► ►►..........เป็ ด ส วร ร ค์ ไ ล ฟ์ อิ น เ ชี ย งใ ห ม่ ปี 2 ต อ น กิ่วแม่ปาน. ....◄ ◄◄
(ภาพเยอะหน่อย โหลดนานหน่อยเด้อ)
. . .
เชิญอ่าน ตะพาบ คุณ JinnyTent ครับ
. . . .
ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากที่คณะเพลินดอยของเราทั้งสี่ได้ทำการชื่นชมเดินดมดอกไม้
ยังมิทันจะหนำใจ แดดก็เริ่มทอแสงจ้าทองฟ้าก็อวดสีสันของมันอย่างไม่ยอมแดด
ฟ้าเป็นฟ้า โคตรฟ้า
เวลาราวๆเก้าโมงครึ่ง เราทั้งหลายก็มาเอนกายขยายพุงกันที่ร้านกาแฟประจำขุนวาง
กาแฟอร่อย อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศแบบนี้เป็นตัวชูรส
ต่อให้กินไก่ดิบๆ ก็ยังอร่อย
คนท้องถิ่นบอกว่าปีนี้เป็นปีที่ดอกพญาเสือโคร่งสวยที่สุดในรอบหลายปี
เราหวังว่าปีหน้า มันจะสวยกว่านี้ เพราะเราจะมากันอีกแน่ๆ
ภาพถ่ายโดยพี่หนุ่ย
.
.
.
.
.
ออกจากขุนวางเวลาราวๆสิบโมงกว่าๆ มุ่งหน้าสู่ที่หมายต่อไป นั่นคือ กิ่วแม่ปาน
ขากลับ เจอดอกนางพญาเสือโคร่งที่เคยกรี๊ดกันตอนขามา
ก็ไมมีใครออกอาการกรี๊ดกันอีกต่อไป เพราะที่ขุนวางนี่ สุดๆแล้ว
ก่อนจะถึงกิ่วแม่ปานปะรมาณร้อยกว่าเมตร ก็จะเป็นพระธาตุสององค์
ของในหลวงกับพระราชินี
เราก็แวะขึ้นไปถ่ายภาพกันบนนั้น
.
.
.
.
วิธีขึ้นคือ จะเดินขึ้นก็ได้ แต่มีรถรับส่งฟรีนะ
ระยะทางราวๆ 80 เมตร ทางชั้นชัน
เราต้องซื้อบัตรก่อน แต่รถรับส่งฟรีครับ
แต่ต้องซื้อบัตรก่อน
สรุปว่าขึ้นรถฟรีรึเปล่า ก็น่าจะฟรีแหละ
ที่เสียตังค์ไปคือค่าขึ้นพระธาตุมั้ง?
มีบันใดเลื่อนสำหรับผู้เฒ่าผู้แก่และคนหนุ่มขี้เกียจ
รวมทั้งผู้ชอบขึ้นบันไดเลื่อนเป็นชีวิตจิตใจด้วยนะครับ
.
.
.
.
ถ่ายฟ้าให้ดู ภาพนี้ถ่ายเวลา 10:44 น. วันที่ 15 มกราคม
น่าจะเป็นเจดีย์ของพระราชินี ซึ่งกำลังดัดทรงบูรณะ เพราะแผ่นดินไหว ทำให้เจดีย์เอียง
.
.
.
.
.
ขึ้นไปถึงก็ถ่ายภาพกันตามระเบียบ ซุ่มเงียบตำกำลังแบตและเมมโมรี่ของใครของมัน
ผมถ่ายภาพพี่ก๋า คู่กับยอดเขาต่างๆ
ผมเดาว่ามันคือทิวเขาเดียวกับที่เราเห็นที่ขุนวางนั่นแหละครับ
วิวที่กิ่วแม่ปานก็เช่นกัน ทางมันคงวนไปๆมาๆ
.
.
.
