happy memories
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๗๓




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










นิทรรศการ "จากดวงใจถวายพ่อหลวง ๘๖ พรรษา"



วันเสาร์ ที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมาศูนย์การค้า โอ.พี. เพลส ร่วมกับกลุ่มศิลปิน พร้อมด้วยกวีซีไรต์ และศิลปินแห่งชาติ จัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “จากดวงใจ ถวายพ่อหลวง ๘๖ พรรษา” เพื่อเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อปวงชนชาวไทย ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักราชเลขาธิการ ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ให้เกียรติเป็นประธานจัดงาน






สำหรับกิจกรรมวันเปิดนิทรรศการฯ คุณประภัสสร เสวิกุล นายกสมาคมสภาเครือข่ายศิลปะ ประเทศไทย, คุณเจน สงสมพันธ์ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย และ คุณชมัยพร แสงกระจ่าง ที่ปรึกษาสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ร่วมอ่านบทอาเศียรวาท เทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ


พร้อมกันนี้ภายในงานทุกท่านต่างร่วมกันร้องเพลง “ของขวัญจากก้อนดิน” ซึ่งเป็นเพลงที่มีความหมายในการแสดงออกถึงความจงรักภักดี อันเปี่ยมล้นหัวใจของข้าแผ่นดินที่มีต่อองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ






นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “จากดวงใจ ถวายพ่อหลวง ๘๖ พรรษา” จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันเสาร์ ที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๗ ณ ห้อง อีเว้นฮอลล์ ๒ ชั้น ๓ ศูนย์การค้า โอ.พี. เพลส ซ.เจริญกรุง ๓๘ เปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่ เวลา ๑o.๓o น. – ๑๙.๓o น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ o๒-๒๓๕-๘๘๖๑ , o๒-๒๖๖-o๑๘๖ ถึง ๙๕ มือถือ o๘๔-๔๓๙-๕๘๔๖







































ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคนิทรรศการ














"ภาพของพ่อ”



“การถ่ายรูปนั้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะถ่ายรูปให้เป็นศิลปะ หรือจะเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงอะไร เป็นเพียงแต่กดชัตเตอร์ไว้สำหรับเป็นที่ระลึก แล้วก็ถ้ารูปนั้นดี มีคนได้มาเห็นรูปเหล่านั้นและก็พอใจ ก็ทำให้การแผ่ความสุขไปให้กับผู้ที่ได้ดู เพราะว่าเขาชอบ หมายความว่าได้ให้เขามีโอกาสได้เห็นทัศนียภาพที่เขาอาจไม่ค่อยได้เห็น หรือในมุมที่เขาไม่เคยเห็น ก็แผ่ความสุขให้เขาอีกทีหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดประสงค์ของการถ่ายรูปคือถ่ายรูปสำหรับให้เก็บไว้เพื่อมีความสุขในภายหลัง และแผ่ความสุขนั้นให้แก่ผู้อื่นที่ได้เห็น ยิ่งมาพิมพ์เป็นหนังสือแล้วก็แจกจ่ายไปให้ผู้อื่นได้ดูหลายรูปรวมกันเป็นรูปเป็นเล่ม ก็ได้ผลในทางนี้อีกมาก” (พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๗)






เป็นมงคลของชีวิตที่มีโอกาสได้ชื่นชมพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการถ่ายภาพ ในนิทรรศการภาพถ่าย “บรมครู”ศิลปินถ่ายภาพเอกรงค์ ที่กลุ่มบริษัทเบญจจินดาร่วมกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย ได้น้อมอัญเชิญภาพถ่ายฝีพระหัตถ์จำนวน ๙ ภาพมาจัดแสดง


นอกจากจะเป็นการแสดงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมากที่สุดในรอบ ๕o ปีแล้ว ยังเป็นภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ที่ไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนัก






คำกล่าวที่ว่า ภาพถ่ายภาพเดียวแทนคำพูดได้นับพัน เป็นความจริงโดยมิต้องสงสัย หากการได้ชมภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในคราวนี้ รู้สึกราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในครั้งที่พระองค์ทรงครองราชย์ใหม่ ๆ ทรงโปรดที่จะถ่ายภาพสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระราชโอรสและพระราชธิดา ในคราวที่เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับในพระตำหนักตามจังหวัดต่าง ๆ






ภาพของพ่อ ถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัว ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความผูกพัน ในมุมมองของ “พ่อ” สะท้อนผ่านภาพถ่ายที่ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ชมนั้นมีความสุข หากในฐานะ “ลูก”ของแผ่นดินยังเกิดรู้สึก “ท่วมท้น” ซาบซึ้ง เกินกว่าจะบรรยายเป็นถ้อยคำ


รู้แต่ว่าโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร...ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน






หมายเหตุ : นิทรรศการ “บรมครู ศิลปินถ่ายภาพเอกรงค์” จัดแสดงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยผลงานของช่างภาพชั้นครู ๒o ท่าน ได้แก่ ศ.พูน เกษจำรัส, จิตต์ จงมั่นคง, ไพบูลย์ มุสิกโปดก, ยรรยง โอฬาระชิน, วรนันท์ ชัชวาลทิพากร,ศ.สนั่น ปัทมะทิน, ระบิล บุนนาค, รัตน์ เปสตันยี, ม.ล.ต้อย ชุมสาย, จีเส่ง หว่อง, เจน นิมมานนิตย์, ศ.ชอุ่ม ประเสริฐสกุล, เชาว์ จงมั่นคง, เดโช บูรณบรรพต, ประพัฒน์ จิตต์ธีรภาพ, ไพบูลย์ ศิลป์งามเลิศ, วรรณี ชัชวาลทิพากร, วิวัฒน์ พิทยะวิริยากุล (S.H.Lim), สรศิลป์ ตันติเมธ, สุขพล สุริยา, สุมิตรา ขันตยาลงกต, สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์, หลิ่ม ลิบ, อัมพร ธนชาญ, อุดมศักดิ์ ตันติเมธ พร้อมศิลปินรับเชิญ ไสยยาสน์ เสมาเงิน


จัดแสดงตลอดเดือนธันวาคมที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA BANGKOK) โทร o๒- ๙๕๓-๑oo๕-๗



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคกรุงเทพวันอาทิตย์















'ปีม้าม้าพาให้เบิกบาน' ภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพฯ


เนื่องในโอกาสร้านภูฟ้าครบรอบ ๑๒ ปี และต้อนรับปีใหม่ปีมะเมีย ๒๕๕๗ ร้านภูฟ้า ร่วมฉลองศักราชใหม่ด้วยสินค้าชุด "ปีมะเมีย" โดยได้รับพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นภาพ "ม้า" ทั้งนี้คนไทยถือว่าม้าเป็นสัญลักษณ์ของความมีเรียวแรงแข็ง ขยัน ม้าเป็นสัตว์แสนรู้ เป็นพาหนะคู่ใจของมนุษย์มาแสนนาน










ปีนี้เป็นปีมะเมียสมเด็จพระเทพรัตนฯ จึงทรงวาดภาพม้า ดังลายพระหัตถ์ที่ทรงอวยพรว่า ให้ทุกคนมีความสุขปีม้าม้าพาให้เบิกบาน ร้านภูฟ้าได้อัญเชิญภาพวาดฝีพระหัตถ์มาจัดทำเป็นสินค้าชุด ปีมะเมีย ในชุดของเสื้อ ได้จัดทำ เสื้อยืดโปโล ๗ สี คือ สีกุหลาบโอลด์โรส สีเขียวภัทธวิสุทธิ สีกรมท่าม้าสีหมอก สีขาวราชาวดี สีเหลืองนวลจันทร์ สีชมพูกลีบบัว และสีฟ้าเมฆมาลา, เสื้อโปโลลายตารางปีปะเมียเฉพาะคุณสุภาพสตรีสี ๔ สี สีตารางเขียวม้าเหมมงคล สีตารางม่วงม้าศรีประภัศร สีตารางเหลืองม้าจำรูญรัตน์ และสีตารางน้ำเงินม้าสังขรัศมี, เสื้อคอกลม ๒ สีคือสีม่วงพวงคราม สีเทาเข้มพยับหมอก เสื้อคอวี ๓ สีเหลืองราชพฤกษ์ สีชมพูจามจุรี และสีฟ้าภูฟ้า










พิเศษปีนี้ได้จัดทำผ้าพันคอลายภาพวาดฝีพระหัตถ์ปีมะเมีย ๓ สี สีตารางเขียวม้าเหมมงคล สีตารางม่วงม้าศรีประภัศร และสีตารางเหลืองม้าจำรูญรัตน์ โดยร้านภูฟ้าได้รับเกียรติจากดีไซเนอร์ชื่อดัง มลลิกา เรืองกฤตยา (คุณแก้ม คลอเส็ท ดีไซน์) เป็นที่ปรึกษาในการให้สีสำหรับผลิตภัณฑ์ในคอลเลคชั่นนี้










ซึ่งนอกจากเสื้อแล้ว คอลเลคชั่นพิเศษนี้ ยังมีแก้วกาแฟ เหยือกน้ำ กระติกน้ำ สมุดบันทึก สมุดฉีก ปากกา นาฬิกา ร่ม กระเป๋า และอื่นๆ อีกมากมาย สินค้าชุดเสื้อ ปีมะเมีย “ปีม้าม้าพาให้เบิกบาน" ทุกแบบทุกสี เริ่มวางจำหน่ายแล้วที่ร้านภูฟ้าทุกสาขาทั้งหมด ๑๗ สาขา










ร้านภูฟ้า เป็นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากโครงการส่งเสริมอาชีพตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อช่วยเหลือเด็ก เยาวชนและชาวบ้านในถิ่นทุรกันดาร ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการผลิตสินค้าที่เป็นภูมิปัญญาของตนเองและใช้วัสดุในท้องถิ่น ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือพัฒนาเด็ก เยาวชนและชาวบ้านในถิ่นห่างไกลให้มีการพัฒนาตนเองที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านจากร้านภูฟ้า



ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com
เฟซบุคร้านภูฟ้า















"๖ มือ ๓o นิ้ว ๑ เปียโน”


