คมนาคม เปิดทาง กทพ. ขึ้นค่าทางด่วน 5 บาท ก.ย.นี้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Thai Traffic Police
รมช.คมนาคม เปิดทางบีอีซีแอล ขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญาสัมปทาน หวั่นถูกเอกชนฟ้องร้อง โยนการทางพิเศษแบกภาษีมูลค่าเพิ่มต่อ - ด้าน กทพ. จ่อขึ้นค่าผ่านทาง 5 บาท มีผล 1 กันยายน ปีนี้
เมื่อวันที่ 13 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงการปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) และทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ตามสัญญาสัมปทานในเดือนกันยายน 2556 นี้ว่า ตนได้มอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พิจารณาตามขั้นตอนและให้เป็นไปตามสัญญาสัมปทานระหว่าง กทพ. กับบริษัททางด่วน–กรุงเทพ ที่มีเงื่อนไขให้ปรับทุก ๆ 5 ปี ตามอัตราเงินเฟ้อและดัชนีผู้บริโภค (CPI) ที่เพิ่มขึ้น โดยหากผลพิจารณาออกมาว่าต้องปรับขึ้น ก็คงไม่สามารถยับยั้งได้ เพราะต้องคำนึงถึงสัญญาสัมปทานกับเอกชนด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นกรณีที่ไม่ให้ปรับขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญามาแล้ว ทั้งนี้ ทางผู้บริหารบีอีซีแอลได้มาพบตนแล้ว โดยแจ้งให้ทราบว่าในปีนี้ครบ 5 ปีที่จะต้องขอปรับขึ้นค่าผ่านทาง ตนให้ไปหารือในรายละเอียดสัญญากับ กทพ. และให้เสนอมาตามขั้นตอน
สำหรับกรณีที่ กทพ. ต้องแบกรับภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat 7%) แทนผู้ใช้ทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 คิดเป็นเงินกว่า 800 ล้านบาทต่อปีสะสมมาตั้งแต่ปี 2535 เป็นเงินกว่า 1.2 หมื่นล้านบาทนั้น พล.อ.พฤณฑ์ กล่าวว่า ต้องมีการหารือกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อนว่าจะเหมาะสมหรือไม่กับการผลักภาระภาษีมูลค่าเพิ่มให้ผู้ใช้ทางในขณะนี้ จะกลายเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ใช้ทางมากเกินไปหรือไม่ เนื่องจากเป็นช่วงที่จะมีการปรับขึ้นค่าผ่านทางด้วย ซึ่งเห็นว่า กทพ. ยังพอรับภาระนี้ต่อไปได้ไม่เสียหายและก่อนหน้านี้เคยรับภาระมาตลอด
ทางด้าน นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า คาดว่าเบื้องต้นจะปรับขึ้นประมาณ 5 บาท ซึ่ง กทพ. จะเริ่มเจรจากับบีอีซีแอลในเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นต้องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. คณะรัฐมนตรี (ครม.) และต้องประกาศล่วงหน้า ซึ่งอัตราใหม่จะมีผลในวันที่ 1 กันยายน 2556 ส่งผลให้อัตราค่าผ่านทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ จาก 45 บาท เป็น 50 บาท รถยนต์ 6-10 ล้อ จาก 70 บาท เป็น 80 บาท และรถยนต์ 10 ล้อขึ้นไป จาก 100 บาท เป็น 115 บาท
ส่วนสัญญาสัมปทานทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) และทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ระหว่าง กทพ. กับบริษัท ทางด่วนกรุงเทพที่จะสิ้นสุดในอีก 9 ปี ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาเพราะต้องขึ้นอยู่กับนโยบายว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร จะให้ กทพ. บริหารจัดการทางด่วนเอง หรือจะเจรจากับบริษัท ทางด่วน–กรุงเทพเพื่อต่อสัญญา ซึ่งในสัญญาระบุไว้ว่าเมื่อหมดสัญญาแล้ว กทพ. ต้องเจรจาต่อสัญญากับบีอี–ซีแอลก่อนวิธีการอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การบริหารสัญญาเองจะมีข้อดีที่รัฐจะกำหนดหรือลดราคาค่าผ่านทางได้ง่าย โดยไม่ต้องเจรจากับเอกชนก่อน
