happy memories
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๒๕




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - ‪Yuhki Kuramoto‬









“นิทรรศการทิวลิปคิงภูมิพล"


อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวง จัด “นิทรรศการทิวลิปคิงภูมิพล และนิทรรศการ ๘o พรรณไม้งามโครงการหลวง” ระหว่างวันที่ ๒๑ ม.ค. - ๑๖ ก.พ. ๒๕๕๖ ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ โดยมี หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งมีกงสุลต่างๆ และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากเข้าร่วมงานในครั้งนี้


ดร.อำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง กล่าวว่า นิทรรศการทิวลิปคิงภูมิพลและนิทรรศการ ๘o พรรณไม้งามโครงการหลวง จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยความเป็นมาของการจัดนิทรรศการทิวลิปคิงภูมิพลนั้น มาจากการที่นายกลาส คูไดค์ เกษตรกรชาวดัตช์ เจ้าของบริษัท FA.P. Koeddiik & Zn ที่มีความประทับใจในความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖o ปี






ความประทับใจที่พสกนิกรไทยแสดงออกในครั้งนั้นได้สร้างความซาบซึ้งใจแก่ นายกลาส คูไดค์ จนเป็นแรงบันดาลใจให้พัฒนาทิวลิปสายพันธุ์ใหม่และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตตั้งชื่อดอกทิวลิปพันธุ์ใหม่นี้ว่า “ทิวลิปคิงภูมิพล” เพื่อความเป็นสิริมงคลและเขาก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนาม “คิงภูมิพล” เมื่อวันที่ ๒o ส.ค. ๒๕๕๒







ทางสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงจึงได้ติดต่อประสานงานผ่านสถานทูตไทยในเนเธอร์แลนด์ เพื่อขอนำหัวพันธุ์ทิวลิปคิงภูมิพลมาเพาะปลูกเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยความร่วมมือของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ซึ่งผลของการเพาะหัวพันธุ์ชุดแรกจำนวน ๕o หัว สามารถให้ดอกที่แข็งแรงสมบูรณ์เพียง ๓ ต้น เนื่องจากความผันแปรของภูมิอากาศ แต่สำหรับรุ่นต่อไปคาดว่าจะสามารถเพาะปลูกได้ผลดีประมาณ ๓oo ต้นและจะผลิบานได้ในช่วงกลางเดือน ก.พ. ๒๕๕๖



ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com
painaidii.com














"นิทรรศการภาพพิมพ์ ๕ สถาบันชั้นนำระดับนานาชาติ “PRINT RESONANCE”


ภาควิชาภาพพิมพ์ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขยายขอบเขตความร่วมมือในสาขาศิลปะภาพพิมพ์โดยร่วมกับสถาบันศิลปะชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น แคนาดา เบลเยี่ยม และสหรัฐอเมริกา จัดแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะภาพพิมพ์ ๕ สถาบันร่วมกัน ภายใต้ชื่อ “Print Resonance” ระหว่างวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ – ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ






การจัดนิทรรศการนี้มีจุดเริ่มต้นจากการที่มหาวิทยาลัย Musashino Art University สถาบันศิลปะชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ได้จัดทำสมุดรวมเล่มผลงานภาพพิมพ์ (portfolio) ขึ้น และนำมาจัดแสดงนิทรรศการที่ Musashino Art University Museum & Library ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ ๓ กันยายน – ๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ ต่อมาได้เชิญสถาบันศิลปะชั้นนำของประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา เบลเยี่ยม และไทย จำนวนอีก ๔ สถาบัน อันได้แก่ University of Alberta ประเทศแคนาดา University of Tennessee, Knoxville ประเทศสหรัฐอเมริกา Royal Academy of Fine Arts, Antwerp ประเทศเบลเยี่ยม และมหาวิทยาลัยศิลปากร ประเทศไทย เข้าร่วมในการจัดแสดงนิทรรศการดังกล่าว






ทั้งนี้ แต่ละมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมในโครงการจะนำผลงานภาพพิมพ์ที่สร้างสรรค์โดยคณาจารย์และนักศึกษาของทั้ง ๕ สถาบันที่ได้รับการคัดเลือก รวมจำนวนทั้งหมด ๕๐ ชิ้น ซึ่งประกอบไปด้วยผลงานที่ใช้เทคนิคภาพพิมพ์อันหลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนำมาจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนกันไปในแต่ละสถาบัน เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงานให้แก่อาจารย์ นักศึกษาและผู้สนใจได้รับชม และเพื่อเป็นการแสดงศักยภาพและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ทักษะ เทคนิคและวิธีการในการสร้างสรรค์ผลงานภาพพิมพ์ของประเทศในภูมิภาคตะวันตกและภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีแรงบันดาลใจและแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีความโดดเด่นและสะท้อนคุณค่าในผลงานที่แตกต่างกัน






นิทรรศการดังกล่าวกำหนดให้มีพิธีเปิดนิทรรศการในวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ณ หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ และจะมีการจัดทำ Workshop ร่วมกันของคณาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Musashino Art University และภาควิชาภาพพิมพ์ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย


ภาพและข้อมูลจาก
su.ac.th
fineart-magazine.com













"แลไทยในโลกกว้าง สะท้อนนิทรรศน์ฯชัดเจน"


