เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

หลวงปู่พุทธะอิสระยื่นขัอเสนอ 3 ข้อให้กงสุลทำงาน - ชี้เตรียมมวลชนหลักแสน สยบ “เหลิม”



หลวงปู่พุทธะอิสระ ยื่นขัอเสนอ 3 ข้อ เปิดพื้นที่ทำงานกรมการกงสุล ท้า “เหลิม” คุยโม้ขอคืนพื้นที่ภายใน 72 ชั่วโมง จะระดมมวลชนหลักแสนรอรับกำลังตำรวจ ภายใน 3 ชั่วโมง

       วันนี้ (27 ม.ค.) เวลา 15.00 น.ที่เวทีการชุมนุม กปปส.หน้ากรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม พล.ต.สุรชาติ จิตต์แจ้ง หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ กระทรวงกลาโหม นายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุล เดินทางเข้าเจรจากับหลวงปู่พุทธะอิสระ เป็นครั้งที่ 2 ที่บริเวณบ้านทรงไทย แจ้งวัฒนะ เพื่อชี้แจงและหารือถึงผลกระทบต่อประชาชนที่จะเข้ารับบริการจากแต่ละหน่วยงานราชการในพื้นที่ดังกล่าว

       โดยมี นายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุล เข้าชี้แจงถึงความจำเป็นที่จะต้องเปิดพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำงาน เพื่อบริการประชาชน พร้อมระบุถ้าเปิดให้เข้าทำการได้จะให้เจ้าหน้าที่แสดงรูปภาพประจำตัวทุกครั้งที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และทำหนังสือยืนยันตัวบุคคลที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในกรมการกงสุลจำนวน 90 คน ที่จะสลับสับเปลี่ยนกันมาทำงานเป็นกะๆ ละ 30 คน

       ด้านหลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า ยินดีที่จะให้ข้าราชการแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชนเข้ามาทำงานได้ เนื่องประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่มีเงื่อนไข 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.จะต้องรับรองความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม 100 เปอร์เซ็นต์ 2.ผู้ชุมนุมต้องสามารถใช้สิทธิการชุมนุมได้ตามรัฐธรรมนูญ และ 3.ต้องกำจัดบุคคลแปลกปลอมที่แฝงตัวมาหาข่าวในที่ชุมนุม สำหรับหน่วยงานอื่นในกระทรวงยุติธรรมที่ประชาชนได้รับผลกระทบนั้น ถ้าจะมีการหารือกันอีกครั้งก็จะยื่นข้อเสนอแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการเจรจาน่าจะเป็นไปในทางที่ดี และเรายินดีที่จะเจรจากับข้าราชการที่ไม่มีผลต่อรัฐบาลโดยตรง

       และฝากถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ ที่ออกมาประกาศว่าจะขอคืนพื้นที่การชุมนุมทั้งหมดภายใน 72 ชั่วโมง ภายใต้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการข่มขู่ แต่ตนเองไม่เกรงกลัว และพร้อมระดมมวลชนหลักแสน ภายใน 3 ชั่วโมง หรือมากกว่ากำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการเจรจาครั้งนี้เสมือนแผนลวงเพื่อหลอกให้ตายใจ

       พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะขอนำข้อเสนอกลับไปพิจารณาร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และมีอำนาจก่อน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะให้คำตอบได้เมื่อใด พร้อมยืนยันว่าการเจรจาในครั้งนี้มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดี ส่วนกำหนดการเจรจาขอคืนพื้นที่อื่นๆ ยังคงกำหนดเดิม แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือการประสานงานกลับมา

       ขณะที่สื่อมวลชนที่จะเข้าร่วมฟังการเจรจาในครั้งนี้ ได้มีการตรวจเข้มบริเวณทางเข้าทั้งตรวจกระเป๋า และใช้เครื่องสแกนตรวจโลหะเป็นรายบุคคลโดยการ์ด กปปส.อีกด้วย


//manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000010355




 

Create Date : 27 มกราคม 2557   
Last Update : 27 มกราคม 2557 20:32:34 น.   
Counter : 2315 Pageviews.  