ทั้งนี้ ปริมาณจราจรบนทางด่วนล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2555 เฉลี่ย 1.7 ล้านคันต่อวัน โดยเคยสูงสุดถึง 1.8 ล้านคันต่อวัน ถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีประมาณ 500,000 คันต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มเป็น 2 ล้านคันต่อวันภายในเดือนเมษายนนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 14 มกราคม 2556 |
| |
|
Last Update : 14 มกราคม 2556 22:29:38 น. |
| |
Counter : 1708 Pageviews. |
| |
|
|
|
สุดสยิว! ญี่ปุ่นผุดธุรกิจแนวใหม่ นั่งดูเด็ก ม.ปลายโชว์ของลับ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก en.rocketnews24.com
ตำรวจญี่ปุ่นเร่งปราบธุรกิจบริการดูสาว ม.ปลาย โชว์หวิว – ถ่างขา ลูบอวัยวะเพศ หลังจากธุรกิจนี้กำลังได้รับความนิยม และก่อนหน้านี้เว็บไซต์ร็อคเก็ตนิวส์ 24 รายงานว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2011 ตำรวจเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ได้จับกุมนายทาคามิตสุ ทาโนะ อายุ 37 ปี ในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายแรงงาน ด้วยการให้ผู้เยาว์ ทำงานในสถานที่ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหรือความเป็นอยู่ในสังคม
ทั้งนี้ นายทาโนะ เป็นผู้จัดการร้านสำหรับผู้ใหญ่ที่เรียกว่า high school girl viewing clubs ซึ่งลูกค้าจะจ่ายเงินเพื่อนั่งตรงหลังกระจก ที่มองเห็นได้จากด้านเดียว เพื่อดูนักเรียนมัธยมปลายทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น อ่านหนังสือการ์ตูน เล่นโทรศัพท์มือถือ คุยกับเพื่อนว่าจะออกไปทานข้าวกันที่ไหน แต่ถ้าหากจ่ายเงินพิเศษแล้ว ลูกค้าสามารถเลือกเด็กสาวให้มานั่งตรงหน้าบูธ และถ่างขาออกกว้าง ๆ เพื่อให้เห็นกางเกงชั้นในกันแบบจะ ๆ
คลับดูสาว ม.ปลาย เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในเมืองคานากาวะ และโตเกียว นับตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งในช่วงปลายปี 2010 แต่ธุรกิจนี้ก็เริ่มเสื่อมลง หลังจากที่นายทาโนะถูกจับ และตำรวจโตเกียว ก็เร่งปราบปรามธุรกิจประเภทนี้อย่างแข็งขัน ซึ่งเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ 2012 เดือนเดียว ตำรวจสามารถปิดคลับดูสาว ม.ปลายได้ถึง 4 แห่งด้วยกัน
ทั้งนี้ นักข่าวจาก นิคคัง สปา ได้ลองสืบสวนเรื่องนี้ โดยส่งสายเข้าไปในคลับแห่งหนึ่งที่เปิดเมื่อเดือนตุลาคม 2012 ในย่านโคมแดง ห่างจากสถานีรถไฟอะเคบุคารุเพียง 5 นาที โดยใกล้ ๆ กันนั้น มีห้องนวดที่พนักงานสาว ๆ เป็นเด็ก ม.ปลาย จนทำให้บริเวณนั้นดูเหมือนเป็นสถานที่พิเศษสำหรับพวกคลั่งไคล้สาว ม.ปลาย โดยเฉพาะ
