เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

ป่วน! แฮกเกอร์เจาะเว็บช่อง 3 โพสต์รูป เหนือเมฆข้าอยู่ไหน?



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Unlimited Hack Team

กลุ่มแฮกเกอร์ เจาะเข้าระบบเว็บไซต์ช่อง 3 พร้อมแต่งภาพล้อเลียนที่เขียนข้อความว่า "เหนือเมฆข้าอยู่ไหน?" ซึ่งทางช่อง 3 ยังไม่ได้มีการแก้ไขเรื่องดังกล่าว

          กลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Unlimited Hack Team ป่วนเว็บไซต์ thaitv3.com ของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ด้วยการเจาะเข้าระบบ และโพสต์รูปที่ผ่านการตกแต่งโดยการใช้รูป จา พนม ยีรัมย์ ตัดต่อเข้ากับภาพนักแสดงจากละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 พร้อมทั้งใส่ข้อความว่า "เหนือเมฆข้าอยู่ไหน?" และ "เมื่อพลังแห่งความชั่วร้ายกำลังคืบคลานเข้ามา พวกเราจะฟันฝ่าเอาชนะมันอย่างไร"

          ทั้งนี้กลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าว ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก UnlimitedHackTeam อยู่เป็นระยะ โดยมีข้อความแสดงเจตนาในการแฮกเว็บไซต์ช่อง 3 ดังนี้

"เราอยากได้ความจริงว่าทำไมแบนละครเรื่องเหนือเมฆ ตามไปดูได้ที่ thaitv3.com"

"ย้ำอีกครั้ง การเจาะระบบเว็บไซต์ เจาะฐานข้อมูลเว็บไซต์ (ผิดกฎหมาย) ก็จริงอยู่ เรารู้ดี แต่สิ่งที่เราได้คือ ผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยของเว็บไซต์ภายในประเทศไทย เราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำลายหรือขโมยข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น"


          ส่วนการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คงต้องรอดูท่าทีของทีมงานช่อง 3 อีกครั้ง ทั้งนี้จะมีการรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 07 มกราคม 2556   
Last Update : 7 มกราคม 2556 23:15:07 น.   
Counter : 1927 Pageviews.  

วธ. ยัน ไม่เคยแต่งตั้ง ใบเตย อาร์สยาม เป็นทูตวัฒนธรรม

ใบเตย อาร์สยาม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


วธ. ยัน ไม่เคยแต่งตั้ง ใบเตย อาร์สยาม เป็นทูตวัฒนธรรม จี้ออกมาชี้แจงต่อสื่อ เผยทูตวัฒนธรรมต้องเป็นคนที่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนเท่านั้น

            จากกรณีที่มีข่าวว่าทางกระทรวงวัฒนธรรม ได้เลือก "ใบเตย อาร์สยาม" ให้เป็นทูตวัฒนธรรม และในฐานะทูตนั้น สาวใบเตยจะต้องไปทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกาทั้งเดือน โดยนำเอาความเป็นไทยไปแสดง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (6 มกราคม) นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางกระทรวงฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลในสื่อออนไลน์ รวมถึงสื่อหนังสือพิมพ์หลายฉบับแล้ว พบว่ามีการเสนอข่าวในลักษณะเช่นนั้นจริง และได้ตรวจสอบไปยังสังกัดภายในของกระทรวงฯ ซึ่งก็พบว่าไม่มีใครแต่งตั้งให้ ใบเตย อาร์สยาม เป็นทูตวัฒนธรรมแต่อย่างใด

           ส่วนข้อคำถามที่ว่า ศิลปิน ใบเตย อาร์สยาม ได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตวัฒนธรรมจากหน่วยงานอื่น ๆ นอกเหนือจากกระทรวงวัฒนธรรมหรือไม่นั้น ทางกระทรวงฯ ได้สอบถามไปยังต้นสังกัดบริษัทอาร์สยามแล้ว และพบว่าข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจาก ใบเตย อาร์สยาม ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสื่อสำนักหนึ่ง แล้วอาจจะเกิดการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน ซึ่งใบเตย อาร์สยามนั้น จะต้องไปแสดงคอนเสิร์ตที่อเมริกา ในนามของบริษัทอาร์สยาม ไม่ใช่ทูตวัฒนธรรม

