เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

หลักสี่เดือด! ชายชุดดำซุ่มยิง กปปส.เจ็บ



โผล่แล้ว! ชายชุดดำซุ่มยิงผู้ชุมนุม กปปส.ที่หลักสี่ เบื้องต้นพบคนเจ็บ 1 ราย นอกจากนี้มีเสียงระเบิด เสียงปืนยังดังต่อเนื่อง แกนนำสั่งผู้ชุมนุมหนีตายเข้าไปหลบในสำนักงานเขตหลักสี่ หลังถูกโกตี๋นำอันธพาลบุกทำร้าย

       วันนี้ (1 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงหัวรุนแรง จ.ปทุมธานี ได้นำมวลชนพร้อมทั้งไม้หน้าสามเคลื่อนมาประชิดที่ ถ.แจ้งวัฒนะ ใกล้สำนักงานเขตหลักสี่ และได้อ้างว่าทหารปฏิวัติ ขอให้ชาวบ้านสลายตัว ใครอยากติดตามความเคลื่อนไหวแกนนำเสื้อแดงให้ไปรวมตัวกันที่วัดหลักสี่ ขณะเดียวกัน ชาวบ้านก็ได้บอกข่าวต่อกัน และพยายามสลายตัว

       ระหว่างนั้นได้มีรถโตโยต้าคัมรี่ สีบรอนซ์เงิน ถอยออกจาก ถ.แจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าบางเขน ถูกชาวบ้านลุกฮือเอาไม้ตีจนกระจกรถแตก และรถคันดังกล่าวพยายามกลับรถเพื่อออกไปจากบริเวณดังกล่าว แต่ไม่สามารถไปได้ เพราะรถแท็กซี่ที่สกัดอยู่ ขณะที่ชุลมุนอยู่นั้นได้มีเสียงปืนยิงขึ้น 1 นัด และมีการโยนระเบิดปิงปองจากสะพานข้ามแยกหลักสี่ 2 ลูก จากนั้นทหารได้วิ่งไปตวจสอบ และดูคนขับรถคันดังกล่าวเป็นอย่างไรบ้าง และตะโกนให้ทุกคนหลบไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย โดยที่ชาวบ้านก็เริ่มแตกฮือวิ่งแยกย้ายไปคนละทิศทาง

       ต่อมาเมื่อเวลา 16.20 น.ได้เกิดเสียงปืน และประทัดยักษ์ ดังขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้ชาวบ้านและวินมอเตอร์ไซค์ ที่ยืนมุงดูบริเวณสะพานข้ามคลองเปรมประชากร ถ.แจ้งวัฒนะ รีบวิ่งหลบเข้าไปในซอยแจ้งวัฒนะ 7 ขณะที่ผู้ชุมนุม กปปส.ที่มาสมทบจากเวทีอื่น และกลุ่มคปท. จะวิ่งออกไปยังจุดที่เกิดเสียงดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ห้ามปรามไม่ให้ออกจากพื้่นที่

       จากนั้นเมื่อเวลา 16.35 น. เวที กปปส.ได้นำรถขยายเสียงเคลื่อนมายัง ถ.แจ้งวัฒนะ ซอย 10 ประกาศให้มวลชนหลบเข้าไปใน ซ.แจ้งวัฒนะ 10 พร้อมระบุว่า หลวงปู่พุทธะอิสระห้ามเด็ดขาดไม่ให้เคลื่อนตัวออกไปปะทะ โดยการ์ด กปปส.ประกาศให้ผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณ ถ.แจ้งวัฒนะ กลับเข้าไปในสำนักงานเขตหลักสี่ เนื่องจากได้รับรายงานว่าคนเสื้อแดงได้นำมวลชนอ้อมมาด้านหลังวัดหลักสี่ เพื่อตีโอบเข้าด้านหลัง กระทั่งเวลา 16.45 น.ได้มีเสียงปืนดังรัวขึ้่นยาวต่อเนื่องกันหลายครั้งที่บริเวณใต้สะพานข้ามแยกหลักสี่ เบื้องต้นมีชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.วิภาราม แล้ว

       นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุมสามารถถ่ายภาพชายชุดดำที่ยิงปืนใส่ผู้ชุมนุม กปปส.ได้รับบาดเจ็บไว้ได้อีกด้วย

       ล่าสุดเมื่อเวลา 18.15 เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าเจรจาและกันทั้งสองฝ่ายออกจากกันทำให้เหตุการณ์สงบลงชั่วคราว

       *ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Namsifa Nam


//manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000012506




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2557 19:56:33 น.   
Counter : 1798 Pageviews.  

