<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
25 พฤศจิกายน 2558

Dcleanfood.com : น้ำมันหมู ไม่อันตรายอย่างที่คิด

ก่อนที่น้ำมันพืชจะเข้ามาสู่เมืองไทยเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้วคนไทยส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันหมูในการปรุงอาหาร โดยการนำมันหมูลงในกระทะแล้วทำการเจียวให้ได้เป็นน้ำมันหมูออกมาเพื่อเก็บไว้ใช้ประกอบอาหาร ในแง่ของ อาหารคลีน (Clean Food)อาจจะไม่นิยมนำน้ำมันชนิดต่าง ๆ ทั้งน้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูมาใช้ในการปรุงอาหารเพราะถือว่า หากรับประทานน้ำมันมากเกินไปอาจจะทำให้ร่างกายได้รับไขมันมากเกินความจำเป็น แต่การรับประทานน้ำมันหมูก็ไม่ได้มีอันตรายร้ายแรงอย่างที่เราคิด เพราะการรับประทานน้ำมันหมูอย่างต่อเนื่องยาวนานของคนในสมัยก่อนก็ไม่ได้มีหลักฐานว่าน้ำมันหมูก่อให้เกิดโรคหรืออาการป่วยต่าง ๆ มากกว่าการรับประทานน้ำมันพืช

การที่น้ำมันหมูถูกแทนที่โดยน้ำมันพืชเนื่องมาจากมีผลการวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า น้ำมันพืชมีองค์ประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งเราทราบกันดีว่ามีประโยชน์กว่ากรดไขมันอิ่มตัวในน้ำมันหมู นอกจากนี้น้ำมันหมูยังมีคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจ และไขมันไม่อิ่มตัวนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ที่อาจตามมาในอนาคต ทั้งโรคความดันโลหิตสูงและโรคอ้วน

แต่ในปัจจุบันมีการตั้งสมมุติฐานและทฤษฏีใหม่ออกมาระบุว่า ความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมันพืชที่เรารับประทานกันแทบจะทุกวันนั้นผิดทั้งหมด เพราะน้้ำมันพืชบรรจุขวดที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันไม่ใช้น้ำมันที่สกัดจากพืชด้วยวิธีทางธรรมชาติ แต่น้ำมันพืชตามท้องตลาดนั้นเป็นน้ำมันที่ผ่านกระบวนการทางเคมี โดยมีการเติมไฮโดรเจนเพิ่มเติมเข้าไป และทำการฟอกสีน้ำมันให้ดูใสสะอาด แวววาวน่ารับประทาน นอกจากนี้น้ำมันพืชบางชนิดยังมีการแต่งกลิ่นด้วยสารเคมีเพิ่มเติมเข้าไปอีกด้วย ดังนั้นน้ำมันพืชที่ผสมสารเคมีเหล่านี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายของเราก็ไม่ต่างจากการที่เรารับประทานกาวเหนียว ๆ เข้าสู่ระบบทางเดินอาหารและน้ำมันพืชผสมสารเคมีเหล่านี้จะไปเคลือบอวัยวะต่าง ๆ ทั้งกระเพาะ ลำคอ และลำไส้ ทำให้ผนังลำไส้ไม่สามารถทำการดูดซึมสารอาหารที่ผ่านการย่อยเข้าสู่ร่างกายได้ นอกจากนี้ยังมีการวิจัยพบว่าน้ำมันพืชไม่เหมาะกับความร้อนสูงเมื่อน้ำมันพืชได้รับความร้อนสูงน้ำมันพืชจะก่อสารอนุมูลอิสระออกมาซึ่งสารอนุมูลอิสระเป็นอันตรายอย่างมากต่อร่างกาย และยังเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งประเภทต่าง ๆ อีกด้วย

ในทางตรงกันข้ามน้ำมันหมูมีส่วนประกอบของกรดไขมันอิ่มตัว แต่น้ำมันหมูสามารถละลายในน้ำได้และน้ำมันหมูจะไม่จับตัวกันเป็นไขในร่างกายของเรา น้ำมันหมูจึงไม่มีการตกค้างหรือเคลือบอยู่ในผนังลำไส้เล็ก จึงทำให้ผนังลำไส้เล็กทำงานได้ตามปกติคือสามารถดูดซึมสารอาหารที่ผ่านการย่อยเข้าสู่ร่างกายได้อย่างสะดวก และปริมาณการใช้น้ำมันหมูในการประกอบอาหารแต่ละครั้งยังมีปริมาณน้อยกว่าน้ำมันพืช 50% ตัวอย่างเช่นหากเราใช้น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะต่อการทำอาหาร 1 มื้อในขณะเดียวกันหากเปลี่ยนไปใช้น้ำมันหมูเราจะใช้แค่ 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้นในการทำอาหารมื้อนั้น

เป็นไงบ้างครับ ทุกท่านคงทราบกันแล้วนะครับว่าน้ำมันหมูอาจจะมีประโยชน์กว่าที่เราคิด และน้ำมันพืชบางชนิดที่ผสมสารเคมีก็อาจจะมีโทษกับร่างกายของเราเป็นอย่างมาก แต่ทางที่ดีที่สุดคือการเลือกปรุงอาหารโดยไม่ใช้น้ำมันเช่นการนึ่งหรือการต้ม และยังมีอีกหลายเมนูของ อาหารคลีน (Clean Food) ที่ไม่ต้องใช้น้ำมันในการประกอบอาหารครับ




Create Date : 25 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2558 7:52:34 น. 0 comments
Counter : 746 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2712490
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 2712490's blog to your web]