ปิดฉากไปด้วยรอยยิ้มอีกหนึ่งเวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชนรวมถึงประชาชนทั่วไปได้ช่วยสะท้อน ถ่ายทอดแนวคิด และความรู้สึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่า ผ่านมุมมองในห้องจัดแสดงทั้ง ๙ ห้องของ "นิทรรศน์รัตนโกสินทร์" ภายใต้การดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สำหรับโครงการ "ประกวดภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ" ครั้งที่ ๒ ประจำปี ๒๕๕๕ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่าน จนได้รายชื่อผู้ชนะ และมอบรางวัลกันไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันก่อน ที่ห้อง สกายวิว ชั้น ๔ อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์


สมบรูณ์ ชัยเดชสุริยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กล่าวว่า ครั้งนี้แบ่งการประกวดออกเป็น ๒ กลุ่ม ได้แก่ ผลงานภาพนิ่ง และ คลิปวิดีโอ โดยภาพนิ่งได้กำหนดหัวข้อว่า "ห้องจัดแสดงสุดประทับใจ ในนิทรรศน์รัตนโกสินทร์" มีผลงานส่งเข้าร่วมประกวดทั้งหมด ๑,๓๔๗ ภาพ ส่วนหัวข้อการประกวดคลิปวิดีโอ คือ "นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ร่วมสมัยในแบบคุณ" มีผลงานส่งเข้าชิงชัย ๔๔ คลิป เน้นสะท้อนมุมมองในห้องจัดแสดงทั้ง ๙ ห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องรัตนโกสินทร์เรืองโรจน์ เกียรติยศแผ่นดินสยาม เรืองนามมหรสพศิลป์ ลือระบิลพระราชพิธี สง่าศรีสถาปัตยกรรม ดื่มด่ำย่านชุมชน เยี่ยมยลถิ่นกรุง เรืองรุ่งวิถีไทย และดวงใจปวงประชาฯ


ด้าน อุปถัมภ์ นิสิตสุขเจริญ ผู้อำนวยการอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เผยรายชื่อผู้ได้รับรางวัล โดยรางวัลชนะเลิศประเภทภาพถ่าย คือ ปานเพชร ร่มไทร เจ้าของผลงาน "แลไทยในโลกกว้างนิทรรศน์รัตนโกสินทร์" รองชนะเลิศอันดับ ๑ ผลงาน "ฟังยายเล่า" ของ ชฎาธาร ฉายปุริยานนท์ รองชนะเลิศอันดับ ๒ ผลงาน "รถไฟประวัติศาสตร์" ของ เอกรินทร์ เอกอัจฉริยะวงศ์ ส่วนรางวัลชมเชยมี ๒ รางวัล ได้แก่ "จ้องตาวรรณกรรม" ของ อรุณศักดิ์ ธีรานุตร และ "กินอยู่อย่างไทย" ของพลฤทธิ์ ฐิติวริทธินันท์


ส่วนคลิปวิดีโอ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ผลงาน "นิทรรศน์รัตนโกสินทร์แห่งความทรงจำ" ของ ธนศักดิ์ ขำอ่อน รองชนะเลิศอันดับ ๑ ผลงาน "นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ครบเครื่องเรื่องสยาม" ของ บรรณวิฑิต วิลาวรรณ รองชนะเลิศอันดับ ๒ ผลงาน "เรื่องของนิทรรศน์รัตนโกสินทร์" ของ กมลนัทธ์ แซ่อึ้ง สำหรับชมเชย ๒ รางวัล "นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ดินแดนแห่งสยาม" ของ พัชราภรณ์ ชมใจ และ "นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ร่วมสมัย" ของ ปณิธิ แพ่พวง"


ทั้งนี้ ปานเพชร กล่าวถึงแรงบันดาลใจว่า ต้องการถ่ายทอดบรรยากาศความประทับใจในมุมมอง ๓๖o องศาของห้องเรืองนามมหรสพศิลป์ ประกอบด้วยภาพเด็ก ๆ กำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับการละเล่น วิถีชีวิต ประเพณี และการแสดงของไทยในอดีตบนจอผนังอย่างตื่นตาตื่นใจ ขณะที่ ชฎาธาร ขยายความถึงต้นเหตุของฟังยายเล่าว่า ตัวเองอยู่กับยายมาตั้งแต่เด็กๆ พอเข้าไปในห้องนี้แล้วรู้สึกเหมือนกำลังนั่งฟังยายเล่าเรื่องอยู่บ้านจริง ๆ ส่วน เอกรินทร์ เล่าเกี่ยวกับผลงานของตัวเองว่า เกิดจากความชื่นชอบที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เลือกจัดแสดงภาพประวัติศาสตร์ภายในตู้รถไฟ ซึ่งผูกเรื่องระหว่างรถไฟฟ้าที่คนรุ่นใหม่คุ้นเคยถึงจะโลดแล่นไปข้างหน้าทว่าก็ไม่ลืมอดีตอันเป็นรากเหง้าของคนไทย


ขณะที่ ธนศักดิ์ ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจอันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์งานครั้งนี้ว่า เพราะชาวต่างชาติไม่ค่อยรู้จักวัฒนธรรมไทยขณะเดียวกันคนไทยเองบางคนค่อนข้างจะลืมเลือนเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยไปแล้ว จึงนำเสนอเรื่องราวโดยแบ่งออกเป็น ๓ ยุค ซึ่งแต่ละยุคจะมีความโดดเด่นเฉพาะตัว อย่างยุคเริ่มต้นกรุงรัตนโกสินทร์เลือกสื่อผ่านเครื่องแต่งกายด้วยโจงกระเบน พอมายุคกลางมีความสนใจเรื่องเทคโนโลยีเช่นการถ่ายภาพ และสุดท้ายยุคปัจจุบันเป็นวัฒนธรรมที่สวยงาม ส่วนวิธีการนำเสนอเน้นเดินเรื่องด้วยภาพผสมผสานกับดนตรีบรรเลง


