บึ้มห้างบิ๊กซี เวทีชุมนุมราชประสงค์ เจ็บ 24 ราย เด็กชายเคราะห์ร้ายดับ1 ราย บึ้มหน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ ในพื้นที่การชุมนุมเวที กปปส.ราชประสงค์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว 24 คน เด็กเคราะห์ร้ายถูกแรงระเบิดเจ็บหนัก 3 ราย จนท.เผยเป็นระเบิดลย 40 ยิงจากเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว 2 ราย        เมื่อเวลาประมาณ 17.10 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่การชุมนุมเวทีราชประสงค์ จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ พบกองเลือดจำนวนมากบนพื้นถนน ขณะเดียวกัน พบรถตุ๊กตุ๊ก ทะเบียน สก2780 เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 คน นำส่งโรงพยาบาลราชวิถี 6 คน โรงพยาบาลรามาธิบดี 8 คน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 5 คน และโรงพยาบาลพญาไท 1 อีก 5 คน รวม 24 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย        ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี และทหาร        ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบหลุมระเบิดบริเวณข้างรถตุ๊กตุ๊ก โดยแรงระเบิดทำให้ยางรถตุ๊กตุ๊ก ด้านซ้ายแตก ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนขับรถตุ๊กตุ๊กไปทำการสอบปากคำ และยังพบสะเก็ดระเบิด และเศษโลหะซึ่งเป็นชิ้นส่วนระเบิดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ        จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่าหลังจากรถตุ๊กตุ๊กคันดังกล่าว ซึ่งเป็นรถเปล่า มาจอดตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนที่คนขับจะลงจากรถและได้เกิดระเบิดขึ้น        ด้าน นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี กล่าวถึงเหตุระเบิดบิ๊กซี ราชดำริ ว่าขณะนี้ผู้บาดเจ็บที่รับรักษาตัวที่ รพ.รามาธิบดี 8 คน เป็นเด็ก 3 คน อาการสาหัส โดยเด็กชายอายุ 9 ปี กะโหลกศีรษะแตกจนเห็นเนื้อสมองจากแรงระเบิด และมีการตกเลือดในช่องท้อง แพทย์กำลังปั๊มหัวใจอยู่ ส่วนเด็กหญิง 9 ขวบ มีการตกเลือดในช่องท้อง แพทย์กำลังผ่าตัด และเด็กชาย 8 ขวบอีกราย มีบาดแผลที่คอ แพทย์กำลังเอกซเรย์        พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด บช.น.หรือ อีโอดี และเจ้าหน้าอีโอดีของทหาร ว่า จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก ในรัศมี 10 เมตร โดยเจ้าหน้าที่อีโอดี และผู้เชี่ยวชาญวัตถุระบิดของทหารได้ตรวจพบชิ้นส่วนระเบิด และระบุชนิดระเบิดว่าเป็นลูกระเบิด ลย 40 ที่ยิงมาจากเครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ซึ่งเป็นวิถีการยิงมาจากที่สูง ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ายิงมาจากทิศทางใด สำหรับเครื่องยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 นั้น มีรัศมีทำลายล้าง 4-5 เมตร        รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 18.26 น.เด็กชายที่ถูกระเบิดหน้าบิ๊กซี ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว        ความคืบหน้า ASTVผู้จัดการ จะรายงานให้ทราบต่อไป   Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2557 20:33:41 น.     Counter : 2159 Pageviews.   Share Tweet

ตร.ตรวจกล้องวงจรปิด หาเบาะแสคนร้ายปาระเบิดแยกประตูน้ำ ตำรวจ บก.น.1 ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เหตุปาระเบิดแยกประตูน้ำ พบภาพผู้ต้องสงสัย ขี่ จยย.มาจอดบนสะพานข้ามแยก เพียง 2 วินาที ซึ่งต้องหาหลักฐานว่าเป็นคนร้ายจริงหรือไม่ พร้อมเร่งพิสูจน์กระเดื่องที่พบเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุทำร้ายผู้ชุมนุม กปปส.ก่อนหน้านี้หรือไม่        วันนี้ (22 ก.พ.) พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 กล่าวถึงกรณีเหตุคนร้ายปาระเบิดที่บริเวณแยกประตูน้ำ ใกล้เวทีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน รถยนต์เสียหาย 3 คัน เมื่อช่วงดึกวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า        สั่งการให้ชุดสืบสวนของ สน.