เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

อุเทนถวาย ยัน ประท้วงสงบ - ตำรวจคุมเข้ม 600 นาย

อุเทนถวาย ประท้วง


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม


ตำรวจคุมเข้ม ชุมนุมอุเทนถวายทุก 10 เมตร ต่อตำรวจ 1 นาย พร้อมตำรวจนอกเครื่องแบบ ด้านจุฬาฯ ปัดข่าวประกาศห้ามนิสิตใส่เครื่องแบบ หรือสัญลักษณ์

จากกรณีที่ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย รวมตัวกันในนามของสมาคมรักษาสิทธิโรงเรียนอุเทนถวาย เรียกชุมนุมศิษย์ทั่วสยาม มาเดินขบวนชุมนุมในวันศุกร์ที่ 15 มีนาคมนี้ เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ที่ดินจากสำนักงานจัดการทรัพย์สินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีกระแสข่าวแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ว่า มีประกาศภายในของจุฬาฯ ให้นิสิตไม่ต้องแต่งเครื่องแบบ หรือใส่สัญลักษณ์ที่แสดงว่าเป็นนิสิตจุฬาฯ นั้น

            เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556 รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัยและจัดการจราจร จุฬาฯ ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่คำเตือนของมหาวิทยาลัย และเท่าที่ทราบไม่เคยมีการสั่งการในเรื่องนี้

ขณะที่ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ได้หารือกับทางผู้บริหารและคณบดีคณะต่าง ๆ มีความเห็นร่วมกันว่า จะเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ เพราะจุฬาฯ มีหน้าที่ในต้องให้บริการประชาชน แต่ขอให้คณบดีทุกคณะคอยประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเห็นว่ามีความรุนแรงและเสี่ยงกับอันตราย สามารถสั่งปิดการเรียนการสอนได้ทันที

            "มหาวิทยาลัยเองก็มีความห่วงใยในความปลอดภัยของบุคลากรและนิสิต นักศึกษา โดยขอให้ระมัดระวังตัว และหลีกเลี่ยงเส้นทางที่เสี่ยงว่าจะอยู่ในจุดชุมนุม ซึ่งผมเองยังมีความเชื่อมั่นในเกียรติภูมิของทั้งศิษย์และศิษย์ปัจจุบันของอุเทนถวายว่าจะชุมนุมด้วยความสงบ" นพ.ภิรมย์ กล่าว

            ส่วนโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ทั้งฝ่ายประถมและมัธยม ซึ่งมีกำหนดจะประกาศผลสอบในวันที่ 15 มีนาคมนั้น ได้เลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อไม่ให้ผู้ปกครองและนักเรียนได้รับความเดือดร้อน

ด้าน ผศ.สืบพงษ์ ม่วงชู รองอธิการบดี มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เปิดเผยว่า ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว และอยากให้ใช้ชีวิตตามปกติ ขอให้มั่นใจว่าการชุมนุมครั้งนี้จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของอุเทนถวายตั้งใจมาขอความเป็นธรรม ไม่ได้จะมาก่อความวุ่นวาย และปัจจุบันศิษย์เก่าแต่ละคนเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานมีเกียรติ คงไม่ไปทำความเดือดร้อนให้ใคร คาดว่าการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสงบ สำหรับศิษย์ปัจจุบันที่จะร่วมชุมนุมทางคณาจารย์ก็ได้กำชับให้เข้าร่วมด้วยความสงบเช่นกัน ห้ามพกอาวุธอย่างเด็ดขาด

"ไม่ห่วงว่าเด็กอุเทนถวายจะไปก่อความวุ่นวาย แต่ที่กังวลคือพวกประสงค์ร้ายหรือมือที่ 3 จะมาก่อกวน เพราะขณะนี้ก็ได้มีการส่งข่าวไปในทางไม่ดี อาทิ ห้ามผู้ปกครองพาบุตรหลานผ่านมาแถวนี้ ซึ่งเป็นการสร้างสถานการณ์ให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว จึงขอแจ้งไปยังประชาชนทุกคนว่าไม่ต้องกังวล และขอให้ใช้ชีวิตตามปกติ อุเทนฯ ไม่ได้มีอะไรน่ากลัว" ผศ.สืบพงษ์ ระบุ

ขณะที่ นายปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน (สปท.) กล่าวว่า ทาง สปท. มีความห่วงใยถึงความปลอดภัย และชีวิตของนักศึกษา จึงได้หารือกับผู้บริหารสถาบันและนายกสภามหาวิทยาลัย มีความเห็นตรงกันว่า ให้นักศึกษาหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 14-15 มีนาคม ส่วนบุคลากรให้หยุดในวันที่ 15 มีนาคม ขณะเดียวกันได้กำชับนักศึกษาไม่ให้เข้าไปร่วมในสถานการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้ช่วยดูแลความปลอดภัยภายในสถาบันดัวย

            ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวว่า ทราบว่าช่วงเช้ากลุ่มศิษย์เก่าจะมีการลงทะเบียนกันที่อุเทนถวายในเวลา 08.00 น. และจะมีการรวมตัวเดินที่ ถ.พญาไท ในช่วงบ่าย ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณสามย่าน และยื่นหนังสือให้แก่ตัวแทนของจุฬาฯ ที่จามจุรีสแควร์ และคาดว่าจะยุติการชุมนุมในเวลา 18.00 น. โดยขณะนี้ได้จัดเตรียมกำลังไว้ 3 กองร้อย หรือ 450 นาย รักษาความสงบบริเวณจุฬาฯ รวมถึงบริเวณอุเทนถวาย ไปจนถึงแยกสามย่าน โดยทุก 10 เมตร จะมีตำรวจ 1 นาย พร้อมกับตรวจอาวุธอย่างเข้มข้น และมีการเตรียมตำรวจจราจรอีก 150 นาย

ทั้งนี้ จากการข่าวคาดว่าจะมีศิษย์เก่ามาร่วมชุมนุมประมาณ 2,000 คน ในเบื้องต้นยังไม่พบแรงจูงใจที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง แต่เพื่อความไม่ประมาท ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่อยู่ในที่ตั้งอีก 2 กองร้อย ไว้รองรับหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือเกิดเหตุจลาจล โดยขอยืนยันว่าตำรวจจะจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบออกหาข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มมือที่ 3 ที่อาจจะเข้ามาสร้างสถานการณ์


ขอบคุณข้อมูลจาก




 

Create Date : 15 มีนาคม 2556   
Last Update : 15 มีนาคม 2556 8:33:34 น.   
Counter : 1998 Pageviews.  

เปลี่ยนทันควัน! คลิปคุณตำรวจมีเรดาร์แต่ผมมีกล้อง



ตำรวจทางหลวงเรียกจับรถแจ้งข้อหาขับเลนขวา แต่พอเห็นกล้องที่บันทึกภาพอยู่ในรถเปลี่ยนท่าทีเป็นอวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (13 มี.ค.) ในเว็บไซต์ยูทูปได้มีคลิปวิดิโอของคุณ wasin0387 ได้มีการอัพโหลดคลิปวิดิโอชื่อว่า "คุณตำรวจมีเรดาร์แต่ผมมีกล้อง" โดยในคลิปเผยให้เห็นภาพจากกล้องที่ติดอยู่ในรถ พร้อมมีการเขียนข้อความระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2556 ขณะที่ตนเองกำลังจะกลับบ้านที่สกลนคร ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียกให้จอดพร้อมแจ้งข้อหาว่าขับเลนขวา จึงทำการซักถามเพราะตนเองไม่ได้ทำจริงตามที่ถูกกล่าวหา โดยยืนยันได้จากภาพในกล้องที่ถูกบันทึกไว้ ซึ่งขณะซักถามถึงข้อสงสัยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงก็สังเกตเห็นกล้องที่ติดอยู่พอดี จึงเปลี่ยนท่าทีเป็นการอวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพแทน

ทั้งนี้ เหตุการณ์ในคลิป "คุณตำรวจมีเรดาร์แต่ผมมีกล้อง" เจ้าของคลิปได้เข้ามาตอบคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า เกิดขึ้นที่ปากช่อง

S! News สนับสนุนเนื้อหา





 

Create Date : 14 มีนาคม 2556   
Last Update : 14 มีนาคม 2556 8:30:37 น.   
Counter : 2189 Pageviews.  

ปิดคดี! อปพร.ช่วยดับเพลิง รถจยย.โดนใบสั่ง

ปิดคดี! อปพร.ช่วยดับเพลิง รถจยย.โดนใบสั่ง

ผกก.หลักสอง ยันตำรวจทำตามหน้าที่ หลังรถจยย.ของอปพร.บางแคที่มาช่วยดับเพลิงโดนแปะใบสั่ง สั่งเรียกคืนทั้งหมด

จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการส่งต่อภาพขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) รหัส อปพร บางแค ธน 30-00  ธน 35-00 กำลังปฏิบัติหน้าที่ช่วยกันดับเพลิงที่เกิดในย่านบางแค แต่ถูกตำรวจจราจร สน.หลักสอง เขียนใบสั่งแปะหน้ารถจยย.นั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 มี.ค.) พ.ต.อ.ภานุเดช สุขวงศ์ ผกก.หลักสอง กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ได้มีการเขียนใบสั่งจริง จากการตรวจสอบข้อเท็จริงทราบว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตลาดบางแค แล้วมีรถจยย.จอดขวางปากทางเข้าตลาด ทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัดอย่างหนัก ตำรวจที่เขียนใบสั่งก็ต้องเร่งเรียกหาเจ้าของรถ โดยไม่ทราบว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่ อปพร.ที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ดับเพลิงอยู่ เมื่อไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงต้องเขียนใบสั่งไปตามหน้าที่ โดยเรียก สว.จร.สน.หลักสอง และหัวหน้าอาสาสมัครของฝั่งธนบุรี มาพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว

เบื้องต้น ได้เรียกใบสั่งคืนมาทั้งหมดแล้ว รวมทั้งตักเตือนเจ้าหน้าที่จราจรแล้ว โดยทาง สน.อาจจะมีโครงการอบรมเจ้าหน้าที่อาสา เพื่อให้การปฎิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจากหลายครั้งที่มีอาสาจอดรถไม่เป็นระเบียบทำให้จราจรติดขัด ส่งผลให้รถดับเพลิงหรือรถพยาบาลที่จะเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปได้ยาก

S! News สนับสนุนเนื้อหา




 

Create Date : 12 มีนาคม 2556   
Last Update : 12 มีนาคม 2556 8:49:18 น.   
Counter : 2135 Pageviews.  

จับตา! ส.ศิวรักษ์ - สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ดีเบตว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊กรายการตอบโจทย์ประเทศไทย

รายการตอบโจทย์ประเทศไทย วันที่ 14 - 15 มี.ค.นี้ ส.ศิวรักษ์ - สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ดีเบตครั้งประวัติศาสตร์ ว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์

  กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเลยทีเดียว เมื่อ "รายการตอบโจทย์ประเทศไทย" ที่ดำเนินรายการโดย ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา และออกอากาศ เวลา 21.45 -22.30 น. ทางไทยพีบีเอส ได้เผยแพร่ทีเซอร์รายการ โดยเชิญเหล่านักวิชาการทั้งหลาย มาพูดคุยถึงหัวข้อ "สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญ"

ทั้งนี้ ทางรายการได้ระบุแขกรับเชิญที่จะมาพูดคุยถกเถียงถึงหัวข้อดังกล่าวไว้ดังนี้...

"ตอบโจทย์ประเทศไทย ตลอดทั้งสัปดาห์ 11-15 มีนาคม 2556 พบข้อถกเถียงทางวิชาการว่าด้วย สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ

วันจันทร์ ที่ 11 มีนาคม พบอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย

วันอังคาร ที่ 12 มีนาคม พบการออกรายโทรทัศน์สาธารณะครั้งแรกของอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล แห่งคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

วันพุธ ที่ 13  มีนาคม พบอดีตหัวหน้านายตำรวจราชสำ นักประจำ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร

วันพฤหัสบดี ที่ 14 มีนาคม และศุกร์ ที่ 15 มีนาคม พบดีเบตของเหตุและผลระหว่างอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล กับปัญญาชนสยาม สุลักษณ์ ศิวรักษ์

             อย่าพลาดสัปดาห์ประวัติศาสตร์แห่งวงการโทรทัศน์ไทย ติดตามได้ที่นี่ที่เดียว กับตอบโจทย์ประเทศไทยและภิญโญ ไตรสุริยธรรมา 21.45-22.30 น. ทางไทยพีบีเอส"

  ทั้งนี้ เมื่อคลิปดังกล่าวเผยแพร่ไป นักวิชาการที่ถูกจับตามองมากที่สุด ก็คงจะเป็น อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ที่จะมีการดีเบตกันในช่วงท้ายสัปดาห์ ซึ่งการดีเบตครั้งนี้ถือว่าเป็นมวยคู่เอกเลยทีเดียว เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองท่านก็ได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นสื่อกลางในการถกเถียงด้วยประเด็นต่าง ๆ มากมาย อย่างล่าสุดในศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2556 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ก็ได้มีการตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊กกันไปมายาวเป็นมหากาฬย์เลยทีเดียว