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงวัฒนธรรม ได้ขอให้ทาง ใบเตย อาร์สยาม หรือทางต้นสังกัด ชี้แจงเรื่องนี้ต่อสื่อมวลชนให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน

          ส่วนทูตวัฒนธรรมที่ทางกระทรวงแต่งตั้งที่ผ่านมานั้น ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในด้านศิลปวัฒนธรรม แก่เด็กและเยาวชน อาทิ แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ประสานงานในด้านเด็กและเยาวชน, มารยาทความเป็นไทย ส่วน นุ่น วรนุช วงษ์สวรรค์ ประสานงานด้านศิลปะการแสดงและนาฏศิลป์ ขณะที่ เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา ประสานงานด้านครอบครัว เป็นต้น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 06 มกราคม 2556   
Last Update : 6 มกราคม 2556 21:50:41 น.   
Counter : 2011 Pageviews.  

พ่อแจงวุ่น! ภาพหญิงอินเดียอ้างถูกข่มขืนที่แพร่ในเน็ต ไม่ใช่ตัวจริง

ชาวเน็ตร่วมแชร์ บทความสุดเศร้า จากคดีข่มขืนสลดในอินเดีย


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก jrnl.ie , เฟซบุ๊ก สะกิด แต่ไม่ต้องหันมา

แจงวุ่น! ภาพสาวอินเดียที่แชร์ในเน็ตว่าถูกรุมโทรมไม่ใช่ตัวจริง แต่เป็นภาพผู้หญิงคนอื่น ตำรวจเร่งสอบหามือดีปล่อยภาพมั่วแล้ว ขณะที่เผยเด็ก 17 แก๊งข่มขืนสาวอินเดียเหี้ยมสุด กระชากไส้เหยื่อด้วยมือเปล่า

              เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์นิวยอร์กเดลี่นิวส์ รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ชายอินเดีย 6 คน ข่มขืนนักศึกษาแพทย์หญิงจนเสียชีวิต ว่า คนร้ายคนที่ 6 ที่คาดว่าจะเป็นเพียงเยาวชนและอาจได้รับการตัดสินลงโทษน้อยที่สุด แต่ล่าสุดมีรายงานเปิดเผยว่า คนร้ายคนนี้กลับเป็นผู้ที่เหี้ยมโหดที่สุดในแก๊งข่มขืน โดยเป็นคนข่มขืมเหยื่อถึง 2 ครั้ง และยังใช้มือเปล่าล้วงเข้าไปดึงลำไส้ของเธอออกมา และเป็นคนจับแก้ผ้าและโยนออกนอกรถเมล์

              รายงานจากฮินดูสถาน ไทม์ส ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยคนที่ 6 ที่ยังไม่มีใครเปิดเผยชื่อเป็นคนที่คาดว่าจะถูกศาลตัดสินลงโทษน้อยที่สุดเพราะว่ายังเป็นเยาวชนอยู่ ซึ่งเขาจะเป็นคนร้ายเพียงคนเดียวที่จะไม่ต้องโทษประหารชีวิต แม้ศาลตัดสินว่าเขามีความผิดจริง เพราะเขาจะถูกพิจารณาคดีในศาลเยาวชน โดยเขาจะถูกลงโทษให้ทำประโยชน์แก่สังคมเป็นเวลา 3 ปี แต่ในขณะที่ผู้ต้องหาอีก 5 ราย ถูกตั้งข้อหาข่มขืน และฆาตกรรม ซึ่งตำรวจจะพยายามผลักดันให้พวกเขาได้รับโทษประหารให้ได้

             อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นว่า เยาวชนชายที่อายุน้อยที่สุดในแก๊งข่มขืนนี้กลับกลายเป็นคนที่โหดร้ายที่สุด โดยเขาได้ข่มขืนเหยื่อถึง 2 ครั้งในขณะที่เหยื่อยังหมดสติและดึงลำไส้ของเหยื่อออกมาด้วยมือเปล่า เหมือนเป็นการกระทำของคนโรคจิตที่ป่าเถื่อนมาก นอกจากนี้ เขายังเป็นจับเหยื่อแก้ผ้าก่อนโยนออกนอกรถเมล์ ทิ้งให้เหยื่อนอนเปลือยกลางถนนในสภาพบอบช้ำทั้งตัวโดยไม่มีใครเหลียวแล

             ทั้งนี้ ตำรวจกำลังรอผลตรวจกระดูก เพื่อยืนยันอายุของเขา และสรุปว่าจะสามารถดำเนินคดีต่อเขาในศาลผู้ใหญ่ได้หรือไม่ โดยในขณะนี้ หลักฐานเพียงชิ้นเดียวที่บ่งบอกว่าเขาอายุ 17 ปี คือใบรับรองการศึกษาจากโรงเรียน

เผยเด็ก 17 แก๊งข่มขืนสาวอินเดียเหี้ยมสุด กระชากไส้เหยื่อด้วยมือเปล่า

ขณะที่เมื่อวันที่ 4 มกราคม มีรายงานว่า บิดาของนักศึกษาหญิงชาวอินเดียรายหนึ่งเข้าร้องเรียนต่อตำรวจว่า ภาพถ่ายของหญิงสาวชาวอินเดียที่ถูกอ้างว่าเป็นภาพของเหยื่อที่ถูกชาย 6 คนข่มขืน และแพร่สะพัดไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ใช่ภาพของเหยื่อคนดังกล่าว แต่เป็นภาพของบุตรสาวของเขาเอง โดยคาดว่ามีมือดีนำภาพนี้ออกมาจากเฟซบุ๊กของบุตรสาว แล้วไปอ้างว่าเป็นภาพของสาวอินเดียที่ถูกรุมโทรมบนรถประจำทางจนเสียชีวิต

           ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ พร้อมขอให้หญิงสาวในภาพลบภาพของตัวเองออกให้หมด และให้เบาะแสเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่เพื่อติดตามจับกุมผู้ที่ปล่อยภาพมาดำเนินคดีต่อไป

อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว กฎหมายว่าด้วยคุ้มครองเหยื่ออาชญากรรมทางเพศ จะไม่ยอมให้เปิดเผยข้อมูลหลักฐานที่แสดงตัวตนของผู้เสียหายเป็นอันขาด เพื่อปกป้องสมาชิกครอบครัว และผู้ใกล้ชิดของเหยื่อ ไม่ให้ต้องตกเป็นเป้าของสังคม




 

Create Date : 05 มกราคม 2556   
Last Update : 5 มกราคม 2556 22:35:34 น.   
Counter : 3208 Pageviews.  

จับสังเกต... ตัวจริงของน้องเนยรักโลกเป็นใคร?




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก @NoeyZupermarket

              เรียกได้ว่ากระแส "น้องเนยรักโลก" @NoeyZupermarket นี่ดังข้ามปีเลยจริง ๆ เพราะตอนนี้ยอดฟอลโล่ในทวิตเตอร์ของเธอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แตะหลักแสนเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ก็เป็นเพราะน้องเนยหมั่นแชร์ประสบการณ์รักโลกของเธอแบบสุดโต่งให้แฟน ๆ ที่ฟอลโล่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เรียกได้ว่า ทวีตทุกวัน ทวีตต่อเนื่อง แทบจะทุกเวลากันเลยทีเดียว

งานนี้ชาวเน็ตหลายคนก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่า น้องเนยรักโลก ที่ใช้รูปโปรไฟล์เป็นเด็กผู้หญิงสวมคอซองตัดผมเท่าติ่งหูนั้น ตัวตนที่แท้จริงแล้วไม่น่าจะใช่เด็กผู้หญิงมัธยมต้นธรรมดา เนื่องจากข้อความของเธอแต่ละอันนั้น เปรียบเสมือนตลกร้าย เสียดสีสังคม ที่ผ่านกระบวนการคิดมาแล้วเป็นอย่างดี อีกทั้งน้องเนยคนนี้ ยังทวีตตอบกลับทุกคนได้อย่างทันท่วงที ไม่เว้นแม้แต่เวลาดึกดื่นค่ำมืดอย่างเช่น ตีสอง ตีสาม ...








