เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

เกิดเหตุสารเคมีในนิคมอุตฯ อาร์ไอแอลรั่วไหล แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าของใคร



ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดเหตุสารเคมีในนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอลรั่วไหล ทำให้คนงานรับเหมาก่อสร้างของบริษัท มาบตาพุด โอเลฟินส์ จำกัด ซึ่งอยู่ในเครือเอสซีจีเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ และอาเจียน จนต้องหามส่งโรงพยาบาล

       เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุสารเคมีภายในบริษัท มาบตาพุด โอเลฟินส์ จำกัด ซึ่งอยู่ในเครือเอสซีจี นิคมอุตสาสหกรรมอาร์ไอแอล ซึ่งตั้งอยู่ในเขต ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง ได้เกิดการรั่วไหลจนเป็นเหตุให้คนงานของบริษัทรับเหมาสร้างที่สูดดมสารเคมีเข้าไปถูกหามส่งโรงพยาบาล โดยขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าโรงงาน รปภ.ของบริษัทได้ตรงเข้าห้าม และขอให้ลบภาพออก พร้อมทั้งนำแผงเหล็กกั้นไม่ให้รถยนต์ของผู้สื่อข่าวเดินทางออกจากโรงงาน

       ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องโทรศัพท์แจ้งต่อ นายธาดา สุนทรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล เพื่อเจรจาให้ รปภ.เปิดแผงกั้นให้รถผู้สื่อข่าวออกไป พร้อมสั่งการให้ นายวุฒิชัย แสงสมชัยพิพัฒน์ วิศวกรบริษัทฯ ชี้แจงถึงสาเหตุการเกิดสารเคมีรั่วไหลจนทำให้คนงานบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ และอาเจียน

       ซึ่งนายวุฒิชัย กล่าวว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในชุมชนบ้านบนว่า มีกลิ่นสารเคมีรั่วไหลจึงหยุดกระบวนการผลิต และเข้าตรวจสอบพร้อมอพยพคนงานบริษัทรับเหมาให้มารวมตัวที่บริเวณโรงอาหาร โดยพบว่า มีคนงาน 3 คน เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล และขณะนี้อาการปลอดภัย และได้เดินทางกลับบ้านแล้ว และจากการตรวจสอบกลิ่นสารเคมีขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นกลิ่นใด และรั่วไหลออกจากจุดใด

       และเมื่อเวลา 09.00 น.ของวันนี้ ยังพบว่า มีคนงานของบริษัทผู้รับเหมาเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนอีก 8 ราย และมีอาการหนัก 2 ราย คือ นางน้ำอ้อย สุริยน อายุ 36 ปี และนางคำฟอม ภูบุญอิ่ม อายุ 46 ปี ซึ่งได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพระยอง และยังพักรักษาตัวอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ยังได้เข้าตรวจสอบที่มาของกลิ่น แต่ก็ยังไม่พบว่าสารเคมีนั้นรั่วไหลมาจากจุดใด

       ทั้งที่ปกติแล้ว หากมีกลิ่นสารเคมีรั่วไหล ระบบเซฟตี้วาล์วทั้งหมดจะถูกตัดโดยอัตโนมัติ พร้อมกับพ่นสเปรย์น้ำเพื่อควบคุมไม่ให้สารเคมีแพร่กระจายไปยังชุมชน หรือโรงงานโดยรอบ แต่ในครั้งนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ากลิ่นสารเคมีดังกล่าวมาจากโรงงานใด จึงได้สั่งการให้พนักงานผู้รับเหมาหยุดทำงานเพื่อหาที่มาของกลิ่นว่าถูกลมพัดลอยเข้ามาในนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล หรือไม่

       นายวุฒิชัย ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่นำแผงมาปิดกั้นรถของผู้สื่อข่าว ทางบริษัทฯ ได้ขอโทษเพราะไม่ทราบก่อนว่าผู้สื่อข่าวเดินทางมาทำข่าว และเกรงว่าอาจมีการลักลอบเข้ามาถ่ายรูป

       ด้านนายธาดา สุนทรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทีม CSR ของบริษัท เอสซีจี ลงพื้นที่ชุมชนรอบโรงงานที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ และจะนำรถตรวจอากาศเพื่อตรวจวัดอากาศว่าเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ และจะเร่งตรวจสอบว่ากลิ่นสารเคมีที่พัดลอยมาเป็นกลิ่นสารเคมีชนิดใด และเป็นของโรงงานใด

       เบื้องต้น จากการตรวจสอบบริษัท มาบตาพุด โอเลฟินส์ จำกัด ไม่พบว่ามีสารเคมี รั่วไหล ซึ่งจะให้ทีมสำนักงานอุตสาหกรรมอาร์ไอแอลเข้าสำรวจพื้นที่เพื่อหากลิ่นสารเคมีที่รั่วไหลอีกครั้ง


//www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000111342




 

Create Date : 04 กันยายน 2556   
Last Update : 4 กันยายน 2556 21:03:13 น.   
Counter : 2040 Pageviews.  

ฟ้าผ่า “กริพเพน” ปีกพัง! ร่อนลงจอดฉุกเฉินอินเดีย 3 นักบินปลอดภัยคาดถึงไทยพรุ่งนี้



เกิดเหตุฟ้าผ่าเครื่องบินกริพเพน ที่เตรียมส่งมอบให้กองทัพอากาศไทย ก่อนร่อนจอดฉุกเฉินที่อินเดีย พบปีกพัง ส่วน 3 นักบินสวีเดนปลอดภัย คาดซ่อมเสร็จบินถึงไทย 4 ก.ย.นี้ 11 โมงเช้า

       วันนี้ (3 ก.ย.) ที่กองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 19.00 น. พล.อ.อ.เพิ่มเกียรติ ลวณะมาลย์ รองผู้บัญชาการทหารอากาศ (รอง ผบ.ทอ.) แถลงว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่และนักบินสวีเดน ซึ่งทำการบินเครื่องกริพเพน 3 ลำสุดท้ายที่จะส่งมอบให้กองทัพอากาศไทยว่า เครื่องบิน 1 ใน 3 ลำ ที่ทำการบินอยู่ในน่านฟ้าประเทศอินเดีย ถูกฟ้าผ่าบริเวณปีกของเครื่องทำให้ได้รับความเสียหายเล็กน้อย หลังจากตรวจสอบแล้วยังไม่มีความพร้อมที่จะทำการบินต่อ จึงให้เข้ารับการตรวจเช็คสภาพเครื่องอีกครั้ง เพราะมีอุปกรณ์บางอย่างที่บริเวณปีกเครื่องบินได้รับความเสียหาย คาดว่าเครื่องทั้ง 3ลำจะเดินทางมาถึงกองบิน 7 ได้ในวันที่ 4 ก.ย. เวลา 11.00 น. โดยกองทัพอากาศมีคณะกรรมการตรวจรับ เพื่อเช็ครายละเอียดความพร้อมภายใน 10 วันก่อนรับมอบเข้าประจำการ หากไม่ผ่านความเห็นชอบทางบริษัทผู้ผลิตจะต้องมีการเปลี่ยนอุปกรณ์หรือซ่อมแซมจนกว่าจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ทั้งนี้นักบินทั้ง 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่ของประเทศสวีเดนปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยขณะนี้เครื่องบินดังกล่าวจอดอยู่ที่ประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตามทางพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและได้สั่งการให้ประสานงานในการดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ตามกำหนดการเดิม วันที่ 3 ก.ย.56 พล.อ.อ.เพิ่มเกียรติ จะเป็นประธานในพิธีต้อนรับเครื่องบินขับไล่กริพเพน 39 ซี จำนวน 3 เครื่อง ตามโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ กริพเพน 39 ซี/ดี ระยะที่ 2 โครงการจัดซื้อของกองทัพอากาศ แบ่งออกเป็น2ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ประกอบด้วย เครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ กริพเพน 39ซี/ดี จำนวน 6 เครื่อง เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศแบบซาบ 340 เออีดับบลิว จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องบินลำเลียงแบบซาบ340 บี จำนวน 1 เครื่อง โดยได้บรรจุเข้าประจำการที่กองบิน 7 เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2554 และระยะที่ 2 ประกอบด้วย เครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ กริพเพน 39 ซี จำนวน 6 เครื่อง และเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศแบบซาบ 340 เออีดับบลิว จำนวน 1 เครื่อง โดยรับมอบเครื่องบินแบบซาบ 340 เออีดับบลิว เครื่องที่ 2 เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2555 และรับมอบเครื่องบิน กริพเพน 39 ซี จำนวน 3เครื่อง เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2556 อย่างไรก็ตามในวันที่ 11 ก.ย. เวลา 11.09 น. กองทัพอากาศได้กำหนดจัดพิธีบรรจุเข้าประจำการระบบป้องกันทางอากาศแบบบูรณาการ GRIPEN INTEGRATED AIR DEFENSE SYSTEM โดยมีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เป็นประธานที่กองบิน7 จ.สุราษฎร์ธานี


