เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

“สตาร์บัคส์” เหี้ยม! ฟ้อง “สตาร์บัง” ขอศาลสั่งขัง เรียก 3 แสน จ่ายรายเดือนอีก 3 หมื่น



“สตาร์บัคส์” กาแฟระดับโลกเอาจริง! ฟ้องกาแฟรถเข็น “สตาร์บัง” ขอศาลคุ้มครองชั่วคราวสั่งจับและกักขัง 2 พี่น้องเจ้าของร้าน พร้อมเล่นอาญาฟันผิด พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า จ่ายค่าเสียหาย 300,000 บาท พร้อมจ่ายย้อนหลังเดือนละ 30,000 บาท ศาลสั่งไต่สวนคดีแรก 4 พ.ย.นี้ ส่วนคดีที่ 2 นัด 10 ก.พ.57 “บัง” ยันใช้โลโก้อิงศาสนา พร้อมสู้คดี แต่โอดเลี้ยงลูก 6 คน ใช้กินวันชนวันจะจ่ายยังไง

       วันนี้ (17 ต.ค.) มีรายงานความคืบหน้ากรณีที่ บ.สตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น เจ้าของร้านกาแฟสตาร์บัคส์ เตรียมดำเนินคดีกับร้านกาแฟรถเครื่อง สตาร์บัง ที่ขายอยู่ริมถนนบริเวณหน้า ถ.พระอาทิตย์ เขตพระนคร กทม.ล่าสุดได้มีรายงานว่า บ.สตาร์บัคส์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ให้มีคำสั่งจับกุมและกักขัง นายดำรงค์ มัสแหละ หรือ “บัง” เจ้าของร้านกาแฟรถเข็นสตาร์บัง และนายดำรัส น้องชาย ผู้จะถูกฟ้องที่ 1 และ 2 แล้ว ในคดีหมายเลขดำที่ คค.1/2556 และคดีหมายเลขแดงที่ คค.1/2556 ลงวันที่ 9 ต.ค.ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้นัดไต่สวนในวันที่ 4 พ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.

       โดยคำร้องของ บ.สตาร์บัคส์ ได้ระบุว่า ก่อนหน้านี้ บ.สตาร์บัคส์ ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนฟ้องคดีต่อศาลฯ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.และศาลฯ ก็ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนฟ้องห้ามมิให้ นายดำรงค์ และพวกใช้เครื่องหมายรูปประดิษฐ์ และคำ STARBUNG COFFEE กับสินค้าเสื้อยืดคอกลมและเสื้อผ้าและกระดาษหุ้มแก้วบรรจุกาแฟหรือเครื่องดื่มที่ขาย รวมทั้งเครื่องหมาย “สตาร์บัง” ที่เป็นพื้นสีเขียว ตัวอักษรสีเข้มตามวัตถุพยาน เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้จะถูกฟ้องทั้ง 2 ได้รับหมายห้ามชั่วคราวของศาลแล้ว แต่หาได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลไม่ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าว

       นอกจากนี้ บ.สตาร์บัคส์ ยังได้ยื่นฟ้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.4019/2556 ด้วย ซึ่งศาลได้มีคำสั่งไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 10 ก.พ.2557 เวลา 09.00 น.โดยฟ้องในข้อหาเลียนเครื่องหมายการค้า พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ม.109, 110 ขอศาลให้สั่งห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าและการบริการของโจทก์ต่อไป ให้ยุติการเลียนและยุติจำหน่ายสินค้าโดยใช้เครื่องหมายการค้าที่เลียน ให้ริบสินค้าที่เลียนและให้ทำลายสินค้าดังกล่าว โดยให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย ให้ร่วมกันชำระเงินจำนวน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 30,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะยุติการละเมิด และให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีแก่โจทก์

       ทั้งนี้คำฟ้องระบุว่า โจทก์ประกอบกิจการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟและชาที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีสาขามากกว่า 18,000 สาขา ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และยังเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าและการบริการคำว่า STARBUCK และ STARBUCKS และรูปคนประดิษฐ์ในวงกลมพื้นสีเขียว ได้จดทะเบียนการค้าไว้ทั่วโลกรวมทั้งไทย และได้ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าจนสาธารณะทั่วไปรู้จักเป็นอย่างดี