นิโกลาส์ โกลิเนต์ โจนาส เด็พท์ และ แมทธิว นอร์ม็องด์ นักเปียโนผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสจะจัดแสดงคอนเสิร์ตที่น่าตื่นตาและน่าทึ่งในวันที่ ๙ มกราคมที่จะถึงนี้


นักเปียโนผู้เติบโตมาพร้อมกับความชื่นชอบในการแลกเปลี่ยนด้านดนตรีและการพบปะกับสาธารณชนผ่านการแสดงดนตรีทั้งสามคนนี้จะมาจัดแสดงคอนเสิร์ตในวันที่ ๙ มกราคม ค.ศ. ๒o๑๔ ที่ห้องออดิทอเรียม สมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ ค่ำคืนนั้นจะอบอวลไปด้วยเสียงดนตรีแจ็ส แทงโก้ และป๊อบปูล่ามิวสิค เป็นการแสดงที่หาดูได้ยากยิ่ง ไม่เหมือนใคร และน่าตื่นตาตื่นใจ กล่าวคือเป็นการแสดงการบรรเลงเปียโนจากมือ ๖ ข้าง


นิโกลาส์ โกลิเนต์ ผู้หลงใหลดนตรีเฉกเช่นเดียวกับเพื่อนผู้ร่วมแสดงคอนเสิร์ตอีกสองคนนั้น เคยเรียนที่สถาบัน Conservatoire de Marseille และได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันดนตรีชื่อดังของสโมสรโรตารีใน ค.ศ. ๒oo๑ ก่อนที่จะมาศึกษาต่อที่สถาบัน Conservatoire Royal de Bruxelles ส่วนแมทธิว นอร์ม็องด์ เคยเรียนที่ Conservatoire de Reims ก่อนที่จะมาเข้าเรียนที่สถาบัน CRR de Boulogne และโจนาส เด็พท์ ซึ่งเป็นชาวเบลเยียมก็เคยได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันทฤษฎีดนตรี การบรรเลงเปียโน และแชมเบอร์มิวสิคของสถาบัน Institut Supérieur de Musique et de Pédagogique ก่อนที่จะได้รับเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่สถาบัน Conservatoire Royal de Musique de Bruxelles


จัดแสดงในวันที่ : วันพฤหัสบดีที่ ๙ มกราคม เวลา ๑๙.๓o น.
สถานที่ : ห้องออดิทอเรียม สมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ
บัตร : ๓oo บาท สำหรับนักเรียนนักศึกษาและสมาชิก, ๔๕o บาท สำหรับบุคคลทั่วไป
จำหน่ายบัตรที่สมาคมฝรั่งเศส
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. o๒-๖๗o-๔๒๓๑



ภาพและข้อมูลจากเวบ
afthailande.org















"รวมมิตรเทศกาลศิลปะชุมชนสามแพร่ง facestreet #2 ”

เสาร์-อาทิตย์ที่ ๒๑-๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๑๗.oo – ๒๑.oo น.

ณ สามแพร่ง (แพร่งภูธร แพร่งนรา แพร่งสรรพสาตร์) ใกล้เสาชิงช้า – ศาลเจ้าพ่อเสือ

กำหนดการเวที

เดินชุมชนเยือนสามแพร่ง

แพร่งภูธร – ลานยิ้มได้

แพร่งนรา – ถนนรวมมิตร

แพร่งสรรพสาตร์ – ซอยหุ่นดี






แพร่งภูธร – ลานยิ้มได้


ยิ้มของแผ่นดิน – แรงบันดาลใจจากพื้นที่เล็กๆ ที่งดงาม
ยิ้มสันติภาพ จากเยาวชน ๓ จังหวัดชายแดนใต้


สมาคมเยาวชนจิตอาสาสาธารณะชายแดนใต้
โรตีแดนใต้ สนุกกับการผสมแป้ง นวดแป้งโรตี ทอดโรตี ชิมโรตีฝีมือตนเอง
กลุ่มดอกไม้ยิ้ม สะเตง ยะลา
ผึ้งเกาะที่สะเตง ทดลองทำขนมสไตล์ยะลา หาทานไม่ได้ง่าย ๆ
มัดย้อมมัดใจ ทำมัดย้อมด้วยสีบาติค สีสันสดสวยด้วยมือเราเอง
กลุ่มยังยิ้ม อ.แว้ง นราธิวาส
ระบายสีนกเงือก รู้จักนกเงือกจากป่าฮาลาบาลาผ่านกิจกรรมวาดภาพระบายสี
พวงกุญแจไม้มะขาม ขัดเงา เพ้นท์ไม้ กลายเป็นพวงกุญแจที่ระลึกจากแดนใต้
โปสการ์ดทำมือ ภาพถ่ายสวย ๆ จากป่าฮาลาบาลา นราธิวาส
กลุ่มเตะกระป๋อง
ชาชักเรกเก้ ลองชักชามลายูดูสิว่าหวานอร่อยอย่างไร
ยิ้มเพื่อนธรรมชาติ จากเครือข่ายเขาใหญ่ดีจัง