หลังจากที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปในคลับ ก็จะมีรีเซฟชั่นสวมชุดสาว ม. ปลาย ออกมาต้อนรับ และแนะนำที่ฝากโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป จากนั้น ก็จะพาไปที่บูธนั่งส่วนตัว ที่กั้นไว้ด้วยผ้าม่าน ตรงหน้าจะเป็นกระจกที่มองทะลุได้ด้านเดียว อีกฝั่งของกระจก ก็จะมีสาว ๆ 4-5 คนที่ม้วนกระโปรงขึ้นไปจนสูง ติดเข็มกลัดไว้ที่หน้าอกเพื่อบอกชื่อและหมายเลข หากลูกค้าอยากดูคนไหนเป็นพิเศษ ลูกค้าก็จะบอกกับพนักงานและเด็กสาวก็จะมานั่งตรงหน้าบูธโดยตรง พร้อมกับโพสท่ายั่วยวนลูกค้า
ทั้งนี้ ลูกค้าคนหนึ่งทางด้านซ้ายของผู้สื่อข่าวคนนั้น ได้เรียกสาวคนหนึ่งให้มาโพสท่าพิเศษ ซึ่งเด็กสาวก็จะค่อย ๆ ปลดกระดุมออก เพื่อโชว์ชุดชั้นในของตัวเอง แล้วแนบหน้าอกลงไปกับกระจก จากนั้น เธอก็จะดึงกระโปรงขึ้น และโพสท่ายั่วยวนลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเห็นกางเกงชั้นในจากด้านหลัง แต่มันไม่หยุดแค่นั้น เมื่อเธอเริ่มถ่างขาออก เพื่อให้ลูกค้าเห็นหว่างขาเธอได้ชัด ๆ และเริ่มถูไถอวัยวะเพศเหมือนกับว่า เธอกำลังช่วยตัวเอง ซึ่งในขณะนั้น ผู้สื่อข่าวคนนั้นก็ได้ยินลูกค้าคนดังกล่าว หายใจเข้าออกเสียงดังด้วยเช่นกัน
ก่อนที่จะออกไปจากร้าน ผู้สื่อข่าวคนนั้นได้ถามว่า เด็กทุกคนเป็นเด็ก ม. ปลายจริงเหรอ และพนักงานก็ตอบว่า บางคนก็อายุเกิน 18 ปี แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็ก ม.ปลาย มีเป็นส่วนน้อยที่ไม่ไปโรงเรียน
ส่วนราคาค่าเข้าชมต่อชั่วโมงนั้น จะมีตั้งแต่ 3000 เยน (ประมาณ 1000 บาท) สำหรับดูเด็กสาว 30 นาที 5000 เยน (1700 บาท) และหากต้องการให้เด็กมานั่งตรงหน้าโชว์ของลับโดยเฉพาะ ก็ต้องเสียเงินเพิ่มอีก 2000 เยน (680 บาท) ด้านเด็กสาวจะได้รับเงิน 1000 เยน (340) บาท ต่อการทำงาน 1 ชั่วโมง และได้รับเพิ่มอีก 1000 เยน ทุกครั้งที่ลูกค้าเรียกให้ไปโชว์หน้าบูธ
Create Date : 12 มกราคม 2556 |
| |
|
Last Update : 12 มกราคม 2556 23:32:34 น. |
| |
Counter : 3406 Pageviews. |
| |
|
|
|
ชาวเน็ตรวมตัวประท้วงช่อง 3 นัดใส่เสื้อขาว-สวมหน้ากาก 13 ม.ค.นี้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊กละครไทยทีวีสีช่อง 3 (Ch3's Drama), Instagram mint_chalida, jadaliyya.com
ชาวเน็ตรวมตัว! ใส่เสื้อขาว-สวมหน้ากาก ประท้วงช่อง 3 อาทิตย์ที่ 13 ม.ค. นี้ ขณะที่ประชาสัมพันธ์ช่อง 3 แจง เนื้อหารุนแรงเกินไป จึงจำเป็นต้องแบน ย้ำไม่มีการเมืองเอี่ยว ยืนยันไม่อัพลงยูทูบหรือทำวีซีดีขายแน่
วันนี้ (8 มกราคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมออนไลน์มีการชักชวนให้ประชาชนมารวมตัวกันประท้วงสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 หน้าอาคารมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 ด้วยการสวมเสื้อสีขาว และใส่หน้ากากแบบภาพยนตร์เรื่อง V For Vendetta (เพชฌฆาตหน้ากากพญายม) ในวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้ แกนนำการรวมพลังมวลชนในครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า "กลุ่มพลังส่งเสริมคนดี" โดยแกนนำใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า ใบชา, ปีเตอร์, ธนูปักเข่าไอ้เขี้ยวเงิน และแคนไท ซึ่งมีชาวออนไลน์สนใจในการร่วมชุมนุมครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