       ส่วนจำเลยที่ 1 และ 2 ประกอบกิจการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีกาแฟและชาเป็นส่วนผสม โดยมีรถเข็นจำหน่ายอยู่บริเวณหน้าบ้านพระอาทิตย์ เหตุที่ต้องฟ้องเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน ก.ย.55 - ปัจจุบัน ได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายโดยทำเครื่องหมาย “สตาร์บัง” มีเจตนาเลียนแบบเครื่องหมายการค้าเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้า “สตาร์บัคส์” โดยโจทก์ได้ส่งหนังสือเตือนเมื่อ 17 ต.ค.55 แต่จำเลยกลับกระทำการอันเป็นการละเมิดสิทธิ์มากยิ่งขึ้น โดยการผลิตรูปลอกและปลอกหุ้มแก้วกาแฟและเสื้อผ้า เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้ามีความเกี่ยวข้องกับสตาร์บัคส์ โจกท์จึงได้มีหนังสือเตือนอีกครั้ง แต่นายดำรงค์ กลับเรียกร้อง และข่มขู่ให้ชำระค่าตอบแทนเป็นเงิน 3,000,000 บาท ซึ่งโจทก์ได้ปฏิเสธ และทำให้นายดำรงค์ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

       นอกจากนี้โจทก์ยังได้ร้องขอให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา เชิญ นายดำรงค์ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยและระงับข้อพิพาท แต่นายดำรงค์ กลับข่มขู่เจ้าหน้าที่และปฏิเสธที่จะไกล่เกลี่ย โดยมุ่งหวังที่จะให้ใช้มาตรการทางอาญาที่รุนแรง เพื่อให้สื่อสารมวลชนที่ติดตามการดำเนินคดีนำข่าวสู่สาธารณชน เพื่อให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง ในขณะที่จำเลยได้รับประโยชน์ แต่โจทก์กลับต้องได้รับความเสียหายจากบุคคลที่ยังไม่รู้สตาร์บัคส์ อาจจะสับสนหลงผิดว่าสินค้าสตาร์บัง มีความเกี่ยวข้องกัน ขณะที่ลูกค้าก็อาจเสื่อมความนิยมเชื่อถือในคุณภาพสินค้า โจทก์ได้พยายามทุกวิถีทางให้ข้อพิพาทยุติลงโดยไม่จำเป็นต้องฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งหากจำเลยทั้ง 2 ยังคงดำเนินการต่อไป ย่อมจะนำมาซึ่งความเสียหายที่ไม่อาจประมาณการและใหญ่หลวงแก่สตาร์บัคส์

       การกระทำของจำเลยนับเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตและไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ จำเลยทั้งสองจึงต้องมีหน้าที่ชดใช้ค่าเสียหายต่อโจทก์ในชั้นนี้ จากการละเมิดเลียนแบบเครื่องหมายการค้า และค่าใช้จ่ายในการบังคับสิทธิในเครื่องหมายการค้า เพียง 300,000 บาท และขอเรียกค่าเสียหายจากจำเลยอีกเป็นรายเดือนๆ ละ 30,000 บาท นับแต่วันที่ฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจำเลยทั้งสองจะเลิกใช้เครื่องหมายที่พิพาท