//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000110782




 

Create Date : 03 กันยายน 2556   
Last Update : 3 กันยายน 2556 21:34:29 น.   
Counter : 2308 Pageviews.  

สั่งยกระดับ รปภ.สนามบินนครฯ เผยรัฐบาลส่ง “ภาณุ” เจรจาลับม็อบยาง


นครศรธรรมราช - รัฐบาลส่ง “ภาณุ อุทัยรัตน์” ดอดเคลียร์ผู้ชุมนุมที่นครฯ ด้าน ตร.วืดหมายจับมือยิงการ์ด ศาลแนะให้สอบเพิ่ม ขณะกรรมการสิทธิ์ฯ พบผู้ว่าฯ และ ผบก.รับฟังคำชี้แจง ก่อนยันไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ด้านท่าอากาศยานนครฯ หวั่นถูกม็อบบุกยกระดับ รปภ.เข้มข้นแล้ว

       ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในการชุมนุมของเกษตรการชาวสวนยางและปาล์มที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราราชว่า วันนี้ (2 ก.ย.) เวลา 16.00 น. ปรากฏว่ารัฐบาลได้ส่งนายภาณุ อุทัยรัตน์ ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยได้นัดหมายใช้ห้องประชุม อบต.นาหมอบุญแบบเงียบๆ ผลเบื้องต้นนั้นได้ข้อสรุปว่า ขอผู้ชุมนุมตั้งคณะตัวแทนจำนวน 15 คนเดินทางไปเจรจากับรัฐบาลโดยตรง ส่วนเรื่องราคาผลผลิตนั้นยังหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งส่งผลให้การชุมนุมยังคงดำเนินอยู่ต่อไป

       ด้านคดีการลอบยิง 2 การ์ดที่ชุมนุมเป็นเหตุนายศิริชัย บุญนุวงศ์ เสียชีวิต ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ ใจงาม ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น วันนี้ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา สบ.10 (ปป.4) พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวาณิช ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช และพนักงานสอบสวนที่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งเพื่อคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้นจากผลพวงในการชุมนุม ได้ทำการสอบปากคำนายสิทธิศักดิ์

       พร้อมกันนั้นชุดสอบสวนได้นำภาพถ่ายผู้ต้องหาไปให้นายสิทธิศักดิ์ดู ปรากฏนายสิทธิศักดิ์ชี้ตัวและยืนยันว่าเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงจริง ส่วนลักษณะการก่อเหตุและมูลเหตุนั้นยังไม่เป็นที่เปิดเผย จึงมีการขอออกหมายจับต่อศาล จ.นครศรีธรรมราช แต่ปรากฏว่าเวลาประมาณ 16.00 น. ศาลยังไม่มีอนุมัติหมายจับ เนื่องจากเห็นว่าสำนวนยังมีจุดอ่อน โดยส่งกลับให้พนักงานสอบสวนไปสอบเพิ่มเติม ส่งผลให้ทีม พล.ต.อ.รชตที่นักแถลงข่าวไว้ต้องยกเลิกกระทันหัน