. พี่หนุ่ยทำเท่ห์
. . . .
เดินอยู่แถวนั้น เวลาเกือบจะเที่ยง ได้เวลามื้อเพล
แวะไปกินข้าวตรงร้านอาหารทางขึ้นกิ่วแม่ปาน
สั่งอาหารมาบานเบอะ มีแหนมหมกด้วย อร่อย รสชาติเหมือนหมิอีสาน
แต่อ่อนเครื่องกว่านิดนึง
อุณหภูมิตอนเที่ยง ราวๆ 13 องศา ความสูงจากน้ำทะเล ราวๆ 2.3 กิโลเมตร
ใครอยากฉี่ก่อนขึ้นกิ่ว ที่นี่มีห้องน้ำให้ ใครจะจอดรถก็มีที่จอดรถครับ
.
.
.
.
.
จากนั้นเดินไปราว 10 กว่าก้าว ก็จะถึงทางเข้ากิ่ว
.
.
.
.
เราต้องจ่ายค่าทำเนียน(ธรรมเนียม)ค่าเข้า ประมาณ 200 บาท
ไม่ประมาณหรอก 200 บาทถ้วนๆนั่นล่ะครับ
ไกด์ของเราชื่อ โจ้
เป็นม้ง ชื่อทางม้งของเขา ผมจำไม่ได้ จำได้ว่า ขื่อๆ อะไรซักอย่าง
ปีหน้าใครไปก็ไม่เจอแกแล้วครับ อาจจะไปเจอที่สะเมิงแทน
เพราะพี่โจ้ มีแผนจะไปทำไร่สตอบอรี่ที่นั่น
เดินไปนิดนึง ก้จะเจอมุมมหาชน น้ำตกเล็กๆ 1 ที่
ผมไม่รู้จะถ่ายมุมไหนไม่ให้ซ้ำ
ถ่ายมันซูมๆนี่แหละ
.
.
.
.
.
เคล็ดลับการเดินกิ่วคือ อย่ากินเยอะครับ
เพราะเข้าป่าตรงน้ำตกที่นี่ เหมือนมันจะมีสารอะไรซักอย่าง ทำให้เราท้อใจ แสบจมูก
หายใจลำบาก เหนื่อยสุดๆ
คาดว่าจะเป็นบททดสอบจากธรรมชาติ ใครใจไม่สู้ ก็จะกลับมันตรงนี้ล่ะครับ
แต่พอเดินไปอีกซัก 100 เมตร เราจะเริ่มเพลิน อาการเหนื่อยจะหายไป
ร่างกายจะเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น
เราก็เดินกันไปเรื่อย พี่ไกด์ก็บรรยายไปเรื่อย ชี้ให้ดูนั่นดูนี่
บอกว่าป่านี้คือป่าชนิดไหน
เดินไปประมาณ 500 เมตรจากทางเข้า เราก็จะได้เจอกับไฮไลท์สำหรับผม
ในทริปนี้
พ้นจากชายป่าตรงนี้ไป
.
.
.
.
.
.
ก็จะเป็นทุ่งหญ้าสเต็ปครับ ทุ่งหญ้าเมืองหนาว
ผมเป็นคนชอบทุ่งหญ้า อยากจะวิ่งโทงๆไปเกลือกกลิ้งให้หนำใจ
.
.
.
.
แต่เขาห้ามลงไปวิ่งหรือหาหญ้าอ่อนๆกินครับ
อดเลย
ฝ่าฝืนมีโทษดีดหูสามที เลยถ่ายภาพสันกิ่วมาแทน
สันกิ่วชัน เกือบ 45 องศา น่าตื่นตาตื่นใจ
.
.
.
.
เราก็เดินมุ่งไปสู่กิ่ว ลิ่วๆ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
.
.
.
.