       ขณะที่ นายดำรงค์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ทนายของทาง บ.สตาร์บัคส์ ได้เจรจาเพื่อขอยกเลิกชื่อ “สตาร์บัง” แต่ตนก็ไม่ยอม ทั้งนี้ตนได้มีการแก้ไขให้ตั้งแต่วันแรกที่ทางทนายได้ยื่นหนังสือเตือนมา โดยเครื่องหมายการค้าที่ตนใช้นั้นได้อิงตามหลักศาสนาอิสลามที่ตนนับถือ ทั้งสีเขียวพื้นหลัง โลโก้รูปดาวกับเดือน เครื่องหมายฮาลาล และชื่อบังที่มาจากภาษามลายู อีกทั้งตนก็ไม่ได้ใช้คำว่าบัคส์ ตนจึงสงสัยว่าตนผิดตรงไหน อักษรที่ใช้ก็มีลักษณะไม่เหมือนกัน ถ้าก๊อบปี้ (ลอกเลียนแบบ) แล้วมันต้องเหมือนเป๊ะ อันนี้ไม่ใช่ แถมไม่ให้ใช้โลโก้ภาษาไทยด้วยมันก็ละเมิดสิทธิ์ตนเกินไป ส่วนกรณีที่คำฟ้องอ้างว่าตนได้มีการข่มขู่เรียกค่าเสียหายจำนวน 3 ล้านบาทนั้น ตนเพียงแค่บอกว่าถ้าจะขอให้ตนยกเลิกเครื่องหมายการค้าตนก็ขอขายกิจการให้ทั้งหมดเป็นเงิน 3 ล้านบาท

       ส่วนที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 300,000 บาท และจ่ายรายเดือนอีกเดือนละ 30,000 บาท นั้น นายดำรงค์ กล่าวว่า ตนใช้วันกินวัน เลี้ยงลูก 6 คน จะมีให้ได้ยังไง ขายแก้วละ 20-30 บาท รายได้ปีนึงยังไม่เท่ากับวันนึงของเขาเลย กาแฟ ชา ของเรากับเขาก็คนละอย่าง ไม่ได้ซื้อเครื่องมาใช้เหมือนเขา ขณะที่การดำเนินคดีก็ยังคงต่อสู้ต่อไป




//www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000130452




 

Create Date : 17 ตุลาคม 2556   
Last Update : 17 ตุลาคม 2556 20:49:11 น.   
Counter : 2351 Pageviews.  

เครื่องบินลาวตกกลางน้ำโขง ดับยกลำ 44 ชีวิต-คนไทย 5

เครื่องบินแบบเอทีอาร์ ของสายการบินลาว รุ่นเดียวกับที่ประสบอุบัติเหตุ
เครื่องบินแบบเอทีอาร์ของสายการบินลาว เที่ยวบินเวียงจันท์-ปากเซ ประสบอุบัติเหตุตกกลางแม่น้ำโขง ก่อนถึงสนามบินปากเซ คาดผู้โดยสารพร้อมลูกเรือรวม 44 คนเสียชีวิตทั้งหมด เผยอาจมีคนไทยรวมอยู่ด้วย 5 คน โดยบางส่วนเป็นวิศวกร ปตท.

       มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้(16 ต.ค.) ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินแบบเอทีอาร์ ของสายการบินลาว เที่ยวบิน QV 301 ตกลงกลางแม่น้ำโขง ฝั่งเมืองโพนทอง ตรงข้ามเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งผู้โดยสาร นักบิน และแอร์โฮสเตสรวม 44 คน

       เครื่องบินลำดังกล่าว ออกจากสนามบินวัดไต นครเวียงจันทน์ มุ่งหน้าสู่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก และประสบอุบัติเหตุขณะนักบินกำลังนำเครื่องลงสนามบินปากเซ

       ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 21.00น. ที่ผ่านมาทางสื่อในประเทศลาวมีการเปิดเผยรายชื่อผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินสายการบินลาว เที่ยวบิน QV 301 ที่ประสบอุบัติเหตุแล้ว โดยข้อมูลระบุว่า เป็นคนสัญชาติลาว 17 คน, ออสเตรเลีย 5 คน, เกาหลีใต้ 3 คน, ไทย 5 คน, ฝรั่งเศส 7 คน, จีน 1 คน, ไต้หวัน 1 คน, แคนาดา 1 คน, มาเลเซีย 1 คน และเวียดนาม 2 คน

ภาพจากเฟซบุ๊ก Mahason Magazine



//www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000130058




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2556   
Last Update : 16 ตุลาคม 2556 21:39:35 น.   
Counter : 2603 Pageviews.  