กลุ่มไม้ขีดไฟ ปากช่อง นครราชสีมา
ร้อยโมบายดินด่านเกวียน
สวมเขาให้เรารักกัน
กลุ่มรักษ์เขาใหญ่ ปราจีนบุรี
วาดรูประบายสีเขาใหญ่
ธูปหลับ
กลุ่มใบไม้ นครนายก
ดักฝัน
Nature Game เกมธรรมชาติ
ยิ้มชุมชน จากบางกอกนี้..ดีจัง และ เครือข่ายเมืองยิ้ม


ชุมชนวัดโพธิ์เรียง
เรือกระทงน้อยกาบมะพร้าว เหลือที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น
ชุมชนตรอกข้าวเม่า
ข้าวเม่าหมี่ ช่วยกันทำขนมโบราณจากย่านบางกอกน้อย
ชุมชนเลียบคลองบางแค
Chocolate ตามรอยว่าวไทย
ชุมชนแพร่งภูธร
ประดิษฐ์กระทงทอง กระทงกินได้
PS Gallery แพร่งภูธร
วาดภาพล้อเลียนการ์ตูนเหมือน
บ้านหัตถกรรมลุงสุรชัย
เรือจิ๋ว
โมบายกระดาษ
บ้านแม่จวบ
สานทางมะพร้าว
ขนมต้ม
ศูนย์บริการชุมชนวัดประชาระบือธรรม
พวงกุญแจจากลูกปัดไม้
กุหลาบใบเตย
กลุ่มดินน้ำมัน
ถุงกระดาษหน้ากากถือได้
ยิ้มอาสา จาก เยาวชนอาสารักยิ้ม


เข็มกลัดแบบเดียวในโลก
กระถางเพาะรัก
สมุดทำมือสื่อความหมาย






แพร่งนรา – ถนนรวมมิตร รวมมิตรศิลปะ


วาดภาพล้อ เพ้นท์กระเป๋า มัดเพ้นท์ โดย พี่ๆ นักศึกษาเพาะช่าง
โปสการ์ด เพ้นท์เสื้อ ต้นคริสต์มาสทำมือ กับ พี่ ๆ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว ประสานมิตร
ศิลปะจรรโลงใจ “โลกหัวใจ” – “Street Art by Sand” กับ ชลิต นาคพะวัน
ศิลปะแบบมีส่วนรวม “ห้องเรียนประวัติศาสตร์” โดย สุธี คุณาวิชยานนท์
สาธารณศิลป์ Printing Art Show วิจิตร อภิชาตเกรียงไกร
รวมมิตรหนังสือ


เล่านิทานประกอบหุ่นมือ ชวนทำโรงหุ่นจิ๋ว แสดงเอง สอนทำหุ่นนิ้วมือ เอากลับบ้านได้เลย โดย Mommy Puppet
นิทานสี่ช่อง สถาบันการ์ตูนไทย
ป๊อบอัพหนังสือ อ่านยกกำลังสุขกับเครือข่ายเยาวชนและครอบครัวสร้างสรรค์ ชุมชนร่มเกล้า
ปล่อยหนังสือ เพ้นท์โต๊ะ หนังสือในดวงใจ โดย เครือข่ายเพื่อนหนังสือ









แพร่งสรรพสาตร์ – ซอยหุ่นดี รวมพลการแสดงหุ่น


มูลนิธิหุ่นสายเสมาฯ การแสดงชุด โกโล๊ะผจญภัย และ ค.ควายในดวงจันทร์
เจ้าขุนทอง การแสดงเพลงนิทานหรรษา
คณะสรรค์สนุก นิทานหุ่นสายประกอบเพลง
หุ่นเด็กเทวดา การแสดงนิทานพื้นบ้าน
หุ่นเงา แจ๋ มะขามป้อม การแสดงหุ่นเงา
สาธิตสารพันหุ่น


รู้จักหุ่นไทย
สาธิต หุ่นหลวง หุ่นกระบอก หุ่นวังหน้า หุ่น ละครเล็ก
การแสดง หุ่นกระบอกครูไก่
นิทรรศการหุ่นดี


หุ่นเอเซีย พม่า อินโดนีเซีย ลาว อินเดีย
หุ่นตะวันตก หุ่นจากสาธารณรัฐเช็คโกสโลวากีย
work shop สำหรับทุกวัย


ทำหุ่นนิ้ว หุ่นมือ
ประดิษฐ์หุ่นสายจากเศษวัสดุเหลือใช้recycle
ฝึกเชิดหุ่น นิ้ว หุ่นมือ
ฝึกเชิดหุ่นสาย
ร้องเล่น เล่า เรื่อง นิทานสด จาก วงจำปูนและหุ่น



ภาพและข้อมูลจากเวบ
dinsorsee.wordpress.com















"อร่อยงามตามวิถีไทย"