ตร.ปัดเกียร์ว่างแดงถล่ม กปปส.วัดศรีเอี่ยม



สตช.แถลงสรุปสถานการณ์การเลือกตั้งล่วงหน้า มีเหตุกระทบกระทั่งหลายพื้นที่ ยัน ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจเหตุปะทะวัดศรีเอี่ยม ส่งกำลังพร้อมชุดพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานแล้วหลังเกิดเหตุ

       วันนี้่ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์, พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ญากร ณิชาบวร รองโฆษก ตร.ร่วมกันแถลงสรุปสถานการณ์การเลือกตั้งล่วงหน้า

       พล.ต.ต.อนุชา กล่าวว่า เขตเลือกตั้งทั้งการเลือกตั้งในเขตและการเลือกตั้งนอกเขต โดยใน กทม.มี 50 เขต ซึ่งในตอนแรกสามารถเปิดได้ 22 เขต เปิดไม่ได้ 28 เขต สำหรับในส่วนของพื้นที่ บช.ภ.1-5 เหตุการณ์ในการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตและนอกเขตเป็นปกติ บช.ภ.6 จ.เพชรบูรณ์ ปิด 1 เขต บช.ภ.7 มี 8 จังหวัด เลือกตั้งได้ 5 จังหวัด มี 3 จังหวัดคือ ประจวบคีรีขันธ์ ปิด 2 เขต สมุทรสงคราม ปิดทุกเขต สมุทรสาคร ปิด 2 เขต บช.ภ.8 มีการปิดการเลือกตั้งที่ กระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช บช.ภ.9 ปิดการเลือกตั้งที่ ตรัง สตูล สงขลา พัทลุง สำหรับในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดำเนินการได้เป็นปกติ

       พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มีเหตุแทรกซ้อน มีเพียงการแสดงสัญลักษณ์ในบางพื้นที่ และการที่ประกาศปิดของหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยนั้น เป็นเพราะจากการประเมินสถานการณ์น่าจะมีความไม่น่าจะปลอดภัย ทาง ผอ.เขตเลือกตั้งจึงจำเป็นต้องปิดหน่วย สำหรับการก่อเกิดเหตุในวันนี้มีเหตุการณ์ดังนี้
       - เวลา 9.27 น.เหตุกระทบกระทั่งที่ลาดกระบัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
       - เวลา 10.00 น.เขตดอนเมือง ผู้ช่วย ผอ.เขตดอนเมือง ถูกสตรี 2 คนทำร้ายโดยการผลักให้ล้ม และก็ดึงผม ซึ่งจับตัวสตรีทั้ง 2 คนนั้นได้
       - เวลา 10.00 น.พบกลุ่มชุดขาว 22 คน เข้าไปตัดกุญแจสำนักงานเขต เนื่องจากจะเข้าไปใช้สิทธิ แต่จากการตรวจค้นทั้ง 22 คน ไม่มีการพกบัตรประจำตัวประชาชน โดยในตอนแรกมีการตั้งข้อสงสัยว่าเป็นคนต่างด้าว แต่ทาง สน.บึงกุม ได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นคนไทย ซึ่งได้ตั้งข้อหาเบื้องต้นว่าไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน ไว้ก่อน
       - เวลา 11.30 เหตุที่วัดศรีเอี่ยม ซึ่งในช่วงเวลา 11.00-13.00 น.เหตุการณ์ยังคงปกติ แต่พอเวลา 13.30 น.ทางกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.เลิกและกำลังจะกลับ แต่เมื่อออกมาได้ประมาณ 200 เมตร มีการปะทะอีกกลุ่มหนึ่งตรงโค้งวัดศรีเอี่ยม ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ซึ่งเป็นผู้ชุมนุม กปปส.5 ราย และเป็นผู้ชุมนุม นปช.1 ราย รายละเอียด ดังนี้
       1.นายสุทิน ธราทิน อายุ 52 ปี ถูกยิงศีรษะและหน้าอกขวา (เสียชีวิต)
       2.นายสมคิด ไชยคชเดช อายุ 56 ปี นครศรีธรรมราช ถูกยิงต้นแขนขวา
       3.นายคัมภีอานัญชัย สิริอาภรณ์ อายุ 60 ปี จ.นครปฐม ถูกตีศีรษะ
       4.นายบุญเหลือ งามพินิจ อายุ 30 ปี ชาว จ.ระนอง ถูกยิงต้นขาขวาด้านใน
       5.นายเฉื่อย แคลนกระโทก อายุ 75 ปี จ.นครราชสีมา ถูกตีหัวและลำตัว
       6.นายวิชาญ สุขบางนพ อายุ 54 ปี จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงข้อมือซ้าย
       โดยทั้งหมดที่ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่ รพ.วิภาราม พัฒนาการ
       สำหรับ นปช.ที่ได้รับบาดเจ็บ คือ นายสมชาย เปรี่ยมพิมาย อายุ 39 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ท่อนแขนด้านซ้าย นำส่ง รพ.บางนา