บช.น.จับมืออู่บริการยกรถ เหมา 500/คัน เล็งขยายเพิ่ม 50 สาย

 บช.น.ยันมีเอกชนขอร่วมโครงการรถยกในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานแล้ว 82 ราย คิดค่าบริการยกรถเก๋งคันละ 500 บาท นำร่อง 10 สาย ดีเดย์ 21 ต.ค.นี้ ลั่นหากประเมินผลงานผ่าน จะเลิกล็อกและใช้วิธียกรถทั่วกรุงใน ถ.50 สาย และแก้กฎกระทรวงเพื่อคิดค่าบริการเพิ่ม

       วันนี้ (15 ต.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จีรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร.เชิญผู้ประกอบการรถยกเอกชนในกรุงเทพฯ ทั้งหมด 115 ราย ร่วมหารือเตรียมความพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจในการดำเนินการโครงการถนน 10 สาย ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมหารือจำนวน 82 ราย โดยส่วนใหญ่ยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการกับตำรวจ แต่มีความกังวลในเรื่องค่าใช้จ่าย ที่ตามกฎหมายระบุค่าใช้จ่ายกรณีที่ถูกยกรถไว้น้อยกว่าราคาที่เอกชนเรียกดำเนินการ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการขาดทุนและอยากให้มีการแก้กฎกระทรวงในเรื่องดังกล่าว

       พล.ต.ต.อดุลย์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือยกรถผู้กระทำผิดกฎจราจรจอดรถในที่ห้าม โดยใช้อัตราค่ายกตามกฎหมายที่มีในตอนนี้คือ รถยนต์ 4 ล้อ ค่ายก 500 บาท รถ 6 ล้อ ค่ายก 700 บาท และรถ 10 ล้อ ค่ายก 1,000 บาท และหลังจากนี้จะต้องมีการพิจารณาเสนอแก้กฎกระทรวงในเรื่องนี้ต่อไป เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งการประชุมในวันนี้เป็นการซักซ้อมความเข้าใจร่วมกับผู้ประกอบการทั้งหมดในการเข้าดำเนินการยกรถ เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รถที่จะนำมาใช้ในโครงการจะต้องมีความมั่นคงแข็งแรง คนขับรถยกต้องมีใบอนุญาตขับขี่ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ผู้ประกอบการแจ้งจำนวนรถที่จะเข้าร่วมโครงการมา เพื่อจะได้มีการรับรองว่าเป็นรถผู้ช่วยของเจ้าพนักงาน ทั้งนี้เมื่อได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานให้ยกรถออกจากพื้นที่แล้ว ผู้ยกรถจะต้องโทร.แจ้งที่ศูนย์ 1197 เพื่อให้มีการบันทึกข้อมูลว่าได้ยกรถของผู้กระทำผิดไปแล้ว และต้องติดตั้งหรือวางป้ายแจ้งให้เจ้าของรถทราบในบริเวณที่รถเคยจอดอยู่ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบป้ายดังกล่าว ซึ่งหน้าตาของป้ายจะใช้เหมือนกันทุก สน.แต่ลักษณะการติดตั้งหรือวาง จะเป็นไปตามลักษณะของแต่ละพื้นที่ว่ามีความเหมาะสมที่จะดำเนินการอย่างไร โดยประชาชนที่สงสัยว่ารถตนจะถูกยกไปหรือไม่ สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่หมายเลข 1197 หรือ 191

       พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ เวลา 13.00 น.จะมีการสาธิตการตรวจและยกรถที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และจะมีการปล่อยแถวเปิดโครงการในวันที่ 21 ต.ค.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดย พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเป็นประธานในงาน ทั้งนี้จะมีการประเมินผลโครงการเป็นระยะๆ หากได้ผลดีจะขยายโครงการเพิ่มเป็น 50 สาย ในเฟส 2 หลังจากเปิดเทอมไปแล้ว และการจราจรในเส้นทางต่างๆ เริ่มเข้าที่เข้าทาง


//www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000129564




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2556   
Last Update : 15 ตุลาคม 2556 20:42:46 น.   
Counter : 1038 Pageviews.  