ศาลแพ่งไม่คุ้มครองชั่วคราว เพิกถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน



ศาลแพ่งมีคำสั่งไม่คุ้มครองชั่วคราว “ถาวร เสนเนียม” แกนนำ กปปส.ร้องขอห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุม ชี้ยังไม่มีเหตุสลายม็อบ จึงยังไม่จำเป็นต้องคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา

       วันนี้ (31 ม.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งในคดีที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ,ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะรองผอ.ศรส. จำเลยที่ 1-3 ในข้อหาละเมิด เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และห้ามใช้กำลังสลายการชุมนุม พร้อมขอศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว

       เมื่อถึงเวลานัดนายถาวร พร้อมด้วยทนายความมาศาล ส่วนจำเลยที่ 2 ได้มอบอำนาจให้ตัวแทนยื่นคำร้องคัดค้านอำนาจศาลแพ่งว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจศาลปกครอง ศาลแพ่งไม่มีอำนาจพิจารณาคดีนี้ ซึ่งศาลได้รับไว้พิจารณาและนัดฟังคำสั่งในวันที่ 6 ก.พ.นี้

       โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำร้องโจทก์ที่อ้างเหตุในการขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยขอให้ศาลมีคำสั่งอ้างมิให้มีการดำเนินการตามประกาศหรือข้อกำหนด 12 ข้อ ประกอบด้วย 1. ห้ามจำเลยทั้งสาม ใช้หรือสั่งเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ใช้กำลังหรืออาวุธเข้าสลายการชุมนุมของโจทก์และประชาชน 2. ห้ามจำเลยทั้งสามมีคำสั่งยึดหรืออายัดสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์หรือวัตถุอื่นใดที่ใช้ในการชุมนุมของโจทก์ 3. ห้ามจำเลยทั้งสามออกคำสั่งตรวจค้น รื้อถอน หรือทำลายอาคารสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งกีดขวางของโจทก์ 4. ห้ามจำเลยทั้งสามสั่งการให้การซื้อขาย ใช้ หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้า เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภคบริโภคฯ ที่อาจใช้ในการชุมนุมของโจทก์ต้องรายงานหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน 5.ห้ามจำเลยทั้งสาม สั่งการห้ามกระทำการที่เป็นการปิดการจราจร เส้นทางคมนาคม หรือกระทำการที่ไม่อาจใช้เส้นทางได้ตามปกติ ในทุกเขตพื้นที่ ที่โจทก์ใช้ในการชุมนุม 6.ห้ามจำเลยทั้งสามประกาศ กำหนดพื้นที่ที่ห้ามการชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป 7.ห้ามจำเลยทั้งสามสั่งการห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะหรือกำหนดเงื่อนไขในการใช้เส้นทางคมนาคม ที่ใช้ในการชุมนุม 8.ห้ามสั่งโจทก์ใช้อาคารหรือเข้าไป หรืออยู่ในสถานที่ใด หรือห้ามเข้าไปในพื้นที่ใดๆ 9.ห้ามจำเลยทั้งสามสั่งให้โจทก์และประชาชนที่ร่วมกันชุมนุมออกจากพื้นที่การชุมนุม หรือออกคำสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่การชุมนุม 10. ห้ามจำเลยทั้งสามใช้หรือสั่งเจ้าหน้าที่ให้ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ของโจทก์ 11.อนุญาตให้โจทก์และประชาชนทั่วไปใช้หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศกำหนดได้ และ 12. อนุญาตให้โจทก์ใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะ หรือจอดยานพาหนะในพื้นที่ที่มีการประกาศกำหนดได้