และสุดท้าย บรรณวิฑิต ถือว่าเป็นผู้รับรางวัลอายุน้อยที่สุดของเวทีด้วยว่ากำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนลาซาลกรุงเทพเผยความรู้สึกว่า ชอบทุกห้องในนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ แต่ประทับใจสุด คือ ห้องดวงใจปวงประชาแสดงถึงความรักและผูกพันของรัชกาลที่ ๘ และรัชกาลที่ ๙ ดูแล้วขนลุก ส่วนแรงจูงใจที่ทำคลิปวิดีโอดังกล่าวเพราะอยากให้ทุกคนภาคภูมิใจในแผ่นดินนี้


สำหรับผู้สนใจชื่นชมผลงานศิลปะเหล่านี้ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้จัดเป็นนิทรรศการไว้ ณ ห้องจัดแสดงผลงาน แกลเลอรี อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ตั้งแต่วันนี้ถึง ๑๗ กุมภาพันธ์นี้ หรือติดตามผลงานผ่าน nitasrattanakosin.com


ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net
thaipost.net













“ฤดูกาลแห่งรัก”


“ฟลาวเวอร์เดคคอร์” ฉลองครบ ๑๔ ปีจัดงาน “ฤดูกาลแห่งรัก” แสดงผลงานดีไซน์ดอกไม้ หารายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยธาลัสซีเมีย พร้อมเชิญชวนผู้ใจบุญร่วมสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยที่มูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะเด็ก ๆ ในภาคเหนือที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือ


นายพิทักษ์ หังสาจะระ ผู้ก่อตั้งสถาบันสอนจัดดอกไม้ ฟลาวเวอร์ เดคคอร์ สตูดิโอ (Flower Décor Studio) เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ฟลาวเวอร์เดคคอร์ดำเนินกิจการครบรอบ ๑๔ ปี และในทุกๆ ปีจะมีนักเรียนจบหลักสูตรการจัดดอกไม้ ซึ่งทางสถาบันจะมีพิธีการมอบประกาศนียบัตร และในปีนี้มีนักเรียนที่จบหลักสูตรกว่า ๓o คน ซึ่งนักเรียนทั้ง ๓o คนได้นำผลงานการออกแบบและจัดดอกไม้ในรูปแบบต่างๆ หลากหลายสไตล์มาจัดแสดงโชว์ในงานด้วย โดยในปีนี้พิเศษกว่าปีก่อน ๆ เนื่องจากทางสถาบันได้ร่วมกับมูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย ในพระราชอุปถัมภ์ฯ จัดกิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนคือ การจัดแสดงนิทรรศการ การจำหน่ายผลงานศิลปะหลากหลายแขนง การออกบูธขายสินค้าราคาพิเศษเกี่ยวกับอุปกรณ์และวัสดุต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดดอกไม้ เช่น ริบบิ้น กระดาษตกแต่ง เครื่องประดับ รวมถึงการประมูลผลงานศิลปะต่างๆจากศิลปินที่นำผลงานมาร่วมประมูล ซึ่งรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำไปสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ผ่านมูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียฯ ต่อไป






“ในปีนี้เราได้จำหน่ายบัตรเข้างาน เพื่อนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายบัตรเข้างานไปช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย ที่มีศาสตราจารย์เกียรติคุณแพทย์หญิงคุณหญิงสุดสาคร ตู้จินดา เป็นประธานมูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย และคุณสายพิณ พหลโยธิน เป็นประธานฝ่ายจัดหาทุนของมูลนิธิ ซึ่งเราดีใจมากที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยหารายได้เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิฯ และดีใจที่เพื่อน ๆ ร่วมวงการนักจัดดอกไม้อย่าง สกุล อินทกุล สันติพงษ์ คงรักษ์ และภูวนารถ ชุ่มศรีขรินทร์ มาร่วมกันแสดงการจัดดอกไม้ตามสไตล์ของแต่ละคน ซึ่งผลงานการจัดดอกไม้สามารถประมูลได้เงินกว่า ๗ หมื่นบาท รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้งานครั้งนี้เต็มไปด้วยความสุขที่ได้ร่วมกันบุญเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โดยเฉพาะเด็กๆ ในภาคเหนือที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือ”






นอกจากนี้ ในงานยังได้สร้างสรรค์ผลงานชุดราตรีที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้ประดิษฐ์ผสมกับดอกไม้สด มาโชว์บนแคทวอล์ค กว่า ๒๑ ชุด แบ่งออกไป ๔ ฤดูกาล คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว โดยมีคอนเซ็ปต์คือ ฤดูกาลแห่งรัก ซึ่งจะนำเอาความรักไปดีไซน์สร้างสรรค์ออกมาผ่านชุดตามสไตล์ทั้ง ๔ ฤดูกาล โดยมีนางเอกสาวสวย ริต้า ศรีริต้า เจนเซ่น มาสวมชุดฟินาเล่ปิดโชว์อันงดงามตระการตา






ผู้สนใจอยากร่วมทำบุญและร่วมสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย ติดต่อได้ที่มูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย โทร.o๒-๔๑๙-๘๓๒๙ และ o๒-๔๑๒-๙๗๕๘ หรือ


ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com
komchadluek.net















"“สืบสานตำนานมังกร ครั้งที่ ๑๗"