รวบขบวนการขายป้ายทะเบียนรถปลอม



ตร.ล่อซื้อแผ่นภาษีประจำปี และทะเบียนชุดใหญ่ปลอม ผ่านเว็บฯ จับกุมแก็งค้าทะเบียนปลอมได้ยกแก็งค์

       เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น.(หน.รับผิดชอบ ศปจร.น.) พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รองผกก.สส.2 ฯ ร่วมกันแถลงการณ์จับกุมตัว 1.นายอภิเดช สิทธิพร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 570/136 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 2.นายประทีป สารศิริ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/109 ซ.รามอินทรา 55/8 แขวงท่าร้าง เขตบางเขน กทม. 3.นายนริศ หน่านโพธิ์ศรี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/7 ซอยเพิ่มสิน 24/1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. และ4.นางสาวนิสากร แก้วศรีงาม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2613/23 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. พร้อมของกลาง ป้ายทะเบียนปลอม จำนวน 6 แผ่น ป้ายทะเบียนจริงแต่ไม่มีมูล(ป้ายว่าง) จำนวน 15 แผ่น สมุดคู่มือการจดทะเบียนปลอม จำนวน 56 เล่ม เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีปลอม จำนวน 237 แผ่น ใบขับขี่ปลอม จำนวน 145 แผ่น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อเอซอร์ 1 เครื่อง และเครื่องปริ้นเตอร์ ยี่ห้อ พิกค์ม่า 1 เครื่อง โดยแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารทางราชการ

       พ.ต.ท.อรรถพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่าในเวปไซต์ //www.black-m.com มีผู้ลงประกาศรับทำเอกสารเพื่อสวมทะเบียนรถยนต์ที่มีไว้หรือได้มาโดยผิดกฎหมายโดยใช้ ยูสเซอร์เนม mheekuba จึงได้ติดต่อล่อซื้อแผ่นภาษีประจำปี ราคา 3000 บาท และทะเบียนชุดใหญ่ ประกอบด้วย สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ ป้ายทะเบียนหน้า - หลัง แผ่นป้ายแสดงภาษีและกรมธรรม์กันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ จนกระทั้งเมื่อวันที่ 11 ต.ค. เวลาประมาณ 08.00 น. ได้นัดพบกับนายอภิเดช ตามที่นัดรับของกัน ที่บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท. ถนนรามอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม. จากนั้นเมื่อได้ของกลางแล้วทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแสดงตัวเข้าจับกุม โดยจากการสอบสวนนายอภิเดชได้ให้การซัดทอดว่าตนได้รับเอกสารของกลางมาจากนายประทีป ทางเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุมตัวได้ที่หน้าอาคาร 34 หมู่บ้านเอื้ออาทร ซ.เพื่อมสิน 24/1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. พร้อมทั้งยังสามารถจับกุมเพื่อร่วมขบวนการและของกลางได้ดังกล่าว

       พ.ต.ท.อรรถพร กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดยนายนริศและนางสาวนิสากรฯ ให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อของกลางมาจากชายไทยชื่อนายแดง ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เป็นนายหน้าที่บริเวณกรมการขนส่งทางบก ไม่สามารถติดต่อได้ เพื่อนำมาต่อเติมข้อความและจำหน่ายต่อให้แก่ลูกค้าที่ประสงค์จะทำเล่มทะเบียนและเอกสารประกอบรถยนต์ ภายหลังได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



//www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000128295




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2556   
Last Update : 12 ตุลาคม 2556 17:31:10 น.   
Counter : 2115 Pageviews.  

