ลูกสาว “สนธิญาณ” แฉ ตร.สุดถ่อยบุกค้นบ้านอาวุธครบมือ บุตรสาว “สนธิญาณ” ประจานพฤติกรรม ตร.บุกจู่โจมพร้อมอาวุธครบมือ พร้อมรวบตัวคนในบ้านเหมือนอาชญากร ชี้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุไม่ให้เกียรติ ปชช.พร้อมปรึกษาทนายฟ้องร้องเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัว        จากกรณีตำรวจสืบสวน ภ.จว.นครปฐม ร่วมกับ สภ.โพธิ์แก้ว กว่า 50 นาย นำหมายค้นศาลจังหวัดนครปฐม นำโดย พ.ต.อ.ชนะ สุวรรณโกมล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 90/142 หมู่บ้านพุฒิธานี ต กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผอ.ทีนิวส์ เป็นแกนนำ กปปส.ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวานนี้ โดยขณะเข้าค้นภายในบ้านซึ่งมีเพียงภรรยา ลูกสาว พ่อบ้าน คนขับรถ และคนงานในบ้านเท่านั้น หลังจากใช้เวลาค้นบ้านนานกว่า 3ชม.เจ้าหน้าที่พบเพียงเสื้อเกราะและวิทยุสื่อสาร จึงควบคุมตัวนายวรพจน์ ไชยเดช อายุ 51 ปี พ่อบ้าน และนายประมวญ ประจันนวล อายุ 45 ปี คนขับรถนายสนธิญาณมาสอบปากคำที่ สภ.โพธิ์แก้ว        ด้าน นางสาวกิ่งการะเกด ชื่นฤทัยในธรรม ลูกสาวนายสนธิญาณ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าวันนี้ประมาณ 6 โมง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาที่ในบ้าน ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า หรือกดกริ่งเรียกคนในบ้าน แต่เข้ามาในลักษณะปืนรั้วเข้ามา แล้วเปิดประตูกรูกันเข้ามาตรวจสอบสิ่งของต่างๆ ในบริเวณพื้นที่บ้าน และก็มีการรวบตัวของคนรถ และคนดูแลบ้าน ที่โรงรถ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่ามีการทำตามขั้นตอนกฎหมายโดยแสดงหมายค้น แต่การปีนบ้านเข้ามาพร้อมอาวุธและรวบตัวคนในบ้านถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ขณะนี้กำลังปรึกษาทนายว่าจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ได้หรือไม่อย่างไร        แต่ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรม “คือต้องเข้าใจก่อนว่าในส่วนของคุณพ่อเข้าไปช่วย กปปส.เป็นเรื่องของอุดมการณ์ ทางบ้านก็เป็นเบื้องหลังช่วยสนับสนุนเรื่องกำลังใจ แต่ถ้าถามว่าเกี่ยวข้องมั้ยก็ไม่อยากให้เอาส่วนของครอบครัวของแกนนำเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของการเมือง อยากฝากว่าไม่อยากให้ทำการปฏิบัติกับประชาชนเกินกว่าเหตุในแบบที่เกิดขึ้น อาจจะขอตรวจค้นในลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย ให้เกียรติเจ้าของบ้าน ไม่อุกอาจแบบนี้ ไม่เกินกว่าเหตุแบบนี้” นางสาวกิ่งการะเกด กล่าว   Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2557 20:57:25 น.     Counter : 1401 Pageviews.   Share Tweet

“สาธิต เซกัล” ปัดลี้ภัยสถานทูตอินเดีย รับถูกรัฐตำรวจคุกคาม นายกสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย ปฏิเสธข่าวทำเรื่องขอลี้ภัยไปยังสถานทูตอินเดีย หลัง ศรส. จ่อออกคำสั่งเนรเทศเพราะหนุนม็อบ กปปส. เผยไม่จำเป็นต้องให้ใครคุ้มครองพิเศษ แต่ยอมรับถูกเจ้าหน้าที่รัฐคุกคาม ตำรวจถ่ายรูปบ้านพัก เผยยุติบทบาทการเมืองแล้ว แต่ยังทำกิจกรรมเทิดทูนสถาบัน-สังคมสงเคราะห์ต่อ        วันนี้ (9 ก.พ.) ที่เวที กปปส. สวนลุมพินี แยกศาลาแดง บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่เวทีสีลม บริเวณแยกศาลาแดง ขณะนี้ เป็นไปอย่างคึกคัก แกนนำกลุ่มย่อย นักวิชาการ ยังคงผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล และให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ สลับกับการแสดงดนตรีเป็นระยะ        ขณะที่เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายสาธิต เซกัล นายกสมาคมนักธุรกิจอินเดีย - ไทย ได้เดินทางมาทักทายกับมวลชนที่มาชุมนุม ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาทักทายให้กำลังใจ และร่วมถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก        ทั้งนี้ นายสาธิต ได้กล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ได้ทำเรื่องขอลี้ภัยไปยังต่างประเทศแต่อย่างใด ยังดำเนินชีวิตปกติ เพราะตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่บ้านพักและถ่ายรูปนั้น เข้าใจว่าเป็นการทำหน้าที่ ไม่อยากให้มองว่าการคุกคาม พร้อมยืนยัน ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมตามปกติ กิจกรรมที่ทำเพื่อสถาบัน ประเทศชาติ รวมถึงงานสังคมสงเคราะห์ ก็จะทำต่อไป        อย่างไรก็ตาม ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอกำลังคุ้มกัน และต้องขอขอบคุณประชาชนที่เป็นห่วงและสอบถามเข้ามาให้กำลังใจ ตนรู้สึกทราบซึ้งเป็นอย่างมาก ส่วนกรณีความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชุมนุม ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น เนื่องจากเกรงว่าจะผิดกฎหมาย        รายงานข่าวแจ้งว่า การเดินทางมายังพื้นที่ชุมนุมในวันนี้ นายสาธิตไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยแต่อย่างใด   Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2557 20:54:27 น.     Counter : 1366 Pageviews.   Share Tweet

โถ! ผู้ต้องหายิง “ขวัญชัย” สารภาพค่าหัวแค่ 8,000 บาท อุดรธานี - โถ! มือยิง “ขวัญชัย” สารภาพค่าหัวแค่ 8,000 บาท รับงานจากผู้มีพระคุณ ผบช.ภ.4 เผยยังไม่ฟันธง ขัดแย้งการเมือง-ส่วนตัว        จากกรณีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิง นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และแกนนำ นปช.ภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หน้าบ้านพัก เมื่อเช้าวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารไว้ 2 เรื่อง คือ ขัดแย้งในกลุ่มคนเสื้อแดง และปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระดับชาติ        ล่าสุด วันนี้ (8 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ได้คุมตุวทีมลอบยิงนายขวัญชัย 1 ราย คือ นายมะดือนัง มะแอ หรือสะราอีแม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/3 หมู่ 8 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และชี้จุด 3 จุด โดยจุดที่ 2 ที่ชมรมคนรักอุดร หมู่ 11 บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง ได้ทำแผนท่ามกลางเสียงด่าทอสาปแช่งจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาเฝ้ารอดู ซึ่งภายหลังจากทำแผนเสร็จได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี        พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภาค 4 กล่่าวว่า นายมะดือนัง เป็นอดีตอาสาสมัครจังหวัดนราธิวาส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภาค 4 จับกุมตัวได้ที่ จ.นราธิวาส จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ได้ร่วมกับพวกที่กำลังหลบหนีอยู่ใช้อาวุธปืนยิงนายขวัญชัยจริง โดยตัวของนายมะดือนัง เป็นผู้ลงมือยิงเป็นคนแรก ซึ่งการรับงานดังกล่าวเพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณรายหนึ่งในราคาค่าจ้างแค่ 8,000 บาท        ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคนร้ายเป็นมือปืนซุ้มใด พล.ต.ท.อนุชัย ตอบว่า ตำรวจกำลังสอบสวนสืบสวนอยู่ ส่วนข่าวที่ว่ากลุ่มมือปืนเป็นทหารมาจากภาคตะวันตกนั้น ตนไม่เคยเป็นผู้ให้ข่าว และไม่รู้ว่าสื่อไปเอาข้อมูลมาจากไหน ปืนอาก้าที่ใช้ยิงนายขวัญชัย ก็ได้ส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐาน ช่วยทำการพิสูจน์ที่มา        ขณะนี้ยังไม่ได้ฟันธงว่าการลอบยิง นายขวัญชัย เกี่ยวพันกับการเมืองหรือไม่ ส่วนข่าวประกาศตั้งค่าหัวนายขวัญชัย 1.5 ล้านบาทนั้น หลังจากสามารถจับคนร้ายได้แล้ว 1 คน จะต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลืออีก 6 คนต่อไป        ภายหลังให้สัมภาษณ์ ตำรวจภาค 4 และ จ.อุดรธานี ได้ร่วมกันประชุมเพื่อวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายอีก 6 คนทันที   Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2557 21:52:26 น.     Counter : 1533 Pageviews.   Share Tweet