       เห็นว่าคำขอของโจทก์ตามข้อ 1,3 และ 5-12 นั้นพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นกฎหมายที่มีเจตนารมณ์ให้อำนาจฝ่ายบริหารมีอำนาจพิเศษบางประการสำหรับบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินรวมถึงการออกประกาศและข้อกำหนดต่างๆ เท่าที่มีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลกระทำการหรือร่วมมือกระทำการใดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง หรือ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรงนั้น แต่การใช้อำนาจของฝ่ายบริหารไม่ได้ตัดสิทธิ์ผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องความเสียหายจากทางราชการ หากการใช้อำนาจของรัฐเป็นการใช้อำนาจโดยไม่สุจริต เลือกปฏิบัติและเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีจำเป็น ตามมาตรา 17 ของพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีกทั้งการดำเนินตามกฎหมายฉบับนี้จะต้องไม่กระทบสิทธิและเสรีภาพในการชุมนุม โดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 แม้โจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสามออกประกาศและมีข้อกำหนดรวมถึงมีการประชุมวางแผนจัดเตรียมกำลัง เจ้าพนักงานตำรวจชุดกองร้อยปราบจลาจล จำนวน 16,000 นาย เพื่อใช้ในการสลายการชุมนุมของโจทก์และประชาชนก็ตาม แต่เมื่อยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงอย่างใดอย่างหนึ่งว่า ขณะที่โจทก์กับพวกได้ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามที่รัฐธรรมนูญได้รับรองสิทธิ์จำเลยทั้งสาม ได้สั่งการหรือดำเนินการใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าจะมีการใช้กำลังเข้าสลายโจทก์และประชาชนที่มาร่วมชุมนุม ข้อเท็จจริงที่ได้ฟังจากการไต่สวนจึงยังไม่มีเหตุเพียงพอ ที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราว ก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์มาใช้

       ส่วนคำขอของโจทก์ตามข้อ 2 และ 4 นั้น เมื่อได้ฟังจากการไต่สวน โจทก์และประชาชนใช้สิทธิ์และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมือง โดยมีเหตุผลมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ที่ได้รับความคุ้มครอง การที่จะออกคำสั่งหรือกระทำการใดๆ ที่จะกระทบหรือขัดขวางการชุมนุมโดยสงบแล้ว ย่อมเป็นการกระทบต่อสิทธิของโจทก์ การออกประกาศตามมาตรา 11 ของพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในส่วนที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีคำสั่งยึดหรืออายัดสินค้า เครื่องอุปโภค บริโภค เคมีภัณฑ์หรือวัตถุอื่นใด ในกรณีที่มีเหตุสงสัยว่าจะใช้สิ่งนั้น เพื่อสนับสนุนการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน และสั่งการให้ซื้อ ขาย ใช้ หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้า เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการก่อความไม่สงบหรือก่อการร้าย ต้องรายงานหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ซึ่งมีผลบังคับรวมถึงโจทก์และผู้ชุมนุมนั้นด้วย ส่วนดังกล่าวจึงกระทบต่อการดำรงชีวิตของโจทก์และประชาชนโดยปกติสุข ซึ่งโจทก์มีนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯ สมช. เบิกความว่า การออกประกาศของจำเลยทั้งสาม เพื่อที่จะจำกัดหรือควบคุม โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ชุมนุมเป็นหลัก แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการของจำเลยทั้งสาม เป็นการมุ่งเน้นที่จะจำกัด หรือควบคุมการใช้สิทธิของโจทก์และผู้ชุมนุมตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติรับรองไว้ ฉะนั้นจึงมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยทั้งสาม ดำเนินการดังกล่าว ตามที่ปรากฏในประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 11 จนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ส่วนประกาศและข้อกำหนดอื่นๆ ให้จำเลยทั้งสามกระทำการไปโดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกินสมควรแก่เหตุ หรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งต้องปฏิบัติตามประกาศและข้อกำหนดนั้น