หน้ากากแบบภาพยนตร์เรื่อง V For Vendetta สำหรับข้อความประกาศเชิญชวนมีดังนี้... "ขออนุญาตฝากข่าวค่ะ ในวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2556 เวลา 10.00 น. - 11.00 น. หน้าอาคารมาลีนนท์ ช่อง 3 ถนนพระราม 4 ใกล้ BIG C (บิ๊กซี) พระราม 4 ร่วมกันใส่ "เสื้อสีขาว&หน้ากากสีขาว (ถ้ามี)" เพื่อแสดงถึง "ศรัทธา..พลังแห่งความดี" โดยถือป้ายกำลังใจทีมงาน "เหนือเมฆ 2" พร้อมร่วมกันอธิษฐานแบบบทละครให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคนดีและเรียกร้องให้นำกลับมาออกอากาศอีกครั้ง [***แอดมินจะขอพิจารณาจำนวนผู้เข้าร่วมถึงเย็นวันพฤหัสที่ 10 มกราคม 2556 เวลา 23.59 น. หากจำนวนผู้เข้าร่วมแบบ "ไปร่วมแน่นอน" มีจำนวนไม่เกิน 500 คน ทางเพจฯ จะยุติการจัดกิจกรรมนี้***] หมายเหตุ : - กรณีหน้ากากสีขาว ไม่มี ไม่เป็นไร แค่เสื้อขาวก็พอ - ส่วนผู้ที่อยู่ในวงการสื่อ หรือวงการบันเทิง ที่อยากร่วมกิจกรรมนี้ แต่กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานในวงการ ควรเตรียมนำ "หน้ากากสีขาว" มาสวม ซึ่งจะช่วยในการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ จากเพจรณรงค์แบนช่อง 3 กรณีถอดละคร "เหนือเฆม 2 " สนองคำสั่งนักโกงเมืองเพื่อแสดงถึง "ศรัทธา..พลังแห่งความดี" วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2556 เวลา 10.00 น. - 11.00 น. หน้าอาคารมาลีนนท์ ช่อง 3 ถนนพระราม 4 "
ช่อง 3 แจงแล้ว! แบนเหนือเมฆ เพราะบทแรง ปัดการเมืองสั่ง
นายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวถึงสาเหตุการแบนละครเหนือเมฆเป็นครั้งแรกว่า เหตุผลที่ต้องงดออกอากาศนั้นเป็นเพราะเนื้อหาในละครมีบทที่รุนแรงเกินไป ซึ่งตนขอยืนยันว่า ทางช่องมีการกลั่นกรองเนื้อหาทุกรายการ และการแบนละครเรื่องนี้ก็ไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายบริสุทธิ์ ยังแจงอีกว่า ทางช่อง 3 พร้อมชี้แจงต่อ กสทช. และขอยืนยันว่าจะไม่มีการนำละครเรื่องเหนือเมฆ 2 มาโพสต์ลงยูทูบ หรือขายเป็นซีดีอย่างแน่นอน
ร้อง กสทช. เอาผิดช่อง 3 ชี้บทไม่ขัดมาตรา 37
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ กสทช. เพื่อให้ กสทช. ดำเนิการกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กรณีที่ยุติการออกอากาศละครเรื่องเหนือเมฆ โดยทาง สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พิจารณาแล้วว่า ละครดังกล่าวไม่มีเนื้อหาใดที่ผิดหรือขัดต่อ พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มาตราที่ 37 และการแบนละครเหนือเมฆกะทันหันนั้นเป็นการลิดรอนสิทธิ์ประชาชน จึงเสนอข้อเรียกร้องให้ กสทช. ในฐานะองค์กรกำกับดูแลดำเนินการ ให้ช่อง 3 นำละครเหนือเมฆ มาฉายตามเดิม โดยไม่มีการตัดทอนใด ๆ ทั้งสิ้น และให้ทาง กสทช. สอบสวนพิจารณาการกระทำของช่อง 3 ในฐานะผู้รับใบอนุญาตกิจการโทรทัศน์ด้วย โดยให้ กสทช. เร่งดำเนินภายใน 7 วัน
ส่วนทางด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กสท. ซึ่งเป็นผู้รับเรื่องดังกล่าวเผยว่า จะพิจารณาเรื่องทั้งหมดตามขั้นตอนและข้อเท็จจริง โดยอยู่ระหว่างให้อนุคณะกรรมการด้านเนื้อหา และผังรายการ หารายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอให้ กสท. พิจารณาต่อไป
สื่อนอกตีข่าว คนไทยโวยเหนือเมฆ 2 โดนถอด - รบ. อ้างไม่เกี่ยว
