เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

โฆษกศาล ปค.แจง ปัดยกเลิกคำสั่งปลด“พัชรวาท”-แค่ชี้“มาร์ค”ตัดสินใจล่าช้า



โฆษกศาลปกครองชี้แจงคำพิพากษาปม “มาร์ค” ปลด “พัชรวาท” เหตุสลายชุมนุม 7 ตุลาฯ 51 ยืนยันไม่ได้สั่งให้ยกเลิกคำสั่งปลด แค่ให้ไปตัดสินใจ จะเห็นตามหรือโต้แย้งมติ ก.ตร.ภายใน 60 วัน เพราะยืดเยื้อมานานนายกฯ ดำเนินการล่าช้า

       วันนี้( 28 ก.พ.) นายไพโรจน์ มินเด็น ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุดในฐานะโฆษกสำนักงานศาลปกครอง กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาสั่งให้นายกรัฐมนตรียกเลิกคำสั่งปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ออกจากราชการ ตามที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติเสนอหลังไม่เห็นด้วยกับที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล พล.ต.อ.พัชรวาท กระทำผิดวินัยร้ายแรงกรณีการสลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคม 2551 แล้วนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการ ว่า การนำเสนอข่าวดังกล่าวน่าจะมีความเข้าใจที่คาดคลาดในคำพิพากษา โดยคำพิพากษาศาลปกครองกลางในวันนี้ ไม่ได้มีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีต้องปฏิบัติตามมติ ก.ตร.ที่ให้ยกเลิกคำสั่งปลด พล.ต.อ.พัชรวาท หรือมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งปลดออกจากราชการ เพราะกรณีนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ยื่นคำร้องว่านายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร ซึ่งศาลก็ได้มีการพิจารณาแล้วเห็นว่านายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดี ได้มีการสอบถามความเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงมติ ก.ตร. ที่ให้ยกเลิกคำสั่งปลดพล.ต.อ.พัชรวาท รวมทั้งหมด 3 ครั้ง และคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็ได้มีความเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่ตัดสินใจที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ยังกลับไปถาม ป.ป.ช. ซึ่งตรงนี้ศาลเห็นว่าสมควรที่นายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณาตัดสินใจได้แล้ว และการไม่ตัดสินใจถือว่านายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร จึงมีคำพิพากษาซึ่งถือว่าเป็นคำบังคับ ให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการปฏิบัติตามที่ได้รับแจ้งมติจาก ก.ตร. ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด

       “กรณีนี้องค์คณะตุลาการสั่งว่าให้นายกฯ ไปตัดสินใจ ว่าจะทำอย่างไรกับของ ก.ตร. จะยกเลิกคำสั่งปลด พล.ต.อ.พัชรวาทตามที่ ก.ตร.เสนอ หรือ จะดำเนินการโต้แย้ง ก็ให้รีบดำเนินการ เพราะระยะเวลามันล่วงเลยมามาก จนถือว่านายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า โดยศาลไม่ได้ไปวินิจฉัยมติของ ก.ตร.ว่าถูกหรือผิด เนื่องจากไม่ได้มีการร้องในประเด็นนี้ “ นายไพโรจน์กล่าว


รายละเอียดคำพิพากษาศาลปกครอง






























 

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2557 21:18:40 น.   
Counter : 1738 Pageviews.  

“ดร.อาทิตย์” เสนอทางปลดล็อกเปิดสภาไม่ได้ “นายกฯ มาตรา 7-เลือกตั้งใน 2 ปี” แก้วิกฤตประเทศ



อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ออกแถลงการณ์แนะใช้มาตรา 7 เลือกตั้งใน 2 ปี แก้วิกฤตประเทศ ชี้ติดมาตรา 127 เปิดสภาตั้งรัฐบาลไม่ได้ รัฐบาลหมดความชอบธรรม ย้อนรอยตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล นโยบายพรรคเพื่อไทยทำลายประเทศ บิดเบือนเจตนารมณ์ประชาชน เดินหน้าเลือกตั้งชนวนความขัดแย้ง หนำซ้ำจำนำข้าวผิดพลาดใหญ่หลวง คนในรัฐบาลนิยมความรุนแรง