แต่บางคนก็อาจจะยังไม่หายดีเท่าไหร่ ก็เลยมีนั่งพักกันบ้าง
ทุ่งหญ้าสีเหลืองสลับเฟิร์น ดูแล้วเพลินตาดี
เสียดายที่แสงแบนไปหน่อย เพราะเดินเข้ามากิ่วก็เที่ยงตรงพอดี
.
.
.
.
ภาพนี้ถ่ายตอน13:03 น.
กิ่วแปลว่าแคบ เช่น เอวคอดกิ่วจิ๋วหลิวจัง เป็นต้น
แม่ปานคือชื่อแม่น้ำ ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่ปาน
จึงได้ชื่อ กิ่วแม่ปาน
ที่เห็นเบื้องล่างนั้นคือ ตัวอำเภอแม่แจ่ม
.
.
.
.
ถึงจุดชมวิว ก็มีวิวให้ชม
น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์ที่วันๆเห็นแต่ตึกอย่างผม
คู่หนุ่มสาวชาวไทย ชวนกันชมวิว
.
.
.
.
กิ่วชันมาก
เลยขอบกิ่วไปคือเหว เลยเหวไปคือตีนเขาอีกลูก
แล้วก็เป็นทิวเขา สลับสับเหลี่ยมกันไปเรื่อยๆ
.
.
.
.
จากนั้นก็มุ่งหน้าต่อไปตามสันเขา ถ่ายรูปกันไป สนุกสนาน
.
.
.
.
ดูความชันของกิ่วครับ พี่โจนและพี่ก๋าพาน้ำหนักรวมกันราว200โล
ฝากชีวิตไว้กับจุดชมวิวตรงนั้นโดยหาได้ฉุกคิดว่า บนดอยสูงๆแบบนี้มันก็อาจจะมี
ปลวกดอย
แต่คิดว่าเขาคงทาน้ำยากันปลวกไว้ที่ไม้แล้วมั้งเนาะ
.
.
.
.
โปรดสังเกตสีหน้าของพี่ก๋า
กำลังซึมซับพลังชี่จากธรรมชาติเห็นๆ
.
.
.
.
ทางที่จะมุ่งไปข้างหน้า ยังอีกไกล
.
.
.
.
ทางที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่ ก็ไม่ใช่ใกล้ๆ
เราทำความสุขหกเรี่ยราดไว้บนสันเขา เต็มไปหมด
.
.
.
.
ดอกกุหลาบพันปี กำลังบานเป็นบางส่วน
เพราะหลายต้นถูกไฟป่าเผาซะเกรียม
แต่ก็ยังออกดอกให้เราชม
.
.
.
.
ทางไกล
.
.
.
.
บางจังหวะก็อันตราย ใครเกิดวิงเวียนตอนช่วงที่ไม่มีรั้วกั้นแบบนี้
อาจจะม่องเท่งเอาได้ง่ายๆ
ไม่ได้ถามพี่ไกด์ว่าเคยมีคนลงไปเที่ยวข้างล่างแบบไม่ได้ตั้งใจ
และไม่กลับขึ้นมาอีกเลย รึเปล่า?
กลัวจะเสียบรรยากาศ
แต่พี่แกว่า ข้างล่างนั้นมีทางเดินสำหรับเจ้าหน้าที่เดินได้ด้วย
แถวนี้เคยมีเลียงผาด้วยนะครับ แต่ต้องโชคดีจริงๆ ถึงจะได้เห็น
.
.
.
.
เจอดอกกล้วยไม้ธรรมชาติด้วย
ใครไม่เจอที่นี่ไม่เป็นไรครับ ตรงทางขึ้นกิ่วปลูกไว้ ดอกอวบๆทั้งนั้น
.
.
.
.