อีกหนึ่งงานกับเทศกาลตรุษจีน ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ เชิญร่วม เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนครั้งยิ่งใหญ่ พิเศษสุดกับ งิ้วสากล หวนคืนเวทีครั้งแรกในรอบ ๓ ทศวรรษ และสัมผัสความงดงามตระการตาของอุปรากรจีน หลากรสชาติ อาทิ งิ้วแต้จิ๋ว งิ้วไทย และ อิ่มอร่อยกับอาหารจีนเลิศรส ในงาน “สืบสานตำนานมังกร” วันที่ ๘ - ๑๒ กุมภาพันธ์ ศกนี้ เวลา ๑o.๓o–๒๑.oo น. ที่ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ และ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนบางแค เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามให้ลูกหลานชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีนได้มีโอกาสฉลองเทศกาลตรุษจีนกันอย่างถ้วนหน้า






กิจกรรมภายในงาน

การแสดงอุปรากรจีน งิ้วแต้จิ๋ว งิ้วไทย มาแสดงให้ได้ชมกันตลอดทั้ง ๕ วัน อาทิ “งิ้วแต้จิ๋ว” เรื่อง โหง่วหั่งซัวมี(เมียดีต้องฆ่า), ชอป้าอ๋อง “งิ้วไทย” เรื่อง ไทเฮาพระเนตรบอด, เปาบุ้นจิ้น ตอน ประหารเปาเหมี่ยน “งิ้วสากล” เรื่องอาซ้อแต้จิ๋ว และยังเชิญนักแสดงที่มีชื่อเสียงของเมืองจีน และ ของเมืองไทยมาร่วมในการแสดงอุปรากรจีนครั้งนี้ด้วย


งิ้วสากล ที่หวนคืนเวทีครั้งแรกในรอบ ๓ ทศวรรษ โดยคณะอาเม้ง ป.ปลา นำ “งิ้วสากล” เรื่องอาซ้อแต้จิ๋ว ที่เคยโด่งดังในโรงงิ้วบนถนนเยาวราชเมื่อสมัย 30 ปีก่อน นำกลับมาปัดฝุ่นเพื่อแสดงในครั้งนี้โดยเฉพาะ






แล้วอะไรคืองิ้วสากล งิ้วสากล จะมีรูปแบบคล้ายละครเวที วิธีการแต่งหน้า-แต่งตัว ก็จะเป็นแบบสามัญของคนจีนในยุคสมัยนั้น แต่คงไว้ซึ่งการร่ายรำและการขับร้องแบบที่เป็นเสน่ห์ของงิ้วไว้ นับว่าเป็นสิ่งที่หาชมยากมาก ปัจจุบันในเมืองไทยไม่มีให้ได้ชมง่ายนัก และยังได้รับเกียรติจาก อาจารย์อำพล เจริญสุขลาภ หรือ อาเม้ง ป.ปลา ผู้ก่อตั้งศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมไทย-จีน ร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย หลังจากตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จมาตลอด






การจำหน่ายสินค้ามงคลและอาหารจีนเลิศรส เลือกซื้อสินค้าเสริมมงคล อาทิ ต้นไม้มงคล หยก หิน ๑๒ ราศี จี้มงคลแก้ชงตามราศีเกิด เครื่องกังไสยเสริมสิริมงคล ของไหว้เจ้า เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ฯลฯ

• อิ่มอร่อยกับอาหารจีนเลิศรสแบบฉบับของชาวจีน อาทิ เกาลัด ซาลาเปา ขนมจีบ หมั่นโถว ติ๋มซำ เป็ดพะโล้ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง กระเพาะปลา ขนมเทียน ขนมเข่ง บะจ่าง ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้งนึ่ง ปลาเส้น ขนมหนวดมังกร ตุ๊บตั๊บ น้ำสมุนไพร เฉาก๊วย ผลไม้มงคล ฯลฯ






ภาพและข้อมูลจาก
sadoodta.com
banmuang.co.th














"CREATIVE ART EXHIBITION"


Creative Art Exhibition นิทรรศการแสดงผลงานระหว่างทางของการศึกษาในรายวิชา Creativity in Visual Art I : การสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ 1 วิชาที่ว่าด้วยการศึกษาวิเคราะห์ ทดลอง ค้นคว้า ค้นหา พัฒนาความคิด การแสดงออกและการปฏิบัติ


เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานทางทัศนศิลป์เฉพาะบุคคล โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานการศึกษาองค์ประกอบศิลป์และการวาดเส้น ปฏิบัติงานด้วยสื่อต่าง ๆ ทางทัศนศิลป์ โดยไม่จำกัดการสร้างสรรค์ทั้งเทคนิค วิธีการและวัสดุ ผลงานที่จัดแสดงเป็นผลจากการเรียนรู้ ศึกษา ค้นคว้าและทดลองหาความเป็นไปได้ต่าง ๆ ทั้งทางเทคนิค รูปแบบ แนวความคิดและการแสดงออก อันเป็นฐานของการเรียนรู้ วิธีการศึกษา การทำงานสร้างสรรค์ในระดับสูงสู่ชั้นปีต่อ ๆไป


นิทรรศการ : CREATIVE ART EXHIBITION : การสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์
ศิลปิน : โดยนักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๕ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
วันที่ : ๒๙ มกราคม – ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
สถานที่ : PSG Art Gallery หอศิลป์คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (วังท่าพระ) กรุงเทพฯ
ติดต่อ : o๒-๒๒๑-๓๘๔๑





ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com














"Exotika 2013"