เอพี ตีข่าวประเด็นถอดละคร เหนือเมฆ 2 จากช่อง 3 ของไทย จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ประชาชน เชื่อรัฐบาลกดดันอยู่เบื้องหลัง ชี้การตัดจบละครเป็นเรื่องหายากในไทย
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2556 สำนักข่าวเอพี รายงานว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของประเทศไทย ตัดสินใจถอดละครทีวีเรื่องเหนือเมฆ 2 ที่ฉายในช่วงไพรม์ไทม์ 3 วัน ออกจากผังรายการโดยไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน สร้างความไม่พอใจในหมู่ผู้ชมและผู้วิจารณ์ที่ต้องการให้ละครเรื่องนี้ฉายจนจบ บางกลุ่มถึงขั้นเรียกร้องให้คว่ำบาตรช่อง 3 เลยทีเดียว
สำหรับละครเรื่องเหนือเมฆ 2 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักการเมืองคอร์รัปชั่นและมนต์ดำ โดยออกอากาศนับตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2555 จนกระทั่งวันศุกร์ที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ช่อง 3 ประกาศหยุดการออกอากาศละครเรื่องดังกล่าวทันที โดยอ้างว่าละครมีเนื้อหาไม่เหมาะสมและอาจเป็นการละเมิดกฎหมายก็เป็นได้โดยที่ไม่มีการอธิบายนอกเหนือจากนี้
โดยประเด็นการระงับออกอากาศละคร เหนือเมฆ 2 ทางช่อง 3 นำมาซึ่งการแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยของบรรดาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทยมากมายที่เชื่อว่า เรื่องนี้เกิดจากการแทรกแซงกดดันของรัฐบาล แม้ทางรัฐบาลจะออกมาปฏิเสธแล้วก็ตาม โดยจากคำให้สัมภาษณ์ของ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้พยายามแทรกแซงการแพร่ภาพของช่อง 3 และโดยส่วนตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดว่าละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 มีปัญหาอะไร โดยเฉพาะกับเนื้อหาที่ว่าด้วยเรื่องการเมืองและไสยศาสตร์มนต์ดำ ซึ่งในฐานะนักการเมืองคนหนึ่งเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่พอใจแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวยังให้ข้อมูลถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่เกิดความขัดแย้งและความรุนแรงขึ้น หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งในการรัฐประหาร เมื่อปี 2549 แต่หลายฝ่ายก็ยังเชื่อว่า อดีตนายกรัฐมนตรีผู้เดินทางออกนอกประเทศ เพื่อหลบหนีโทษจำคุกจากข้อหาคอร์รัปชั่น ยังคงมีอิทธิพลอย่างเบ็ดเสร็จ ในการปกครองประเทศของพรรคเพื่อไทย
สำหรับในขณะนี้ ชาวเน็ตไทยบางส่วนได้ตั้งเฟซบุ๊กแฟนเพจ เพื่อเรียกร้องให้ละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 ที่ยังเหลือตอนซึ่งไม่ได้ออกอากาศอยู่อย่างน้อย 3 ตอน กลับมาออกอากาศทางจอโทรทัศน์จนจบอีกครั้ง โดยแฟนเพจนี้มีผู้ใช้กดไลค์มากกว่า 40,000 รายแล้ว ขณะที่บางกลุ่มขู่แบนช่อง 3 เช่นกัน เพื่อแสดงจุดยืนความไม่พอใจในกรณีระงับฉายเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยเข้มงวดเรื่องการเซ็นเซอร์สื่อโทรทัศน์มาก โดยเฉพาะการเบลอภาพของสุราและบุหรี่ แต่สำหรับกรณีการระงับออกอากาศละครที่ยังฉายไม่จบนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 08 มกราคม 2556 |
| |
|
Last Update : 8 มกราคม 2556 21:50:38 น. |
| |
Counter : 2488 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |