“ชูวิทย์” โวยคนร้ายยิงโรงแรม เชื่อกำนันสุเทพสั่ง คนร้ายยิงใส่โรงแรมเดอะ เดวิส ซอยสุขุมวิท 24 ของชูวิทย์ กระจกแตกเสียหาย เชื่อเป็นฝีมือของกำนันสุเทพ สั่งการ ปมการเมือง        เมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (25 มี.ค.) ร.ต.ท.สิริศักดิ์ อินทร์สิทธิ์ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุมีคนใช้อาวุธปืนยิงใส่โรงแรมเดอะ เดวิส เลขที่ 88 และศูนย์การค้า 24 อเวนิว เลขที่ 88/1 ซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.โรงแรมดังกล่าวเป็นของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย จึงรายงานให้ผู้บังคับทราบ ก่อนเร่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ชูตระกุล ยศมาดี ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.ภานุภัทร กิตติพันธุ์ สว.สส. ร.ต.อ.ทองเปลว หาญไพบูลย์ รอง สว.สส.        โดยที่เกิดเหตุบริเวณทางเข้าศูนย์การค้า 24 อเวนิว จากการตรวจสอบพบว่าประตู กระจกทางเข้าถูกกระสุนปืนยิงจนแตกเสียหาย 1 บาน ถัดมาประมาณ 50 เมตร บริเวณประตูทางเข้า พบว่าประตูทางเข้าห้องอาหารแกลลอรี่ คาเฟ่ ตั้งอยู่ บริเวณชั้นล่างของโรงแรมเดอะ เดวิส นั้น ถูกกระสุนปืนยิงจนแตกเสียหายจำนวน 1 บาน และผนังกระจกแตกอีก 1 บาน ภายในห้องอาหารดังกล่าวพบรูกระสุนที่เสาไม้ จุดวางอาหารอีก 1 รู แต่ทั้ง 2 แห่งนั้นไม่พบหัวกระสุนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดทีพบไว้เป็นหลักฐาน        จากการสอบสวน นายมานิตย์ ยุ่นประยงค์ ซึ่งเป็นผู้จัดการของโรงแรมเดอะ เดวิส ให้การว่าก่อนเกิดเหตุกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในโรงแรมตามปกติ จนกระทั่งเวลา ประมาณ 02.55 น.ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืนดังขึ้น 3 ครั้ง จากบริเวณถนนหน้าโรงแรม จึงเดินออกมาดูก็พบว่าบานประตูกระจกทางเข้าห้องอาหารชั้นล่างของโรงแรมเดอะ เดวิส ได้รับความเสียหาย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ        ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมายังโรงแรมเดอะ เดวิส พร้อมนำอาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 กับอาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อสมิธ แอนด์ เวสสัน มาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่โรงแรมของตนรวมทั้งศูนย์การค้า 24 อเวนิว ถูกยิงนั้น ตนคิดว่าคนร้ายน่าจะมาระบายอารมณ์ใส่โรงแรมของตน และมีสาเหตุมาจากเรื่องการเมืองแน่นอน เพราะคราวที่แล้วที่ตนโดนปากระจกถึง 8 ครั้ง ก็มาจากที่ไปพูดเรื่องบ่อน ส่วนคราวนี้ตนก็พูดและเขียนลงเฟซบุ๊ก ว่าต้องการให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่ม กปปส.ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไป จึงอาจเป็นนายสุเทพที่ให้ใครเอาอาวุธปืนมายิงใส่ก็ได้ ที่ตนพูดแบบนี้ เพราะเวลามีคนยิงปืนหรือเอ็ม 79 ใส่กลุ่ม กปปส.นายสุเทพ ก็บอกว่าเป็นฝีมือของรัฐบาล ทั้งที่ไม่มีพยานหลักฐานแล้วทำไมตนจะว่าคนร้ายที่ยิงปืนใส่โรงแรมของตนนั้น เป็นฝีมือของนายสุเทพบ้างไม่ได้ ทั้งนี้ ตนไม่ใช่คู่กรณีของ นายสุเทพ หรือกลุ่ม กปปส.เพราะไม่ได้เป็นฝ่ายรัฐบาล ตนเพียงต้องการให้ทุกคนเคารพสิทธิด้วยการออกมาเลือกตั้ง ส่วนที่ตนเอาอาวุธปืนติดตัวมาด้วย เพราะต้องเอาไว้ป้องกันตัว เพราะตอนนี้บ้านเมืองไม่มีกฎหมายแล้ว อยากยิงใส่ตรงไหนก็ได้ ตนจึงอยากให้รู้ว่าตนก็มีปืนเหมือนกัน โดยตนมีอาวุธปืนทั้งหมด 22 กระบอก และทุกกระบอกมีทะเบียน มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช.ไว้แล้วด้วย ถ้าหากตนพกเอ็ม 79 ได้ก็คงพกมาแล้ว ส่วนเรื่องที่คนร้ายเลือกมายิงใส่โรงแรมเดอะ เดวิส นั้น ก็เพราะไม่รู้ว่าตนนอนบ้านหลังไหน เนื่องจากตนมีบ้านหลายหลัง ไม่มีทางรู้แน่นอนว่าตนจะนอนที่ไหน อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตนได้ให้ผู้จัดการโรงแรมแจ้งความไว้แล้ว เพราะอาจจะมีคนมากล่าวหาว่าตนสร้างสถานการณ์จัดฉากขึ้นมาเองก็เป็นได้ ตอนนี้เวลารับสมัครพนักงานโรงแรม ยังต้องถามว่าใจกล้าหรือไม่ เพราะโรงแรมโดนประจำเปลี่ยนกระจกมาแล้วกว่า 10 บาน ถ้าใจไม่ถึงให้นอนอยู่บ้าน ไม่ต้องมาเป็นพนักงานของตน        ด้าน พ.ต.อ.ชูตระกูล กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เบื้องต้นพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย 2 คนขับขี่รถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อย้อนศรมาจากซอยสุขุมวิท 22 ก่อนจะมาทะลุออกซอยสุขุมวิท 24 จากนั้นก็ใช้อาวุธปืนยิงใส่ประตูของศูนย์การค้า 24 อเวนิว ก่อนจำนวน 3 นัด ก่อนจะขับขี่รถ จยย.มายิงใส่ห้องอาหารแกลลอรี่คาเฟ่ ของโรงแรมเดอะ เดวิส อีก 3 นัด จากนั้นจึงขับขี่รถ จยย.หลบหนีออกไปทางถนนพระรามที่ 4 ทั้งนี้ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ทำการตรวจสอบหากล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพิ่มเติมว่าจะสามารถจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้อีกหรือไม่ พร้อมทั้งหาหัวกระสุนให้พบ ก่อนนำส่งไปตรวจพิสูจน์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป //www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000033778   Create Date : 25 มีนาคม 2557     0 comment Last Update : 25 มีนาคม 2557 21:03:32 น.     Counter : 1764 Pageviews.   Share Tweet

สื่ออังกฤษเผย MH370 ลดระดับเหลือ 12,000 ฟุตหลังหักซ้ายข้ามคาบสมุทรมลายู-บ่งชี้อาจเกิด “วิกฤต” ในห้อง เอเจนซีส์ - เว็บไซต์เดลีเมล์ของอังกฤษเผย เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส MH370 ได้ลดระดับความสูงอย่างกะทันหันลงมาอยู่ที่ 12,000 ฟุต (ราว 3.65 กิโลเมตร) ก่อนที่จะสัญญาณเรดาร์จะขาดหายไป ซึ่งบ่งชี้อาจว่าเกิดความผิดปกติหรือ “เหตุฉุกเฉิน” บางอย่างในห้องโดยสาร ซึ่งทำให้นักบินต้องพยายามนำเครื่องวกกลับและหาทางลงจอด        ขณะที่นานาชาติได้ระดมบุคลากรและเทคโนโลยีอันทันสมัยที่สุดเพื่อติดตามหาเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ของมาเลเซียที่สูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้ออกมาตั้งข้อสันนิษฐานล่าสุดว่า การที่เครื่องบินลำนี้หักหัวไปทางซ้ายอย่างกะทันหัน น่าจะเป็น “ความจงใจ” ของนักบิน        เรดาร์ของกองทัพมาเลเซียจับสัญญาณจาก MH370 ได้เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 2.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยพบว่าเครื่องบินอยู่ห่างจากเกาะปีนังไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 200 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นเวลาราว 1 ชั่วโมงหลังจากที่มันเบี่ยงออกจากเส้นทางระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่งของจีน        แหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการสอบสวนอ้างข้อมูลเรดาร์ที่ชี้ว่า เครื่องบินได้ลดระดับลงหลังจากที่เลี้ยวซ้ายมุ่งมายังช่องแคบมะละกา        เจ้าหน้าที่ซึ่งขอสงวนนามเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชน ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า การบินอยู่ที่ระดับความสูง 12,000 ฟุตจะทำให้เครื่องบินลำนี้เล็ดรอดจากการมองเห็นของเครื่องบินลำอื่นได้        แมรี เชียโว นักวิเคราะห์ด้านการบินและอดีตหัวหน้าผู้ตรวจสอบของกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า ข้อมูลนี้ “มีความสำคัญอย่างมาก” เพราะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถปะติดปะต่อข้อมูลที่ค่อนข้างจะสับสนก่อนหน้านี้        “หากเครื่องบินเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน และลดระดับความสูงจาก 35,000 ฟุต (ราว 10 กิโลเมตร) ลงมาเหลือแค่ 12,000 ฟุต (3.65 กิโลเมตร) ก็เป็นสิ่งที่นักบินอาจตัดสินใจทำในกรณีที่เกิดวิฤตร้ายแรงในห้องโดยสาร เช่น ความดันลดลงอย่างรวดเร็ว, เพลิงไหม้ หรือการระเบิด เป็นต้น”        “ในกรณีเช่นนี้ สิ่งที่คนเป็นนักบินจะต้องทำก็คือ ลดระดับความสูง นำเครื่องลง และวกกลับมายังสนามบินสักแห่งหนึ่งที่จะสามารถรองรับเครื่องบินที่เกิดปัญหาได้”        ข้อมูลนี้นำมาซึ่งคำถามสำคัญว่า เกิดเหตุร้ายแรงอะไรขึ้นที่ทำให้เครื่องบินต้องลดระดับความสูงลงมาถึงขนาดนั้น        อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า MH370 ใช้เวลานานเท่าใดในการลดระดับลงมาอยู่ที่ 12,000 ฟุต และเป็นสิ่งที่พนักงานสอบสวนจะต้องค้นหาคำตอบให้ได้        ฝรั่งเศสเป็นประเทศล่าสุดที่อ้างว่าพบวัตถุต้องสงสัยในมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ที่อาจเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบิน MH370 อยู่ห่างจากจุดที่ทำการค้นหาในปัจจุบันราว 850 กิโลเมตร ซึ่งทีมค้นหานานาชาติก็หวังว่าข้อมูลใหม่นี้จะช่วยคลายปริศนาการหายไปของโบอิ้งมาเลเซีย และคนบนเครื่องทั้ง 239 ชีวิต   Create Date : 24 มีนาคม 2557     0 comment Last Update : 24 มีนาคม 2557 21:03:26 น.     Counter : 1605 Pageviews.   Share Tweet

พายุลูกเห็บกระหน่ำเชียงรายอีก เชียงราย - เกิดพายุลูกเห็บตกลงมาในพื้นที่เชียงรายอีก หลังมีฝนตกลงมาก่อนหน้านั้น และฝนตกครั้งนี้ส่งผลดีทำให้คุณภาพอากาศทั่วเมืองดีขึ้น ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศลดลง        ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (23 มี.ค.) ได้เกิดฝนตกหนักเป็นเวลาช่วงสั้นๆ ในเขต อ.เมืองเชียงราย โดยหลังจากสภาพอากาศอึมครึมมีเมฆสลัวตลอดทั้งวัน ฝนได้ตกกระหน่ำลงมาอย่างรวดเร็ว และยังมีลูกเห็บตกลงมาอย่างหนักด้วย        ลูกเห็บที่ตกลงมามีขนาดเล็กเท่าหัวแม่มือแต่ตกลงมาอย่างถี่ยิบจนทำให้วัตถุสิ่งของ หรือผ้าใบต่างๆ ที่กางเอาไว้ในที่โล่งได้รับความเสียหายโดยถ้วนหน้า โดยเฉพาะบริเวณชุมชนหน้าค่ายเม็งรายมหาราช พบว่า ฝนได้กระหน่ำลงมาพร้อมกับลูกเห็บจนก้อนลูกเห็บขาวโพลนไปทั่วพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ฝนได้ตกลงมาเป็นระยะเวลานานเพียงประมาณ 30 นาทีก็หยุด และมีแดดออกจนทำให้สภาพอากาศแจ่มใสอีกครั้ง        ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากสภาพอากาศดังกล่าวได้ทำให้เครื่องวัดค่าฝุ่นละอองและหมอกควัน ซึ่งกรมควบคุมมลพิษติดตั้งเอาไว้ที่สำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย ชายแดนไทย-พม่า มีฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศอยู่ที่เพียง 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ตั้งอยู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย อยู่ที่เพียง 66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในค่าปลอดภัยที่กำหนดไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร        อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย แจ้งว่าจะมีฝนและพายุลูกเห็บในช่วงระหว่างวันที่ 21-23 มี.