นิทรรศการ EXOTIKA 2013 โครงการจากความร่วมมือระหว่างหอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กับ Alfred Banze ภัณฑารักษ์ชาวเยอรมัน ณ หอศิลป์สนามจันทร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม ศิลปินในโครงการประกอบด้วย จิตรกร Christine Falk, Alfred Banze, Participatory จากเยอรมนี Andreas Dettloff จากตาฮิติ Mu Yunbai ศิลปินวาดเส้นและประติมากรรมไม้จากจีน Skall ศิลปินสาขาศิลปะการแสดงชาวฝรั่งเศส นิทรรศการเปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ ๒๙ ม.ค.ถึง ๒๘ ก.พ. ๕๖ จันทร์-ศุกร์ เวลา o๙.oo - ๑๖.๓o น. วันที่ ๒๙ ม.ค. เวลา ๑๔.oo น. บรรยายนำชมโดย Alfred Banze


นิทรรศการ EXOTIKA 2013
ระหว่างวันที่ ๒๘ มกราคม - ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
จันทร์ - ศุกร์ เวลา ๙.oo - ๑๖.๓o น.
ณ หอศิลป์สนามจันทร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม


ภาพและข้อมูลจาก
art-centre.su.ac.th
ryt9.com














"พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวน คลังแห่งวิถีชีวิต ๒oo ปี"


นครนายก จังหวัดที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเมืองกรุง แต่ที่แน่ ๆ คือ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย สำหรับหลายคนที่ไม่อยากเดินทางไกล ที่นี่อาจเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ดีไม่น้อย






พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวน ตั้งอยู่ที่ วัดฝั่งคลอง ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เป็นที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของชาวไทยพวนในอดีตอายุราว ๒oo ปี เช่น ผ้าซิ่นไทยพวน โม่หิน ถังต้มกาแฟโบราณ อุปกรณ์ในการทำนา เครื่องมือในการทอผ้า เป็นต้น






นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดฝั่งคลอง ยังมีกลุ่มทอผ้าพื้นเมือง และทำไข่เค็มสูตรใบเตยหอม นักท่องเที่ยวสามารถออกไปชมชุมชนบ้านไทยพวนวัดฝั่งคลอง ซึ่งยังคงอนุรักษ์วิถีความเป็นอยู่แบบชาวไทยพวนไว้เป็นอย่างดี


สำหรับเวลาการเข้าชมพิพิธภัณฑ์นั้น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชม พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวนวัดฝั่งคลองได้ในเวลา o๘.๓o-๑๗.๓o น.





ภาพและข้อมูลจาก
travel.thaiza.com














"“iN-PUBLiC : นิทรรศการภาพถ่ายชีวิตบนท้องถนน”"


ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ Thailand Creative & Design Center: TCDC เชิญชมนิทรรศการ “iN-PUBLiC : นิทรรศการภาพถ่ายชีวิตบนท้องถนน” ร่วมมองความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาผ่านสายตาช่างภาพแนว Street Photography จากทั่วโลกจำนวน ๒๑ คน


ที่รวมตัวกันในชื่อกลุ่ม “iN-PUBLiC” ซึ่งมีอิทธิพลสำคัญในวงการ Street Photography ของโลก และมีบทบาทโดดเด่นในการสร้างกระแสความนิยมการถ่ายรูปภาพแนวนี้ให้กลับมาอีกครั้ง นิทรรศการนำเสนอภาพถ่ายที่ล้วนถ่ายทอดเรื่องราวในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตบนพื้นที่สาธารณะ เน้นสิ่งที่เกิดขึ้น “จริง” ไร้การปรุงแต่ง ไร้การจัดฉาก และแสดงถึงความเป็นไปในชีวิตประจำวันของผู้คน ภาพถ่ายเหล่านี้อาจดูเหนือจริง ด้วยความแตกต่างของที่มา ตั้งแต่ลอนดอน อินเดีย ไปจนถึงพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน แต่ทุกภาพล้วนสื่อถึงความสง่างามและความอบอุ่นที่แฝงเร้นอยู่ในความ “ธรรมดา” ของชีวิต










นิทรรศการนี้จัดโดย TCDC ร่วมกับ British Council พร้อมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ 3 วันในหัวข้อ “การถ่ายภาพแนวสตรีท : กรุงเทพฯ” ตั้งแต่วันที่ ๑ – ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมเวิร์กช็อปแล้ววันนี้ ดูรายละเอียด










เข้าชมฟรี
ณ TCDC ชั้น ๖ ดิ เอ็มโพเรียม ๑o.๓o – ๒๑.oo น. (ปิดวันจันทร์)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ TCDC โทร. o๒-๖๖๔-๘๔๔๘ ต่อ ๒๑๓, ๒๑๔

(นิทรรศการหมุนเวียน)
วันที ๖ กุมภาพันธ์ - ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๖
เวลา ๑o.๓o - ๒๑.oo
สถานที โถงทางเข้า TCDC


ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com














"เพราะฉันต้องการ ที่ว่างของฉัน"


สิ่งที่ฉันทำ ไม่ได้ทำเพื่อไว้ค้าขายให้ได้เงินทอง หรือเพื่อเป็นสินค้า ฉันทำเพื่อแสดงให้เห็นคุณค่าความเป็นคน คุณค่าปัญญาของคน จ่าง แซ่ตั้ง ๒๔๗๗ – ๒๕๓๓