       วันนี้ (27 ก.พ.) ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ได้เขียนแถลงการณ์ต่อสถานการณ์การเมืองไทย ในขณะนี้ มีใจความว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน บัดนี้เป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่าความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศที่ดำเนินอยู่ ได้ขยายตัวเป็นวิกฤตของชาติ ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กที่ไม่รู้ และไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมทั้งในระยะสั้นและยาวอย่างรุนแรง และมีแนวโน้มอันเป็นผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัยของชาติ อาจจะนำประเทศไปสู่รัฐที่ล้มเหลว

       นับตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยซึ่งชนะการเลือกตั้ง ได้ร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่นๆ รวมกันเป็นเสียงข้างมาก จนสามารถจัดตั้งรัฐบาล โดยมีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งก็เกิดวิกฤตการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จนเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งทำลายเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง พร้อมกับรัฐบาลได้เร่งดำเนินนโยบายประชานิยมด้วยการนำเงินของชาติไปใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย ซึ่งหวังแต่เพียงให้เกิดผลทางการเมืองที่จะมาค้ำจุนฐานะของรัฐบาลให้เข้มแข็งขึ้น

       ภายหลังจากนั้นรัฐบาลก็ยังได้บิดเบือนเจตนารมณ์ที่ประชาชนได้มอบอำนาจให้ ด้วยการออกระเบียบชดเชยเงิน ซึ่งส่อเจตนาไม่สุจริตเพื่อช่วยเหลือพวกพ้องตนที่สูญเสียชีวิต จากการชุมนุมทางการเมืองให้ได้รับเงินชดเชยจำนวน 7,000,000 บาทต่อคน อันเป็นการขัดต่อระเบียบทั่วไปที่ผู้เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ และพลเรือน พึงจะได้รับ

       นอกจากนี้ ยังอ้างเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และดำเนินการเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิด โดยเฉพาะในเหตุการณ์ความรุนแรงปี พ.ศ.2553 ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้การชุมนุมในครั้งนั้นมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ รวมถึงการนิรโทษกรรมที่ครอบคลุมถึงการลบล้างความผิดในคดีคอร์รัปชันของ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นักโทษตามคำพิพากษาของศาล อันเป็นจุดเริ่มต้นที่พรรคการเมืองฝ่ายค้าน และประชาชนสาขาอาชีพต่างๆ ออกมาคัดค้านอย่างแข็งขัน จนกระทั่งรัฐบาลและรัฐสภาที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคเพื่อไทย ต้องยกเลิกและถอนพระราชบัญญัติดังกล่าว

       แทนที่รัฐบาลและรัฐสภาที่ควบคุมโดยพรรคเพื่อไทย จะสนใจการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากและเดือดร้อนของประชาชน กลับเร่งรีบผลักดันการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีผู้ยื่นคัดค้านให้ศาลรัฐธรรมนูญ จนศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับดังกล่าวมีสภาพขัดกับรัฐธรรมนูญ ทำให้ประธานสภาผู้แทนราษฏร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วน และสมาชิกวุฒิสภาบางส่วน รวมถึงนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแถลงการณ์อย่างเปิดเผยและเป็นทางการในการปฏิเสธคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ยอมรับคำพิพาษาดังกล่าวอันเป็นการปฏิเสธอำนาจที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน

       ในขณะที่วิกฤตทางการเมืองเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้ใช้การยุบสภาให้เป็นทางออกของการแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองดังกล่าว เมื่อเช้าวันที่ 9 ธันวาคม 2556 และประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

