โจรใต้แค้น ดักซุ่มยิงสายข่าว หลังแจ้งเบาะแสให้บุกถล่ม “เปเล่ดำ”ที่ อ.รือเสาะ นราธิวาส - เกิดเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงสายข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ขณะขับรถกลับกรีดยางพารา หลังเป็นผู้แจ้งข่าวให้เจ้าหน้าที่เข้าบุกถล่ม “เปเล่ดำ” พร้อมพวกเมื่อวานนี้        เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (6 ต.ค.) ร.ต.ท.วันชัย รักษ์บุญเมือง พนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตภายในสวนยางพาราบ้านกาโด๊ะ หมู่ 4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ ร.ต.ท.รัฐวิทย์ วันเพ็ญศรี รอง หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส ร.ต.ต.จรูญ เมฆเรือง รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.ภ.จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นคริสตัล สีแดง ทะเบียน จ-9995 ปัตตานี ล้มตะแคงอยู่ และพบศพนายโมฮำหมัดริตาอูเด่น ตะระซี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ 4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสายข่าวทหาร ฉก.นราธิวาส 30 และตำรวจ สภ.รือเสาะ นอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนอา.ก้า.ที่ศีรษะ และหน้าท้อง รวม 2 นัด ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนอา.ก้า.จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน        จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักตามลำพัง เพื่อไปกรีดยางพาราในสวน แล้วเสร็จได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่ดักซุ่มอยู่ข้างทางใช้อาวุธปืนสงคราม อา.ก้า. ยิงใส่ผู้ตายจำนวน 2 นัด จนเสียชีวิตคาที่แล้วหลบหนีไป        ด้าน พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นฝีมือสมุนของนายอุสมาน เด็งสาแม แกนนำ RKK ระดับ ผบ.ร้อยที่ 3 และนายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรือ เปเล่ดำ แกนนำระดับปฏิบัติการ ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญพร้อมลูกน้องรวม 4 ศพ เมื่อวานนี้ หลังเจ้าหน้าที่นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่หมู่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพราะผู้ตายเป็นผู้แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นดังกล่าวจนจับตาย 4 โจรใต้ ทั้งนี้ผู้ตายเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยตามหมาย พรก.ฉุกเฉิน แต่ต่อมาได้ออกมาแสดงตัว และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แจ้งเบาะแสต่างๆ เกี่ยวกับกลุ่มคนร้าย จนกระทั่งเจอจุดจบในครั้งนี้ //www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000125526   Create Date : 06 ตุลาคม 2556     0 comment Last Update : 6 ตุลาคม 2556 17:50:07 น.     Counter : 1355 Pageviews.   Share Tweet

กทม.ฝั่งตะวันออกเสี่ยงน้ำท่วม เร่งเตรียมระบบป้องกัน ผอ.สำนักการระบายน้ำ เผยระวังกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกท่วม เหตุแม่น้ำป่าสักฯ ทะลักเข้าพื้นที่ เร่งประสานงานผันน้ำหวันประชาชนเดือดร้อน นายอดิศักดิ์ ขันตี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ วันนี้(5 ต.ค.)นายอดิศักดิ์ ขันตี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำเหนือที่จ.ปราจีนบุรีและนครนายก ซึ่งได้รับรายงานว่าล่าสุดปริมาณน้ำแม่น้ำป่าสักชลสิทธิ์ที่เขื่อนพระราม 6 วัดได้ 759 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)ต่อวินาที เพิ่มสูงขึ้นจากวันที่ 4 ตุลาคมที่มีปริมาณ 655 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบต่อประชนที่อาศัยในพื้นที่กทม.ฝั่งตะวันออก เนื่องจากน้ำจากเขื่อนพระราม 6 ส่วนหนึ่งจะระบายออกแม่น้ำเจ้าพระยาและส่วนหนึ่งจะระบายไปยังคลองระพีพัฒน์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเข้าสู่กทม.ผ่านพื้นที่จะวันออกไปออกที่คลองแสนแสบ อย่างไรก็ตามกทม.ได้เตรียมระบบป้องกันน้ำท่วมไว้แล้ว ทั้งการพร่องน้ำในคลองสายหลัก การติดตั้งเครื่องสูบน้ำและกำลังเจ้าหน้าที่ และได้ประสานกรมชลประทานให้ช่วยผันน้ำออกไปทางคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตเพื่อระบายออกสู่ทะเล และผันไปทางแม่น้ำบางปะกง เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ในวันนี้ กทม.