กลับมาอีกครั้งกับนิทรรศการศิลปะทรงคุณค่าและหาชมยากยิ่งของเมืองไทย ผลงานของศิลปินเอ็กเพรสชั่นนิสม์ (Expressionism) “จ่าง แซ่ตั้ง” ในนิทรรศการที่มีชื่อว่า “เพราะฉันต้องการ ที่ว่างของฉัน” ซึ่งเป็นวลีหนึ่งจากบทความและข้อเขียนขณะยังมีชีวิตอยู่ของศิลปิน โดยเขียนข้อคิดถึงตัวเอง หรือเขียนเรื่องราวส่วนหนึ่งที่ศิลปินประสบพบเจอ บอกเล่าผ่านตัวหนังสือและงานศิลปะต่างๆที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน










“เพราะฉันต้องการ ที่ว่างของฉัน” จัดแสดงผลงานทั้งหมดมากกว่า ๔o ชิ้น โดยผลงานศิลปะแบ่งออกเป็น ๔ ชุด ด้วยกันคือ ผลงานจิตรกรรมทิวทัศน์สีน้ำ ผลงานวาดเส้นรูปเหมือนบุคคล ผลงานวรรณกรรมบทกวี และผลงานบทกวีรูปธรรม ซึ่งเป็นการรวบรวมผลงานในหลากหลายช่วงชีวิต ร่วมชื่นชม ค้นหาความสุนทรีย์ และเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชิ้นงานหนึ่งที่บรรจุอยู่ในพื้นที่ว่างของศิลปินนาม ‘จ่าง แซ่ตั้ง’


นิทรรศการ จ่าง แซ่ตั้ง “เพราะฉันต้องการ ที่ว่างของฉัน” ร่วมชื่นชมนิทรรศการจิตรกรรม บทกวีรูปธรรม และบทกวี และเชิญชมภาพยนตร์ “เพราะฉันต้องการ ที่ว่างของฉัน” ชนะเลิศประเภทสารคดี รางวัล ดุ๊ก เทศกาลภาพยนตร์สั้น ครั้งที่ ๑๖ ประจำปี ๒o๑๒


ภัณฑารักษ์โดย คุณทิพย์ แซ่ตั้ง







…ฉันเคย รับจ้าง เขียนรูปเหมือนให้กับพ่อแม่ชาวบ้าน
ฉันเคย เขียนภาพทิวทัศน์ แต่ไม่รับจ้าง
ฉันเคย สร้างภาพจิตรกรรม แต่ไม่รับจ้าง
ฉันเคย เขียนบทกวี แต่ไม่รับจ้าง
เพราะฉันต้องการ ที่ว่างของฉัน…
(จ่าง แซ่ตั้ง : ข้อเขียนไม่ปรากฎปีเขียนและไม่เคยพิมพ์เผยแพร่)

นิทรรศการ : จ่าง แซ่ตั้ง “เพราะฉันต้องการ ที่ว่างของฉัน”
วันที่ : ๕ กุมภาพันธ์ – ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สถานที่ : ณ หอศิลป์ ศุภโชค ดิ อาร์ต เซ็นเตอร์ สุขุมวิท ๓๓ กรุงเทพฯ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร : o๒-๖๖๒-o๒๙๙, o๘๖–๘๙๑–๑๘๙๓, o๘๙–๖๙๔–๕๓๘๙
อีเมล์ : info@sacbangkok.com
เฟสบุ๊ค : //www.facebook.com/sacbangkok
เว็บไซต์ : //www.sacbangkok.com


ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com













"af กับศิลปะแบบกราฟฟิตี้"


สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ ภูมิใจเสนอการพบกันที่แสนจะลงตัวของสองศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดัง เอล็กซ์ เฟซ ศิลปินชาวไทย และฌ้าซ ศิลปินชาวฝรั่งเศส จะมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานทีละเล็กทีละน้อยในรูปแบบนิทรรศการทั้งแบบเดี่ยวและรวมบนกำแพง ณ บริเวณที่เคยเป็นที่ทำการของฝ่ายวัฒนธรรมและความร่วมมือ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ที่ชั้นสองของสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม เป็นต้นไป


อเล็กซ์ เฟซ หรือในชื่อไทยว่า พัชรพล แตงรื่น เป็นศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดังและทรงอิทธิพลในเมืองไทย ความสนใจ และการเรียนด้านสถาปัตยกรรมเปิดโอกาสให้เขาได้เห็นและรู้จักอาคารและกำแพงที่ถูกทิ้งร้างซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ และแล้วเขาก็สร้างแบรนด์ อเล็กซ์ เฟซ ตัวละครใบหน้าเด็กแต่หน้าตาเหมือนคนแก่ แลดูเก็บกด สวมชุดที่ทำจากสัตว์ อเล็กซ์ เฟซใช้ศิลปะกราฟฟิตี้ในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างคนเมือง คนในชุมชนยากจนของกรุงเทพฯ และคนต่างจังหวัด ปัจจุบันเขาวาดภาพกราฟฟิตี้เพนกวินอันแสนโด่งดังที่ได้เคยทำไว้เพิ่มเติมจากเดิมอยู่


