ร้อง ป.ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรตหลอกทำเสน่ห์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร้องกองปราบฯ ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรต ย่านรามคำแหง หลอกผู้หญิงทำเสน่ห์        วันนี้ (16 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสำนักทำไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ของอาจารย์พรต หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายผู้หญิงกว่า 20 รายว่าได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล โดยนายสงกานต์ได้นำภาพถ่ายของ อาจารย์พรตขณะกำลังทำพิธีเสริมเสน่ห์ให้แก่หญิงสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมามอบไว้เป็นหลักฐาน        นายสงกานต์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับข้อมูลว่าอาจารย์พรตเป็นหมอทำพิธีทางไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ โดยมีการจำหน่ายเครื่องรางของขลังต่างๆ ในหน้าเฟซบุ๊ก ชื่อ “ศูนย์พระเครื่อง พรปู่เจ้า” เช่น รูปปั้นแม่ (อี)เป๋อ ไอ้งั่ง น้ำมันพราย กระดูกผีตายโหง เป็นต้น ซึ่งราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5,000-40,000 บาท ส่วนค่าทำพิธีมหาเสน่ห์นั้น ราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้รับข้อมูลจากสำนักข่าวต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ ว่าอาจารย์พรตได้ไปตั้งสำนักและรับทำพิธีดังกล่าวในต่างประเทศ พร้อมทั้งได้ส่งภาพขณะที่กำลังทำพิธีมาให้เป็นข้อมูล เนื่องจากในการทำพิธีนั้นมีการนำเครื่องรางที่เรียกกันว่าไอ้งั่งมาวางบนหน้าอกและอวัยวะเพศหญิง เพื่อทำพิธี ถือว่าเป็นการทำอนาจาร        นายสงกานต์กล่าวต่อว่า สำนักของอาจารย์พรตมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยนั้นเปิดอยู่ย่านรามคำแหง อีกทั้งยังมีร้านที่ขายเครื่องรางตั้งอยู่ในห้างดังย่านลาดพร้าวอีกด้วย ทั้งนี้ตนได้รับแจ้งจากผู้เสียหายประมาณ 20 คน ทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่ได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล แสดงให้เห็นว่าอาจารย์พรตมีการหลอกลวงผู้ซื้อ อย่างไรก็ดี ทางผู้เสียหายจะเข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินคดีต่ออาจารย์พรตในวันข้างหน้านี้        ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า หลังจากนนี้จะนำหลักฐานที่ได้มาส่งไปให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นหากตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงประชาชน ส่วนหากมีข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมก็จะเพิ่มข้อหาต่อไป   Create Date : 16 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 16 พฤษภาคม 2557 21:41:23 น.     Counter : 1869 Pageviews.   Share Tweet

สุดอนาถ ! พระตำบลทุ่มศรีสะเกษ เป็นเจ้ามือรับแทงพนันบั้งไฟ ศรีสะเกษ - สุดอนาถ ! พระตำบลทุ่ม เมืองศรีสะเกษ เป็นเจ้ามือรับแทงพนันบั้งไฟกับชาวบ้าน ขณะผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาศรีสะเกษร่วมกับเจ้าคณะจังหวัด 2 นิกาย เร่งวางมาตรการเข้มขจัดพระนอกรีต        เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กลางทุ่งนาบ้านขมิ้น ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ คณะกรรมการหมู่บ้านขมิ้นได้ร่วมกันจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2557 ขึ้น โดยกำหนดจัดงาน 1 วัน มีบั้งไฟที่จะต้องจุดตามที่ได้ขออนุญาตจากทาง จ.ศรีสะเกษเอาไว้จำนวนทั้งสิ้น 15 บั้ง ซึ่งปรากฏว่าก่อนเข้าไปถึงบริเวณที่มีการจุดบั้งไฟ มีชายฉกรรจ์ จำนวน 4 - 5 คน มาคอยดักอยู่และทำการเก็บเงินค่าผ่านทางคนละ 200 บาทโดยจะปักดอกไม้ติดเสื้อให้ 1 ดอกเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าได้จ่ายเงินค่าผ่านทางเรียบร้อยแล้ว        ภายในบริเวณที่มีการจุดบั้งไฟ มีชาวบ้านและพระสงฆ์จำนวนประมาณ 1,000 คน พากันมาชมและเล่นพนันบั้งไฟกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระสงฆ์ซึ่งไม่ทราบว่าสังกัดวัดใด ได้พากันตั้งตัวเป็นเจ้ามือหรือที่เรียกว่า เซียนยั้ง รับแทงพนันจากชาวบ้านหรือที่เรียกว่าเซียนไล่ กันอย่างไม่สนใจสายตาของประชาชนทั่วไปที่เฝ้ามองดูพระเล่นพนันบั้งไฟอย่างน่าสลดสังเวชใจ ที่พระสงฆ์มีพฤติกรรมผิดศีล ทำผิดกฎหมายและพระธรรมวินัยอย่างชัดเจน        โดยไม่พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาปราบปรามจับกุม ดำเนินคดีตามกฎหมายแต่อย่างใด        นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาศรีสะเกษ กล่าวว่า