พญาไท ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อสืบหาตัวคนร้ายโดยหลังเกิดเหตุได้ตรวจกล้องวงจรปิดเห็นเหตุการณ์ตอนระเบิดโดยเป็นกล้องฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ แต่ไม่เห็นยานพาหนะของคนร้าย เนื่องจากมีรถเมล์มาบัง จึงให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดแนวถนนเพชรบุรีขาออก ส่วนการสอบปากคำพยานที่อยู่ในรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายทั้ง 3 คัน เบื้องต้นไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่เจ้าของรถทั้ง 3 คันไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด        เนื่องจากระเบิดดังกล่าวมาตกระหว่างรถยนต์ทั้ง 3 ทำให้สามารถลดแรงระเบิดไปได้มาก ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 6 คน ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น        พ.ต.อ.ไกรเลิศ กล่าวต่อว่า สำหรับระเบิดที่ใช้มีอานุภาพทำลายล้างในรัศมี 5 เมตร ตอนนี้จะให้เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี ตรวจสอบกระเดื่องที่พบในจุดเกิดเหตุว่าเป็นชนิดเดียวกับระเบิดที่ใช้ก่อเหตุที่ไหนบ้าง หรือเป็นระเบิดล็อตใหม่ที่มีการสั่งเข้ามาใช้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม กระเดื่องระเบิดที่พบนั้น ตอนแรกมีคนเก็บไปและนำมาวางคืนทีหลัง ซึ่งไม่แน่ใจว่ามาวางคืนถูกตรงกับจุดที่พบในตอนแรกหรือไม่        ด้าน พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ รอง ผกก.(สส.) สน.พญาไท กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่พบภาพที่เชื่อว่าจะเป็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบนสะพานข้ามแยกประตูน้ำ โดยใช้เวลาจอดรถเพียง 2 วินาที ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะต้องตรวจสอบช่วงเวลาว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดหรือไม่ แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นค่อนข้างไกล และเห็นภาพไม่ชัดนัก ทำให้ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่นสี หรือแม้แต่ลักษณะรูปพรรณคนร้าย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ในการก่อเหตุแน่นอน ซึ่งจะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป   Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2557 20:46:06 น.     Counter : 1546 Pageviews.   Share Tweet

ศรส.แหลปัดใช้อาวุธสลายม็อบ อ้างหลักสากลแต่ตาย-เจ็บเพียบ ศรส.แถลงสรุปภารกิจคืนความสงบ กทม.ขอคืน 5 พื้นที่สำเร็จ 2 จุดที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ และที่กระทรวงพลังงาน จับกุมผู้ต้องหาได้ 144 ราย ยังปากดีอ้างการสลายการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้า ใช้ตำรวจควบคุมฝูงชน ไม่มีอาวุธ ใช้การเจรจาเป็นหลัก ยืนยันไม่มีการใช้กระสุนจริง มีการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนตามขั้นตอน ส่วนคนยิงเอ็ม 79 นั้นไม่ยืนยันว่าเป็นใคร        วันนี้ (18 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่ ศรส.ได้แจ้ง ปชช.ว่าวันนี้มีภารกิจคืนความสงบ กทม.โดยภารกิจนี้มุ่งเน้นจับกุมบุคคลผู้ถูกออกหมายจับ และเปิดพื้นที่ให้ข้าราชการเข้าทำงาน รวมทั้งประชาชนได้ใช้เส้นทางสัญจรได้ตามปกติ โดยมีภารกิจขอคืน 5 พื้นที่ ได่แก่ ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ แยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กระทรวงพลังงาน และกระทรวงมหาดไทย โดย 2 พื้นที่ที่เปิดให้ข้าราชการทำงานได้คือ ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ มีการเจรจา กดดันอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเปิด ถ.แจ้งวัฒนะ ให้สามารถสัญจรได้ ข้าราชการเข้าทำงานได้ ขณะที่กระทรวงพลังงาน สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 144 ราย เป็นชาย 96 หญิง 48 เป็นแกนนำ 2 ราย คือ นายระวี มาศฉมาดล และนายทศพล แก้วทิมา ส่วนอีก 3 พื้นที่เจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจา เข้าไปกดดันไปพูดคุย ตรึงกำลัง ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีการเจรจากันอยู่ ขณะกำลังตำรวจทั้งหมดกลับเข้าสู่จุดรวมพล ยกเว้นที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อเวลา 11.00-13.00 น.