ชม “กระต่ายจันทร์เจ้า” ท้าเสน่ห์ความน่ารักไล่หลัง “เป็ดเหลือง” ศิลปิน ชาวดัท์ช นาย ฟลอเรนทิน ฮอฟแมน ( Florentijn Hofman) กลับมาสร้างความรื่นรมย์แก่ชาวจีนอีกครั้ง คราวนี้มาพร้อมกับผลงาน กระต่ายขาว ที่มีชื่อว่า “กระต่ายจันทร์เจ้า” ขนาด 25 เมตร จัดแสดงที่เถาหยวน ไต้หวัน (ภาพ เอเอฟพี) เอเจนซี-ศิลปิน ชาวดัท์ช นาย ฟลอเรนทิน ฮอฟแมน ( Florentijn Hofman) กลับมาสร้างความรื่นรมย์แก่ชาวจีนอีกครั้ง คราวนี้มาพร้อมกับผลงานขนาดมหึมา คือ กระต่ายขาว ที่มีชื่อว่า “กระต่ายจันทร์เจ้า” ขนาด 25 เมตร นอนแผ่หราบนโรงซ่อมเครื่องบินหลังเก่าในเมืองเถาหยวนของไต้หวัน การแสดงผลงานชิ้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลศิลปะบนผืนดินเถาหยวน (Taoyuan Land Art Festival)        ก่อนหน้า ฮอฟแมน แสดงผลงานศิลปะขนาดมหึมาคือ เป็ดเหลืองพองลม ซึ่งเริ่มจัดแสดงที่ฮ่องกง ต่อมาก็ได้จัดแสดงฯในกรุงปักกิ่ง ผลงาน “เป็ดเหลืองพองลม ประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อปีที่แล้ว(2556) โดยดึงดูดผู้คนหลายล้านคนมาชมความน่ารักใสๆของเป็ดเหลืองร่างยักษ์        ผู้จัดเทศกาลศิลปะในไต้หวัน คาดหวังว่าผู้คนจะคลั่งไคล้ กระต่ายขาว ไม่แพ้เป็ดเหลือง เทศกาลศิลปะบนผืนดินเถาหยวน จัดแสดงระหว่างวันที่ 9 ก.ย.-14 ก.ย. 2557 เป็นการรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ในประเพณีจีนไปด้วย (ภาพ เอพี, เอเอฟพี,รอยเตอร์ส) (ภาพ เอพี) (ภาพ เอพี) (ภาพ รอยเตอร์ส) (ภาพ เอพี) (ภาพ เอเอฟพี) เป็ดเหลืองพองลม ผลงานศิลปะชิ้นก่อนหน้าของศิลปิน ชาวดัท์ช นาย ฟลอเรนทิน ฮอฟแมน ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในฮ่องกและแผ่นดินใหญ่ (ภาพ เอพี )   Create Date : 03 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 3 กันยายน 2557 21:22:39 น.     Counter : 2135 Pageviews.   Share Tweet

บิ๊กช่อง 3 ปลูกบ้านตากอากาศบนป่าภูเรือ กอ.รมน.เลยเตรียมเรียกรับทราบข้อกล่าวหา เลย - กอ.รมน.เลย พร้อมตำรวจรุกปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ป่า 787 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า อ.ภูเรือ เผยเคยตรวจยึดดำเนินคดีมาแล้วตั้งแต่ปี 2547 แต่ไม่เคยสืบสวนถึงเจ้าของที่ดินตัวจริง ซ้ำบางคดีอัยการสั่งไม่ฟ้อง ชี้มีชื่อผู้บริหารช่อง 3 เข้าปลูกสร้างบ้านพักตากอากาศ เตรียมเรียกมาชี้แจง        วันนี้ (3 ก.ย.) กำลังทหารกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยผสมจังหวัดเลย นำโดยนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมายกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย พร้อมด้วยกำลังทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ป่าในเขต อ.ภูเรือ ที่ถูกนายทุนบุกรุกป่ากว่า 700 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ        พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมายกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย กล่าวว่า พื้นที่ป่าสงวนที่ถูกนายทุนบุกรุกและเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดครั้งนี้ ทุกแปลงเคยถูกตรวจยึดและดำเนินคดีมาแล้วเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2547 จำนวน 787 ไร่ มีการก่อสร้างอาคารถาวรเป็นบ้านพักตากอากาศในป่าสงวนแห่งชาติ และอยู่ในเขตลุ่มน้ำชั้น 1A ทั้งยึดของกลางไม้แปรรูป 621 แผ่น จากผลการดำเนินคดี บางคดีถึงที่สุด โดยศาลตัดสินคดีเฉพาะเกี่ยวกับไม้แปรรูป        ส่วนพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเข้าครอบครองไม่มีการกล่าวถึง บางคดีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง และบางคดีงดการสอบสวน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่เป็นเพียงลูกจ้างที่ดูแลพื้นที่เท่านั้น ไร้การสืบสวนขยายผลถึงเจ้าของที่ดินที่แท้จริง ซึ่งผู้บุกรุกครอบครองที่ดินมีทั้งข้าราชการ เอกชน และผู้มีอันจะกินทางสังคม โดยปล่อยให้มีการยึดครองมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี        ทั้งนี้ การยึดคืนพื้นที่ป่าครั้งนี้ทั้งหมด 10 แปลง และมีอยู่ 1 แปลงที่ทราบว่าเป็นบ้านพักของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยอยู่บริเวณบ้านหนองบง หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.ภูเรือ พื้นที่บุกรุก 184 ไร่ บนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปลื่อย ป่าภูขี้เภ้า และป่าภูเรือ ซึ่งเรื่องนี้จะประสานไปยังผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป //www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000101205   Create Date : 03 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 3 กันยายน 2557 21:21:59 น.     Counter : 1463 Pageviews.   Share Tweet

พ่อ-แม่ทำพิธีเชิญวิญญาณ นศ.วิศวะถูกยิงดับ-ไม่ตัดทิ้งปมชู้สาว พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ นายกัมพล กัมพลาศิริ และนางสุรียา กัมพลาศิริ บิดามารดาของผู้เสียชีวิต ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ บิดามารดาทำพิธีเชิญวิญญาณ นศ.วิศวะปี 1 เทคโนกรุงเทพ ที่จุดเกิดเหตุ โดยขอให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาพร้อมอโหสิกรรมให้คนร้าย ด้าน “รองฯ เอก” ลงพื้นที่คุมการสืบสวน พบปมใหม่เชิงชู้สาว เนื่องจากผู้ตายมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว แต่มาคบหญิงหน้าตาดีคนใหม่ เตรียมขยายผลสอบ    จากกรณีนายพชร กัมพลาศิริ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ถูกคนร้ายกระหน่ำยิงระยะเผาขน 6 นัด เสียชีวิตภายในซอยรามคำแหง 107 (ซอยวัดศรีบุญเรือง) หน้าอาคารอัสสกาญจน์ เพลส เลขที่ 231 อาคาร 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา        เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (2 ก.ย.) นายกัมพล กัมพลาศิริ อายุ 60 ปี บิดา นางสุรียา กัมพลาศิริ 59 ปี มารดา และครอบครัวของนายพชรได้นำศพของนายพชรเดินทางมาทำพิธีเชิญวิญญาณ ก่อนนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า อีกทั้งมีประชาชนมามุงดูจำนวนมาก นางสุรียา มารดาของนายพชร กล่าวทั้งน้ำตาว่าตนขออโหสิกรรมให้ทุกคนที่ทำร้ายลูก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมารับผิดตามกฎหมาย ตั้งแต่ลูกเกิดมาก็รักและห่วงเขามาก ตอนนี้ลูกกำลังมีอนาคต กำลังเรียนในสิ่งที่เขารักแต่ก็ต้องมาจากไปเสียก่อน ลูกชายตนก็มีเกเรบ้างตามภาษาวัยรุ่น แต่ไม่เคยทำให้ครอบครัวเดือดร้อน        นายกัมพล บิดาของนายพชรกล่าวว่า ลูกชายได้ถามตนขณะที่พูดคุยกันคืนก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิตว่าเราจะหาความถูกต้องได้จากที่ไหน ตอนนี้พ่ออยากบอกลูกว่า ทุกคนกำลังช่วยหาความถูกต้องให้ลูกอยู่ ที่ผ่านมาลูกก็ได้ทำทุกอย่างในด้านบวก ช่วยเหลือสังคมด้วยการช่วยมูลนิธิสยามร่วมใจ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีเวลา แต่ลูกก็ทำมาตลอด และอยากให้ลูกตนเป็นรายสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ให้ร่างของลูกตนเป็นกรณีศึกษาก็ได้ ขอให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดให้ได้ เพราะถ้าปล่อยปัญหาไว้แบบนี้ก็จะมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด        ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.