       นายถาวร กล่าวภายหลังฟังคำสั่งศาลแพ่งว่า จากที่ตนได้ยื่นให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจำนวน 12 ข้อ ศาลได้อนุญาตจำนวน 2 ข้อ คือ ห้ามไม่ให้จำเลยทั้ง 3 สั่งยึดหรืออายัด สินค้า เครื่องอุปโภค บริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใดเพื่อใช้ในการชุมนุม และห้ามจำเลยทั้งสาม สั่งการให้การซื้อ ขาย ใช้วัตถุดังกล่าว ต้องรายงานหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมากกว่าคำสั่งคุ้มครอง 2 ข้อที่กล่าวมานั้น คือศาลได้มีคำสั่งให้จำเลยทั้งสาม กระทำการไปโดยสุจริต ไม่เลือกปฎิบัติ ไม่สมควรแก่เหตุ หรือกระทำการไม่เกินกว่าเหตุจำเป็น ทั้งนี้ศาลยังได้มีการกล่าวถึงคำวินิจฉัยครั้งนี้่ว่า การชุมนุมของมวลมหาประชาชนครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ เมื่อเป็นเช่นนี้ศาลจึงรับคำร้องไว้พิจารณา รัฐบาลเองก็ควรที่จะรับฟังคำสั่งศาล ไม่เลือกปฎิบัติ ส่วนกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศรส.ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาล โดยระบุว่า ศาลแพ่งไม่มีอำนาจที่จะรับคำร้องไว้รับพิจารณา ซึ่งตนมองว่าเป็นการถ่วงเวลา เพราะศาลแพ่งเองก็มั่นใจอยู่แล้วว่ามีอำนาจที่จะพิจารณา ทั้งนี้ตนพอใจในคำสั่งศาล ซึ่งจะไม่มีการยื่นอุธรณ์คำสั่งดังกล่าว

       “ให้จำเลยทั้งสาม ฟังคำสั่งศาลที่ต้องกระทำโดยสุจริต ถ้ากระทำการโดยไม่สุจริตถือว่าทำผิดคำสั่งศาล และต้องไม่เลือกปฎิบัติ เช่น คนเสื้อแดง ทางรัฐบาลก็ต้องนำพ.ร.ก.ฉุกเฉินไปใช้เหมือนกันด้วย ทั้งนี้ถ้ารัฐบาลสั่งเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมก็เท่ากับกระทำการโดยไม่สุจริต ถือว่าผิดคำสั่งศาล”


//manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000012167




 

Create Date : 31 มกราคม 2557   
Last Update : 31 มกราคม 2557 21:15:12 น.   
Counter : 1239 Pageviews.  

“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ

“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ
“ทัวร์ทั่วกรุงกับลุงกำนัน” จากอ่อนนุช ถึงปทุมวัน เวทีเชิดสิงโตต้อนรับชื่นมื่น ก่อนสวมเสื้อแดงตรุษจีนขึ้นเวทีอโศกต่อ

       วันนี้ (30 ม.ค.) ที่เวทีปทุมวัน เมื่อเวลา 16.30 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.พร้อมด้วยมวลชน ได้เดินขบวนมาถึงเวที โดยการเดินขบวนในวันนี้ใช้เวลา 6 ชั่วโมงครึ่ง เริ่มตั้งต้นขบวนที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุช เดินขบวนมาตามถนนสุขุมวิท ผ่านเวทีอโศก และเดินเข้าถนนพระรามที่ 1 ผ่านเวทีราชประสงค์ และปทุมวัน ซึ่งหลังจากที่นายสุเทพ มาถึงเวทีปทุมวัน ได้มีการจัดเชิดสิงโตต้อนรับ จากนั้นนายสุเทพ ได้เดินทางโดยรถยนต์ไปยังเวทีอโศกเพื่อขึ้นปราศรัยต่อไป โดยมีรายงานว่า นายสุเทพ ได้ใส่เสื้อสีแดงลายมังกรทองคู่ขึ้นเวทีด้วย

       อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ที่เวทีปทุมวัน ตลอดช่วงบ่ายการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก บนเวทีปราศรัยมีการแสดงดนตรี และการละเล่นเพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องจากตรงกับเทศกาลตรุษจีน โดยมีทั้งการแสดงเชิดสิงโต มังกร และกระตั้วแทงเสือหน้าเวที สร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชุมนุมอย่างมาก ซึ่งหลายรายได้แจกอั่งเปาให้กับคณะสิงโต และมังกรด้วย

“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ


“สุเทพ” สวมแดงลายมังกรขึ้นเวทีอโศก หลังเดินทัวร์จบที่ปทุมวัน สิงโตแห่ต้อนรับ




//manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000011791




 

Create Date : 30 มกราคม 2557   
Last Update : 30 มกราคม 2557 19:53:50 น.   
Counter : 2156 Pageviews.  

