Dcleanfood.com : ผงชูรส อันตรายที่มากกว่าความอร่อย
จากตอนที่แล้วเราทำความรู้จักกับผงชูรสกันไปแล้วนะครับ ผงชูรสเป็นสารที่ผลิตจากกระบวนการทางเคมีล้วน ๆ และผงชูรสยังเป็นเครื่องปรุงที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการใดๆ ต่อร่างกายเลย สังเกตกันได้นะครับว่าในเมนูอาหารเพื่อสุขภาพต่าง ๆ รวมถึงเมนูอาหารคลีน (Clean Food) จึงไม่ใช้ผงชูรสเป็นส่วนผสมในเมนูอาหารเลย เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังก่อให้เกิดโทษแก่ร่างกายของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก วันนี้เรามาเรียนรู้ถึงอันตรายที่มากับผงชูรสกันครับ
อันตรายจากผงชูรส จากผลการวิจัยของนักโภชนาการระบุว่า อันตรายของผงชูรสนั้นแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุด้วยกันคือ อันตรายจากผงชูรสที่เกิดจากเกลือโซเดียม และ อันตรายที่เกิดจากสารเคมีและกระบวนการทางเคมีของตัวผงชูรส
1. อันตรายจากผงชูรสที่เกิดจากเกลือโซเดียม อันตรายจากผงชูรสที่เกิดจากเกลือโซเดียม สืบเนื่องมาจากการที่ในผงชูรสมีโซเดียมที่เกิดจากโซดาไฟอยู่เป็นจำนวนมาก โซเดียมที่เกิดจากโซดาไฟนี้มีลักษณะองค์ประกอบคล้ายกับเกลือแกง แต่มีพิษภัยและอันตรายกว่าเกลือแกงมาก สังเกตได้จากการที่เรารับประทานเกลือแกงในปริมาณเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกเค็ม แต่หากเรารับประทานผงชูรสที่มีโซเดียมจากโซดาไฟเข้าไปในปริมาณมากขนาดไหนก็ไม่มีรสชาติใด ๆ ให้สัมผัส ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในผงชูรสมีโซเดียมที่เป็นอันตรายแฝงอยู่อย่างแนบเนียนนั่นเอง เราสามารถแยกอันตรายจากโซเดียมที่อยู่ในผงชูรสได้ออกเป็นข้อ ๆ ดังนี้
1.1 ทำให้ภูมิต้านทานหรือภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ลดลง ถึงแม้ผงชูรสจะไม่ทำให้เกิดโรคเอดส์โดยตรง แต่ผงชูรสก็ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่องได้ ยิ่งถ้าคนเป็นเอดส์ได้รับประทานอาหารที่ใส่ผงชูรสในปริมาณมาก ๆ ก็มีสิทธิที่ภูมิคุ้มกันจะยิ่งลดต่ำลง และเปิดโอกาสให้มีโรคแทรกซ้อนได้ในที่สุด
1.2 ผงชูรสตกค้างในสมองเด็ก หากมีผงชูรสตกค้างอยู่ในสมองของเด็กที่รับประทานผงชูรสอย่างต่อเนื่องยาวนาน เมื่อเด็กโตขึ้นอาจจะมีอาการผิดปกติทางสมองหรืออาการปัญญาอ่อนได้ ในปัจจุบันมีเด็กปัญญาอ่อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่มีผงชูรสแพร่หลายในประเทศ นอกจากนั้นผงชูรสยังทำให้เด็กทารกเกิดอาการชักโคม่า ซึ่งบางครั้งแพทย์ไม่รู้สาเหตุ ทำให้การรักษาผิดพลาดได้ ไม่เพียงเท่านั้นผงชูรสยังเป็นอันตรายต่อหญิงมีครรภ์ ทำให้ร่างกายบวมและยังเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดด้วย
1.3 เพิ่มความอันตรายให้กับโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ หากผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคไต ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคอื่นๆที่แพทย์ห้ามรับประทานเค็ม ซี่งหมายถึงการห้ามรับประทานสารจำพวกเกลือโซเดียมนั่นเอง แต่ในผงชูรสมีเกลือโซเดียมที่ได้จากสารโซดาไฟ ซึ่งมีอันตรายต่อร่างกายมากกว่าโซเดียมที่อยู่ในเกลือแกงเป็นอย่างมาก และเมื่อเราใส่ผงชูรสลงในอาหารจะช่วยกระตุ้นต่อมรับรสทำให้รู้สึกว่าอาหารอร่อยขึ้น แต่ไม่มีรสชาติเค็มให้สัมผัสทำให้ผู้บริโภคไม่ได้สังเกตว่า ได้รับเกลือโซเดียมชนิดอันตรายจากผงชูรสไปมากมายเพียงใด ซึ่งเกลือโซเดียมจากผงชูรสนี้ ย่อมส่งผลเสียโดยตรงต่อผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ทำให้อาหารของโรคเรื้อรังเหล่านั้นแย่ลงไปอีกโดยที่ไม่ทันสังเกตุ วันนี้เราทราบถึงอันตรายจากโซเดียมที่อยู่ในผงชูรสกันไปแล้วนะครับ ขึ้นชื่อว่าเกลือโซเดียมหากรับประทานมากเกินไปก็ก่อให้เกิดโทษแก่ร่างกายของทุกท่านได้ครับ ถึงแม้ท่านจะรับประทานหรือปรุงเมนูอาหารคลีน (Clean Food) รับประทานเอง แต่ต้องไม่ลืมควบคุมปริมาณเกลือหรือโซเดียมที่รับประทานเข้าไปในแต่ละมื้อให้ไม่มากจนเป็นอันตรายต่อร่างกายด้วยนะครับ พรุ่งนี้เราจะมาพูดถึงอันตรายและพิษภัยจากผงชูรสตอนจบกันครับ ขอบคุณครับ
Create Date : 16 ธันวาคม 2558 |
Last Update : 16 ธันวาคม 2558 8:53:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 526 Pageviews. |
|
|
|