ค.นี้เท่านั้น ซึ่งได้แจ้งเตือนให้ประชาชนได้ระวังเรื่องพายุ และลูกเห็บแต่ หลังจากนั้น ทุกฝ่ายยังคงต้องเฝ้าจับตาเรื่องวิกฤตจากหมอกควันกันต่อไป   Create Date : 23 มีนาคม 2557     0 comment Last Update : 23 มีนาคม 2557 22:23:32 น.     Counter : 1437 Pageviews.   Share Tweet

“เทือก”เป่านกหวีด 29 มี.ค.นี้ ชู"ปฏิรูปประเทศ-ไล่ยิ่งลักษณ์-ไม่เอาเลือกตั้ง” “สุเทพ”นัดเดินขบวนใหญ่ทั่วประเทศอีกครั้ง เสาร์ที่ 29 มี.ค.นี้ แสดงพลังเรียกร้องปฏิรูปประเทศ-ขับไล่ “ยิ่งลักษณ์” ดีเดย์ 9 โมงครึ่ง เคลื่อนไปลานพระรูป ถวายสักการะ ร.5-ร.7 เตือน “ปู”อย่าเลือกตั้งใหม่ ต้องปฏิรูปก่อนเท่านั้น        นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กล่าวปราศรัยที่เวทีสวนลุมพินี ในช่วงเวลา 20.00 น.เศษที่ผ่านมาว่า ขอนัดเดินขบวนครั้งใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2557 เพื่อแสดงพลังเรียกร้องการปฏิรูปประเทศ และขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีที่ขัดขวางการปฏิรูป โดยในกรุงเทพฯ จะเดินขบวนให้เป็นขบวนใหญ่เพียงขบวนเดียว ออกจากสวนลุมพินีในเวลา 09.30 น. เดินไปทางถนนสุขุมวิท แล้วเลี้ยวซ้าย ผ่านแยกราชประสงค์ ไปถึงแยกปทุมวัน แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนพญาไท เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเพชรบุรี เพื่อมุ่งหน้าไปลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อถวายสักการะและขอพระราชทานพรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงริเริ่มการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ หลังจากจากนั้นจะเดินไปถวายสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 7 พระมหากษัตริย์ผู้พระราชทานอำนาจการปกครองให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ใช่คณะบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง        สำหรับ กปปส.ในต่างจังหวัดให้เดินขบวนในลักษณะเดียวกัน คือไปที่พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ถวายสักการะ แล้วแสดงพลังเรียกร้องการปฏิรูปประเทศ        นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ช่วงสัปดาห์หน้า ก่อนถึงวันที่ 29 มีนาคม ตนจะนำมวลชนออกเดินชักชวนประชาชนในกรุงเทพฯ ให้ออกมาร่วมเดินรณรงค์ทุกวันตามถนนทุกสาย เพื่อให้การเดินขบวนครั้งนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินขบวนของประเทศไทย โดยจะเป็นการเดินขบวนโดยสงบและปราศจากอาวุธ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนด้วย        นายสุเทพ บอกไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าไม่ต้องเสนอทูลเกล้าฯ ออกพระราชกฤษฎีการจัดเลือกตั้งใหม่ เพราะถึงอย่างไรมวลมหาประชาชนก็ไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ต้องให้มีการปฏิรูปก่อน ถ้าจัดเลือกตั้งอีกก็จะเสียงบประมาณเปล่าอย่างแน่นอน และต้องไปเรียกคืนจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ดันทุรังให้มีการเลือกตั้ง   Create Date : 22 มีนาคม 2557     0 comment Last Update : 22 มีนาคม 2557 22:26:50 น.     Counter : 1710 Pageviews.   Share Tweet