              แถมอุปกรณ์การเล่นโลกออนไลน์ของเธอนั้น ก็ดูเข้าขั้นเทพแห่งการทวีตเลยทีเดียว ดูได้จากการข้อมูลของ คุณ Khajochi Blog ที่ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าหากน้องเนยเป็นเด็กธรรมดาทั่วไป คงจะเลือกใช้ช่องทางใดช่องทางหนึ่งในการทวีต แต่นี่เธอเล่นใช้ซะหมด ทั้ง Web, Mobile Web, Echofon, Twitter for iPhone, Tweet Deck ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่า น้องเนยคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

    แต่หากจะให้เดากันจริง ๆ คุณ Khajochi Blog ก็มีแนวคิดว่า น้องเนยนั้น น่าจะมาจากกลุ่มการตลาดในแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า ที่เกี่ยวข้องกับการรักษ์โลก, สีเขียว, ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งก็มีเพียงไม่กี่ราย อาทิ  Big C, Lotus, Tops, 7-Eleven, MK, K-Bank, สสส หรืออาจจะเป็นบิ๊กโปรเจ็คท์ของบริษัทใดบริษัทหนึ่งก็เป็นได้

              เอาล่ะ แล้วคุณคิดว่าน้องเนยรักโลกตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้น เป็นใครมาจากไหน? ไม่แน่นะเร็ว ๆ นี้ น้องเนยอาจจะมาเฉลยให้ทราบกันก็ได้




 

Create Date : 04 มกราคม 2556   
Last Update : 4 มกราคม 2556 22:49:07 น.   
Counter : 3004 Pageviews.  

เปิดคู่มือ สามี-ภรรยา แยกยื่นภาษี หักค่าลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง

ภาษี

คู่สมรสคงได้เฮกันดัง ๆ เพราะตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป คู่สามี-ภรรยา สามารถแยกยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ และเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ทางกรมสรรพากรก็ได้ออกคำชี้แจงแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากสามีภรรยา ในเว็บไซต์กรมสรรพากร โดยมีเนื้อหาสรุป ดังนี้

          กรณีที่สามีภรรยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ สามีและภรรยาต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในนามตนเอง ส่วนกรณีเงินได้พึงประเมินที่เกิดจากการทำกิจการร่วมกัน หรือที่มิได้พิสูจน์ว่าเป็นเงินได้ของฝ่ายใด ให้ยื่นรายการและเสียภาษีในนามคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล

การหักค่าลดหย่อนภาษี

การยื่นรายการของสามีหรือภรรยา กำหนดให้หักลดหย่อนได้ดังต่อไปนี้

1. สำหรับผู้มีเงินได้ 30,000 บาท  

ตัวอย่างที่ 1 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีสามารถหักลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ 30,000 บาท

ตัวอย่างที่ 2 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย สามีและภรรยาต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ 30,000 บาท

2. สำหรับสามีหรือภรรยาของผู้มีเงินได้ 30,000 บาท  

ตัวอย่างที่ 3 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีหักลดหย่อนภรรยา 30,000 บาท

ตัวอย่างที่ 4 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย สามีและภรรยาต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ 30,000 บาทแล้ว จึงไม่มีสิทธิหักลดหย่อนสามีหรือภรรยา 

3. สำหรับบุตรและการศึกษาบุตร 

(ก) กรณีสามีหรือภรรยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้หักลดหย่อนบุตร 15,000 บาท และการศึกษาบุตร 2,000 บาท   

ตัวอย่างที่ 5 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ มีบุตรด้วยกัน 1 คน สามีหักลดหย่อนบุตร 15,000 บาท และการศึกษาบุตรอีก 2,000 บาท    

(ข) กรณีสามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย และความเป็นสามีภรรยาได้มีอยู่ ตลอดปีภาษีให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนบุตร 15,000 บาท และการศึกษาบุตร 2,000 บาท แต่ถ้าความเป็นสามีภรรยามิได้มีอยู่ตลอดปีภาษี ให้ต่างฝ่ายต่างหักได้กึ่งหนึ่ง   

ตัวอย่างที่ 6 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย มีบุตรด้วยกัน 1 คน  ถ้าความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี สามีและภรรยาหักลดหย่อนบุตร 15,000 บาท และการศึกษาบุตรอีก 2,000 บาท (ฝ่ายละ 17,000 บาท) แต่ถ้าความเป็นสามีภรรยามิได้มีอยู่ตลอดปีภาษี สามีและภรรยาหักได้ฝ่ายละ 8,500 บาท 

4. สำหรับเบี้ยประกันชีวิต 

(ก) กรณีสามี หรือภรรยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้หักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท ในกรณีที่ความเป็นสามีภรรยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี ให้ผู้มีเงินได้มีสิทธิหักเบี้ยประกันชีวิตของสามีหรือภรรยาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท

ตัวอย่างที่ 7 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีจ่ายเบี้ยประกันชีวิต 10,000 บาท สามีหักลดหย่อน 10,000 บาท 

ตัวอย่างที่ 8 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีจ่ายเบี้ยประกันชีวิต 10,000 บาท ภรรยาจ่ายเบี้ยประกันชีวิต 10,000 บาท ถ้าความเป็นสามีภรรยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี สามีหักลดหย่อนส่วนของตน 10,000 บาท และส่วนของภรรยา 10,000 บาท (รวม 20,000 บาท) 

          แต่ถ้าความเป็นสามีภรรยามิได้มีอยู่ตลอดปีภาษี สามีหักลดหย่อนได้เฉพาะส่วนของตน 10,000 บาท

(ข) กรณีสามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตส่วนของตนตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท 

ตัวอย่างที่ 9 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย สามีจ่ายเบี้ยประกันชีวิต 10,000 บาท ภรรยาจ่ายเบี้ยประกันชีวิต 10,000 บาท สามีหักลดหย่อนส่วนของตน 10,000 บาท ภรรยาหักลดหย่อนส่วนของตน 10,000 บาท

5. สำหรับเงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 

ตัวอย่างที่ 10 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 10,000 บาท สามีหักได้ 10,000 บาท

ตัวอย่างที่ 11 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย สามีจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 10,000 บาท ภรรยาจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 10,000 บาท สามีหักลดหย่อนส่วนของตน 10,000 บาท ภรรยาหักลดหย่อนส่วนของตน 10,000 บาท

  6. สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืม

(ก) กรณีสามีหรือภรรยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้สามีหรือภรรยาฝ่ายที่มีเงินได้หักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมได้เฉพาะส่วนของตน

ตัวอย่างที่ 12 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีกู้ยืมและจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืม 10,000 บาท ภรรยากู้ยืมและจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืม 10,000 บาท สามีหักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมได้เฉพาะส่วนของตน 10,000 บาท

(ข) กรณีสามีหรือภรรยามีเงินได้ฝ่ายเดียวและร่วมกันกู้ยืม ให้ผู้มีเงินได้หักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมได้เต็มจำนวนตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท

 ตัวอย่างที่ 13 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ ถ้าสามีภรรยาร่วมกันกู้ยืมและจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเป็นจำนวน 10,000 บาท สามีมีสิทธิหักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมได้ทั้งจำนวน 10,000 บาท

(ค) กรณีสามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย และต่างฝ่ายต่างมีสิทธิหักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาสมรสกัน ให้ต่างฝ่ายต่างยังคงหักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมส่วนของตนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ ไม่ว่าความเป็นสามีภรรยาจะได้มีอยู่ตลอดปีภาษีหรือไม่ก็ตาม

ตัวอย่างที่ 14 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย และมีสิทธิหักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมอยู่ก่อนแล้วฝ่ายละ 10,000 บาท ต่อมาสมรสกัน สามีและภรรยายังคงหักลดหย่อนได้ฝ่ายละ 10,000 บาท ทั้งนี้ ไม่ว่าความเป็นสามีภรรยาจะได้มีอยู่ตลอดปีภาษีหรือไม่ก็ตาม