       ต่อมาเวลา 15.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา และ บก.น.5 เข้าตรวจพื้นที่เกิดเหตุ จำนวน 90 นาย ได้เข้ารักษาพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานต่อไป ส่วนที่มีการอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ให้การดูแลใส่ใจนั้น ขอชี้แจงว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าพื้นที่ตั้งแต่เวลา 15.00 น.แล้ว ซึ่งคดีนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์, ผบช.ก.และ ผบช.สพฐ.ลงพื้นที่แล้ว


//manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000009886




 

Create Date : 26 มกราคม 2557   
Last Update : 26 มกราคม 2557 19:21:55 น.   
Counter : 1523 Pageviews.  

กกต.ให้หย่อนบัตรล่วงหน้าพรุ่งนี้ไปก่อน-เชื่อ 2 ก.พ.ไม่มีเลือกตั้งแน่



กกต.เดินหน้าจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า 26 ม.ค.ต่อไป เหตุ พ.ร.ฎ.เดิมยังมีผลอยู่ ชี้ 15 จังหวัดส่อหย่อนบัตรไม่ได้ อาจให้งดลงคะแนนไปก่อน ลั่น 2 ก.พ.ไม่มีเลือกตั้งใหญ่ เหตุปัญหาวุ่นวายหลายอย่าง เชื่อนายกฯ เข้าใจปัญหา เผยห้วงเวลาก่อนเดินไปสู่วันเลือกตั้งใหม่ คู่ขัดแย้งต้องถอยคนละก้าว

       เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 25 ม.ค. ที่ตึกโดมบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)ศูนย์รังสิต นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุม กกต.นาน 3 ชั่วโมงว่า ในวันนี้ กกต.ได้ประชุมปรึกษาหารือกันเรื่องแนวทางการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยว่าสามารถเลื่อนการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 2 ก.พ.ออกไปได้ สิ่งสำคัญคือ กกต.ได้มีมติเชิญนายกรัฐมนตรีมาปรึกษาหารือในวันที่ 28 ม.ค.เวลา 14.00 น. เพื่อที่จะพิจารณาการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ส่วนสถานที่ให้นายกฯ และ ครม.กำหนดได้เพื่อความสะดวกของทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่จะเป็นระยะเวลาเท่าไหร่นั้น ในส่วนนี้จะมีการปรึกษาหารือกับนายกฯ ก่อน

       เลขาธิการ กกต.กล่าวต่อว่า ในวันที่ 26 ม.ค.ยังคงมีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตและในเขตจังหวัดตามกำหนดเดิม ขณะนี้มีการรายงานปัญหาเข้ามามากพอสมควร โดยเฉพาะ 15 จังหวัดภาคใต้คงจะไม่สามารถเปิดให้มีการลงคะแนนได้ อย่างไรก็ตามได้มีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์ไว้หมดแล้ว ดังนั้นหากมีการปิดถนน ขัดขวางการเลือกตั้ง ก็ให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรา 78 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. คือ ถ้ามีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ในที่เลือกตั้งกลางนอกเขตจะดูแลสถานการณ์โดยสามารถงดการลงคะแนนและรายงานต่อคณะกรรมการประจำเขตเลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เพื่องดการลงคะแนนออกไป 7 วัน รวมทั้งรายงานมายัง กกต.โดยด่วน ซึ่ง กกต.จะพิจารณาว่ามีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ หากเห็นว่าสถานการณ์รุนแรงอยู่สามารถขยายวันลงคะแนนใหม่ได้อีก โดยกฎหมายไม่ได้กำหนดว่ากี่วัน

       นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวว่า สำหรับวันเลือกตั้งใหม่นั้นยังไม่ได้กำหนดเพราะต้องปรึกษากับนายกฯ ก่อน แต่สิ่งสำคัญที่ กกต.ตั้งข้อสังเกต คือ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาคำร้องที่ กกต.ยื่นไป สรุปข้อหนึ่งคือ การเลือกตั้งที่เลื่อนไปเกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบ เกิดจากการแตกแยกทางความคิด กกต.พิจารณาว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่ต้องมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ปัญหาคือระหว่างทางที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจะทำให้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมยุติลงได้อย่างไร ซึ่งกระบวนการตรงนี้ กกต.ได้ดำริในเบื้องต้นว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเชิญทุกฝ่ายที่เป็นข้อขัดแย้งมาพูดคุยถอยกันคนละก้าว ให้ทุกฝ่ายของสังคม ผู้นำทางความคิด ผู้ที่มีบทบาทต่างๆ ได้เข้ามาช่วยกัน ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องมีทางออกร่วมกัน เป็นทางออกในทางสงบ สันติ มีผลยั่งยืนและการเลือกตั้งใหม่ที่จะมีขึ้นต้องตอบสนองระบอบประชาธิปไตยได้ ตรงนี้ต้องทำก่อนการจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไป

       “ระหว่างนี้จนถึงวันที่ 2 ก.พ.การเลือกตั้งคงเดินไปไม่ได้ เพราะมีสถานการณ์บ่งชี้อย่างที่ทราบกัน ส่วนจะเลื่อนไปเป็นวันใดนั้นตามกฎหมายนายกฯ และประธาน กกต.ต้องหารือกัน ซึ่งเส้นทางระหว่างนี้ต้องแก้ไขปัญหาพื้นฐานคือความคิดแตกแยกในสังคม ดังนั้นอาจจะต้องมีกระบวนการจัดการตรงนี้ก่อน ส่วนจะจัดการอย่างไร เราจะนัดผู้รู้ ผู้นำทางความคิดว่าทางออกจะเป็นอย่างไร”นายธีรวัฒน์กล่าว

       นายธีรวัฒน์กล่าวอีกว่า สำหรับวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค. กกต.ไม่อาจขัดขืนต่อระบบกฎหมาย ดังนั้นการเลือกตั้งที่กำหนดไว้ ผลบังคับทางกฎหมายยังมีอยู่ ก็ต้องเดินหน้าต่อไป กกต.ก็เสียใจ เพราะจะยุติโดยคำสั่ง กกต.ก็ยังหาทางตรงนั้นไม่เจอ ดังนั้นคงต้องปล่อยให้การเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค. ดำเนินการต่อไป เพราะในทางกฎหมายกระบวนการเลือกตั้ง พ.ร.ฎ.มีผลบังคับใช้อยู่ในทางปฏิบัติ กกต.ไม่สามารถยุติลงได้โดยทันที เว้นแต่จะมี พ.ร.ฎ.ออกมาใช้บังคับใหม่ กกต.ก็หนักใจ เพราะว่าผลทางกฎหมายเป็นอย่างนั้น

       นายธีรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ข้อวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญชัดเจนว่าให้เลื่อนการเลือกตั้งได้ ถ้าไม่ลำเอียงจะมองเห็นภาพชัดเจนว่า การเลือกตั้งดำเนินต่อไปไม่ได้ ถามว่าหลังการเลือกตั้งใหม่ กระบวนการเลือกตั้งจะมาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้หรือไม่ ขอเรียนว่า กกต.มีจุดยืนว่าการเลือกตั้งเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่จะนำไปสู่การยุติปัญหาในหลายๆ เรื่อง เป็นกระบวนการที่จะเปิดโอกาสให้คนไทยมาใช้เหตุใช้ผลความเป็นคนตัดสินใจเลือกตั้ง ถ้าเลือกตั้งเดินแล้วทำให้เสียเลือดเสียเนื้อ ทำให้คนบาดเจ็บล้มตาย กกต.ยอมรับไม่ได้ ดังนั้นอยากให้คนในสังคมช่วยกันคิดว่าระหว่างเดินไปสู่การเลือกตั้งใหม่จะทำอย่างไรให้คู่กรณี คู่ขัดแย้งได้พูดคุย เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

