► ►► ..ถ น น ส าย นี้ ..มี ต ะพ า บ 32. ....( บิ กิ นี่ เ จ้ า เ อ ย ) ◄ ◄◄
ท้องฟ้าเบื้องบนนั้นมืดทะมึน
เมฆฝนก้อนใหญ่กำลังก่อตัว เหมือนสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์
กำลังกลืนกินแสงสว่างจากท้องฟ้า
ท่าทางมันจะหิวโซซะด้วย เพราะเพียงครู่เดียว
ท้องฟ้าเกือบทั้งหมด ก็กลายเป็นสีเทาทึม ชวนหดหู่
ภายใต้ท้องฟ้าสีเทาเหมือนไข่เน่าผืนนั้น
มนุษย์คู่หนึ่ง กำลังมุ่งหน้าสู่เมืองชายฝั่งทะเลตะวันตก
จุดหมายปลายทางของเขาและเธอ คือ “หัวหิน”
เมืองชื่อประหลาด ชวนให้จินตนาการถึงที่มาของชื่อ
เป็นไปได้ว่า คงมีใครที่หัวแข็งปานโขดหินริมหาด
จนได้รับการยอมรับ และตั้งเป็นชื่อเมืองตากอากาศแห่งนี้ในที่สุด
.
.
.
ป้ายต้อนรับสีฟ้าทะเล ตัดกับฉากหลังสีทึบ
ทำให้ชายหนุ่มนึกถึงพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง
ซึ่งกำลังหาเสียง ด้วยนโยบายเดินไปข้างหน้า
โดยไม่ได้สนใจใยดี กับจำนวนคนที่ตายไปในการสลายการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา
ดูเหมือนว่าพรรคร่วมรัฐบาลของเขา ก็หาเสียงด้วยนโยบายคล้ายๆกัน
“ความตายของผู้ยากไร้ ช่างไร้ค่าเสียเหลือเกินในสายตาของผู้ปกครอง
หากแต่ล้ำค่ายิ่ง ในมวลหมู่ของผู้ทนทุกข์ “
ชายหนุ่มรำพึงออกมา เป็นภาษาอินโดยูโรเปี้ยน ที่แปลเป็นไทยเรียบร้อยแล้ว
การเดินหน้านั้นเป็นสิ่งที่ดี
แต่หากเบื้องหน้าคือหุบเหว และผู้นำทางของเรา บอดใบ้
เราควรจะเดินไปข้างหน้า หรือเหลียวมองย้อนกลับไปดูข้างหลัง
ว่าเราได้พลาดพลั้งอะไรไป หนทางสู่อนาคตของเรา
จึงตีบตันและน่าสะพรึงเช่นนี้?
เขาคิดอยู่คนเดียว
แววตาเศร้าหมองนั้นทอดไปสู่เบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย
พอๆกับอนาคตของประเทศที่เขาอาศัยอยู่
.
.
.
.
“เป็ดถ่ายๆๆ” เสียงเพื่อนร่วมทาง บอกให้เขาถ่ายป้ายดังกล่าว
เขาตื่นจากภวังค์การเมืองและยกกล้องขึ้นถ่ายป้ายบอกทาง
มันบอกเราว่า เราได้เข้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรีเรียบร้อยแล้ว
ซักพัก เราก็เจออีกป้าย
เส้นทางอันมืดมิดนั้น ทอดยาวสู่หัวหิน
เรามองหน้ากันและกัน
“ บางครั้งเส้นทางชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ” เพื่อนร่วมทางปรารภ
“ ใช่ บางครั้งกลีบกุหลาบ ก็ทำให้เราลื่นหัวแตกได้” เขาเสริม
ทั้งคู่ มุ่งหน้าไปสู่ความมืดมิดเบื้องหน้า
ทั้งคู่ร่าเริง ต่างก็ร้องเพลงชาติเป็นทำนองเสนาะ
ไม่ยีหระต่อความมืดมิดใดๆ
.
.
.
.