ก่อนจะเข้าป่าระยะทางอีก กิโลปลายๆ
เราก็จะเจอจุดชมวิว มองเห็นพระธาตุสององค์คู่กัน
ปกติจะเดินลัดออกทางนี้ได้เลย ในกรณีฉุกเฉิน ไม่อยากเดินเข้าป่าอีก
แต่ปัญหาคือ โดนเจ้าหน้าที่ตรงนั้นดุเอา
เพราะเป็นการเข้าชมพระธาตุโดยไม่จ่ายตังค์ ถึงจะเป็นลมเป็นแล้งมา ก็เรื่องของคุณ
อันนี้ฟังมาอีกทีนะครับ
อืม...
ก็ตั้งจุดขายตั๋วมันตรงนั้นเลย จะดีไหม?
ได้เงินดีออก เนาะ
.
.
.
.
ป่าที่นี่ มีขนครับ
มีเฟิร์นขึ้นเต็มไปหมด คงเพราะความชื้น
เส้นทาง 200 เมตรสุดท้าย คือเส้นทางวัดใจกันอย่างแท้จริง
ความรู้สึกเหนื่อย จะไม่ไหว และอาการแสบจมูกมันจะกลับมาอีกครั้ง
แต่สุดท้าย เราทุกคนก็ออกมาได้ โดยสวัสดิภาพ
.
.
.
.
ไปยอดดอย ตรงสถานีเรดาร์ต่อ
ถ่ายภาพชั้นบรรยากาศมาให้ดู
.
.
.
.
ปิดท้ายลาจากดอยกันด้วยยอดไม้หงิก
อันเป็นเอกลักษ์ของยอดดอย ลมมันแรง ต้นไม้เลยหนาวจนหงิกงอ
.
.
.
.
ขอบพระคุณเพื่อนร่วมทริป
ขอบคุณเว็มมี่ น้องสาวที่น่ารัก อขบคุณที่กล้าคบค้าสมาคมพี่มาหลายปีดีดัก
ขอบคุณพี่หนุ่ย พี่สาวห้าวเป้งที่ดั้นด้นไปเที่ยวด้วยกัน
ขอบคุณพี่โจนที่ขับรถพาเราไปจนถึงยอดดอย
ขอบคุณรถจากพี่ก๋า ที่อุตส่าเอารถครอบครัวมาเจิมนอกอำเภอเป็นครั้งแรก
ขอบคุณนิ่มชี่เส็ง โรงแรมอันซีน เราจะไม่ลืมพระประธานและเจ้าแม่กวนอิมตรงทางเข้า
เราจะไม่ลืมว่าโรงแรมนี้มีกระต่ายและมีป้ายคติธรรมนำชีวิตเต็มไปหมด
ล็อบบี้ที่มีกองผ้าป่าให้ร่วมทำบุญ ไว้วันหลังจะไปพักใหม่ ขออภัยที่ไม่ได้รีวิวให้ชม
สุดท้าย ขอบคุณจังหวัดเชียงใหม่ ที่ไม่ยอมไปอยู่กับอังกฤษในยุคนู้น
ขอบคุณบล็อกแก็ง ที่ทำให้เกิดเรื่องดีๆแบบนี้
อย่าเพิ่งไปไหนนะเชียงใหม่ เราจะไปเยี่ยมอีก แน่นอน
ลงนาม
เป็ดสวรรค์
เขียนตกเขียนผิดอ่านแล้วติด สะกิดด้วยนะครับ เขียนรีบๆ ด้วยความง่วงเน้อ
ขำจัง ไดอารี่จริง เขียนโดนใจ ภาพถ่ายก็เอา อย่าลืม
ป้ายนี้เอาไปใช้ได้นะครับ ใครประสงค์จะให้โหวตบล็อก เอาไปแปะ ไม่ต้องเขินอาย ไม่ต้องเกรงใจ อยากให้โหวตหมวดไหนก็พิมพ์ใส่บนหัวป้าย การแข่งขันทำให้เราพัฒนาครับ แต่อย่าจริงจังกับมันมาก เอาหนุกๆก็พอ เนอะ
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2555 |
|
71 comments |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 4:17:24 น. |
Counter : 2306 Pageviews. |
|
|
|