       เมื่อถามว่าหากคุยกับนายกฯ ให้เลื่อนการเลือกตั้ง แต่ กปปส.อาจจะไม่เห็นด้วย นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าคนไทยรักบ้านเมือง ดังนั้นต้องเปิดโอกาสมาพูดคุยกัน ฝ่ายที่ไม่ยอมพูดคุย ไม่ยอมเริ่มต้นประชาชนจะตัดสินเอง เมื่อกำหนดวันเลือกตั้งใหม่สถานการณ์ต้องสงบก่อน ดังนั้นคู่ขัดแย้งจะมาพูดคุย ตนเชื่อว่าคนไทยดีที่สุดในโลกชาติหนึ่ง มีเหตุมีผล ถ้าถึงจุดๆ หนึ่งทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ ตอนนี้เราไม่มีโอกาสที่จะให้ 2 ฝ่ายมาพูดคุย ถ้าแต่ละฝ่ายรู้จักถอย ทุกอย่างต้องเดินหน้าได้

       ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.จะยังเกิดขึ้นหรือไม่ นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะมีขึ้นได้ เพราะสถานการณ์ขณะนี้การเลือกตั้งล่วงหน้าก็มีปัญหา การหากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ก็ยาก เชื่อว่านายกฯ คงเข้าใจปัญหา เราจะมาคุยกันว่านอกจากการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ระหว่างทางจะคุยกันอย่างไรดี

       เมื่อถามอีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งใหม่พรรคประชาธิปัตย์ควรร่วมลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยใช่หรือไม่ นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า กกต.ยังหวังผลว่าอยากให้คู่แข่งทางการเมืองทุกฝ่ายเข้ามาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนประเด็นที่คู่ขัดแย้งมีการประท้วงไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นก่อนจะถึงวันเลือกตั้งใหม่ ต้องมีกระบวนการทำความเข้าใจ และทำให้ความขัดแย้งลดน้อยลงและทำให้ 2 ฝ่ายถอยคนละก้าว ดังนั้นเราหวังว่า ช่วงระหว่างเวลาจะกำหนดการเลือกตั้งใหม่ จะมีกระบวนการทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

//manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000009591




 

Create Date : 25 มกราคม 2557   
Last Update : 25 มกราคม 2557 20:40:07 น.   
Counter : 1209 Pageviews.  

"ช่อง 7" ขอโทษ "ลาว" แปลความหมายเชิงดูหมิ่น

ช่อง 7 ขอโทษ ลาว แปลความหมายเชิงดูหมิ่น
"ช่อง 7" โร่ขอโทษ สปป.ลาว หลังออกอากาศช่วง "เกร็ดอาเซียน" ก่อนถูกทักท้วงแปลไทย-ลาวเชิงหมิ่น เช่น "ถ่ายรูป-แหกตาสามัคคี" "ผ้าอนามัย-ผ้ายันต์กันโลหิต" ชาวเน็ตวิจารณ์หึ่งเรื่องแบบนี้ผิดได้อย่างไร?

        กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาทันทีภายหลังจากการออกอากาศเนื้อหาของรายการจากช่อง 7 ในช่วง "เกร็ดอาเซียน" เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมาเกี่ยวกับการให้ความหมายของของคำจาก สปป.ลาว ในคำบางคำที่แปลจากภาษาไทย อาทิ คำว่า "ถ่ายรูป" ลาวเรียกว่า "แหกตาสามัคคี" รวมทั้งคำว่า "ผ้าอนามัย" ภาษาลาวเรียกว่า "ผ้ายันต์กันโลหิต"

        ทั้งนี้ทันทีที่เนื้อหาดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็ได้มีชาวเน็ตบางส่วนวิจารณ์กันอย่างมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ "แคน สาริกา" บรรณาธิการและคอลัมนิสต์ สื่อเครือเนชั่นที่ได้ทวิตเตอร์ว่าการใช้คำดังกล่าวนั้นผิดไปจากความเป็นจริงเป็นอย่างมาก อาทิ ถ่ายรูป นั้นที่ลาวไม่ได้เรียกว่า แหกตาสามัคคี แต่เรียกว่า "ถ่ายรูป" เหมือนกันเพียงแต่จะออกเสียงต่างกันซึ่งก็รวมถึงคำว่าผ้าอนามัยด้วยเช่นกัน

