<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
29 พฤศจิกายน 2558

Dcleanfood.com : กินอะไรดี เมื่อเป็นโรคกระเพาะถามหา

ต่อจากตอนที่แล้ว ที่เรากล่าวถึงโรคกระเพาะอาหาร หรือชื่อที่แท้จริงคือโรคแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งเกิดจากน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไปสัมผัสกับส่วนต่าง ๆ ในระบบทางเดินอาหารทำให้เกิดบาดแผล วิธีการป้องกันโรคกระเพาะอาหารนั้้นสามารถปฏิบัติได้ง่าย ๆ โดยการรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อและรับประทานอาหารให้ตรงเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารที่ผลิตออกมาย่อยทางเดินอาหารเสียเอง และในการเลือกรับประทานอาหารควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ไม่รับประทานอาหารที่มีกรดมากเกินไป โดยสามารถเลือกรับประทานอาหารสุขภาพเช่น อาหารคลีน (Clean Food) ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารที่พอเพียงไม่มากไม่น้อยจนเกินไป


เมื่อเราเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารแล้วมักจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยหากเรามีอาการดีขึ้นแล้วแต่กลับไปทำพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ผิดแบบเดิมๆ โรคกระเพาะอาหารก็จะกลับมาสร้างความเจ็บปวดให้เราอีกอย่างแน่นอน วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการปฏิบัติตนและวิธีการรับประทานอาหารเมื่อเป็นโรคกระเพาะอาหารกันครับ

อาหารต้านโรคกระเพาะ
1. ผักและผลไม้ที่มีเบตาแคโรทีนสูง ผักและผลไม้ที่มีเบตาแคโรทีนได้แก่ แครอท ฟักทอง แคนตาลูป ผักและผลไม้เหล่านี้จะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้นทั้งแผลในกระเพาะอาหารและแผลในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย สารจำพวกเบตาแคโรทีนยังช่วยป้องกันหรือเคลือบเยื่อบุกระพาะอาหารและลำไส้ ไม่ให้เกิดอันตรายจากน้ำย่อยในกระเพาะอาหารได้ง่ายอีกด้วย และนอกจากนั้นในผลไม้ยังมีวิตามินซี ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เพิ่มเกราะป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ ของร่างกายและวิตามิน ซียังมีส่วนอย่างมากในการช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

2. ไขมัน (ไขมันไม่อิ่มตัว) ไขมันไม่อิ่มตัวที่ได้จากธัญพืช และพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลืองและอื่น ๆ โดยประโยชน์จากไขมันไม่อิ่มตัวจะมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหารโดยเฉพาะในส่วนของกระเพาะอาหาร และระบบการเผาผลาญอื่นๆ ในร่างกายและไขมันไม่อิ่มตัวนี้ ยังสามารถเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารไม่ให้ถูกทำร้ายโดยน้ำย่อยได้ง่ายอีกด้วย

3. โปรตีนจากเนื้อปลาหรือจากพิชตระกูลถั่ว โปรตีนที่ได้จากเนื้อปลาและโปรตีนที่ได้จากพืชตระกูลถั่วนั้นถือว่าเป็นโปรตีนที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายสามารถทำการย่อยสลายและนำพลังงานไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ต่างจากโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ประเภทอิ่นซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการย่อยค่อนข้างมากทำให้ร่างกายเราต้องผลิตน้ำย่อยออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยในการย่อยโปรตีนเหล่านี้ และโปรตีนในเนื้อปลายังมีกรดอะมิโนและกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยให้ร่างกายและกระเพาะอาหารแข็งแรงและทำงานได้ดีขึ้น

4. แป้งหรือคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ผ่านการขัดสี ข้าวหรือแป้งสาลีที่ไม่ผ่านการขัดสีจะมีกากใยอาหารและวิตามินอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ๆ ซึ่งส่งผลดีโดยตรงกับกระเพาะอาหาร, ระบบทางเดินอาหารและระบบการย่อยอาหารของเรา โดยช่วยให้กระเพาะไม่ต้องทำงานหนักและผลิตน้ำย่อยมากเกินไปในการย่อยอาหาร และคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสีเหล่านี้ยังช่วยบำรุงกระเพาะอาหารของเราไปได้พร้อม ๆ กันอีกด้วย

5. มะเขือเทศ มะเขือเทศเป็นแหล่งวิตามินที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก เช่น วิตามินอี วิตามินซี และโพแทสเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยให้แผลในกระเพาะอาหารหายเร็วมากยิ่งขึ้น

6.คะน้า คะน้าเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินซี นอกจากช่วยบำรุงในเรื่องของสายตาแล้วยังช่วยป้องกันการติดเชื้อในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดีครับ

ทราบกันไปแล้วนะครับ ในส่วนของอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือที่เรามักเรียกกันสั้น ๆ ว่าโรคกระเพาะอาหาร อาหารที่ควรรับประทานส่วนใหญ่ก็ได้แก่อาหารโดยทั่วไป แต่เน้นไปที่ผักและผลไม้เหมือนกับหลักการของ อาหารคลีน (Clean Food) แต่อาหารอย่างเดียวก็ไม่สามารถช่วยให้อาการของโรคกระเพาะอาหารบรรเทาได้อย่างเต็มที่นะครับเราต้องรู้จักสร้างวินัยในการรับประทานอาหารให้กับตนเอง เพื่อให้ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล ไม่มีโรคภัยใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเราน่าจะทางออกที่ดีที่สุดครับ




 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2558
1 comments
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2558 6:50:55 น.
Counter : 657 Pageviews.

 

ขอบคุณครับความรู้ดี ๆ กำลังเป็นอยู่เลย

 

โดย: backhold 29 พฤศจิกายน 2558 7:23:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 2712490
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 2712490's blog to your web]