และแล้ว ฝนก็เริ่มลงเม็ด
เสียงฝนกระทบกระจกหน้ารถ เสียงดังปุๆ
ที่ปัดน้ำฝนเริ่มทำหน้าที่ของมัน
เราเริ่มเข้าสู่ตัวเมืองหัวหิน
ตามข้างทาง เริ่มมีป้ายบอกจุดหมายที่ทั้งคู่กำลังจะมุ่งไป
มันเป็นงานเทศกาลดนตรีฤดูร้อนที่จัดขึ้นปีละครั้ง
.
.
.
ฝนเริ่มตกหนักขึ้น จนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า
“นี่ถ้ามิยาบิใส่บิกีนี่เดินมาแถวนี้ แล้วบังเอิญสายบิกีนี่ขาดผึง
คงน่าเสียดายน่าดู เพราะเราจะมองไม่เห็น” ชายหนุ่มคิดไปเรื่อยเปื่อย
.
.
.
สิบนาทีต่อมา ทั้งคู่ก็ออกมาจากค่ายทหาร แถวโรงพยาบาลสัตว์
ค่ายทหารคืนนี้ เปิดให้เข้าไปจอดรถได้ฟรี
มีทหารเป็นคนเฝ้า อุ่นใจได้
ทั้งสองนั่งรถสามล้อเครื่องที่รับส่งฟรีถึงงาน
แต่ต้องต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปอีกหน่อย
จากนั้น ก็เดินปะปนไปกับผู้คน มากหน้าหลายตา
ฝนหยุดตกแล้ว ดูเหมือนฟ้าจะเป็นใจอีกครั้ง
หกโมงเย็นนิดๆ อากาศกำลังชื้นได้ที่
.
.
.
น้ำท่วมผิวถนน ระดับพอกระย่อง
ทั้งคู่ได้พากันถ่ายภาพรองเท้าไว้เป็นหลักฐาน
เผื่อมันโดนน้ำพัดไป จะได้ยืนยันความเป็นเจ้าของ
.
.
.
.
คนเยอะกว่าที่คาด นี่ขนาดฝนตก
ผู้คนครึ่งหนึ่งอยู่บนบก ครึ่งหนึ่งอยู่ในน้ำ
จำนวนนับแสนคน
ต่างพากันเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลง
นาทีนี้ ไม่มีใครสนใจจะนั่งทำวัตรเย็นกันเลยซักคนเดียว
คนจำนวนมาก นั่งดื่มเบียร์กัน
ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สำหรับเบียร์ตราอูฐ
.
.
.
หลังจากแยกกันเดินกับเพื่อนร่วมทางซักพัก
สายตาของชายหนุ่มก็ปะทะเข้ากับสิ่งหนึ่ง
รูปร่างคล้ายสัตว์น้ำ ลอบล่องอยู่ริมน้ำตรงนั้น
ความมืดของยามค่ำคืน ทำให้เขานึกไปว่ามันคือ ปลาตะเพียนทะเล
แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ มันกับเป็น “บิกินี่ท่อนล่าง”
สีฟ้าสดใส ลายดอกเดซี่
เขาคว้ามันขึ้นมา หัวใจเต้นตูมตาม
เลือดฝาดสูบฉีด เขากำลังจะดมพิสูจน์กลิ่นว่าของใหม่หรือใส่แล้ว?
แต่ก็เปลี่ยนใจแบบหักศอก เพราะที่นี่คนเยอะเกินไป
ชายหนุ่มตัดสินใจมองหาเจ้าของบิกินี่แทน
แต่พลันเสียงหนึ่งก็กระซิบว่า
“เก็บไว้สิ หายากนะ ในเว็บขายตัวสามร้อยถ้าใส่แล้ว”
เสียงนั้นเล็กแหลม ฟังดูชั่วร้าย แต่ช่างยั่วยวนยิ่งนัก
“อย่าเลย หาเจ้าของเถอะ ป่านนี้เจ้าตัวคงแสบแย่แล้ว”
เสียงนุ่มทุ้มเย็นสบายกว่าแย้งขึ้น
ภาพสาวน้อยกำลังยืนแสบท้องน้อยปรากฎขึ้นในจินตนาการ
ของชายหนุ่ม
โอว ช่างเป็นที่น่าเวทนาเป็นกำลัง
เขาตัดสินใจทำตามความคิดข้อหลัง
เพราะสงสารท้องน้อย
.