จะมีฝนร้อยละ 90 ของพื้นที่ โดยคาดว่าฝนจะตกในช่วงเวลากลางคืน และอาจมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ แต่ปริมาณฝนจะไม่สูงมากนัก เนื่องจากหย่อมความกดอากาศเริ่มเคลื่อนตัวลงสู่ทางใต้ของประเทศ ขณะที่ปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาวัดได้ 2,300 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งอยู่ในระดับปกติ ดังนั้นน้ำฝนและน้ำเหนือทางแม่น้ำเจ้าพระยาจึงยังไม่น่าเป็นห่วง //www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000125317   Create Date : 05 ตุลาคม 2556     0 comment Last Update : 5 ตุลาคม 2556 18:29:35 น.     Counter : 1532 Pageviews.   Share Tweet

อุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุก 5 ปี “นพวรรณ” โพสต์ข้อความหมิ่นเบื้องสูง    วันนี้ (2 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำที่ 1257/52 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.นพวรรณ ตั้งอุดมสุข ในความผิดต่อพระมหากษัตริย์ ต่อพระราชินี ต่อรัชทายาท หรือต่อผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550        จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2551 จำเลยได้พิมพ์ข้อความอันเป็นการดูหมิ่นเบื้องสูง แล้วนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาไท (www.prachatai.com) ให้ประชาชนทั่วไปที่ใช้บริการเว็บไซต์ดังกล่าวได้อ่าน ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่เบื้องสูงได้ ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า พยานหลักฐานที่เป็นไอพีแอดเดรส และเบอร์โทรศัพท์ สำหรับใช้ต่ออินเทอร์เน็ต ไม่อาจชี้ชัดได้ว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ต่อมาอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลย        ซึ่งศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยโพสต์ข้อความดังกล่าวจริงหรือไม่ เห็นว่าแม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว แต่โจทก์ก็มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือ ไอซีที และ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ หรือ ปอท.เบิกความยืนยันว่า จากการตรวจสอบไอพีแอดเดรสของผู้ที่โพสต์ข้อความบนเว็บไซต์ประชาไทและตรวจสอบกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต พบว่าไอพีแอดเดรส ตรงกับ เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กของจำเลย นอกจากนี้ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของจำเลย พบว่า วันและเวลา ตรงกับการกระทำผิดในคดีนี้ ซึ่งผู้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะต้องมีรหัสผ่าน และใช้หมายเลขโทรศัพท์ ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่าข้อมูลการใช้อินเตอร์เน็ตดังกล่าวตรงกับจำเลย ที่สมัครสมาชิกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 และได้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตเรื่อยมา        อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบผู้ใช้งานในวันและเวลาขณะเกิดเหตุพบว่า มีผู้ใช้งานเพียงคนเดียว ซึ่งไอพีแอดเดรส ของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะไม่ซ้ำกันและมีเพียงไอพีแอดเดรสเดียวเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆได้        ไอพีแอดเดรส จึงเป็นพยานหลักฐานสำคัญ ที่ทำให้ทราบ ชื่อผู้ใช้ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งตรงกับข้อมูลของจำเลย ทั้งนี้แม้ว่าข้อความที่โพสต์ลงบนเว็บไซต์ประชาไท จะโดนลบไปแล้ว แต่ข้อความที่โพสต์ดังกล่าวยังถูกเก็บอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต จำเลยจึงไม่อาจปฏิเสธได้ ซึ่งพยานโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ตรงไปตรงมา ไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าจะกลั่นแกล้งจำเลย อีกทั้งความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและความระมัดระวังในการตรวจสอบ จนทราบว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวจึงจะดำเนินคดีตามกฎหมาย พยานหลักฐานจึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความหมิ่นเบื้องสูงจริง        ส่วนที่จำเลยอ้างว่าถูกบุคคลอื่นปลอมแปลงไอพีแอดเดรสนั้นเห็นว่า พยานโจทก์เบิกความยืนยันว่า การปลอมแปลงไอพีแอดเดรส และการเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ โดยใช้ไอพีแอดเดรสของจำเลยทำได้ยาก เพราะ ไอพีแอดเดรสของเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องไม่สามารถปลอมแปลงได้ และในการโพสต์ข้อความจำเป็นต้องใช้ชื่อและรหัสผ่านด้วย ซึ่งหากรหัสผ่านไม่ตรงกับข้อมูลของจำเลย ก็ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้พยานหลักฐานจึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวด้วยตนเอง เป็นการกระทำผิดตามฟ้อง อีกทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ระบุว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพรักของประชาชน และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยยังบัญญัติให้ปวงชนชาวไทยต้องมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ดำรงสืบไป ผู้ใดจะมาล่วงละเมิดไม่ได้ การกระทำของจำเลยเป็นการใส่ความ ทำให้สถาบันเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เห็นควรให้ลงโทษจำเลยสถานหนักเพื่อไม่ให้บุคคลอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย        พิพากษากลับเป็นว่าจำเลยกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา14 ซึ่งความผิดเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษในความผิด ตามมาตรา 112 ซึ่งเป็นบทลงโทษหนักสุด พิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 5 ปี และให้ยึดเอกสารข้อความการกระทำผิด //www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000123751   Create Date : 02 ตุลาคม 2556     0 comment Last Update : 2 ตุลาคม 2556 17:22:10 น.     Counter : 1983 Pageviews.   Share Tweet

ปราจีนฯยังวิกฤต น้ำทะลักเข้าเทศบาลตัวเมือง-รพ.อภัยภูเบศร เฉลี่ย 40-50 ซม. บรรยากาศน้ำท่วม จ.ปราจีนบุรี โดยทั่วไปที่บริเวณในเขตเทศบาลตัวเมือง และฝั่งโรงพยาบาลอภัยภูเบศร ยังมีน้ำท่วมสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร ทำให้บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ และตามร้านค้าชาวบ้านได้มีการเตรียมก่ออิฐ และนำกระสอบทรายมาเป็นคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำฝนที่มีแนวโน้มที่จะตกลงมาอีก        วันนี้ (30 ก.ย.) สถานการณ์น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี เขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ยังวิกฤต ระดับน้ำล้นตลิ่ง 40 เซนติเมตร ส่งผลให้พื้นที่ริมถนนถูกน้ำท่วม 20 เซนติเมตร ขณะเดียวกัน น้ำยังผุดขึ้นตามท่ออย่างต่อเนื่อง ทางเทศบาลจึงนำหินคลุกวางกั้น เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีที่จะไหลเข้ายังเทศบาลเมืองอีกครั้ง        ส่วนที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำปราจีนบุรี น้ำได้ล้นคันกั้นน้ำท่วมถนนหน้าโรงพยาบาล 10-20 เซนติเมตรแล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่น้ำท่วมถนน ด้าน นพ.เอนก พึ่งผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร รู้สึกกังวลว่าจะมีฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุหวู่ติ๊บ ที่จะทำให้แม่น้ำปราจีนบุรีเพิ่มสูงขึ้นอีก //www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000123117   Create Date : 30 กันยายน 2556     0 comment Last Update : 30 กันยายน 2556 21:20:03 น.     Counter : 2158 Pageviews.   Share Tweet