       เนื่องจากการเคลื่อนไหวคัดค้าน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมหาศาลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่นำโดยคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ความมุ่งหวังที่รัฐบาลจะสลายการชุมนุมไม่ประสบความสำเร็จ เพราะประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่ามีความมุ่งมั่นที่จะให้รัฐบาลหลุดพ้นออกจากตำแหน่ง และเปิดทางให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง

       ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภาต้องรอวันประกาศโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่เรียบร้อย และรับมอบงานต่อจาก กกต.ชุดเดิมที่หมดวาระ ภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองที่พรรคฝ่ายค้านประกาศไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และปัญหาการเมืองต่างๆ ที่ดำรงอยู่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ได้ลงความเห็นว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จะไม่สามารถบรรลุเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จึงเสนอให้รัฐบาลประกาศเลื่อนการเลือกตั้ง ซึ่งเกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล กับ กกต.

       ดังนั้น กกต.ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเลื่อนการเลือกตั้ง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีความเห็นว่าสามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้ โดยความเห็นชอบร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นผู้มีอำนาจในการออกพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งไม่เห็นชอบกับการเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะต้องการให้มีการเลือกตั้งดำเนินต่อไป จนเป็นผลปรากฏว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นั้นไม่ประสบผลสำเร็จ และไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 ระบบได้ อันเป็นชนวนของความขัดแย้งของพรรคเพื่อไทยกับ กกต.และยังสร้างปัญหาทางกฎหมายทั้งที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้งอีกเป็นจำนวนมาก จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน

       อย่างไรก็ตาม ภาระหน้าที่ของ กกต.ซึ่งจะต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จเพื่อจะได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ครบจำนวน หรืออย่างน้อย 95% เพื่อสามารถเปิดการประชุมภายใน 30 วัน ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 3 มีนาคม 2557 แต่ในความเป็นจริงคือ กกต.ก็ยังไม่สามารถประกาศผลสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 ระบบได้ ย่อมถือว่าการเมืองในระบบรัฐสภาได้ดำเนินมาสู่ทางตัน และการที่จะเลือกผู้นำรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งจำเป็นจะต้องเลือกมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มาดำรงตำแน่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 ได้

       ดังนั้น ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองที่รุมเร้ารัฐบาลก็ยังมีปัญหาแทรกซ้อนที่เป็นความผิดพลาดทางนโยบายอย่างใหญ่หลวงในเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดกับชาวนาในประเด็นการไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าว ซึ่งเป็นจำนวนเงินมหาศาล จนสร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากให้กับชาวนา และมีชาวนาจำนวนหนึ่งต้องสังเวยชีวิตไปกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล และมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องจากรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ทั้งยังโยนความรับผิดชอบไปให้กับผู้อื่น จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพลักษณ์ การค้า การลงทุนของประเทศอย่างรุนแรง

       การดำเนินการของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นอกจากจะไม่สามารถแก้วิกฤตการณ์ได้ยังดำเนินการต่างๆ ที่ก่อให้เกิดวิกฤตซ้อนวิกฤต ด้วยการออกพระราชกำหนดภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเป็นพระราชกำหนดที่ร้ายแรง ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวต้องหยุดชะงักไป อันเกิดจากพระราชกำหนดดังกล่าว ไม่คุ้มครองบุคคลที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เกี่ยวกับการประกันภัย เป็นต้น

       เพราะเจตนาที่แท้จริงคือการมุ่งหวังที่จะใช้พระราชกำหนด เพื่อเข้ามาควบคุม และสลายการชุมนุมของประชาชน โดยศาลแพ่งได้มีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ว่าขัดกับหลักสิทธิเสรีภาพประชาชนตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติ ไว้จึงไม่สามารถดำเนินการได้ และยังไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการจับกุมผู้นำในการชุมนุมได้ ก่อให้เกิดเหตุการณ์การใช้อาวุธสงครามเข้ามาข่มขู่ศาล ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาในประวัติศาสตร์ประเทศไทย รวมถึงคนที่สนับสนุนรัฐบาลก็มีพฤติกรรมข่มขู่ และหมิ่นศาลอย่างเปิดเผย และคนภายในรัฐบาลได้ชักนำให้ผู้สนับสนุนของตน ประกาศใช้ความรุนแรงเข้ามาทำลายล้างผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐบาล ด้วนการจัดตั้งกองกำลังอาวุธ และประกาศจะให้มีแบ่งแยกดินแดน