“ปัทมา ณ เวียงฟ้า” อดีตนักร้องดังวงครูสุรพล สมบัติเจริญ เสียชีวิต สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตในบ้านพักภายในซอยสุขุมวิท 48 รุดตรวจสอบเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญู พบผู้ตายคือ “ปัทมา ณ เวียงฟ้า” อดีตนักร้องของวงครูสุรพล สมบัติเจริญ เจ้าของบทเพลง “ม่วยช้ำ” และ “ม่วยหายช้ำ” ญาติคาดความดันกำเริบ        เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (20 มี.ค.) ร.ต.ท.ศิวนัส สุวรพันธ์ พงส.สน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 173/9 ซ.สุขุมวิท 48 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนเร่งเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ รพ.จุฬาลงกรณ์ และมูลนิธิร่วมกตัญญู        ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวขนาด 40 ตารางเมตร พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือนางปัทมา สุขเกษม หรือปัทมา ณ เวียงฟ้า อดีตนักร้องของวงครูสุรพล สมบัติเจริญ เจ้าของบทเพลงดัง ม่วยช้ำ และม่วยหายช้ำ โดยนางปัทมานอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนสภาพศพสวมผ้าถุงสีเขียว นอนเสียชีวิตบนเตียงมีมุ้งคลุมอยู่ ภายในห้องไม่มีร่องรอยรื้อค้นสิ่งของแต่อย่างใด        จากการสอบถามญาติผู้ตายให้การว่า ผู้ตายพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวคนเดียว เนื่องจากสามีและลูกทั้ง 3 คนได้เสียชีวิตไปแล้ว เจ้าตัวจึงใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมานานหลายปี โดยยึดอาชีพขายผ้ามือสองที่หลังตลาดพระโขนง หลานเคยชักชวนให้ไปพักอยู่ด้วยที่บ้านย่าน จ.ปทุธานี แต่นางปัทมาไม่ยอมอ้างว่าอยากอยู่คนเดียว ซึ่งทางญาติก็เดินทางมาหาบ่อยครั้ง ซึ่งล่าสุดตนได้โทร.หาผู้ตายตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว จากนั้นตนก็ไม่ได้ติดต่อไปอีกเลย จนชาวบ้านละแวกดังกล่าวบอกว่าไม่เห็นผู้ตายออกจากบ้านมา 2-3 วัน เมื่อไปดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ ผู้ตายไม่เคยมีประวัติเป็นโรคส่วนตัว แต่ช่วงหลังบ่นว่าเป็นโรคความดันบ้าง แต่ก็มีดื่มเหล้าบ้าง ส่วนเรื่องงานนั้นผู้ตายเคยเป็นนักร้องอยู่ในวงของสุรพล สมบัติเจริญ ปัจจุบันก็ยังรับงานร้องเพลงตามงานบวชซึ่งก็จะมีคนที่มีอายุมากๆ ว่าจ้างไปร้องด้วย        นางสุนันท์ ปิลันทนานุรักษ์ อายุ 60 ปี แฟนเพลงของผู้ตายกล่าวว่า เมื่อทราบจากกลุ่มเพื่อนๆ ก็รีบเดินทางมาดูเพราะคุ้นเคยกันมานานตั้งแต่สมัยตนเป็นเด็กๆ เวลาที่ผู้ตายเดินทางไปร้องเพลงตามงานต่างๆ ก็จะติดตามไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับ ส่วนการสูญเสียครั้งนี้ก็รู้สึกเสียใจเพราะผู้ตายสนิทกับคนที่อยู่ในชุมชนนี้มากเพราะอยู่มาตั้งแต่สมัยที่เป็นนักร้องใหม่ๆ        ด้าน ร.ต.ท.ศิวนัสกล่าวว่า เบื้องต้นจากการชันสูตรของแพทย์ไม่พบว่ามีร่องรอยถูกทำร้าย มีเพียงรอยแผลที่ผู้ตายเคยถูกตะปูตำที่ขา อย่างไรก็ตามได้ส่งศพไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป        สำหรับนางปัทมาสุขเกษม หรือปัทมา ณ เวียงฟ้า ได้เข้าสู่วงการเพลงโดยเป็นนักร้องในวงของครูสุรพล สมบัติเจริญ มีผลงานเพลงร้องแก้เพลงดัง อย่าง ม่วยหายช้ำ ต่อมาเมื่อครูสุรพลเสียชีวิตจึงได้ออกจากวง   Create Date : 20 มีนาคม 2557     0 comment Last Update : 20 มีนาคม 2557 21:39:40 น.     Counter : 3478 Pageviews.   Share Tweet