กรณีพระสงฆ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเล่นพนันบั้งไฟถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายและผิดพระธรรมวินัยอย่างชัดเจน หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ต้องสึกจากความเป็นพระทันที ซึ่งตนได้นำเรื่องนี้ไปรายงานให้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ทั้ง 2 นิกายได้รับทราบเรียบร้อยแล้ว        และขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการวางมาตรการเข้มงวดเพื่อดำเนินการกับพระสงฆ์ที่เล่นพนันบั้งไฟอย่างเร่งด่วน ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ จะต้องมีการจับพระที่เล่นพนันบั้งไฟมาสึกและดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาอีกต่อไป   Create Date : 15 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 15 พฤษภาคม 2557 21:26:22 น.     Counter : 1916 Pageviews.   Share Tweet

โชว์บิกินี่ ประชัน ซิกแพค ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักศึกษาส่านซี (ชมภาพ) เอเจนซี--พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาระหว่างนักศึกษาครั้งที่ 36 ณ วิทยาลัยการกีฬาแห่งนครซีอัน มณฑลส่านซี ในเช้าวันอังคาร(13 พ.ค.) คึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการแสดงชุดหนึ่งที่กลุ่มนักศึกษาหนุ่มสาวนุงน้อยห่มน้อย โดยสาวๆสวมชุดบิกินี่ และเหล่าหนุ่มๆโชว์กล้าม “ซิกแพค”        สำหรับการแข่งขันกีฬาฯนี้ เป็นเวลา 4 วันนี้ (13-16 พ.ค.) นับเป็นครั้งมโหฬารที่สุดในประวัติศาสตร์ จากจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน กว่า 1,300 คน ภาพบรรยากาศการแสดงในพิธีเปิดการแข่งกีฬาระหว่างนักศึกษาครั้งที่ 36 เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2557 (ภาพ สื่อจีน)   Create Date : 14 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 14 พฤษภาคม 2557 21:22:04 น.     Counter : 4087 Pageviews.   Share Tweet

อีโอดีลงตรวจสวนลุมฯ รอบสอง พบวัตุระเบิด ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดลงตรวจพื้นที่สวนลุมพินีรอบสอง หลัง กปปส.คืนพื้นที่พบวัตถุระเบิดหลายชนิด ก่อนนำกลับไปตรวจพิสูจน์หลักฐานหาลายนิ้วมือแฝงและตรวจหาดีเอ็นเอเพื่อสืบสวนนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี        วันนี้ (13 พ.ค.) ที่สวนลุมพินี พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รอง ผบก.น.5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เดชา พรมสุวรรณ์ พงส.ผทค.(สบ 4) รักษาการ ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้เเละตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) ร.ต.ต.ณรงค์ บุญตามทัน นายตำรวจผู้ควบคุมการปฏิบัติ ด.ต.ธุมากร วงษ์ไพศาล ผบ.หมู่ กตว.บก.สปพ.ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันตรวจสอบบพื้นที่ภายในสวนลุมพินี หลังจาก กปปส.ย้ายออกไป        โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบทั้งสิ้น 4 จุด โดยจุดแรกเป็นอยู่ในพื้นที่ประปาของสวนลุมพินี (ประตู 4) เป็นจุดที่กลุ่มการ์ด กปปส.ใช้เป็นที่พัก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบหัวนอตและตะปูจำนวน 4 กิโลกรัม ท่อกระดาษสำหรับใส่ดินเทา ท่อพีวีซี เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ 6 อัน บอลประทัด 20 ลูก ทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ในปี๊บใส่ขนมปัง จุดที่ 2 บริเวณศูนย์กีฬาในร่มภายในสวนลุมพินี เจ้าหน้าที่พบดินเทาใส่ในขวดซุปไก่ และขวดเครื่องดื่มชูกำลังพันด้วยเทปสีดำจำนวน 2 ขวด จุดที่ส 3 บริเวณฝั่งประตู 5 เจ้าหน้าที่พบประทัดพันด้วยเทปสีดำภายในมีนอตจำนวน 6 ลูกอยู่ในกระเป๋าสีดำริมบ่อน้ำ และจุดที่ 4 บริเวณประตูด้านถนนวิทยุ (ประตู 2) พบแก๊สน้ำตาชนิดยิงขนาด 40 มม. ระเบิดปิงปอง 5 ลูก กระป๋องแก๊สน้ำตาชนิดขว้างใช้แล้ว 2 ลูก        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้เจ้าหน้าที่ ตร.ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้วพบบัตรประชาชนของนายนฤเทพ ชูเกิด อยู่ในกระเป๋าสีดำภายในมีระเบิดแรงดันสูง หรืออิมัลชันอยู่ เรื่องนี้รายงานฝ่ายสืบสวนระบุว่าจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายนฤเทพ ชูเกิด เป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งลูกขวานลอยลม มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเข้าร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องราคายางพาราที่ ต.