ตร.จอมบิดเบือนอ้าง “ดาบติ” ถูกรุมกระทืบก่อน แต่ไม่รู้ใครยิง



สตช.ยังนั่งแถลงการณ์บิดเบือน ป้ายสีการ์ด กปปส.รุมทำร้ายดาบตำรวจก่อน จนมีเสียงปืนดังขึ้น โดยไม่ยืนยันว่าใครเป็นคนยิง แถมยังอ้างความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ พล่ามไปเรื่อยให้ยึดหลักกฎหมายและปฏิบัติตามขั้นตอน

       วันนี้ (29 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก ตร.กล่าวสรุปสถานการณ์การชุมนุมของมวลชนในพื้นที่ และต่างจังหวัด รวมทั้งมีการเน้นย้ำเรื่องการเข้มงวดก่อนเลือกตั้ง

       พล.ต.ต.อนุชา กล่าวว่า มีรายงานสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ในวันที่ 28 ม.ค. ซึ่งยังมีอยู่ 7 เวทีหลัก ได้แก่ สวนลุมพินี, อโศก, ราชประสงค์, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ห้าแยกลาดพร้าว, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และแยกปทุมวัน รวมถึงเวทีเดิม อ่าทิ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ทำเนียบรัฐบาล, แยกผ่านฟ้า อีกทั้งยังมีจุดที่ผู้ชุมนุมเข้าปิดพื้นที่ ได้แก่ สะพานพระราม 8 และกระทรวงพลังงาน ส่วนเวทีคู่ขนานในภูมิภาคมีทั้งหมด 21 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 4 จังหวัด ภาคกลาง 1 จังหวัด ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด และ ภาคใต้ 10 จังหวัด ขณะเดียวกัน มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีความเห็นต่างๆ สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งจัดกิจกรรมจุดเทียนสันติภาพ มี 8 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 3 จังหวัด ภาคกลาง 4 จังหวัด และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด

       สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมในวันนี้ (29 ม.ค.) กลุ่ม กปปส.ลาดพร้าว เดินทางไปยังขนส่ง จ.นนทบุรี มวลชนประมาณ 200 คน ส่วนกลุ่มเกษตรกรชาวนาที่ปิดถนนเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) มี 2 จังหวัด คือ จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์ เรียกร้องขอรับเงินโครงการจำนำข้าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกมาเจรจาชี้แจง จนชาวนาได้รับความพอใจจึงยุติการชุมนุม

       อีกทั้งเหตุชุลมุนเมื่อวันที่ 28 ม.ค.เมื่อเวลา 14.30 น.ที่หน้าสโมสรทหารบก กรณี ด.ต.คงเพชร เพชรกันหา ชุดสืบสวนของ บก.น.2 ได้ปลอมตัวเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อปฏิบัติหน้าที่ถ่ายภาพการชุมนุมบริเวณดังกล่าว ต่อมาการ์ดผู้ชุมนุมได้ขอค้นตัว และได้มีการต่อต้านไม่ยอมให้ค้นตัว จึงทำให้เกิดการทำร้ายร่างกายกันขึ้น และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วน ด.ต.คงเพชร ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ปาก สำหรับในส่วนของผู้ชุมนุม กปปส.ได้มีการประสานไปแล้ว และยังไม่ได้มีการสอบปากคำ รวมถึงหลักฐานของกลางซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับ

       ต่อมาเวลาประมาณ 03.45 น.ของวันนี้ ที่บริเวณสวนจตุจักรได้เกิดเหตุเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น ซึ่งเป็นพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ลาดพร้าว พบว่าในบริเวณอาคารระบายอากาศของรถไฟฟ้าใต้ดินภายในสวนจตุจักร ใกล้กับจุดพักแรมของผู้ชุมนุม โดยมีผู้ชุมนุม 1 ราย โดนสะเก็ดระเบิด ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสถานที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้วสำหรับผลการตั้งจุดตรวจรักษาความมั่นคง มีของกลางที่สามารถตรวจยึดจับกุมได้ เช่น อาวุธปืน 3 กระบอก กระสุนปืน 41 นัด หนังสติ๊ก 1 อัน ลูกแก้ว 23 ลูก ยาเสพติดพืชกระท่อม 61 ใบ อาวุธมีด 5 เล่ม