ชาวปากน้ำ! ร้องจ่ายเงินชดเชย โครงการก่อสร้างรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ



ชาวเมืองปากน้ำกว่า 2,000 คน ที่ได้รับผลกระทบทางเสียง จากโครงการก่อสร้างรันเวย์เพิ่มเติม ของสนามบินสุวรรณภูมิ จ่อลงชื่อคัดค้านโครงการ พร้อมเรียกร้องการจ่ายเงินชดเชยจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย
  ที่ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์อินคำ ถ.กิ่งแก้ว ต.ราชเทวะ จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (6 ต.ค.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โดยบริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจีเนียริ่ง คอลซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น เพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมสุขภาพ ของโครงการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นทางวิ่งที่ 3 และ 4 ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ฝั่งโซนทิศใต้และทิศตะวันตก

       โดยมี นายวีระชัย ปิยะพันธุ์พงษ์ ผอ.ฝ่ายสิ่งแวดล้อม บริษัทการท่าอากาศยาน น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ รอง ผอ.สายบำรุงรักษา และตัวแทนจากจังหวัดสมุทรปราการ รวมทั้งประชาชนซึ่งอยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ประมาณ 2,000 คน เข้าร่วมรับฟัง และ ลงชื่อคัดค้านการสร้าง รันเวย์ ที่ 3 และ 4 ด้วย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ มาดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

       น.ส.บุศย์รินทร์ เฉยบรรดิษฐกุล ตัวแทนชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 1 และ 2 กล่าวว่า ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมารวมตัวกัน เพราะยังไม่รับการจ่ายเงินชดเชยเยียวยา จากโครงการก่อร้างดังกล่าว โดยต้องการให้ บริษัท การท่าอากาศยานไทย จ่ายเงินชดเชยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสุขภาพทางเสียง ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2549 ให้กับชาวบ้านที่เข้ามาอาศัยอยู่ ตั้งแต่ปี 2544-2549 นอกเหนือจากการจ่ายเงินชดเชยให้กับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบตามมติ ครม.วันที่ 29 พ.ค. 2550 ให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะมีการดำเนินการสร้างรันเวย์เพิ่ม ซึ่งที่ผ่านมา บริษัท การท่าอากาศยานไทย ปล่อยให้ระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยยืดเยื้อมานานถึง 7 ปีแล้ว และหากยังไม่ยินยอมจ่ายเงินชดเชยอีก ทางกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบก็จะเรียกร้องและคัดค้านการสร้างรันเวย์ ที่ 3 และ4 ต่อไปอย่างแน่นอน

       ปัจจุบันชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในโซนทิศใต้ และยังไม่ได้รับการเยียวยา ประกอบไปด้วย 3 ตำบลคือ ต.บางพลีใหญ่ ต.บางโฉลง และ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีอยู่กว่า 10,000 ครัวเรือน ชาวบ้านจึงต้องการให้ บริษัท การท่าอากาศยานไทย ดำเนินการจ่ายเงินให้เรียบร้อยก่อนสร้างรันเวย์เพิ่ม หรือ ให้เร่งจ่ายเงินควบคู่ไปกับการสร้างรันเวย์เส้นที่ 3 และ 4

       ทั้งนี้ โครงการสร้างรันเวย์ที่ 3 และ 4 อยู่ในแผนการพัฒนาระยะที่ 3 ปี พ.ศ. 2556-2560 เนื่องจากปัจจุบัน พบว่า จำนวนเที่ยวบินที่ทำการบินขึ้น-ลง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการคาดการณ์จำนวนเที่ยวบินในชั่วโมงคับคั่ง และคาดว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีจำนวนเที่ยวบินในชั่วโมงคับคั่งมากกว่า 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ดังนั้น เพื่อให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ตามแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 6/2555 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555 ให้มีโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 และ 4 ขึ้นโดยกำหนดให้สร้างรันเวย์ที่ 3 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2562 และรันเวย์ที่ 4 ในปี พ.ศ.2566

       ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการศึกษาโครงการตามประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดให้ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน อย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ (EHIA) นำส่งสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อประเมินถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ก่อนจะดำเนินการก่อสร้างรันเวย์เพิ่มต่อไป


//www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000125560




 

Create Date : 07 ตุลาคม 2556   
Last Update : 7 ตุลาคม 2556 22:06:41 น.   
Counter : 1824 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]