ได้มีเหตุกระทบกระทั่งใช้อาวุธร้ายแรงยิงใส่ตำรวจ ปรากฏตามภาพสื่อมวลชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำรวจ บช.ภ.2 ที่ไปปฏิบัติภารกิจที่จุดดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง สามารถจับกุมผู้ชุมนุมได้ 39 ราย ผู้ถูกจับกุมทั้งหมดถูกส่งไปควบคุมตัวที่ ตชด.ภ.1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี        พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกได้แก่ แกนนำได้แจ้งข้อหา นายระวี และ นายทศพล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215-216 ฐานเป็นหัวหน้าในการกระทำผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่สั่งให้เลิก แต่ไม่เลิก และมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุนวายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนที่ 2 ผู้ชุมนุมที่เหลือมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215-216 เป็นหัวหน้าในการกระทำผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่สั่งให้เลิก แต่ไม่เลิก และมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุนวายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมได้ที่จับกุมที่กระทรวงพลังงานถูกแจ้งข้อเพิ่มอีกคือร่วมกัน 2 คนขึ้นไป บุกรุกในเวลากลางคืนตาม ป.อาญา มาตรา365 เนื่องจากทาง ปตท.ได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2557        พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายได้สรุปการทำผิด กม.เลือกตั้ง ขัดขวางการเลือกตั้ง 160 คดี กกต.จงใจละทิ้ง 169 คดี รวม 329 คดี ออกหมายจับแล้ว 78 คน จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ออกวิทยุสั่งการ กำชับแนวทางการปฏิบัติเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนหลังมีการชุมนุมในหลายพื้นที่ 1.ให้เร่งการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งผู้ที่ขัดขวางการเลือกตั้ง และ กกต.ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้ ผบช.ภ.7 ภ.8 ภ.9 และ ศชต.มอบหมายให้ รอง ผบช.1 นาย และ ผบก.ภ.จว.ในสังกัดมอบหมาย รอง ผบก.ภ.จว.1 นาย รับผิดชอบกำกับดูแลและเร่งรัดการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งในพื้นที่รับผิดชอบ และให้ พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด 2.ให้ตำรวจนครบาล จัดพนักงานสอบสวน ไปให้บริการรับแจ้งความเดือดร้อนของประชาชน ณ สถานที่ให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางของกระทรวงต่างประเทศ 3 แห่ง ประกอบด้วย ห้างเซ็นทรัลบางนา เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 3.กำชับการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ช่วยเหลือ ระงับ ยับยั้ง การปิดล้อม บุกรุกสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญของผู้ชุมนุม        “สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจกับ ตร.และครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต บาดเจ็บ ตอนนี้ได้ให้ชุดอีโอดีเข้าพื้นที่ เร่งคลี่คลายคดี ยืนยันว่าการทำงานเพื่อขอเปิดพื้นที่ให้ข้าราชการเข้าทำงาน เปิดจราจร การจับกุมใช้ตำรวจควบคุมฝูงชน ไม่มีอาวุธ ใช้การเจรจาเป็นหลัก ยืนยันไม่มีการใช้กระสุนจริง มีการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนตามขั้นตอน ส่วนคนยิงเอ็ม 79 นั้น ไม่ยืนยันว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและภาพถ่ายต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยังดำเนินการขอคืนพื้นที่ต่อ แต่อาจปรับยุทธวิธีให้เหมาะสม พยายามใชืช่องทางการเจราทุกช่องทาง เจรจาแกนนำทุกจุด        สำหรับตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่ที่แยกผ่านฟ้า มีตำรวจบาดเจ็บ 10 นาย เสียชีวิต 1 นาย รักษาตัว รพ.