(ง) กรณีสามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่ายและร่วมกันกู้ยืม ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมได้กึ่งหนึ่งของจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ ไม่ว่าความเป็นสามีภรรยาจะได้มีอยู่ตลอดปีภาษีหรือไม่ก็ตาม

ตัวอย่างที่ 15 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย ถ้าสามีภรรยาร่วมกันกู้ยืมและได้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเป็นจำนวน 10,000 บาท สามีหักลดหย่อนได้ 5,000 บาท ภรรยาหักลดหย่อนได้ 5,000 บาท

7. สำหรับเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม 

ตัวอย่างที่ 16 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีหักลดหย่อนเงินสมทบกองทุนประกันสังคมได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง

ตัวอย่างที่ 17 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย สามีและภรรยาต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนเงินสมทบกองทุนประกันสังคมได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง

8. สำหรับค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา

(ก) กรณีสามีหรือภรรยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้หักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาของผู้มีเงินได้คนละ 30,000 บาท และบิดามารดาของสามีหรือภรรยาของผู้มีเงินได้ คนละ 30,000 บาท 

ตัวอย่างที่ 18 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาของตน สามีหักลดหย่อนบิดาของตน 30,000 บาท และมารดาของตน 30,000 บาท (รวม 60,000 บาท) และถ้าสามีได้อุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาของภรรยาด้วย สามีมีสิทธิหักลดหย่อนบิดาของภรรยา 30,000 บาท และมารดาของภรรยา 30,000 บาท (รวม 120,000 บาท)

(ข) กรณีสามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาของตนได้คนละ 30,000 บาท 

ตัวอย่างที่ 19 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย สามีภรรยาต่างฝ่ายต่างอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาของตน สามีหักลดหย่อนบิดาของตน 30,000 บาท และมารดาของตน 30,000 บาท (รวม 60,000 บาท) ส่วนภรรยาหักลดหย่อนบิดาของตน 30,000 บาท และมารดาของตน 30,000 บาท (รวม 60,000 บาท)

9. สำหรับค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ หรือคนทุพพลภาพ 

(ก) กรณีสามีหรือภรรยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้หักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ หรือคนทุพพลภาพที่ผู้มีเงินได้เป็นผู้ดูแลได้คนละ 60,000 บาท และให้หักลดหย่อนบุตรชอบด้วยกฎหมายที่เป็นคนพิการหรือคนทุพพลภาพที่สามีหรือภรรยาเป็นผู้ดูแลได้คนละ 60,000 บาท

ตัวอย่างที่ 20 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ หรือคนทุพพลภาพ 1 คน สามีหักลดหย่อนได้ 60,000 บาท 

ตัวอย่างที่ 21 สามีมีเงินได้ แต่ภรรยาไม่มีเงินได้ สามีอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ 1 คน และภรรยาอุปการะเลี้ยงดูบุตรชอบด้วยกฎหมายที่เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ 1 คน สามีหักลดหย่อนคนพิการหรือคนทุพพลภาพที่ตนเป็นผู้ดูแลได้ 60,000 บาท และมีสิทธิหักลดหย่อนบุตรที่ภรรยาเป็นผู้ดูแลได้ 60,000 บาท (รวม 120,000 บาท)

(ข) กรณีสามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพที่ตนเป็นผู้ดูแลได้คนละ 60,000 บาท 

ตัวอย่างที่ 22 สามีภรรยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย สามีอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ 1 คน ส่วนภรรยาอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพอีก 1 คน สามีหักลดหย่อนคนพิการหรือคนทุพพลภาพที่ตนเป็นผู้ดูแลได้ 60,000 บาท ภรรยาหักลดหย่อนคนพิการหรือคนทุพพลภาพที่ตนเป็นผู้ดูแลได้ 60,000 บาท


อ่านรายละเอียดเพิ่มจาก




 

Create Date : 03 มกราคม 2556   
Last Update : 3 มกราคม 2556 21:53:51 น.   
Counter : 2577 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]