึ่งเป็นการยากที่จะยังคงกลับมานั่งพูดจากันถึงเรื่องเดิม ๆ แบบแต่เก่าก่อน บางคนอยู่ต่างประเทศ บางคนสำเร็จการศึกษาล่าช้า และที่ดี ๆ ก็ยังคงศึกษาต่อในระดับปริญญาโท และสำเร็จการศึกษากันบ้างแล้วในขณะนี้ และอีกหลาย-หลายคนก็กล่าวได้ว่า…มุ่งหน้าสู่เส้นทางศิลปินไปแล้วแบบเต็มตีน

อย่างไรก็ตาม ตามเหตุผลต่าง ๆ ที่ผมได้อธิบายถึงที่มาที่ไปพอสังเขปข้างต้น ถึงแม้ปริมาณศิลปินจะลดลงเกินกว่าครึ่งหนึ่งที่ต้องการ แต่ตามความคาดหวังแล้ว หวังว่า นิทรรศการ “After Missing Dialogue” ครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดการรวมตัวกันของพวกเราหรือใครก็ตามในครั้งใหม่ เสมือนเป็นเสียง ๆ หนึ่ง ที่เรียกกระตุ้นให้ใครหลายคนได้กลับมาทำงานศิลปะอีกครั้ง และให้ใครหลาย ๆ คนได้ตระหนักถึงจิตวิญญาณแห่งความเป็นศิลปิน ที่ได้ถูกขัดเกลาและหล่อหลอมมาแล้วจากคณาจารย์และสภาพแวดล้อมนานาสารพัดให้ได้กลับมาชื่นชูและทำอะไรต่อมิอะไร… และอะไรต่อมิอะไร…และอะไรต่อมิอะไร ฯ

กระผม และผองเพื่อน หมายใจไว้ว่า นิทรรศการกลุ่ม “ After Missing Dialogue” ครั้งนี้ จะบังเกิดคุณูประโยชน์กับอะไรหลาย ๆ อย่าง “ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง”

นิทรรศการ : หลังจากบทสนทนาที่หายไป (After Missing Dialogue)
ศิลปิน : ศิลปิน ๒๑ ท่าน
วันที่ : ๑๘ กรกฎาคม – ๓o สิงหาคม ๒๕๕๖
สถานที่ : People’s Gallery ชั้น ๒ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร : o๒-๒๑๔-๖๖๓o-๘

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

"ก็โลกมันร้อน”

หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล (ถนนบรมราชชนนี) ยินดีนำเสนอนิทรรศการ “ก็โลกมันร้อน” ผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบและผลงานวาดเส้นที่ผสมผสานระหว่างรูปแบบเหมือนจริงและเหนือจริง ภายใต้เรื่องราวเนื้อหาอันหลากหลายในสังคมไทยยุคปัจจุบัน

เมื่อความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้คน จนเกิดเป็นการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผู้คนแต่ละรุ่น ผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ด้วยแนวความคิดเชิงยั่วล้อขำขันปนเสียดสีจึงถ่ายทอด ภาพลักษณ์ที่เราอาจเคยคุ้นตา ท่ามกลางข่าวสารและความเป็นจริงอันแอบซ่อนอยู่รอบกายเรา

นิทรรศการ : “ก็โลกมันร้อน”
ศิลปิน : ลำพู กันเสนาะ
วันที่ : ๑๒ กันยายน – ๒o ตุลาคม ๒๕๕๖
สถานที่ : หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล (ถนนบรมราชชนนี)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล โทร: o๒-๔๒๒-๒o๙๒
โทรสาร : o๒-๔๒๒-๒o๙๑
เว็บไซต์ : //www.ardelgallery.com

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

"Sibylle Bergemann”

ผลงานภาพถ่ายของซิบีลเลอ แบร์กเกอมันน์ นักถ่ายภาพหญิงชาวเยอรมันผู้เกิดที่กรุงเบอร์ลินผู้นี้มีความหลากหลายเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น ภาพแฟชั่น ภาพข่าวเหตุการณ์ ภาพสะท้อนสังคม ภาพภูมิทัศน์ ภาพชุมชนเมือง

ไปจนถึงภาพบุคคลซึ่งแบร์กเกอมันน์สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและไม่มีอะไรด้อยไปกว่ากัน ศิลปินไม่เพียงทำงานเชิงภาพชุด แต่ยังเลือกประเด็นที่ตนสนใจ และเก็บภาพจากการสังเกตเห็นแง่มุมเชิงทัศนศิลป์ต่าง ๆ ที่ปรากฏในยุคสมัยหนึ่ง งานภาพถ่ายของแบร์กเกอมันน์ผูกพันกับบริบททางสังคมในขณะนั้น โดยสะท้อนภาพเชิงวิพากษ์ความเป็นจริงของสังคมแห่งอดีตเยอรมนีตะวันออก ศิลปินตระหนักชัดเจนว่างานภาพถ่ายคือเครื่องมือในการตีแผ่องค์ประกอบของความจริงทั้งหมดที่โยงใยกันอยู่ในสังคม อีกทั้งเปิดโอกาสให้ได้กระทำการตีความ ถ่ายทอดความหมาย และแสดงทัศนคติออกมา

นิทรรศการไม่เสียค่าเข้าชม

นิทรรศการ : ผลงานภาพถ่ายในอดีตของ Sibylle Bergemann (ซิบีลเลอ แบร์กเกอมันน์)
ศิลปิน : Sibylle Bergemann (ซิบีลเลอ แบร์กเกอมันน์)
วันที่ : ๑ – ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๖
สถานที่ : หอศิลปมหาวิทยาลัยขอนแก่น
รายละเอียดเพิ่มเติมเว็บไซต์ : goethe.de

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor

Create Date : 31 กรกฎาคม 2556

0 comments

Last Update : 31 กรกฎาคม 2556 9:21:03 น.

Counter : 15811 Pageviews.