       ทั้งนี้ ปรากฏชัดว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรักษาการ รมต.กระทรวงมหาดไทยได้เข้าร่วมและให้การสนับสนุน โดยพฤติกรรมดังกล่าวเหล่านี้ไม่อาจกล่าวอ้างได้ดังเช่นที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้อ้างว่าเป็นการกระทำเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ในทางตรงกันข้ามพฤติกรรมเช่นนี้เป็นพฤติกรรมของบรรดาเผด็จการที่ชอบใช้ความรุนแรง ในการข่มขู่คุกคามผู้รักประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่งไม่ได้เป็นการดำเนินการภายใต้รัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน

       การดำเนินการของรัฐบาลชั่วคราวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงหมดความชอบธรรม ทั้งทางกฎหมายและทางการเมืองที่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญ และประพฤติผิดมิชอบในโครงการรับจำนำข้าว เป็นรัฐบาลทรราชย์

       พวกเราซึ่งประกอบไปด้วย ประชาชนชนชาติต่างๆ ทุกสาขาอาชีพ ทั้งพลเรือน ทหาร และตำรวจ ที่ได้รวมกัน ณ ที่นี้ อันเป็นเจตนาร่วมกันของคนทั้งชาติที่ต้องการขจัดภัยร้ายแรงที่เกิดจากการกระทำที่ผิดและปฏิเสธการดำรงอยู่ของรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นับแต่นี้ตลอดไป

       ดังนั้นประชาชนทุกหมู่เหล่านี้จึงมีความประสงค์ที่จะใช้อำนาจอธิปไตยของตนเองตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 พร้อมทั้งเหตุสุดวิสัยตามมาตรา 127 ที่ไม่สามารถเปิดการประชุมรัฐสภาครั้งแรกได้ และมาตรา 171 ซึ่งไม่อาจจัดหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้

       ทั้งนี้จึงจำเป็นที่องค์พระประมุขของประเทศ จะต้องทรงวินิจฉัยเพื่อแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ขึ้นมาเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ โดยอาศัยอำนาจประเพณีการปกครอง เมื่อครั้งเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 และเหตุการณ์วันประชาธิปไตย 14 ตุลาคม 2516 อันเป็นประเพณีการปกครองตามนัยยะมาตรา 7 แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย 2550 โดยขอพระบรมราชานุญาตให้รองประธานวุฒิสภา เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เพื่อแต่งตั้งและบริหารประเทศเป็นการชั่วคราว โดยให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ แก้ไขกฎระเบียบ และจัดการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ภายใน 2 ปี




 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2557 21:21:41 น.   
Counter : 1510 Pageviews.  

คนร้ายลอบยิง M79 ใส่ไทยพีบีเอส รถเสียหาย 2 คัน-ไร้เจ็บ

เกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิดบริเวณลานจอดรถไทยพีบีเอส เบื้องต้นรถพนักงานเสียหาย 2 คัน ไม่มีผู้บาดเจ็บ

       วันนี้ (26 ก.พ.) มีรายงานว่าเมื่อเวลา 19.05 น.เกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิดบริเวณลานจอดรถองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส 2 ลูก ทำให้รถยนต์ของพนักงานได้รับความเสียหาย 2 คัน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบ พบเป็นระเบิดชนิด เอ็ม 79 แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ






 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2557 20:58:09 น.   
Counter : 1435 Pageviews.  