       ในช่วงเวลา 17.30 น. นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กมส.) พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ ได้เข้าพบกับนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังคำชี้แจงในการปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีการเข้าควบคุมฝูงชนเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังไม่ได้ข้อยุติในการชุมนุม แต่พบว่ามีแนวโน้มในการคุยกันได้ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ แต่จะมีเจตจำนงแก้ไขอย่างไร

       “ถ้าใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ความมั่นคงจะยิ่งบานปลาย หรืออาจจะเป็นเช่นเดียวกับภาคใต้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว และการประกาศกฎหมายเช่นนี้มีมาในทุกรัฐบาล แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย กลับยิ่งจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นไปอีก” นพ.นิรันดร์กล่าว

วันเดียวกันที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีรายงานว่า ได้มีการลอบทำลายป้ายโฆษณารถแท็กซี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการนครศรีดี๊ดี ที่มีรูปของผู้ว่าฯ เป็นพรีเซนเตอร์ โดยป้ายที่ถูกติดตั้งบนถนนพัฒนาการคูขวาง และถนนสายอ้อมค่ายวชิราวุธ ถูกทำลายเสียหายตลอดทั้งเส้นทาง โดยส่วนใหญ่จุดที่ถูกทำลายคือใบหน้าของนายวิโรจน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มที่แสดงความไม่พอใจนายวิโรจน์ถึงการสลายการชุมมุมเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ที่รับผิดชอบและบริหารจัดการป้ายดังกล่าวยังไม่มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด

ส่วนที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ถูกระดับการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยใช้เส้นทางเข้า-ออกเพียงประตูด้านทิศเหนือเส้นทางเดียว ขณะที่ประตูด้านทิศใต้ถูกสั่งงดใช้อย่างเด็ดขาด พร้อมมีการปิดล็อกด้วยกุญแจและโซ่อย่างแน่นหนา แต่ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานทราบ ทำให้ยังคงมีประชาชนที่หลงเข้าใช้เส้นทางดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลพวงจากการประกาศยกระดับการชุมนุมสวนยางและปาล์ม โดยคาดว่าท่าอากาศยานจะเป็นเป้าหมายที่ใช้ในการกดดันรัฐบาล



//www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000110211




 

Create Date : 02 กันยายน 2556   
Last Update : 2 กันยายน 2556 20:58:07 น.   
Counter : 1416 Pageviews.  

สตช.ตั้งรางวัล1.5แสน แจ้งเบาะแสมือยิงการ์ดม็อบสวนยาง



สตช. ตั้งรางวัล 1.5 แสนแก่ผู้แจ้งเบาะแส มือยิงการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยาง พร้อมสั่งการให้สอบสวนอย่างตรงไป ตรงมา ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และขอความร่วมือจากประชาชนให้ตำรวจตรวจค้นยานพาหนะเพื่อป้องกันเหตุร้าย

       วันนี้ (1ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี การ์ดของผู้ชุมนุมชาวสวนยางที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย บริเวณแยกบ้านตูล ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ประชุม กับ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อติดตามรับทราบสถานการณ์ และได้กำชับ สั่งการให้ ดำเนินการสอบสวน ให้ตรงไปตรงมา ใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และทางการแพทย์ และเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชน สื่อสารมวลชน เข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการ นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังสั่งการให้ พื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน ถึงความเป็นมา รายละเอียดแห่งคดี และการดำเนินการอำนวยความยุติธรรม ของตำรวจอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา โดยระดับ ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) เข้าไปกำกับดูแล ให้คำปรึกษาแนะนำการดำเนินการ การสอบสวน ของ ภ.8

       ต่อมาในเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. ได้แถลงข่าวเพิ่มเติม ว่า ตำรวจได้ตั้งเงินรางวัลสำหรับผู้ให้เบาะแสที่เป็นประโยชน์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. มอบให้ 100,000 บาท และ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช มอบเพิ่มเติมอีกจำนวน 50,000 บาท โดยสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ 1599 หรือทีาภ.จว.นครศรีธรรมราช​นอกจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายในการชุมนุม ผบ.ตร. จึงสั่งการให้เพิ่มจุดตรวจจุดสกัดสำหรับตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายและอาวุธ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจค้นยานพาหนะ


//www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000109669




 

Create Date : 01 กันยายน 2556   
Last Update : 1 กันยายน 2556 21:51:50 น.   
Counter : 1444 Pageviews.  