ฌ้าซ เป็นศิลปินกราฟฟิตี้ที่เกิดที่ เลอ อาฟวร์ เขาใช้ชีวิตที่เกาะลา เรอูนิยงน์ ตั้งแต่อายุ ๙ ขวบ ฌ้าซคือกูซู เด็กชายตัวน้อยที่ไม่มีใบหน้า ไม่มีดวงตาที่เย็นชา ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญว่ากูซูอาศัยอยู่ที่ไหน เขาจะปรากฎตัวได้ทุกเวลา ทุกทวีป และทุกที่ที่ให้การสนับสนุน ความชื่นชอบในการวาดภาพและความตื่นตาของโลกอันเดอร์กราวด์ผลักดันให้ฌ้าซกลายเป็นศิลปินกราฟฟิตี้ผู้หลงใหลการสร้างความแปลกใหม่ให้กับป้ายโฆษณาและเคยจัดนิทรรศการมาแล้วทั่วโลก จากความรักในอิสรภาพฌ้าซไม่ปรารถนาจะอยู่แต่ในโลกของกูซูอีกต่อไป แต่จะนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ล่าสุดที่จะสร้างความประหลาดใจให้ผู้ชมที่สมาคมฝรั่งเศส


ตลอดเวลา ๔ วันผู้ที่ชื่นชอบศิลปะเมืองสามารถเข้าชมการทำงานของศิลปินพร้อมพบปะศิลปินได้ที่ห้องทั้ง ๗ ห้องที่จัดเตรียมไว้ โดยหลังจากเสร็จสิ้นการสร้างสรรค์ผลงานของแต่ละคน จะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันต่อหน้าแขกรับเชิญในงานเปิดนิทรรศการวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๖


สมาคมฝรั่งเศสหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานครั้งนี้จะเป็นการพบกันที่ไม่เหมือนใครซึ่งสื่อให้เห็นถึงการผสมผสานของรูปแบบ เอกลักษณ์ และวัฒนธรรมของทั้งสองศิลปิน


เข้าชมฟรี
วันที่แสดงงาน : ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
สถานที่: ชั้นสองของสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ : o๒-๖๗o-๔๒๓๑
อีเมล : chalanthorn.kidthang@alliance-francaise.or.th
gouzou.net และ เฟซบุค Alexokizoo

สนับสนุนโดย : air-austral.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com












"ศิลปไทย


โครงการศิลปไทย (Thai Arts Exhibition) โครงการนิทรรศการศิลปะนิพนธ์ โดยกลุ่มนักศึกษามหาบัณฑิต สาขาทัศนศิลป์ ภาควิชาศิลปไทย คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ภายใต้การนำเสนอนิทรรศการศิลปไทยร่วมสมัย


จากกลุ่มศิลปิน ๑๒ คน ที่มีใจรักในการทำงานศิลปะอันเป็นที่ตั้ง และมีแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่แตกต่างกัน นำเสนอถึงวิถีความเป็นอยู่ เรื่องราว รากเหง้าความเป็นไทย ทั้งคติ ความเชื่อ ศาสนา วัฒนธรรม และขนบประเพณี ในการแสดงออกทางผลงานศิลปะในรูปแบบที่แตกต่างกันทั้ง จิตรกรรมแบบแนวประเพณี จิตรกรรมสื่อผสม ประติมากรรม และสื่อผสม






การแสดงออกจากแรงบันดาลใจ เป็นตัวกำหนดความคิด ความรู้สึก อันเกิดจากจิตใต้สำนึก เพื่อสะท้อนมุมมองผ่านผลงานศิลปะ ที่เป็นแนวทางเฉพาะตน จากประสบการณ์ สิ่งแวดล้อมรอบๆตัว ที่ศิลปินได้ถ่ายทอดจินตนาการการสร้างสรรค์ผลงานในนิทรรศการนี้ ให้ศิลปะเป็นสื่อกลางทางจิตใจ ถ่ายทอดคุณค่า และความงาม ในวิถีชีวิตวัฒนธรรมท้องถิ่น นำเสนอ เนื้อหา สาระ ความเป็นรูปธรรม ที่เชื่อมโยงจิตใจ และแรงศรัทธาเป็นตัวขับเคลื่อนพลังที่จะแสดงออกให้ได้ถึงสัมพันธภาพจากใจ


วิธีการคิด การนำเสนอ ในกระบวนการเฉพาะของแต่ละวัฒนธรรมท้องถิ่น การสร้างสรรค์ความงามที่มีความหมาย ให้ได้รับรู้ และเข้าใจ เข้าถึง ในวิธีการที่ศิลปินนำเสนอ ได้แก่ ผลงานจิตกรรมผสมทั้ง สีฝุ่น สีน้ำมัน การวาดเส้น การดุนโลหะ จิตรกรรมบนแผ่นหนัง จิตรกรรมบนผืนทราย การแกะไม้ และวัสดุการเย็บบนผืนผ้า อีกทั้งยังเป็นการถ่ายทอดให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศิลปิน จากผลงานที่ได้สร้างสรรค์ตามความคิด ได้กลั่นกรองมาจากกระบวนการทางความรู้สึก ในสุนทรียศาสตร์ความงามทางศิลปะได้อย่างมีเอกภาพ


นิทรรศการ : “ศิลปไทย”
ศิลปิน : กลุ่มนักศึกษามหาบัณฑิต สาขาทัศนศิลป์ ภาควิชาศิลปไทย คณะจิตรกรรมประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
วันที่ : ๑๘ มีนาคม – ๔ เมษายน 2556
สถานที่ : ห้องนิทรรศการชั้น ๒ หอศิลป์จามจุรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โทรศัพท์/ โทรสาร : 02-218-3709
รายละเอียดเพิ่มเติมเว็บไซต์ : jamjureeartgallery.blogspot.com


ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com













""วิถีแห่งสีน้ำ"( way is watercolor)"