ตึกก่อสร้าง รพ.รามาฯ ถล่มทับคนงานดับ 10 เจ็บระนาว



อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี สาขาบางพลี พังถล่มขณะกำลังก่อสร้าง แท่นปูนทางเชื่อมต่อหักหล่นทับกลุ่มคนงานระหว่างจับกลุ่มนั่งรับประทานอาหารกลางวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 4 ศพ และติดค้างภายในซากอาคารอีกนับกว่า 10 ราย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำร่างผู้บาดเจ็บออกจากซากตึก กระทั่งพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ศพ และบาดเจ็บรวม 17 ราย


       วันนี้ (25 ก.พ.) ร.ต.ท.อภิวัฒน์ เกสร ร้อยเวร สภ.บางพลี รับแจ้งมีแผ่นปูนถล่มลงมาทับคนงาน ได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณสถานที่ก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี บางพลี ม.15 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงแจ้งให้ พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี นายวิวัฒน์ ฉัทนานุรักษ์ นายอำเภอบางพลี ทราบก่อนเข้าตรวจสอบพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู

       ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารปูน ก่อสร้างไป 2 ชั้น โดยตรงทางเชื่อมระหว่างอาคารทั้งสองพบคนงานนับร้อยกำลังมุงดูจุดเกิดเหตุซึ่งมีแผ่นปูนขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 20 เมตร พาดเชื่อมระหว่าง 2 อาคารพังหักกลางจนถล่มทับคนงานที่นั่งพักรับประทานอาหารอยู่ด้านล่าง มูลนิธิจึงรีบนำร่างผู้บาดเจ็บทั้งหมดนำส่ง รพ.จุฬารัตน์ 3 จำนวน 4 ราย ซึ่งบาดเจ็บสาหัสตามลำตัว และช่องท้องเนื่องจากถูกเหล็กแหลมเสียบ และนำส่ง รพ.บางพลีจำนวน 16 ราย เบื้องต้นเสียชีวิตแล้ว 4 ราย และ รพ.รัทรินทร์ 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีร่างของผู้เสียชีวิตติดอยู่ด้านใน จึงได้เจ้าหน้าที่มูลนิธิใช้รถแบ็กโฮขุดแผ่นปูนที่หักออกเพื่อค้นหาร่างที่ติดอยู่ด้านใน ใช้เวลาราว 40 นาที สามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้ 6 ราย ประกอบด้วย นายนิ่ม อายุ 30 ปี และ ด.ญ.น่าน อายุ 15 ปี ทั้ง 2 คนเป็นชาวกัมพูชา, นายพงษ์ศักดิ์ แก้วตา อายุ 35 ปี นายกฤษ สมอนาค อายุ 50 ปี, นายชินรอด ไม่ทราบนามสกุล อายุ 30 ปี และนายสาย แหงมดี อายุ 61 ปี เป็นหัวหน้าคุมคนงานกัมพูชาที่มาทำงานในไซต์งานก่อสร้างแห่งนี้

       นายวิวัฒน์ ฉันทานุรักษ์ นายอำเภอบางพลี กล่าวว่า เบื้องต้นที่ได้รับรายงานทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนงานราว 30 คนอยู่ระหว่างพักเที่ยง โดยนั่งรับประทานอาหารใต้แผ่นปูนดังกล่าว ขณะนั้นได้มีแผ่นปูนคอนกรีตอีกแผ่นซึ่งเป็นชิ้นส่วนของช่องลิฟต์โดยสารภายในตึกร่วงลงมา ก่อนทับลงบนแผ่นปูนดังกล่าว ทำให้แผ่นปูนขนาดใหญ่หักกลางและหล่นลงมาทับคนงานจนได้รับบาดเจ็บและชีวิต ขณะนี้ทางนายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งการเบื้องต้นให้ทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดฯ เข้าตรวจสอบแปลนการก่อสร้างและโครงสร้างของอาคารดังกล่าวแล้ว ส่วนผู้รับเหมานั้นทางโรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นผู้จ้างและดูแลในส่วนของการก่อสร้างอาคารดังกล่าวทั้งหมด โดยได้ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ ปี 2555 เบื้องต้นได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอันตรายและห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังพื้นที่ ส่วนการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูยังคงดำเนินการค้นหาร่างจากซากปูนที่พังถล่มลงมา