อาหารไทยเป็นหนึ่งในอาหารที่มีความสุดยอดเรื่องรสชาติ จนติดอันดับเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ที่สำคัญอาหารบางเมนูที่คุ้นตาและเคยรับประทานอยู่เป็นประจำ อาจมีประวัติดั้งเดิมเป็นถึง “อาหารชาววัง” หรือเคยเทียบโต๊ะเสวยมาแล้ว มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เตรียมจัดงาน “ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม” ครั้งที่ ๔ ตอนมิวเซียมกินได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กินข้างทาง...นั่งข้างวัง” เพื่อสะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ผ่านอาหารการกินจากชาววังในอดีตสู่ปัจจุบัน เผยให้เห็นถึงวิวัฒนาการอาหารสตรีทฟู้ดของไทย ที่มีรากเหง้าแต่ดั้งเดิมมาจากห้องเครื่องต้นในรั้ววัง


ราเมศ พรหมเย็น ผอ.สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ผ่านอาหารการกินจากอดีตสู่ยุคปัจจุบัน โดยนำเสนอภูมิปัญญาอาหารไทย ผ่านสำรับอาหารห้องเครื่องต้น รัชกาลที่ ๕ ในพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา พระอัครชายาในรัชกาลที่ ๕ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “เอตทัคคะในด้านการทำกับข้าว” ปัจจุบันอาหารไทยที่เราคุ้นเคยและรับประทานกันบางรายการ มีที่มาจากห้องเครื่องต้น และได้รับพัฒนาประยุกต์จนกลายเป็นอาหารทั่วไปของคนทุกชนชั้น และสร้างชื่อเสียงให้อาหารไทยว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในอันดับต้น ๆ ของโลก






ด้าน รศ.วีณา เอี่ยมประไพ และ ผศ.ดร.ศันสนีย์ จะสุวรรณ์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โปรดอาหารคาว อาทิ ไก่นมวัว, แกงเทโพ และน้ำพริกกะปิ ซึ่งได้นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ด้วย พระวิมาดาเธอฯ ไม่เพียงมีพระปรีชาสามารถด้านการปรุงอาหาร แต่ยังทรงมีความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงแต่งรสชาติ คิดค้น ดัดแปลง ชนิดของพระกระยาหารให้มีความหลากหลาย โดยมีสูตรน้ำพริกมากกว่า ๕o ชนิด ทั้งยังทรงนำเครื่องปรุงที่มีอยู่เดิมมาดัดแปลงเป็นอาหารชนิดใหม่ ขณะเดียวกันอาหารชาววังมีความคล้ายคลึงกับอาหารชาวบ้าน เพียงแต่มีขั้นตอนการคัดสรรวัตถุดิบที่ดี มีกระบวนการและความพิถีพิถันในการปรุง การตกแต่ง รวมถึงมีรสชาติผสมผสานที่กลมกล่อม แล้วแต่ชนิดของอาหารว่าจะมีรสอะไรนำ รสอะไรตาม


ทั้งนี้ งาน "ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม" ครั้งที่ ๔ ตอนมิวเซียมกินได้ กำหนดจัดขึ้นวันที่ ๒o-๒๒ ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา ๑๘.oo-๒๒.oo น. ที่มิวเซียมสยาม ถ.สนามไชย ภายในงานชมการสาธิตวิธีการปรุงอาหารสูตรสำรับห้องเครื่องต้น รัชกาลที่ ๕ พร้อมอิ่มท้องกับการออกร้านอาหารชื่อดังร่วม ๓o บูธ ท่ามกลางบรรยากาศลมหนาวเย็นสบาย เคล้าเสียงเพลงอันไพเราะที่จะขับกล่อมตลอดงาน



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net















"ความทรงจำในสิ่งทอร่วมสมัย”


หอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน แถลงข่าวเปิดนิทรรศการ mnēmonikos เมมโมนิกอส – ศิลปะ ความทรงจำในสิ่งทอร่วมสมัย นิทรรศการศิลปะที่สำรวจสิ่งทอร่วมสมัยในระดับโมเลกุล นำโดยคุณกฤติยา กาวีวงศ์ ผู้อำนวยการ หอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน และได้รับเกียรติจากจากภัณฑารักษ์ชาวญี่ปุ่น คุณโยชิโกะ วาดะ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอ และผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับ ‘ชิโบริ’ ที่กลายเป็นตำนานและตำราสำหรับผู้ที่สนใจด้านสิ่งทอทั่วโลก มาเป็นผู้คัดสรรและรวบรวมผลงานของศิลปิน ๒๖ ท่าน จากประเทศต่าง ๆ มาจัดแสดง เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมที่ส่งอิทธิพลต่อศิลปิน โดยงานจะจัดแสดงขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ – ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ หอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน



































ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค HiSoParty















"เผชิญหน้า : สามภวังค์"


จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชวนชมนิทรรศการ "เผชิญหน้า : สามภวังค์" ระหว่างวันที่ ๒o ธันวาคม ๒๕๕๖ - ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ สำนักงานวิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


นิทรรศการ "เผชิญหน้า : สามภวังค์" ซึ่งเป็นผลงานของ อ.ประดิษฐ์ ตั้งประสาทวงศ์ ที่ในครั้งนี้จะเป็นการนำเสนอประสบการณ์ มุมมอง และปรัชญาของชีวิตที่มนุษย์ต้องเผชิญผ่านอุปมาอุปมัยสามสภาวะที่ศิลปินขมวดปม ได้แก่


๑. กิเลส (Kilesa: Anxiety, Fear, Anger, Jealousy, Desire, Depression, etc.)