  สำหรับประวัติของ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือที่รู้จักกันในนามของ ส.ศิวรักษ์ เป็นนักเขียนชาวไทย และนักวิชาการอิสระ ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วไปจนได้สมญานามว่า "ปัญญาชนสยาม"  ส.ศิวรักษ์ มีชื่อเสียงโด่งดังมากจากการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่เกรงใจใคร และไม่เกรงอำนาจผู้ใด ส่วนผลงานที่การันตีชื่อเรื่องในเรื่องความเป็นปัญญาชนนั้น มีมากมาย อาทิ การได้รับรางวัล อัลเทอเนทีฟโนเบล ในปี พ.ศ. 2538, ได้รับรางวัลสันติภาพนิวาโน หรือที่รู้จักกันว่ารางวัลโนเบลแห่งเอเชีย ในปี พ.ศ. 2554, ถูกเสนอชื่อเข้ารับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพถึงสองครั้ง และมีผลงานการเขียนมากมายหมายด้าน ไม่ว่าจะเป็น พุทธศาสนา สังคม การเมือง รูปแบบการปกครอง เป็นต้น

ในส่วนของ "กรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" ส.ศิวรักษ์ เป็นนักคิดคนหนึ่งที่ประกาศตนว่าเป็น "ผู้นิยมราชวงศ์" (Royalist) และได้วิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ด้วยความหวังดี แต่ถึงกระนั้นก็มีการดำเนินคดีกับสุลักษณ์ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอยู่หลายครั้ง ซึ่งทุกครั้ง ส.ศิวลักษณ์ ก็สามารถต่อสู้ชนะคดีเสมอ

ส่วนทางด้าน รศ.ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการทางด้านประวัติศาสตร์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถือได้ว่าเป็นนักวิชาการที่มักจะเป็นชื่อแรก ๆ เสมอเมื่อมีวิวาทะในประเด็นปัญญาชน, สังคมนิยม, ลัทธิมาร์กซ์ โดยเฉพาะประเด็นการเคลื่อนไหวของขบวนการฝ่ายซ้ายไทย (ประชาธิปไตย, การค้าเสรี, พวกหัวก้าวหน้า)

             อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.สมศักดิ์ ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเช่นกัน ในประเด็นที่  รศ.ดร.สมศักดิ์ ได้เสนอข้อเสนอ 8 ข้อ เพื่อปฎิรูปสถาบันกษัตริย์ เมื่อปี 2554






 

Create Date : 10 มีนาคม 2556   
Last Update : 10 มีนาคม 2556 21:47:59 น.   
Counter : 2668 Pageviews.  

ระวังกลุ่มเนียนแจกสติ๊กเกอร์ ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เผลอรับต้องจ่ายเงิน!



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าว ทีวีไทย

ถือได้ว่าเป็นภาพที่ชินตาสำหรับชาวกรุงเลยทีเดียว... สำหรับภาพของพนักงานยืนแจกใบปลิว ไม่ว่าจะตามสะพานลอย บนสะพาน หรือตามหน้าห้างร้านต่าง ๆ ซึ่งในชั่วโมงเร่งรีบบางทีเราก็ยื่นมือไปรับ โดยไม่ได้มองว่า แผ่นกระดาษนั้น เป็นใบปลิวอะไร...

และด้วยเหตุนี้ ก็ทำให้พวกมิจฉาชีพเลียนแบบอาชีพดังกล่าว ด้วยการอาศัยจังหวะทีเผลอยื่นสติ๊กเกอร์ให้ ถ้าใครพลาดไปรับก็จะถูกเรียกเก็บเงินแผ่นละ 20 บาท แถมยื่นคืนให้ก็ไม่รับเสียด้วย โดยคุณ ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าว ทีวีไทย ได้โพสต์ภาพของกลุ่มคนดังกล่าว ที่กำลังเรียกเก็บเงินคนที่เผลอรับสติ๊กเกอร์ พร้อมระบุข้อความเตือนว่า...

"ระวัง! สกายวอล์ค อนุสาวรีย์ชัยฯ มีกลุ่มคนทำเนียน ยืนแจกสติ๊กเกอร์ ใครเผลอรับ โดนตื้อเก็บ 20 บาท ยื่นคืนก็ไม่รับแบบนี้... ใครเจออยู่ตรงจุดไหน.. บอกกล่าวกันนะคะ หรือเห็นว่าควรทำอย่างไรกับคนพวกนี้ ลองเสนอความเห็นกันดู.."

       อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตก็ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมากมาย บ้างก็ว่าเป็นปัญหาที่มีนานเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว  บ้างก็ว่ากลุ่มคนพวกนี้บางทีก็ยัดใส่มือ และบางครั้งก็พูดจาเสียงดังให้คนรับอับอายว่าไม่จ่ายเงิน เป็นต้น




 

Create Date : 09 มีนาคม 2556   
Last Update : 9 มีนาคม 2556 21:54:02 น.   
Counter : 2325 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]