.
.
.
เขาเดินสอดส่ายสายตามองผู้คนที่อยู่ในน้ำ
และดูเหมือนเจ้าของบิกินี่ตัวนี้ จะอยู่ไม่ไกลนัก
เธอยืนเก้ๆกังๆ ที่ระดับน้ำเกือบถึงซี่โครงซี่ที่สาม
พยายามพยักหน้าหงึกหงักเรียกชายหนุ่มไปหา
บิกินี่ท่อนบนของเธอ ลายเดียวกัน
ใช่แน่แล้ว ต้องเป็นคู่ของมันแน่นอน
ชายหนุ่มค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆ หญิงสาวเอียงอาย
ความคิดชั่วร้ายปรากฎขึ้นเป็นระยะ
เป็นภาพสาหร่ายสไปรูไรน่าน้ำตื้นที่อยู่ห่างจากเขา
เพียงไม่กี่นิ้ว
เขาสลัดมันทิ้งไปจากหัว เสียงความคิดชั่วร้าย
ในน้ำกรีดร้องโหยหวน ก่อนที่จะหล่นจ๋อมลงไปในน้ำแถวนั้น
.
.
.
.
เขายืนบิกินี่ให้เธอ
เธอไม่กล้าสบตาเขา
“คลื่นมันแรงนะครับ” เขาแซว
ผลั่ก! เธอจับปลาสวายทะเลที่ว่ายมาแถวนั้นพอดีฟาดไปที่เขาเบาๆแก้เขิน
เขาหันหลังให้ ขณะเธอกำลังใส่บิกินี่ ตามประสาสุภาพบุรุษ
“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเสียงเบา
เขายิ้ม “ไม่เป็นไรครับ”
“เต้นด้วยกันนะครับ/คะ” ทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมกัน
เธอเขิน คว้าปลาสวายตัวเดิมขึ้นมาแทะแก้เขิน
มันดิ้นเร่าๆด้วยความจั๊กกะจี้
“ดูสิครับพระจันทร์ขึ้นมานู่นแล้ว” เขาชี้ให้ดูพระจันทร์
“พระจันทร์ลายฮอนด้าซะด้วย” เขาเสริมมุก
เธอหัวเราะชอบใจ เขาก็ด้วย
แล้วทั้งคู่ ก็เริ่มแทะปลาสวายโชคร้ายตัวนั้นด้วยกัน
.
.
.
.
จบแล้วครับ ตะพาบ 32
ไว้พรุ่งนี้ จะมาทำลิ้งก์ให้เน้อ
ลงนาม
เป็ดสวรรค์
.
.
.
อัพเดตผู้ร่วมงานล่าสุด
ตอนหกโมงเย็นปลายๆนะครับ
1.คุณtoor36 2.คุณ JewNid 3.คุณ กะว่าก๋า 4.คุณ ปลายแป้นพิมพ์ 5.คุณ ซองขาวเบอร์ 9
6.คุณ ปันฝัน 7.คุณ เริงฤดีนะ 8.คุณ tifun 9.คุณrommunee 10.คุณ โจนบ้ากับป้าแก่ๆ
11.คุณ พธู 12.คุณ เงามืดในประวัติศาสตร์ 13.คุณ ชะเอมหวาน
อัพเดตเรื่อยๆครับ
Create Date : 17 พฤษภาคม 2554 |
|
27 comments |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2554 23:18:30 น. |
Counter : 2230 Pageviews. |
|
|
|
เห็นถ่ายซะเยอะแยะทีเดียว
อย่าบอกนะจบทริป..