๒. สัจธรรม (Truth)

๓. ความลังเล (Irresolution/Vacillation)


ซึ่งอยู่บนพื้นฐานปรัชญาพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประสบการณ์ตรงที่ศิลปินนำหลักการทางพุทธศาสนามาบำบัดอาการป่วยที่เกิดจากความผิดปกติเคมีในสมอง "เผชิญหน้า: สามภวังค์" จึงเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองที่ศิลปินมองเห็นและประจักษ์ต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน ผู้ชมจะสัมผัสสภาวะจำลองทั้งสาม ที่ศิลปินสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ชมตระหนักถึงการมีชีวิตและตั้งคำถามต่อการมีชีวิตในปัจจุบันที่ไม่ว่าเชื้อชาติใด ชนชั้นใด ต้องล้วนเผชิญกับสภาวะดังกล่าว


และเหนือสิ่งอื่นใด นิทรรศการครั้งนี้ยังเป็นการขยายประตูของศิลปะร่วมสมัยไทยกระแสหลัก ในการตีความหมายของศิลปะร่วมสมัย ทั้งทางด้านการแสดงออกและแง่มุมทางแนวคิด ที่อาศัยการกฎเกณฑ์พื้นถิ่นและขนบดั้งเดิมในการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์



ภาพและข้อมูลจากเวบ
kapook.com















"โลกของภุชง โดย ณรงค์ นาคา”


นิทรรศการ “โลกของภุชง” นำเสนอผลงานจิตรกรรมผสมผสานกับเทคนิคงานวาดเส้นและกระบวนการขูดขีดเพื่อสร้างร่องรอยบนผิวภาพ โดยใช้รูปทรงของต้นไม้ ดอกไม้ พระอาทิตย์ ดวงจันทร์ และรูปทรงเรขาคณิตต่าง ๆ เป็นตัวแทนของแนวความคิดเกี่ยวกับความงดงามของสิ่งแวดล้อมรอบตัวในชีวิตและธรรมชาติที่มีบทบาทต่อความรู้สึกของศิลปิน ผลงานจิตรกรรมที่สวยงามด้วยเส้นสีซับซ้อน สดใสสุกสว่าง สร้างสรรค์โดยศิลปินและอาจารย์สอนศิลปะ ณรงค์ นาคา

นิทรรศการจัดตั้งแต่วันที่ ๑๒ พ.ย. - ๒o ธ.ค. ๒๕๕๖ ณ ดีโอบี หัวลำโพงแกลเลอรี่























ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค ARDEL Gallery















"ความจริงอย่างมายา”


เมื่อสถานการณ์จริงผ่านพ้นไป คงเหลือไว้แต่ภาวะห้วงอารมณ์ความรู้สึก บางครั้งแจ่มจรัสเพริดพริ้งหรือขมขื่นเจ็บแสบ เกิดแล้วดับไป สิ่งที่เป็นทั้งมายาคติและอุปาทาน ดังเงาที่ทาบรอยผ่านจิตวิญญาณให้เจิดจ้าด้วยความมืดมิด ก่อนจะตระหนักรู้สติระลึกได้ถึง ความจริงอย่างมายา


นิทรรศการ “ความจริงอย่างมายา” ของ อาจารย์ ธณฤษภ์ ทิพย์วารี เป็นผลงานจิตรกรรมในเทคนิคสีน้ำมันและจิตรกรรมผสมวาดเส้น กว่า ๒o ปี โดยศิลปินผ่านการสร้างสรรค์ผลงาน ๖ ปีเต็ม (ระหว่างปี ๒oo๗ – ๒o๑๓) ผลงานจิตรกรรมที่จัดแสดงในครั้งนี้ได้กล่าวถึง สถานการณ์จริง ประสบการณ์ และเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาของอาจารย์ธณฤษภ์ ทิพย์วารี ช่วงเวลาเหล่านั้น ได้ผ่านความสุขและความทุกข์ ในภาพเขียนสีน้ำมันก็ได้ใช้ตนเอง, บุคคลในครอบครัว และบุคคลที่เป็นประสบการณ์ เข้ามาเป็นต้นแบบ สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับคติความเชื่อ และหลักในพระพุทธศาสนา เข้ามาสร้างสรรค์เรื่องราว ทำให้ผลงานดูกึ่งจริงกึ่งสมมุติ ภาวะกึ่งจริงกึ่งไสยศาสตร์ เป็นโลกที่เสมือนว่าจะถูกต้อง ชัดเจน แต่ดูคลุมเครือ เร้นลับ ผู้ที่รู้ไม่เท่าทันแก่นสาระแห่งพุทธวิถี หรือไม่เห็นแจ้งในสัจธรรม จะถูกบิดเบือนคุณค่าความเป็นมนุษย์ลง ด้วยผลงานจิตรกรรมเหล่านั้น เกิดจากการเทียบเคียงกับความรู้สึกภายใน


นิทรรศการ : “ความจริงอย่างมายา″
ศิลปิน : ธณฤษภ์ ทิพย์วารี
วันที่ : ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ – ๑๕ มกราคม ๒๕๕๗
สถานที่ : PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (วังท่าพระ) กรุงเทพฯ
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๒๒๕-๘๙๙๑, o๒-๒๒๑-o๘๒o











































ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com
















"Exposition Albert Camus”


แกลเลอรี่ของสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพจะได้ต้อนรับนิทรรศการภาพดิจิตอลอินเตอร์แอคทีฟหลายภาษา (ภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษ) ที่กล่าวถึงนักเขียนชื่อดังของฝรั่งเศสเนื่องในโอกาสครบรอบร้อยปีชาตกาล


นิทรรศการนี้จัดทำขึ้นโดย Institut Français มีความแปลกใหม่ตรงที่มีการนำเสนอนิทรรศการในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เพื่อให้สามารถชื่นชมผลงานในหลากหลายสัมผัส เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นที่ระบุไว้ แล้วสแกนภาพที่ติดอยู่บนกำแพงก็จะสามารถดูข้อมูลมัลติมีเดียบนหน้าจอได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ชมนิทรรศการสามารถพลิกหน้านวนิยายอ่านได้บนหน้าจอ สามารถดูภาพถ่ายแบบเคลื่อนไหว ฟังเสียงอ่านข้อความที่ตัดตอนมา หรือแม้แต่แชร์บทความที่ตัดตอนมาลงในโซเชียลมีเดีย นิทรรศการที่ทั้งน่าสนุกและจัดทำในหลายภาษานี้เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้รู้จักนักเขียนชั้นแนวหน้าของวงวรรณกรรมฝรั่งเศส ! เข้าชมฟรี


นิทรรศการ : อัลแบรต์ กามูส์
วันที่ : ๑๘ ธันวาคม – ๓๑ มกราคม
สถานที่ : สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร : o๒-๖๗o-๔๒๔o
อีเมล : mediatheque@alliance-francaise.or.th







ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com















"นิทรรศการรางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย”


ประกวดศิลปะถึง ๖ สาขาในเวทีเดียว และได้ตัดสินเยาวชนผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมและรางวัลดีเด่นของ "รางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย" ประจำปี ๒๕๕๖ หรือ Young Thai Artist Award 2013 ที่สำคัญมูลนิธิเอสซีจีได้นำผลงานคุณภาพ ศิลปะ ๒ มิติ, ศิลปะ ๓ มิติ, ภาพถ่าย, ภาพยนตร์, วรรณกรรม ไปจนถึงการประพันธ์ดนตรี มาจัดแสดงนิทรรศการที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า เป็นงานที่สร้างสรรค์และจรรโลงสังคมจริง ๆ เพราะพลังของศิลปะที่ศิลปินเลือดใหม่สามารถใส่เข้าไปได้






ศิลปะ ๒ มิติ ได้แก่ "สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครรู้จัก" โดยเกียรติศักดิ์ รุ่งรัตนพัฒนา คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผลงานสะเทือนอารมณ์ ศิลปะ ๓ มิติ ได้แก่ "ความเคลื่อนไหวต่อสภาวะการดำรงอยู่" โดยวรวัฒน์ เสือทอง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดดเด่นทั้งความคิด เทคนิค และวิธีเสนอน่าสนใจ






ส่วนภาพถ่าย ได้แก่ "หรือผมจะลืมถอดดอกกุหลาบไว้ที่ ๑๖๔/๖๙" โดยณัฐพล สวัสดี คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ งานชิ้นนี้ให้บรรยากาศความเป็นประชาธิปไตย เปิดให้ทุกคนตีความได้ ภาพยนตร์ ได้แก่ "ขอต้อนรับสู่ความเหงาอีกครั้งหนึ่ง" โดยวรางคณา เฑียรบุญเลิศรัตน์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรรมการให้รางวัลที่ศิลปะการเล่าเรื่อง เล่าผ่านตัวละครคนเดียว ประเด็นเดียว แต่เอาอยู่ สาขาการประพันธ์ดนตรี ได้แก่ "ปรับ-แปร-เปลี่ยน" โดยปิยวัฒน์ หลุยลาภประเสริฐ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผลงานสร้างประสบการณ์ดนตรีให้ผู้ฟังได้เต็มอิ่ม






พูดถึง ๖ ชิ้นงานแปลกใหม่ตามความเห็นคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ แรงขับภายในคือรากฐานที่สำคัญในการสร้างงานศิลปะ เกียรติศักดิ์ รุ่งรัตนพัฒนา เจ้าของผลงานยอดเยี่ยมศิลปะ ๒ มิติ เทคนิคภาคพิมพ์ Collograph แสดงถึงความเชื่อเรื่องสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ดูลึกลับและเป็นปริศนา ศิลปินหนุ่มบอกว่า ชอบและสนใจเรื่องสิ่งมีชีวิตต่างดาวมาแต่เด็กจนโต ก็เอาความเชื่อมาสร้างสรรค์บวกกับจินตนาการออกมาเป็นรูปทรงใหม่ของสิ่งมีชีวิตนอกโลก