ตำรวจ 9 นาย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดมีบาดแผลตามร่างกาย อีก 1 รายอยู่ รพ.กลาง ได้แก่ 1.ส.ต.ต.ศราวุฒิ ชัยปัญหา สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี 2.ด.ต.สุนัย ชำนาญค้า สภ.องครักษ์ จ.นครนายก 3.จ.ส.ต.พัฒนา สุวรรณไตร สภ.โป่งน้ำร้อน 4.ด.ต.กัมปนาท พรสวัสดิ์ 5.ด.ต.วัฒนะพงษ์ พระสุรัตน์ 6.ด.ต.พรชาย รินทร์ทอง 7.ส.ต.ท.สุพล บุตรดี 8.ส.ต.ท.สุเทพ นวลจันทร์ 9.จ.ส.ต.ธีระศักดิ์ นางสีคุณ 10.ชวลิต โนนสูงเนิน        ส่วนผู้เสียชีวิต คือ ด.ต.เพียรชัย ภาระวัตร อายุ 45 ปี สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง ถูกยิงที่หน้าอก อยู่ รพ.กลาง ส่วนผู้ชุมนุม 1 รายที่เสียชีวิต คือ นายสุพจน์ บุญรุ่ง อายุ 52 ปี //manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000019311   Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2557 21:21:02 น.     Counter : 1614 Pageviews.   Share Tweet

"สุเทพ" นัดชุมนุมใหญ่ 19 ก.พ. รบแตกหักรัฐบาล "สุเทพ" นัดชุมนุมใหญ่ 19 ก.พ. สบทบม็อบชาวนารบแตกหักรัฐบาล ลั่นรัฐบาลอยู่ไม่ได้แล้วเพราะธนาคารและระบบเศรษฐกิจเจ๊ง ระดมคนปกป้องทำเนียบฯอีกครั้ง 18 ก.พ. พร้อมท้า "แม้ว" หากยังเป็นลูกคนอยู่ขอให้กลับมาบัญชาเกมเอง ไม่เช่นนั้นจะเรียก "ลูกหมา" อีกคน        วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 19. 35 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ปราศรัยที่เวทีสีลมว่า วันนี้พวกเราเหนื่อยกันทั้งวันเพราะลูกหมาเหลิม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. ท้าว่าจะเข้าทำเนียบรัฐบาลแต่ก็ไม่มา อีกทั้งตนยังท้าไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ อีกด้วย เพราะเป็นผู้บงการเรื่องทั้งหมดคนเดียว ให้กลับมาบัญชาเกมเองเลย เพราะหากไม่กลับมาตระกูลคุณฉิบหายแน่นอน พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีศักดิ์ศรีความเป็นคนอยู่มาเลย มาชนช้างกันเลย เพราะหากแพ้พวกเราจะเป็นขี้ข้า เพราะชนะจะได้หมดเสี้ยนหนามของประเทศ หากไม่รับคำท้าอย่ามาสะเออะยึดอำนาจประเทศไทยอีก เพราะขี้ข้าคุณมันไม่เก่ง อย่าดีแต่โทรศัพท์ด่า ร.ต.อ.เฉลิม และไม่ต้องให้ โอ๊ค อ๊าค นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย เขียนเฟสบุ๊คเพราะไม่ได้เขียนเองและเพราะติดยาอยู่ ทั้งนี้พวกเรารอคุณอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ        นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่าจะยึดคืนพื้นที่คืนหลายแห่งในวันที่ 18 ก.พ. ทั้งนี้ตนมั่นใจว่าพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ เขาดูแลพื้นที่ได้โดยเฉพาะลูกศิษย์ของหลวงปู่พุทธอิสระให้เตรียมตัวไว้เลยตี 5 จะสลาย โดยไปนอนกันตั้งแต่วันนี้ และเชื่อว่าจะรักษาพื้นที่ได้ สำหรับพื้นที่กระทรวงหมดไทย โดยช่วงเช้ามืดวันที่ 18 ก.พ. นายถาวร เสนเนียม แกนนำกปปส. จะไปรักษาพื้นที่เอาไว้ พร้อมทั้งกปปส.ที่เหลือให้ขึ้นรถไปทำเนียบรัฐบาล 07.00 น.จำนวน 2 พันคน โดยนายชุมพล จุลใส นำทัพไปล่วงหน้า และ ที่เหลือเวลา 07.30 น. ที่เวทีปทุมวัน ตนจะนำเดินเท้าไปทำเนียบรัฐบาล จึงขอระดมกำลังชาวกรุงเทพฯไปช่วยรักษาทำเนียบรัฐบาลให้ได้ก่อน 08.30 น.โดยจะไปปิดสะพานมัฆวานรังสรรค์ไปถึงแยกมิกสักวัน และ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ไปถึงสะพานอรทัย ส่วนถนนพิษณุโลก คปท.ปิดอยู่ เพื่อไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กับเข้ามาทำเนียบรัฐบาลทั้งชาตินี้และชาติหน้า        “หากผมถูกจับและถูกฆ่า พี่น้องอย่าเสียกระบวนให้ประชาชนสู้ต่อไป เพราะเชื่อว่าหากตนตาย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือประชาชนจะลุกสู้กับมันทั้งประเทศ” นายสุเทพ กล่าว        นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 19 ก.พ. ขอระดมทุกคนรบเพื่อแตกหักกับรัฐบาล และขอให้ กปปส. ทั่วประเทศเดินทางมาชุมนุมพร้อมกับคนกรุงเทพฯ ในทุกเวทีของ กปปส.