ควน หนองหงส อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ก่อนที่จะเข้าร่วมชุมนุมพร้อมกับแก๊งลูกขวานลอยลมตั้งแต่เริ่มการชุมนุมของ กปปส.ที่ กทม. โดยถือเป็นหนึ่งในกลุ่มการ์ดสายฮาร์ดคอร์ นอกจากนี้ยังพบว่าเคยก่อเหตุฆ่าคนตายในพื้นที่ สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาปี 2556ได้ก่อเหตุคดีร่วมกันฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนพื้นที่ สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ได้หลบหนี (มีหมายจับ เลขที่ 298/56 ของศาลจังหวัดทุ่งสง)        พ.ต.อ.เดชากล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานก่อนนำหลักฐานทั้งหมดไปทำการตรวจพิสูจน์หลักฐานหาลายนิ้วมือแฝงและตรวจหาดีเอ็นเอเพื่อสืบสวนนำ ตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี   Create Date : 14 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 14 พฤษภาคม 2557 21:21:26 น.     Counter : 1744 Pageviews.   Share Tweet

ฟ้าผ่า"โกลบอลเฮ้าส์"สุรินทร์ โดมทางเข้าถล่มทับลูกค้า-พนักงานดับ 4 ศพ สูญหายอีก 2 สุรินทร์ - ฟ้าผ่าอาคาร “โกลบอลเฮ้าส์” สาขาสุรินทร์ โดมด้านหน้าทางเข้า-ออกพังถล่ม ทับลูกค้า-พนักงานเสียชีวิต 4 ราย จนท.สามารถนำศพออกมาได้แล้ว และช่วยผู้บาดเจ็บได้ 1 ราย ยังสูญหายอีก 2 คน ผู้ว่าฯสั่งระดมกำลังและเครื่องมือเร่งค้นหา        เมื่อเวลาประมาณ 17.10 น. วันนี้(13 พ.ค.) เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในจ.สุรินทร์ และฟ้าผ่าอาคารโกลบอลเฮ้าส์ สาขาสุรินทร์ แหล่งรวมจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านครบวงจรขนาดใหญ่ ของ บริษัทสยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 140/50 หมู่ 13 ถนนสายสุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ทำให้เหล็กยึดตัวโดมด้านหน้าอาคารหัก ส่งผลให้เหล็กและปูน ถล่มลงมาทับกับโดมทางเข้า-ออกของห้าง พังถล่มลงมาทับลูกค้าและพนักงานเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สูญหาย 2 ราย        ล่าสุด ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ 1. นายจรัญ เพชรนอก อายุ 32 ปี 2.นางสาวสุทาทิพย์ อุกอาจ อายุ 33 ปี ทั้ง 2 คน และ 3.เป็นเด็กหญิงอายุประมาณ 13-14 ปี ยังไม่ทราบชื่อ ทั้ง 3 ราย เป็นสามีภรรยากันและอีกคนเป็นลูกสาว อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.3 ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ขณะนี้สามารถนำศพออกมาซากปรักหักพังได้ทั้งหมดแล้ว ก่อนนำส่งไปผ่าพิสูจน์การเสียชีวิต ที่โรงพยาบาลสุรินทร์        นายอภิชาต ฉลาดล้น พนักงาน บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) สาขา สุรินทร์ กล่าวว่า ตนยืนอยู่ตรงประตูทางออกกับพี่พนักงานขายอีก 4 คน ได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงมาอย่างรุนแรง ตนพยายามวิ่งหลบไปยังที่ปลอดภัย จึงรอดชีวิตมาได้อย่างเฉียดฉิว โดยหลังอาคารได้ถล่มเหมือนกับถูกทุ่มลงมาพร้อมกับเสียงฟ้าผ่า และเห็นลูกค้าเป็นพ่อแม่ลูกรวม 3 คน กำลังเดินออกจากตัวอาคารห้าง ถูกหลังคาถล่มลงมาทับเสียชีวิต ซึ่งมองเห็นอย่างชัดเจน 2 คน ส่วนลูกสาวมองไม่เห็น        ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่สามารถช่วยออกมาได้ 1 ราย ยังไม่สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ และยังมีผู้โชคร้ายอีก 2 ราย ยังค้นหาไม่พบ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาทางช่วยเหลือ โดยล่าสุดสามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย รายที่ 4 คือ นายทัศนัย เงางาม พนักงาน บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) สาขา สุรินทร์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถนำศพออกมาจากใต้ซากอาคารได้แล้วเช่นกัน        ทางด้าน นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และนายอำเภอเมืองสุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดสุรินทร์ อาสาสมัครกู้ภัย กู้ชีพ และ ทหารช่าง นำอุปกรณ์และเครื่องช่วยชีวิต เข้าทำการเร่งค้นผู้สูญหายอีก 2 คน ภายใต้สิ่งปรักหักพังและยังหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิต        ขณะที่ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)สาขาสุรินทร์ ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานที่เกิดเหตุอย่างเข้มงวด หวั่นมือดีเข้าฉวยโอกาสขโมยสินค้า //www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000053060   Create Date : 13 พฤษภาคม 2557     2 comment Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 21:41:47 น.     Counter : 4570 Pageviews.   Share Tweet