<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
15 พฤศจิกายน 2558

Dcleanfood.com : กำเนิดการกินเจ

อ่านเรื่องอาหารมังสวิรัติกันมาหลายตอนแล้วนะครับ อาหารมังสวิรัติมีความคล้ายคลึงกับอาหารที่คนไทยเรานิยมรับประทานกันในเทศกาลกินเจหรืออาหารเจมากทีเดียวเนื่องจากอาหารทั้ง 2 ประเภทเน้นที่การรับประทานพืชผักและผลไม้ ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ แต่อาหารเจก็ยังต่างจาก อาหารคลีน (Clean Food)ตรงที่อาหารเจอาจจะผ่านกระบวนการปรุงรสมากมายเพื่อให้ได้อาหารรสชาติดี แต่ อาหารคลีน (Clean Food) จะเน้นรับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงน้อยที่สุดหรือไม่ผ่านการปรุงเลย และอาหารคลีน (Clean Food) ยังมีการรับประทานเนื้อบ้างเล็กน้อยแต่อาหารเจจะงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ในทุกกรณี ต่อไปเรามาทราบถึงประวัติความเป็นมาของอาหารเจกันเลยครับ



หลายท่านคงสงสัยกันนะครับว่าคำว่าเจ ในอาหารเจ มีความหมายว่าอะไร คำว่าเจ มาจากคำว่า ไจ ตามรากศัพท์ของภาษาจีน คำว่าไจในภาษาจีนหมายถึง งดเว้นและปราศจากการทำลายชีวิตและงดเว้นอาหารที่มีกลิ่นคาวทุกอย่าง อาหารเจจึงเป็นอาหารที่มีความบริสุทธิ์ และเป็นอาหารให้สิริมงคลแก่ผู้รับประทาน ตัวหนังสือคำว่า ไจ จึงเขียนด้วยสีแดงสด ซึ่งชาวจีนถือกันว่าสีแดงเป็นสีแห่งความโชคดีและความเป็นสิริมงคล โดยจะเขียนอยู่บนกระดาษหรือผ้าที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีเหลืองหรือสีทอง ซึ่งเป็นสีที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่เป็นสีของกษัตริย์ของจีน

เทศกาลกินเจ เริ่มขึ้นเมื่อกว่า 400 ปีที่แล้วในประเทศจีน ตามตำนานอันเก่าแก่ระบุว่าการกินเจเกิดขึ้นในสมัยที่ราชวงศ์แมนจูเข้ามาปกครองประเทศจีน และต้องการให้ชาวจีนดั้งเดิมหรือชาวฮั่นให้ยอมรับและปฏิบัติตามวัฒนธรรมต่าง ๆ ของตนเอง และในสมัยนั้นมีชาวจีนจำนวนมากหลายพวกหลายกลุ่มที่ออกมาต่อต้านราชวงศ์แมนจู หนึ่งในกลุ่มนั้นคือกลุ่มที่ใช้หลักธรรมคำสอนตามศาสนาในการปฏิบัติตนเข้าร่วมด้วย โดยคนกลุ่มนี้จะนุ่งห่มร่างกายด้วยสีขาว และที่สำคัญชาวจีนกลุ่มนี้จะไม่รับประทานเนื้อสัตว์ เพื่อให้ร่างกายมีความบริสุทธิ์และช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเองทั้งทางร่างกายและจิตใจแต่ในที่สุดชาวจีนกลุ่มนั้นก็พ่ายแพ้ และเสียชีวิตจากการต่อต้านราชวงศ์แมนจูเป็นจำนวนมาก แต่ชาวจีนที่เหลือก็เห็นถึงความเสียสละและความมุ่งมั่นของคนกลุ่มนี้ จึงมีการกำหนดให้ทุกวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 เป็นวันที่พวกเขาจะทำการถือศีลและกินอาหารเจ เพื่อลำรึกถึงคนกลุ่มนั้น

เทศกาลกินเจแต่ละปีจะนาน 9 วันเนื่องจากชาวจีนถือว่าเป็นการสักการะพระพุทธเจ้า 7 พระองค์ได้แก่
1. พระวิชัยโลกมนจรพุทธะ
2. พระศรีรัตนโลกประภาโมษอิศวรพุทธะ
3. พระเวปุลลรัตนโลกวรรณสิทธิพุทธะ
4. พระอโศกโลกวิชัยมงคลพุทธะ
5. พระวิสุทธิอาศรมโลกเวปุลลปรัชญาวิภาคพุทธะ
6. พระธรรมมติธรรมสาครจรโลกมโนพุทธะ
7. พระเวปุลลจันทรโภคไภสัชชไวฑูรย์พุทธะ

และสักการะพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ได้แก่
1. พระศรีสุขโลกปัทมอรรถอลังการโพธิสัตว์
2. พระศรีเวปุลกสังสารโลกสุขอิศวรโพธิสัตว์
รวมเป็น 9 พระองค์

ชาวจีนทั้งในประเทศและที่อยู่ในต่างประเทศจึงมีความเคร่งครัดในเทศกาลกินเจเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าการกินเจเป็นการสักการะและขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพเจ้าทั้ง 9 พระองค์ ผู้ถือศีลกินเจจะต้องทำตัวอยู่ในศีลในธรรมและงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ ตลอด 9 วันในเทศกาลกินเจ และหากทำได้จะได้บุญสูงสุด ส่งผลให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและประสบแต่ความสุขและความเจริญตลอดไป

เทศกาลกินเจปีนึงจะมี 9 วันนะครับ แต่เราสามารถรับประทานอาหารเจได้ตลอดทั้งปี หรือในช่วงเวลาที่ยาวนานกว่า 9 วันตามแต่ศรัทธาของแต่ละท่าน อาหารเจที่ขายกันตามท้องตลาดก็เป็นอาหารที่มีรสชาติดี มีกลิ่นหอมน่ารับประทานและที่สำคัญอาหารเจยังเป็นอาหารที่งดเว้นเนื้อสัตว์จึงเป็นการสอนเราตามหลักธรรมที่ว่าไม่ให้เบียดเบียนผู้อื่น ผู้ที่รับประทานอาหารเจหากหันมารับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงน้อยหรือไม่ผ่านการปรุงรสชาติเลยเหมือนกับ อาหารคลีน (Clean Food)ก็จะได้ประโยชน์ต่อร่างกายของผู้รับประทานมากขึ้นด้วยครับ




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2558
0 comments
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2558 6:33:03 น.
Counter : 471 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 2712490
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 2712490's blog to your web]