ศาลกรุงเทพใต้ยังไม่ออกหมายจับ “นิติธร ล้ำเหลือ” รื้อป้าย สตช. ศาลอาญากรุงเทพใต้ยังไม่ออกหมายจับ “นิติธร ล้ำเหลือ" แกนนำ คปท.พามวลชนรื้อป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุให้ออกหมายเรียกก่อน    วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ซอย 63 ศาลนัดฟังคำสั่งกรณี พ.ต.อ.จักริน พันธ์ทอง พนักงานสอบสวนเชี่ยวขาญพิเศษ สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และนายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี ผู้ถูกกล่าวหา กระทำการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายและข้อหาอื่น กรณีนำผู้ชุมนุม คปท.ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)และได้มีการทำลายป้ายชื่อ สตช.เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2557        โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากพยานหลักฐานประกอบคำร้องของพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง น่าเชื่อว่ามีการกระทำตามคำร้องจริง แต่เห็นสมควรให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนในการออกหมายเรียกบุคคลตามคำร้องก่อน        อย่างไนก็ตาม ในวันนี้ น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความของกลุ่ม คปท.ได้เดินทางมาร่วมฟังคำสั่ง โดย น.ส.พวงทิพย์ ทนายความ กล่าวว่า ได้ยื่นคัดค้านหมายจับ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ระบุเหตุผลว่า ยังไม่ได้มีการออกหมายเรียกตามขั้นตอนประมวลวิธีพิจารณาความอาญาก่อน อีกทั้งพฤติการณ์ที่ไปยังหน้า สตช.ดังกล่าวก็ยังไม่ได้มีการกระทำร้ายแรงหรือกรณีฉุกเฉินใดๆ โดยการชุมนุมเป็นไปโดยสงบ และเมื่อการชุมนุมเสร็จก็ได้เดินทางกลับทันที ทั้งนี้ศาลได้พิจารณาคำคัดค้านแล้วเห็นว่า การพิจารณาร้องขอออกหมายจับเป็นเรื่องระหว่างศาลกับพนักงานสอบสวนจึงไม่ได้รับคำคัดค้านไว้พิจารณา แต่ให้รวมไว้ในสำนวนการสอบสวน //manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000015028   Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2557 21:22:40 น.     Counter : 1209 Pageviews.   Share Tweet

ศาลแพ่งยกคำร้อง “เหลิม” โบ้ยไต่สวน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยันมีอำนาจตาม รธน. ศาลแพ่งเลื่อนพิจารณาคดี “ถาวร เสนเนียม” แกนนำ กปปส.ยื่นเพิกถอนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปวันที่ 12 ก.พ.นี้ เหตุจำเลยขอขยายเวลายื่นคำให้การ พร้อมสั่งยกคำร้อง “เฉลิม” โต้แย้งขอบเขตอำนาจศาล ชี้ศาลแพ่งมีอำนาจพิจารณาคดีได้ตาม รธน.        วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะรอง ผอ.ศรส.เป็นจำเลยที่ 1-3 ในข้อหาละเมิด เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และห้ามใช้กำลังสลายการชุมนุม        โดยในวันนี้ นายถาวร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม และพล.ต.อ.อดุลย์ คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่ได้เดินทางมาศาลแต่อย่างใด มีเพียงทนายความผู้รับมอบอำนาจเท่านั้น ขณะเดียวกัน ทนายความฝ่ายจำเลยทั้งสามได้ยื่นคำร้อง ขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การออกไปก่อน        ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องโตแย้งเรื่องขอบเขตอำนาจของศาล ว่าอยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง โดยให้ศาลแพ่งชะลอการพิจารณาชั่วคราว เห็นว่าตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 16 ที่ระบุว่า ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตามพระราชกำหนดนี้ ไม่อยู่ในข้อบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง โดยศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยแล้วว่าคดีไม่อยู่ในขอบเขตอำนาจของศาลปกครอง ดังนั้น ศาลปกครองจึงไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดีได้ และสิทธิเสรีภาพของประชาชน สามารถนำเข้าสู่กระบวนการของศาลยุติธรรมได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 216 วรรค 5 ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นเด็ดขาดและมีผลผูกพันทุกองค์กร จำเลยจะโต้แย้งไม่ได้ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง        ส่วนที่ทนายจำเลยได้ยื่นขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การนั้นเห็นว่า คดีนี้ศาลมีคำสั่งให้รับฟ้องและมีเหตุพิจารณาคดีเร่งด่วน จึงขยายระยะเวลายื่นคำให้การภายในวันที่ 10 ก.พ.นี้ และให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไป เป็นวันที่ 12 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น. //manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000014610   Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2557 20:37:20 น.     Counter : 1744 Pageviews.   Share Tweet