กก.สส.บก.น.4 เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ        พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาจากซอยรามคำแหง 113 มายังซอยรามคำแหง 107 เพื่อเดินทางมาขึ้นเรือโดยสารที่ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง โดยคนร้ายทั้งสองได้มาจอดจักรยานยนต์ดักรออยู่ฝั่งตรงข้ามอาคารอัสสกาญจน์ เพลส อาคาร 3 เมื่อผู้เสียชีวิตเดินมาถึงจุดเกิดเหตุ 1 ใน 2 คนร้ายได้เดินมาจ่อยิงผู้เสียชีวิต ในการตรวจสอบที่เกิดเหตุครั้งนี้เพื่อเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ผู้เสียชีวิตออกจากบ้าน ทั้งนี้มีกล้องวงจรปิดบางส่วนเป็นของ กทม.ที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังประสานกับทาง กทม.เพื่อขอภาพ อย่างไรก็ตาม ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 3-4 ปากแต่ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงตัวคนร้ายได้ รวมถึงยังไม่สรุปชนวนเหตุในการสังหาร แต่ต้องมีการสอบปากคำบุคคลใกล้ชิด ญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแนวทางการสืบสวนของกองกำกับการตำรวจนครบาล 4 พบว่าผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี มีภรรยาและลูกอยู่ก่อนแล้ว แต่ยังมีการพูดคุยไปมาหาสู่กับผู้หญิงสาวหน้าตาดีอีกคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้หญิงคนดังกล่าวมาสอบปากคำเพื่อไขปมเหตุในการสังหารครั้งนี้ต่อไป   Create Date : 02 กันยายน 2557     1 comment Last Update : 2 กันยายน 2557 22:05:08 น.     Counter : 1949 Pageviews.   Share Tweet

ท้าวพันศักดิ์1/9/57 เลขวิ่งท้าวพันศักดิ์ แม่นอย่าบอกใคร ท้าวพันศักดิ์1/9/57 ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 กันยายน 2557 ท้าวพันศักดิ์1/9/57 เจ้าแม่ตะเคียน ม้าสีหมอก เจ้าแม่ตะเคียนทอง เลขเด็ดอาจารย์ดัง เลขเด็ด อีกมากมาย ตรวจรางวัล ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจสลาก เช็ค หวยมาเลย์ หวยบนดิน ข้อมูลเกี่ยวกับ ตรวจลอตเตอรี่ อัพเดทรวดเร็ว ทันใจ คอหวยแน่นอน   Create Date : 01 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 1 กันยายน 2557 9:44:21 น.     Counter : 1586 Pageviews.   Share Tweet

โจรกรุงควงปืนบุกเดี่ยวชิงเงินแบงก์ออมสิน ใช้เวลาเพียง 1 นาที กวาด 2.5 แสน กล้องวงจรปิดของธนาคารสามารถจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้ขณะก่อเหตุ คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์เงินสดธนาคารออมสิน สาขาหัวลำโพง กวาดเงินสดกว่า 2 แสน ขึ้นรถ จยย.หลบหนี เผยใช้เวลาก่อเหตุเพียง 1 นาที        วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.ท.อนุชาติ วิภาดาพิสุทธิ์ พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ธนาคารออมสิน สาขาหัวลำโพง เลขที่ 405 ถนนพระราม 4 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. ได้เงินสดไปจำนวน 257,000 บาท จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.เจษฎาภรณ์ อ่อนทองคำ สว.สส. และเจ้าหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)        ที่เกิดเหตุเป็นธนาคารออมสิน สาขาหัวลำโพง ตั้งอยู่ภายในอาคารพาณิช พบพนักงานธนาคาร และ รปภ. ยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตกใจ โดย นายธาดา ดีและ อายุ 52 ปี รปภ. ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน สูงประมาณ 170-175 ซม. สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบ สีเขียว สวมเสื้อคลุมสีดำ ถุงมือสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล สะพายกระเป๋าเป้ สีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคอาร์ 150 ซีซี รุ่นเก่า สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ด้านหน้ามีถุงพลาสติกวางอยู่ มาจอดก่อนพยายามจะเข้ามาภายในธนาคาร โดยไม่ยอมถอดหมวกนิรภัย แต่ทางธนาคารมีนโยบายให้ผู้มาใช้บริการถอดหมวกนิรภัย ตนจึงดันประตูห้ามไม่ให้เข้ามา แต่สู้แรงคนร้ายไม่ไหว เมื่อคนร้ายเปิดประตูเข้ามาได้ คนร้ายได้ชักอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 11 มม. ออกมาจี้ตน พร้อมข่มขู่ตนว่า “อยู่เฉยๆ” ก่อนปีนข้ามเข้าไปภายในเคาน์เตอร์ ที่มีพนักงานธนาคารกำลังทำงานอยู่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ จำนวน 3 คน ก่อนเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบเงินสดใส่กระเป๋าที่เตรียมมา จากนั้นได้ปีนข้ามเคาน์เตอร์กลับออกมาก่อนวิ่งออกไปขับรถ จยย. หลบหนีไป ตามถนนพระราม 6 โดยก่อนที่คนจะก่อเหตุดังกล่าว เห็นว่าคนร้ายนำรถจักรยานยนต์มาจอดบนฟุตปาธ ก่อนเดินไปมาเพื่อดูลาดเลา ก่อนบุกเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายใช้สำเนียงภาษากลางในการสื่อสาร ทั้งนี้ ตนเองทำงานเป็น รปภ. คนเดียวของธนาคารนี้มาเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้ว        น.ส.พรทิพย์ อิทรรังศิโรภาส อายุ 55 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการสาขา ด้านเงินฝาก ธนาคารออมสิน ให้การว่า มีพนักงานกำลังทำงานอยู่ที่เคาน์เตอร์ 2 คน รวมทั้งตนด้วย และมีลูกค้ามาใช้บริการอยู่ 2 คน ขณะที่คนร้ายกำลังพยายามจะเข้ามาภายธนาคาร เมื่อตนเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน ตนได้สั่งให้พนักงานอีกคนที่อยู่ด้านนอกไปล็อกตู้เซฟ ก่อนที่พนักงานทุกคนหมอบหลบกันหมด ก่อนกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ พร้อมบอกว่ากับพวกตนว่า “ให้อยู่เฉยๆ อย่ายุ่ง” ก่อนเปิดลิ้นชักทั้ง 3 ลิ้นชัก เพื่อหยิบเงินใส่กระเป๋าก่อนวิ่งหลบหนีไป ซึ่งก่อนที่คนร้ายเข้ามาจี้นั้น ได้มีลูกค้ามาเบิกเงินไปจำนวน 425,000 บาท และนั่งอยู่ภายในธนาคารด้วย แต่คนร้ายไม่ได้เงินสดของลูกค้ารายนั้นไป        พ.ต.อ.ฤชากร กล่าวว่า คนร้ายเป็นชาย 1 คน สูงประมาณ 170-175 ซม. รูปร่างสันทัด สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบ สีดำ ถุงมือสีดำ สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน สะพายกระเป๋าเป้สีดำ บุกเข้ามาจี้ รปภ. ก่อนจะปีนเคาน์เตอร์เข้าไปรื้อค้นลิ้นชักก่อนที่คนร้ายจะได้เงินจำนวนดังกล่าวไป โดยคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคอาร์ 150 ซีซี รุ่นเก่า สีดำ ไม่ทราบทะเบียนหลบหนีไปมุ่งหน้าแยกมหานคร เลี้ยวไปตามถนนพระราม 6 ทั้งนี้ คนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ ปฏิบัติการอย่างใจเย็น ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 1 นาที คาดว่า น่าจะมีการวางแผนและดูลาดเลาก่อน และมุ่งตรงมาปีนข้ามเคาน์เตอร์ เพื่อมาหยิบเงิน ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม คาดว่า น่าจะออกหมายจับคนร้ายภายในวันพรุ่งนี้ หรือเร็วๆ นี้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน        เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงปิดของทางธนาคาร พร้อมทั้งตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย และสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เจ้าหน้าที่พฐ.ตรวจสถานที่เกิดเหตุ //www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000099210   Create Date : 29 สิงหาคม 2557     0 comment Last Update : 29 สิงหาคม 2557 20:38:46 น.     Counter : 1559 Pageviews.   Share Tweet