“เจ็ตสกี–เรือลากร่ม” ชนสนั่นกลางทะเลป่าตองทำนักเที่ยวจีนสาหัส

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “เจ็ตสกี-เรือลากร่ม” ชนกันสะนั่นกลางทะเลหน้าหาดป่าตอง ทำนักท่องเที่ยวจีนกระเด็นตกทะเลสลบ ล่าสุด อาการยังสาหัส ด้านสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุยังอยู่ระหว่างสอบสวน

       เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (31 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเรือเจ็ตสกีชนกับเรือลากร่มในทะเลป่าตอง หน้าสวนสาธารณโลมา มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.ธวัชชัย ศรีไหม พนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย ร.ต.อ.กรกฤช ขันธ์เครือ รอง สวป. เจ้าหน้าที่บีชการ์ดหาดป่าตอง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่ชายหาดเห็นนักท่องเที่ยวกำลังลงเล่นน้ำ-นอนอาบแดดจำนวนมาก

บริเวณชายหาด พบเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือ นาย SHEN BAOCHENG อายุ 27 ปี สัญชาติจีน นอนหมดสติอยู่ริมชายหาด เจ้าหน้าที่รีบช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลป่าตอง ต.ป่าอง อ.กะทู้ เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือเป็นการด่วน แต่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งต่อโรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่วนเรือเจ็ตสกีที่ประสบอุบัติเหตุชื่อ “เวฟรันเนอร์” สีน้ำเงิน-ขาว กำลังลากเรือเข้าฝั่ง ถูกชนที่บริเวณหัวด้านซ้ายได้รับความเสียหาย โดยเรือเจ็ตสกีลำดังกล่าวเป็นของ นายสุนัน ทองเรน อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/4 ซอยพระบารมี 1 ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ส่วนเรือคู่กรณีทราบว่าเป็นเรือสปีดโบตลากร่ม ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน

       จากการสอบสวน นายสุนันท์ ทองเรน เจ้าของเรือเจ็ตสกีลำที่เกิดเหตุ ทราบว่า นาย SHEN BAOCHENG อายุ 27 ปี สัญชาติจีน มาเที่ยวกับ น.ส. WEN WEN อายุ 26 ปี และ เพื่อนอีก 8 คน โดยได้เข้าพักที่โรงแรมมารีน่า หาดป่าตอง ต.ป่าตอง ก่อนเกิดเหตุนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวและเพื่อนได้เดินทางมาเช่าเรือเจ็ตสกีของตน และในระหว่างที่นักท่องเที่ยวกำลังขับเรือเจ็ตสกีเล่นอยู่กลางทะเล ก็ได้เกิดอุบัติเหตุชนกันระหว่างเรือเจ็ตสกี และเรือสปีดโบตลากร่ม

       ทำให้นักท่องเที่ยวตกลงไปในทะเล จากนั้นตน และเพื่อนๆ ที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือนำตัวกลับเข้ามาที่บริเวณชายหาด แต่พบว่านักท่องเที่ยวหมดสติ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต มารับตัวเพื่อส่งรักษาที่โรงพยาบาลป่าตอง ต.ป่าตอง และทราบว่าอาการสาหัสมาก เนื่องจากมีอาการมึนศีรษะ และอาเจียนต่อเนื่องตลอดเวลา แพทย์ได้ส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ตต่อไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำเพื่อนผู้เสียหาย
       อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบปากคำคนขับเรือทั้ง 2 ลำที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุต่อไป


//www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000109295




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2556   
Last Update : 31 สิงหาคม 2556 21:40:19 น.   
Counter : 2219 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]