:จิตรกรรมสีน้ำ ชุด "วิถีแห่งสีน้ำ"
ศิลปิน : จิตรกรสีน้ำ กลุ่ม หกจุด ( six point )
ลักษณะงาน : จิตรกรรมสีน้ำ
พิธีเปิดนิทรรศการ : วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๑๘.oo น.
ระยะเวลาที่จัดแสดง : ๒๗ กุมภาพันธ์ – ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖
ห้องนิทรรศการ : ห้องนิทรรศการชั้น ๑ ห้อง ๓ - ๔


แนวความคิด

นิทรรศการจิตรกรรมสีน้ำ ชุด “วิถีแห่งสีน้ำ” โดย จิตรกรสีน้ำ กลุ่ม หกจุด ( six point )
กับการเข้าสู่ปีที่ ๒๗ ของการสร้างสรรค์งานอย่างต่อเนื่อง ขอเรียนเชิญท่านผู้สนใจร่วมชม และร่วมสังสรรค์วันเปิดนิทรรศการ ดังนี้


ปาร์ตี้เปิดนิทรรศการ วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ศกนี้ เวลา ๑๘.oo เป็นต้นไป นิทรรศการ จะเปิดให้ชม ตั้งแต่วันที่ ๒๗ ก.พ. ถึง ๑๕ มี.ค. อันมีสมาชิกกลุ่มที่เป็นศิลปินสีน้ำมากหน้าหลายตา อาทิเช่น สุชาติ วงษ์ทอง, สมโภชน์ สิงทอง, ธรรมนูญ เรืองสวัสดิ์, วิเชษฐ์ จันทร์นิยม , มนตรี สามฉิมโฉม และ ฯลฯ ภายในนิทรรศการจะมีภาพเขียนสีน้ำที่หลากหลายลีลา ในการนำเสนอของจิตรกรแต่ละคน และเป็นการแสดงนิทรรศการจิตรกรรมสีน้ำอย่างต่อเนื่องในนาม กลุ่ม หกจุด (six point group) อันเป็นวาระของการเข้าสู่ขวบปีที่ ๒๗ แล้ว ในปัจจุบัน


ภาพและข้อมูลจากเวบ
jamjureeartgallery.blogspot.com













"There is no essence”


อาร์ทเทอรี่ โพสต์-โมเดิร์น แกลเลอรี่ ภูมิใจนำเสนอนิทรรศการผลงานประติมากรรมกระดาษ ซึ่งเป็นเทคนิคการสร้างสรรค์ชั้นยอดของศิลปินหนุ่มชาวเกาหลี “โฮ-ยูน ชิน” ซึ่งได้เคยร่วมแสดงผลงานกับอาร์ทเทอรี่มาแล้ว


ในนิทรรศการ “Luggage-2nd Bangkok-Asia Young Artist Festival” ปี ๒o๑๑ และ “Back-to-Back” (Dadak-Dadak) ปี ๒o๑๒ โดยได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากนักสะสมและผู้ชื่นชอบงานศิลปะ


“โฮ-ยูน ชิน” เป็นศิลปินหนุ่มที่มีชื่อเสียงในเมืองกวางจู ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะของเกาหลี โดยถือเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่มีพลังในการสร้างสรรค์อย่างล้นเหลือ สามารถสร้างความตื่นตะลึงและอารมณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ชมได้เสมอ โดยเฉพาะงานประติกรรมกระดาษซึ่งเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขานั้น ถือได้ว่าเป็นการใช้เทคนิคพิเศษที่ยังไม่มีศิลปินคนใดทำมาก่อน โดยเขาสามารถทำให้กระดาษซึ่งเป็นวัสดุบอบบาง กลายสภาพเป็นผลงาน ๓ มิติที่มีพลังดึงดูดสายตาผู้ชมจำนวนมากมาแล้ว


ในปี ๒o๑๓ นี้ อาร์ทเทอรี่ไม่พลาดที่จะเชิญศิลปินผู้นี้มาเปิดการแสดงเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย กับนิทรรศการ “There is no essence” ซึ่งเป็นผลงานชุดที่เขาใช้เวลาในการสร้างสรรค์ตลอด ๑ ปีเต็ม โดยนับเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ ๕ นอกเหนือจากการแสดงผลงานกลุ่มในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ จีน บัลแกเรีย และเยอรมนี ซึ่งมีรางวัลการันตีความสามารถด้านงานประติมากรรม ในฐานะศิลปินที่น่าจับตามองซึ่งพร้อมจะสร้างสรรค์ผลงานอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ให้กับผู้ชม










นิทรรศการครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่คนไทยจะได้ชื่นชมผลงานของศิลปินคุณภาพคนหนึ่งของเกาหลี ซึ่งอาร์ทเทอรี่จะยังคงค้นหาศิลปินรุ่นใหม่ที่มีผลงานโดดเด่นมานำเสนออย่างต่อเนื่อง เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับศิลปินไทย


(งานนิทรรศการเปิดในวันศุกร์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒o๑๓ เวลา ๑๙.oo น.)


นิทรรศการ : “There is no essence”
ศิลปิน : Ho-Yoon Shin
วันที่ : ๑๒ กุมภาพันธ์ – ๓๑ มีนาคม ๒o๑๓
สถานที่ : อาร์ทเทอรี่ โพสต์-โมเดิร์น แกลเลอรี่
ติดต่อโทร : o๒-๖๓๕-๓๑๓๓-๔, o๘๑-๑๓๔-o๒๑o
อีเมล์ : arterynews@hotmail.com
เว็บไซต์ : jarterybangkok.com










ข้อมูลจากเวบ artbangkok.com


บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 27 มกราคม 2556
Last Update : 27 มกราคม 2556 21:56:54 น. 0 comments
Counter : 10255 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.