ในกรุงเทพฯ เพราะรัฐบาลอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะชาวนา ธนาคารและระบบเศรษฐกิจเจ๊ง เพื่อให้อำนาจเป็นของประชาชนและไม่ให้มันมีแผ่นดินอยู่ ซึ่งเรารอเวลานี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับ ที่ชาวนาจะนัดมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลเพราะไม่ได้เงินจากโครงการรับจำนำข้าว อีกทั้งวันนี้ชาวนาได้ไปสำนักปลัดกลาโหมขอพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์และไม่ออกมาพบชาวนา และให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกฯ และรมว.คลัง มาเจอชาวนาก็ต้องวิ่งหนี ถือเป็นรัฐมนตรีคลังคนแรกที่ถูกชาวนาไล่ และจะเป็นรัฐบาลอยู่ได้อย่างไร ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นลูกคนอยู่ ขอให้กลับมาบัญชาเกมจะได้รู้ดำรู้แดง มิเช่นนั้นจะเรียกว่าลูกหมาอีกคน //manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000018935   Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2557 21:16:00 น.     Counter : 1422 Pageviews.   Share Tweet

ศาลแพ่งคุ้มครองชั่วคราว สั่งดีเอสไอถอนอายัดบัญชี “ดร.เสรี วงษ์มณฑา” ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราว “ดร.เสรี วงษ์มณฑา” แนวร่วม กปปส.หลังถูกดีเอสไออายัดเงินฝากรวม 7 บัญชี ชี้ดีเอสไอน่าจะใช้อำนาจเกินควร สั่ง “ธาริต เพ็งดิษฐ์” ถอนคำสั่งอายัดบัญชี ภายใน 7 วัน        ที่ห้องพิจารณา 817 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (13 ก.พ.) เวลา 11.30 น.ศาลอ่านคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ในคดีที่ นายเสรี วงษ์มณฑา แนวร่วม กปปส.เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นจำเลย เรื่องละเมิด กรณีที่ดีเอสไอมีคำสั่งให้อายัดบัญชีเงินฝากธนาคาร รวม 7 บัญชี จากการร่วมเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองกับ กปปส.โดย นายเสรี โจทก์ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว สั่งการถอนอายัดบัญชีดังกล่าวด้วย        โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้จำเลยจะมีอำนาจตามพระราชบัญญัติคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ในการสอบสวนดำเนินคดี รวมทั้งการอายัดบัญชี ตามมาตรา 24 แต่การใช้อำนาจนั้นมีขอบเขตตามที่กฎหมายดังกล่าว และข้อบังคับ กคพ.ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 โดยไม่ถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งการจะสั่งอายัดบัญชี ก็ต้องมีการสอบสวนจนได้ความว่ามีการกระทำผิดเสียก่อน แต่จากการไต่สวนได้ความว่าก่อนการอายัดได้มีหนังสือถึงสถาบันการเงินสอบถามว่าโจทก์มีบัญชีอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อมีจึงได้ดำเนินการสั่งอายัดบัญชีไว้ โดยยังไม่ได้ดำเนินการสอบสวนจนได้ความว่ามีการกระทำที่ไม่ถูกต้องเสียก่อน แต่เมื่อศาลได้พิจารณายอดเงินทั้ง 7 บัญชีของโจทก์แล้ว พบว่ามีเงินคงเหลือเพียงหลักร้อย ถึงหลักแสนบาท เท่านั้น และไม่พบว่าเส้นทางการเงินไหลเวียนที่ผิดปกติ ดังนั้นการที่สั่งอายัดบัญชีของโจทก์ไว้ โดยยังไม่แน่ว่าการกระทำนั้นสิ้นสุดเวลาใด จึงเป็นการกระทำที่กระทบต่อโจทก์ คดีมีมูลเพียงพอว่าน่าจะมีการใช้อำนาจเกินสมควรไป และชอบที่ศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโจทก์ได้ ตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2) และ 266        ศาลจึงมีคำสั่งให้จำเลยถอนการสั่งอายัดบัญชีเงินฝากทั้ง 7 ของโจทก์ จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยให้ออกหมายห้ามแจ้งจำเลยทราบเพื่อดำเนินการภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้ แต่ให้โจทก์ทำสัญญาประกันต่อศาลด้วย เพราะหากการพิจารณาคดีนี้ภายหลังถ้าโจทก์แพ้คดี ก็ให้คืนเงินทั้งหมดกลับเข้าในบัญชีตามเดิมด้วย        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้โจทก์ได้มอบอำนาจให้ทนายความเป็นรับทราบคำสั่ง เช่นเดียวกับฝ่ายดีเอสไอที่มีผู้แทนมาฟังคำสั่งแทน   Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2557 18:07:45 น.     Counter : 1390 Pageviews.   Share Tweet