       ด้าน พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร กล่าวว่า ทาง ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานของตำรวจในช่วงเวลานี้ โดยให้ยึดหลักกฏหมาย, ปฏิบัติตามขั้นตอน และมีความชอบธรรมในการปฏิบัติ ซึ่งในวันเลือกตั้งได้เน้นย้ำให้รักษาความปลอดภัยพื้นที่ที่ลงคะแนน, รักษาความปลอดภัยสถานที่นับคะแนน, ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุกรณีมวลชนเผชิญหน้ากัน และสำหรับ ผอ.ศรส.ได้มีการประสาน กกต.เขต ในการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน่วยการเลือกตั้ง, จัดชุดเคลื่อนที่เร็วในระดับสถานีตำรวจ ระดับกองบังคับการ โดยวันศุกร์นี้จะมีการประชุมเตรียมความพร้อมในการดูแลความเรียบร้อยในการเลือกตั้งทั่วประเทศ ก่อนวันเลือกตั้งให้ทุกพื้นที่ตั้งจุดตรวจคัดกรองอาวุธ และมีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง




 

Create Date : 29 มกราคม 2557   
Last Update : 29 มกราคม 2557 21:23:45 น.   
Counter : 1501 Pageviews.  

ผกก.อ้าง ด.ต.ยิงมวลชนแค่ป้องกันตัว



ดาบตำรวจมือลั่นกระสุนใส่ผู้ชุมนุมอาการปลอดภัย แค่ซี่โครงหัก กะโหลกร้าว ด้าน ผกก.นครบาล 2 อ้างลูกน้องยิงเพื่อป้องกันตัว แต่ไม่ได้สั่งให้พกปืนไปหาข่าวในที่ชุมนุม

       วันนี้ (28 ม.ค.) ที่โรงพยาบาลราชวิถี นายแพทย์อุดม เชาวรินทร์ ผู้อํานวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวถึงอาการของ ด.ต.คงเพชร เพชรกังหา ผบ.หมู่สืบสวน บก.น.2 ซึ่งใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ชุมนุม กปปส.ที่บริเวณหน้าสโมสรกองทัพบก หลังจากนั้นถูกการ์ด กปปส.จับตัวได้และรุมทำร้าย เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ผ่านมา ว่า เบื้องต้นหลังจากถูกส่งตัวเข้ามาพบว่า ด.ต.คงเพชร ซี่โครงซี่ที่ 8 และ 9 หัก เมื่อเข้าเครื่องสแกนพบว่ามีอาการกะโหลกร้าว นอกจากนี้ตามร่างกายยังมีร่องรอยฟกชํ้า ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และที่มีข่าวว่าจะส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ตํารวจนั้น ยังไม่ได้รับการประสานมาเพื่อขอย้าย รพ.แต่อย่างใด

       ด้าน พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้กำกับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 กล่าวว่า ด.ต.คงเพชร เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาจริง โดยในช่วงเช้าได้สั่งการให้แต่งกายนอกเครื่องแบบ เพื่อลงพื้นที่หาข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเคลื่อนพลมาที่หน้าสโมสรกองทัพบก และให้ตรวจสอบหาข่าวเพื่อประเมินในการดูแลความปลอดภัยเท่านั้น แต่ก็มาถูกทำร้าย

       พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า มีรายงานว่า ด.ต.คงเพชร ถูกผู้ชุมนุมค้นตัว และมีการตะโกนว่าเป็นตำรวจ ทำให้ ด.ต.คงเพชร เห็นว่า จะไม่ปลอดภัย จึงวิ่งหนี แต่ก็ถูกผู้ชุมนุมไล่ตาม จึงได้ชักปืนยิงเพื่อป้องกันตัว และจับกุมตัวพร้อมเข้าทำร้ายทันที ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้สั่งให้ ด.ต.คงเพชร พกอาวุธปืนเข้าไปในพื้นที่ด้วย



//manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000010840




 

Create Date : 28 มกราคม 2557   
Last Update : 28 มกราคม 2557 21:07:01 น.   
Counter : 1914 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]