"ผมเคยเห็นจานบิน มันก็เป็นความเชื่อ ก็เหมือนเรื่องผี ซึ่งทำให้ผมมีมุมมองการสร้างสรรค์ที่ต่างไปจากเดิม แสดงออกมาด้วยเทคนิคภาพพิมพ์ อาศัยน้ำหนักขาว เทา ดำ ให้ดูลึกลับซับซ้อน ได้อารมณ์แดนอวกาศ มีดวงตาแสดงถึงสิ่งมีชีวิต ในที่สุดก็ได้สิ่งมีชีวิตใหม่ รู้สึกดีใจได้รางวัลยอดเยี่ยม แสดงถึงผลงานได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับ นี่คือความสำเร็จก้าวแรก ผมทำได้แล้ว ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนเส้นทางศิลปินอาชีพ" เกียรติศักดิ์กล่าวอย่างฮึกเหิม






แถมฝากถึงมูลนิธิเอสซีจีให้ร่วมกับสถาบันการศึกษาด้านศิลปะจัดเวทีประกวดให้เข้มข้นอย่างนี้ตลอดไป เพราะรวมการสร้างศิลปะทุกสาขา กระตุ้นให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้พัฒนาตัวเองสู่การเป็นศิลปินมืออาชีพ และสร้างการรับรู้เรื่องศิลปะในสังคมไทย คนได้เสพงานศิลปะก็มีความสุข


ส่วน วรวัฒน์ เสือทอง หนุ่มสถาปัตย์ เอกประติมากรรม บอกเล่าผลงานยอดเยี่ยมว่า ใช้แนวคิดเรื่องผู้ใช้แรงงานมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างรูปทรงคนสวมกางเกงยีนส์ บอกความเป็นผู้ใช้แรงงาน ผสมผสานรูปทรงของเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้าง มีกลไกการเคลื่อนไหวที่ตนสร้างขึ้นมาให้เกิดความรู้สึกทำงานอยู่ตลอด ใช้งานหนักคล้ายสภาพความเป็นอยู่ของชนชั้นแรงงาน เขาเหมือนเครื่องจักรสร้างสังคมให้พัฒนา แต่คนส่วนใหญ่มองข้ามไป






"เทคนิคสื่อผสม ยากที่คำนวณน้ำหนักและหาวัสดุเครื่องจักรที่ประยุกต์เข้ากับชิ้นงาน เดินหาวัสดุที่บ้านหม้อ คลองถม ใช้เวลา ๓ เดือนสร้างผลงาน หมดเงินไปหลายหมื่น อดข้าวบ่อย ๆ เพื่อเอาตังค์ไปซื้อวัสดุที่ต้องการ อยากแสดงออกถึงความคิดและรูปทรงใหม่ ๆ" เจ้าของผลงานชิ้นเยี่ยมเผยความทุ่มเทจนในที่สุดได้รางวัลใหญ่ ซึ่งเป็นรางวัลแรกในชีวิต รู้สึกเหมือนได้เปิดตัวตนไปสู่สังคม






ไปชมนิทรรศการรางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย หรือ Young Thai Artist Award 2013 ด้วยกัน ถือเป็นเวทีที่ให้โอกาสเยาวชนได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มกำลัง เพื่อป่ายปีนความใฝ่ฝันในวงการศิลปะ ที่สำคัญช่วยส่งเสริมความสามารถด้านศิลปะอย่างต่อเนื่อง จัดแสดงจนถึงวันที่ ๒๗ ธันวาคมนี้ เวลา o๙.oo-๑๖.oo น. ณ ห้องนิทรรศการ ๕-๘ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เจ้าฟ้า หยุดวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ยุคนี้ร่วมติดตามความคืบหน้าได้ที่ เฟซบุค YoungThaiArtistAward อีกทาง.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaipost.net
เฟซบุค YoungThaiArtistAward
















"Thailand Perspective”


ประเทศไทย ในสายตาของชาวต่างชาติถือได้ว่าเป็นประเทศที่โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก อย่างไรก็ตาม มีน้อยคนนักที่จะรู้จักศิลปวัฒนธรรมของไทยในแขนงต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง


นิทรรศการภาพถ่าย “ทัศนะประเทศไทย” นี้ ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงศิลปวัฒนธรรมของไทยในเชิงลึก และเพื่อแนะนําส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยในมุมมองที่หลากหลายสู่ความเป็นสากล ใน ๔ รูปแบบ คือ ผ้าไหมไทย เผ่าชาวเขา ช้าง และมวยไทย


นิทรรศการ : ทัศนะประเทศไทย (Thailand Perspective)
ศิลปิน : ปุณณกัณฐ์ นาคหิรัญกนก, ถปานา บัณฑุพานิชย์, ปาร์ค ชีจิน และ วราภรณ์ พุ่มพวง
วันที่ : ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๖ – ๑๒ มกราคม ๒๕๕๗
สถานที่ : People’s Gallery ชั้น ๒ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสำนักงานหอศิลปกรุงเทพฯ : o๒-๒๑๔-๖๖๓o–๘
อีเมล : info@bacc.or.th
เว็บไซต์ : //www.bacc.or.th



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 18 ธันวาคม 2556
Last Update : 18 ธันวาคม 2556 20:58:08 น. 0 comments
Counter : 4801 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.