       ขณะที่ นพ.กำพล พลัสสินทร์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บ 4 รายเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นหญิง อายุ 42 ปี ถูกเหล็กทิ่มติดคาอยู่ที่ท้อง เข้าห้องผ่าตัดแล้ว ส่วนอีก 3 รายได้รับไว้รักษาในโรงพยาบาล

       สำหรับการก่อสร้างโครงการพัฒนารามาธิบดี สู่คณะแพทยศาสตร์ชั้นนำในเอเชีย คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ณ ที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการนั้น ครม.ได้อนุมัติโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์ชั้นนำแห่งเอเชีย โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่วงงบประมาณ 6,000 ล้านบาท เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ บนพื้นที่ 292 ไร่ โดยศูนย์การแพทย์ชั้นนำแห่งเอเชีย หรือโรงพยาบาลรามาธิบดี บางพลี จะมีขนาด 400 เตียง คาดว่าใช้เวลาในการก่อสร้าง 4-5 ปี จึงจะสามารถเปิดให้บริการได้ โดยมีบริษัท อิตาเลียน-ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการแห่งนี้




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2557 21:25:33 น.   
Counter : 1814 Pageviews.  

เลขาฯ ศาลยุติธรรมลั่น! ยอมไม่ได้ มือมืดยิงเอ็ม 79 ชี้คุกคามศาล



เลขาฯ สำนักงานศาลยุติธรรม เผย ยอมไม่ได้ มือมืดใช้อาวุธสงครามยิงข่มขู่ศาล พร้อมให้รวบรวมหลักฐานเอาผิดพวกโพสต์ข้อความหมิ่นและคุกคามผู้พิพากษา ยันไม่กระทบการพิจารณาคดี เพราะทำตามอำนาจหน้าที่ โดยไม่หวั่นไหว หรือหวาดกลัวอันตราย

 วันนี้ (24 ก.พ.) ที่สำนักงานศาลยุติธรรม ชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม แถลงข่าวถึงกรณีเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงระเบิด เอ็ม 79 เข้าใส่อาคารศาลอาญาและลานจอดรถของศาลแพ่ง และเหตุการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมมาวางพวงหรีด จุดธูป และชูป้ายข้อความประท้วงต่างๆ ว่า นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา ได้แสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว พร้อมทั้งมอบนโยบายเพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสม ทั้งนี้ยืนยันว่าศาลได้พิพากษาคดีโดยปราศจากอคติ มีความเป็นธรรม กระบวนการโปร่งใส ไม่เข้าข้างใคร พิจารณาไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดไม่กระทบต่อผู้พิพากษาในการพิจารณาคดี เพราะผู้พิพากษาพิจารณาคดีโดยปราศจากอคติ พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ของกฎหมาย ไม่หวาดกลัวอันตรายและไม่หวั่นไหว รวมทั้งการพิจารณาคดีเป็นไปอย่างเปิดเผย มีการประชุมเป็นองค์คณะ และหากคู่ความไม่พอใจก็เปิดโอกาสให้ต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถยื่นอุทธรณ์และฎีกาได้

       นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่าในสังคมออนไลน์มีพฤติการณ์ที่โพสต์ข้อความและโพสต์ภาพที่ไม่เหมาะสม โดยการข่มขู่คุกคามการทำงานของศาลและผู้พิพากษา ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำและต้องการหวังผลอะไร แต่ขอบอกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นผลดีแก่ประเทศชาติ มีแต่จะสร้างความเสียหาย ส่วนเรื่องที่มีกลุ่มบุคคลประพฤติตนไม่เหมาะสมเป็นอำนาจของศาลแพ่งที่จะดำเนินคดีในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ส่วนทางศาลอาญาจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งผู้ก่อเหตุและผู้จ้างวานซึ่งจะต้องนำตัวมาลงโทษให้ได้ โดยจะดูว่าสามารถเอาผิดในข้อหาใดได้บ้าง

       เลขาศาลยุติธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย ได้มอบนโยบายให้แก่ศาลทั่วประเทศเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อคุ้มครองผู้พิพากษา ส่วนบริเวณศาลอาญา รัชดาภิเษก ก็ได้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการตรวจตราอาวุธและยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกอย่างละเอียด รวมทั้งตรวจค้นตัวบุคคลอย่างเข้มงวดด้วยเช่นกัน แต่อาจจะทำให้กระทบต่อประชาชนที่มาติดต่อราชการบ้าง

       ทั้งนี้ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.หารือความร่วมมือเพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ และป้องปรามไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะว่าศาลเป็นที่พึ่งของประชาชน การใช้อาวุธสงครามถือว่ารับไม่ได้ โดยจะเร่งติดตามจับกุมผู้กระทำผิดและผู้จ้างวาน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ถือว่าคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ส่วนกรณีคนที่โพสต์ข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมนั้น ก็จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้ประชาชนกลับคืนมา

       “เรื่องดังกล่าวมันไม่ได้เป็นประโยชน์กับใคร มีแต่จะทำให้เรื่องเลวร้ายขึ้น และไม่ได้เป็นการช่วยแก้ปัญหา แต่กลับเป็นการก่อปัญหาขึ้นใหม่ ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติเป็นหลัก ยืนยันว่าสิ่งที่ผู้ก่อเหตุทำไม่ได้สร้างความหวั่นไหวต่อการพิจารณาคดีของผู้พิพากษา ตนได้สั่งให้เร่งดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งผู้กระทำผิดและผู้จ้างวานเพื่อนำตัวมาลงโทษให้ได้ ซึ่งขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้” เลขาฯสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าว

       ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ยื่นหนังสือขอคำชี้แจงจาก นายสุทธินันท์ เสียมสกุล อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งจะมีการดำเนินการอย่างไร นายภัทรศักดิ์ กล่าวว่า ปกติแล้วศาลจะมีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการหารือในด้านธุรการมากกว่า ซึ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม ยื่นหนังสือมานั้นไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งว่าจะดำเนินการอย่างไร

       เมื่อถามว่าสำนักงานศาลยุติธรรมเชื่อว่าเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 มาจากคำพิพากษาของศาลหรือเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง นายภัทรศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่การจากพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพียงว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นภายหลังจากที่ศาลแพ่งมีคำพิพากษาเพียงแค่ไม่กี่วัน ซึ่งเรื่องนี้นายธงชัย เสนามนตรี อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ระบุว่าศาลก่อตั้งมากว่า 130 ปี ก็ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงใส่ศาลถึง 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ จึงถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่ศาลยอมรับไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการใช้อาวุธสงครามที่ร้ายแรง และยังเป็นการคุมคามการพิจารณาคดีพิพากษาของศาล

       เมื่อถามว่ากระแสสังคม มีส่วนในการพิจารณาพิพากษาคดีหรือไม่ นายภัทรศักดิ์ กล่าวว่า กระแสสังคมเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน มีเกิดขึ้นและมีเสื่อมสลายไป แต่สิ่งที่มีอยู่ตลอดก็คือกฎหมาย เราจะนำกระแสสังคมมาพิจารณาไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รับฟังเลย เพราะไม่ใช่หลักสำคัญในการพิพากษา โดยจะต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงเฉพาะในสำนวนเท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องฟังกระแสสังคมหรือพยานหลักฐานภายนอกสำนวน ส่วนคำพิพากษาของศาลนั้นไม่เหมือนคำสั่งในทางปกครอง ซึ่งเป็นการพิจารณาระบบองค์คณะ ซึ่งประชาชนสามารถรับทราบได้จากรูปแบบในคำพิพากษาของศาลฎีกา




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2557 21:00:06 น.   
Counter : 1502 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]