ปิดหูปิดตาประชาชน! ช่อง 9 ระงับออกอากาศคนค้นฅน ตอน "ศศิน เฉลิมลาภรณรงค์ต้านเขื่อนแม่วงก์" ASTVผู้จัดการ – การเมืองแทรกช่อง 9 สั่งแบน รายการคนค้นฅนตอน ตอน ศศิน เฉลิมลาภ ‘388 กิโลเมตร จากป่าสู่เมือง’ ทั้งที่ประชาสัมพันธ์ก่อนหน้าแล้วว่าออกอากาศแน่นอน ชาวเน็ตด่ายับปิดหูปิดตาประชาชน สื่อหลักพึ่งไม่ได้ ชี้รัฐกำลังสาดน้ำมันใส่กองไฟ        วันนี้ (28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการคนค้นฅนซึ่งออกอากาศเป็นประจำทุกวันเสาร์ในเวลา 14.05-15.00น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง 9) โดยสัปดาห์นี้มีการประชาสัมพันธ์ก่อนหน้าว่าจะออกอากาศในตอน “ศศิน เฉลิมลาภ 388 KM จากแม่วงก์สู่ กทม.”  สำหรับเนื้อหารายการที่มีการประชาสัมพันธ์กันทั้งทางโทรทัศน์ เว็บไซต์ทีวีบูรพา ( //www.tvburabha.com) และเว็บไซต์ยูทิวบ์ ระบุว่า “คนค้นฅน ตอน ศศิน เฉลิมลาภ ‘388 กิโลเมตร จากป่าสู่เมือง’ ...13 วัน กับระยะทาง 388 กิโลเมตร ก้าวแรกจากป่าสู่ก้าวสุดท้ายใจกลางเมืองหลวง ชีวิต และ จิตใจของเขาจะเป็นอย่างไร ตลอดระยะที่ก้าวเดินเขาได้ค้นพบกับสิ่งใดบ้าง เขาได้เดินสู่จุดหมายที่แท้จริงหรือไม่ ติดตามได้ในรายการคนค้นฅน ตอน ศศิน เฉลิมลาภ ‘388 กิโลเมตร จากป่าสู่เมือง’ ในวันเสาร์ ที่ 28 กันยายน 2556 เวลา 14.05น.”        ทั้งนี้ ในช่วงเที่ยงวันนี้ได้มีข่าวสารแพร่กระจายทางโซเชียลมีเดียออกมาอย่างต่อเนื่องว่า รายการคนค้นฅนวันนี้ถูกระงับออกอากาศ        อย่างเช่นผู้ใช้เฟซบุ๊กนามพงศา ชูแนม ได้โพสต์ข้อความในเพจตัวเองเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมาระบุว่า “คน ค้น คน ถูกแบนวันนี้ ในงานคนค้นคน อวอร์ด ที่นครฯ วันนี้ ทราบข่าวสลดสำหรับคอรายการพี่เช็คแจ้งว่า ตอน ศศินทร์ เรื่องแม่วงก์ ถูกแบนไม่ให้ออกอากาศ รัฐนี้เป็นรัฐแห่ง อวิชชา เพราะไม่ยอมให้คนในชาติได้รับความจริงแท้ จึงอนุมานได้ไม่ยากว่าสิ่งดีๆ โดนปิดมากมายนัก ขณะเดียวกัน แปลตรงๆ ว่าสิ่งที่รัฐนำเสนอย่อมปลอมปนด้วยสิ่งมอมเมาเขลาโง่”        เฟซบุ๊ก Smith Tungkasmit ระบุว่า “ข่าวล่าสุดทราบว่า...คนค้นฅนวันนี้ถูกระงับการออกอากาศ...ผมประเมินว่านี่กลับเป็นการสาดน้ำมันใส่กองไฟ...สื่อภาคประชาชนเท่านั้นที่ประชาชนด้วยกันจะพึ่งได้ยามนี้!”        ซึ่งเมื่อถึงเวลา 14.05น. เวลาออกอากาศ ผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ ก็ตรวจสอบพบว่า รายการคนค้นฅนตอนที่ออกอากาศในวันนี้ (28 ก.ย.) กลับเป็นการรีรันรายการตอน “ดาบกานต์ สังเวียนเปลี่ยนชีวิต” ซึ่งเป็นเรื่องราวของดาบตำรวจผู้ก่อตั้ง “ค่ายมวยศิษย์ดาบกานต์” โดยรายการตอนนี้เป็นรายการที่ออกอากาศไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา        ภาพจากเฟซบุ๊กมูลนิธิสืบนาคะเสถียร (Seub Nakhasathien Foundation)        ช่วง 14.30น. ที่ผ่านมา แฟนเพจเฟซบุ๊กของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร (Seub Nakhasathien Foundation) ซึ่งนายศศิน เป็นเลขาธิการมูลนิธิฯ อยู่นั้นได้โพสต์ข้อความระบุว่า ยืนยันถึงการถูกระงับออกอากาศรายการตอนดังกล่าว พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทางบริษัททีวีบูรพาถูกแจ้งระงับออกอากาศเมื่อคืนที่ผ่านมา “รายการคนค้นฅน ตอน ศศิน เฉลิมลาภ ‘388 กิโลเมตร จากป่าสู่เมือง’ ถูกระงับการออกอากาศนะครับ ขออภัยทุกท่าน ณ ที่นี้ด้วยครับ”        ขณะที่เมื่อมีผู้ชมเข้ามาสอบถามว่ารายการตอนดังกล่าวจะสามารถนำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทิวบ์แทนได้หรือไม่ ผู้ดูแลแฟนเพจมูลนิธิฯ ได้ตอบว่า “ทางเรากับทีมงานของทีวีบูรพากำลังปรึกษาอยู่ว่าจะทำอย่างไรกันดีครับ คิดว่าอยากให้มีกระแสเรียกร้องจากประชาชนว่าต้องการชมรายการ เพื่อสามารถออกอากาศได้ตามปกติมากกว่าครับ” พร้อมกับกล่าวด้วยว่าทางทีมงานและอาสาสมัครสื่อออนไลน์กำลังประชุมเพื่อหาทางออกอยู่ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร “ทางทีวีบูรพาถูกแจ้งระงับออกอากาศตั้งแต่เมื่อคืนครับ แต่ทางเราต้องการความชัวร์ก่อนก็เลยไม่ได้ทำการประกาศออกไป ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ครับ ตอนนี้ทางทีมงานและอาสาสมัครสื่อสารทางออนไลน์กำลังประชุมอยู่ที่มูลนิธิสืบฯ และกำลังดูเทปต้นฉบับของรายการเพื่อปรึกษาหาทางออกครับว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป        ภาพจากเฟซบุ๊กมูลนิธิสืบนาคะเสถียร (Seub Nakhasathien Foundation) //www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000122331   Create Date : 28 กันยายน 2556     0 comment Last Update : 28 กันยายน 2556 16:21:23 น.     Counter : 1980 Pageviews.   Share Tweet