        โดยหลังจากที่มีกระแสท้วงติงเข้ามาอย่างมากมาย ในเวลาต่อมาทางทางช่อง 7 เองก็ได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยระบุว่า..."สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความบกพร่องของผู้ดูแลคอลัมน์ที่ไม่ได้ตรวจสอบเนื้อหาให้ถี่ถ้วน ฝ่ายข่าวช่อง 7 สี ใคร่ขออภัยในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป และใคร่ขอแสดงความรับผิดชอบโดยการนำข้อมูลและภาษาที่ถูกต้องนำมาเสนอให้ทุกท่านได้ชมกันในวันพรุ่งนี้ ในข่าวภาคเที่ยง กราบขออภัยเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้"

        ซึ่งหลังจากที่ขึ้นข้อความดังกล่าวแล้วในวันนี้ทางช่อง 7 ก็ได้มีการแก้ไขคำแปลเสียใหม่เป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามกับการชี้แจงของช่อง 7 นั้นก็ได้ก่อให้เกิดวิจารณ์กันเป็นอย่างโดยหลายคนไม่เชื่อว่าเรื่องเช่นนี้จะผิดพลาดขึ้นได้ เนื่องจากส่วนใหญ่ต่างก็ทราบกันดีว่าคำแปลประเภทนี้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยเองที่คิดขึ้นมาเพื่อให้รู้สึกถึงความตลกขบขัน ซึ่งการนำไปใช้โดยเฉพาะอย่างเป็นทางการ เช่น การนำเสนอเป็นข่าว เป็นสาระความรู้ ควรจะต้องมีความระมัดระวังและจะต้องมีการตรวจสอบเสียก่อน

ช่อง 7 ขอโทษ ลาว แปลความหมายเชิงดูหมิ่น




 

Create Date : 24 มกราคม 2557   
Last Update : 24 มกราคม 2557 20:46:39 น.   
Counter : 2041 Pageviews.  

ตร.ลั่นเอาผิด 21 คปท.บุกรื้อป้าย สตช.เล็งขอคืนพื้นที่บางจุด



สตช.สั่งดำเนินคดีกับ 27 แกนนำ คปท.ที่บุกรื้อป้ายหน้าสำนักงานวานนี้ ฐานทำให้เสียทรัพย์ ทำลายทรัพย์สินทางราชการ ชี้อายุความ 10 ปี ระดมสรรพกำลังทหารเสริมจาก 42 เป็น 47 กองร้อย เพื่อปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจ เตรียมแผนเจรจาขอคืนพื้นที่บางจุด พร้อมรับมือจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าอาทิตย์นี้

         วันนี้ (23 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวผ่านทางกล้องวงจรปิด ที่ ศปก.ตร.อย่างใกล้ชิด สำหรับป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2547 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจิมป้ายดังกล่าวหลังเปลี่ยนจากกรมตำรวจ เป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจทุกคนมองว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่น่าจะทำ ให้ถือเป็นบทเรียนบททดสอบความอดทนต่อความเจ็บใจ ตำรวจไม่ได้โกรธแค้น เพราะมองว่าเป็นยุทธศาสตร์ในการยั่วยุเจ้าหน้าที่ให้ใช้กำลัง แต่ตำรวจในฐานะมีหน้าที่รักษากฎหมายก็จะเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ดำเนินการเอาผิดผู้ก่อเหตุ มอบหมาย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.รวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ดำเนินการหาตัว พิสูจน์ทราบตัวบุคคล และให้ พล.ต.อ.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ที่ปรึกษา (สบ10) เป็นผู้ดำเนินการตั้งงบประมาณในการซ่อมแซมและทำป้ายขึ้นมาใหม่

       พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และภาพที่ได้จากสื่อมวลชน พบผู้กระทำความผิด ไม่ต่ำว่า 21 คน เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีฐานทำให้เสียทรัพย์ ทำลายทรัพย์สินทางราชการ อายุความ 10 ปี ส่วนทางกลุ่ม คปท.ออกมาระบุว่าจะทำป้ายใหม่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องนี้ทาง ตร.ไม่ขอรับ จะดำเนินการเองโดยใช้งบประมาณที่มีอยู่ เมื่อดำเนินการเสร็จก็จะทำพิธีเจิมป้ายอย่างยิ่งใหญ่เหมือนเดิม

       โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า หลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เป็นผู้คุมกำลัง ตำรวจก็คงปฏิบัติหน้าที่ร่วมทหาร ซึ่งก็มีความพร้อม สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ทางทหารได้เสริมกำลังเพิ่มจาก 42 กองร้อย เป็น 47 กองร้อย เพื่อปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจ จะเน้นมาตรการทางกฎหมายที่เข้มข้นขึ้น ไม่มีการใช้กำลังรุนแรง หรือสลายการชุมนุมแต่อย่างใด แต่อาจมีการเจรจาเพื่อขอคืนพื้นที่บางจุดที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่มาก แต่มีผลกระทบกับจราจรโดยรวม ซึ่งจะดำเนินการเจรจรากับแกนนำ มอบหมายให้ทาง พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.และกองบัญชาการตำรวจนครบาลไปพิจารณาว่าจุดไหนสมควรที่จะขอคืนพื้นที่

       ด้าน พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบในการจัดกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ และการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มกราคม โดยได้จัดศูนย์อำนวยการ 3 ระดับด้วยกัน คือระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดับภาค และกองบัญชาการและระดับตำรวจภูธรจังหวัด การจัดชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยมีการจัดชุดป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ชุดป้องกันปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดชุดรักษาความปลอดภัยในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง การจัดชุดรักษาความปลอดภัยการเลือกตั้งล่วงหน้า และจัดชุดรักษาความสงบประจำศูนย์อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ชุด รปภ.หีบบัตร ชุดเคลื่อนที่เร็วต่างๆ ซึ่งการจัดกำลังรักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 93,553 หน่วย หน่วยเลือกตั้งนอกเขตอีก 5,294 หน่วย และหน่วยเลือกตั้งกลาง อีก 446 หน่วย จะต้องจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 1 นาย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารอีกฝ่ายละ 1 นาย รวมหน่วยละ 3 นาย รวมกำลังตำรวจที่ใช้ทั้งสิ้น 129,000 นาย โดยในวันพรุ่งนี้ (24 มกราคม 2557) เวลา 10.30 น.พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าทั่วประเทศมารับแนวทางการปฏิบัติงาน

       พล.ต.ต.อนุชา กล่าวต่อไปว่า ในวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.นี้ เป็นวันใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่วงหน้า จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนข้าราชการตำรวจและพี่น้องประชาชนที่ได้ลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขต และใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งไว้แล้ว โปรดไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อรักษาสิทธิของท่าน และเป็นการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีเหตุจำเป็นไม่สามารถไปลงคะแนนเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โปรดแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ที่ทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2557

       พล.ต.ต.อนุชา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ดูแลการขนส่งหีบบัตร ตลอดจนจัดกำลังและชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง ขอให้พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง มั่นใจในความปลอดภัย หากท่านพบเหตุผิดปกติ เช่น ถูกขัดขวางไม่ให้ใช้สิทธิเลือกตั้งในรูปแบบใดก็ตาม หรือเจ้าหน้าที่ประจำเขตเลือกตั้งมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่วางตัวเป็นกลาง สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ โทร.191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง และสถานีตำรวจในพื้นที่เขตเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สามารถดำเนินการเลือกตั้งครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย โปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม

       รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์การชุมนุมเมื่อวาน รองโฆษก ตร.กล่าวว่า วานนี้มีการปิดสถานที่ราชการรวม 7 แห่งด้วยกัน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักปลัดกลาโหม คณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานสรรพากรพื้นที่เขต 18 กระทรวงอุตสาหกรรม กรมการบินพลเรือน กระทรวงแรงงาน ส่วนกิจกรรมในวันนี้มีการเดินขบวนของกล่ม กปปส.เส้นทางอโศก ชิดลม หลังสวน สารสิน วิทยุ เพชรบุรี จบที่อโศก มวลชนเวทีคู่ขนานในส่วนภูมิภาคมีทั้งหมด 24 จังหวัดด้วยกัน ส่วนกิจกรรมของผู้ที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งมี 6 จังหวัดด้วยกัน แต่ไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น

       ส่วนกรณีที่มีคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจเล่นการพนันภายในตู้ยาม เรื่องนี้ได้มีคนร้องเรียนผ่านมาทางจเรตำรวจเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา


//manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000008689




 

Create Date : 23 มกราคม 2557   
Last Update : 23 มกราคม 2557 20:28:15 น.   
Counter : 1640 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]