เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

สุขสุดๆ “ใบเตย” ฟุ้งฟัน 1 ล้าน+กระเป๋าแบรนด์เนมค่าตัวร้องเพลง-หม่ำข้าว "ทักษิณ"

“ใบเตย อาร์สยาม” รับรับงานร้องเพลง-หม่ำข้าวกับ “ทักษิณ ชินวัตร” จริง บอกมีศิลปินหลายคนที่ไป ฟุ้งค่าจ้างครั้งละ 5 แสน/กระเป๋าแบรด์เนม พร้อมส่วนลดบ้านหรูราคา 20 ล้าน เปรยสงสารอีกฝ่ายอยากกลับบ้าน ลั่นสุขสุดๆ ได้เปิดโลกทัศน์ บอกคุยกับ “พี่โอ๊ค” แล้วอยากไปให้ความสุขกับ “ท่าน” อีก

    หลังตกเป็นข่าวไปรับงานเอนเตอร์เทนร้องเพลงและตบท้ายด้วยการทานข้าวกับอดีตนายกฯนักโทษหนีคดี “ทักษิณ ชินวัตร” ถึงที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ด้วยค่าตัวครั้งละ 5 แสนบาท กระเป๋าแบรนด์เนมหรูพร้อมสิทธิพิเศษส่วนลดบ้านใหม่ ราคา 20 ล้าน ล่าสุดทางด้านของนักร้องสาวจากค่ายอาร์สยามเจ้าของฉายา “สั้นเสมอหู” อย่าง “ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน” ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว

        ทั้งนี้นักร้องสาวได้ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวทั้งหมดเป็นความจริง แต่ทั้งหมดนั้นได้ผ่านการพิจารณาจากบริษัทต้นสังกัดตลอดจนผู้ใหญ่แล้ว ก่อนบอกอดีตนายกฯมีมิตรภาพที่ดีกับทางค่ายอาร์เอส รวมถึงศิลปินในสังกัดมาโดยตลอดไม่ใช่เฉพาะกับตนคนเดียว

        “เป็นจริงทุกประการตามข่าวค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นได้ผ่านการพิจารณาจากบริษัท และผู้ใหญ่ทุกท่านแล้ว ตัวท่านทักษิณ มีมิตรภาพที่ดีกับอาร์เอสมาตลอดเหมือนมีงานไหนที่เหมาะสมกับศิลปินคนไหน ไม่ใช่แค่ใบเตยคนเดียวที่ได้ไปแต่ล่าสุดเป็นเราเท่านั้นเอง”

        “ไปมา 2 ประเทศแล้ว ฮ่องกงและสิงคโปร์ จริงๆ ก็ตั้งแต่ปีที่แล้วนะคะ สิงคโปร์นี่ไปงาน เอฟวัน อย่างฮ่องกงก็เป็นงานเลี้ยงภายในของท่านที่มีนักการเมืองหลายท่านไปเยี่ยมท่านที่นั่น มีศิลปินที่มีเราและหลายๆ เบอร์จากค่ายต่างๆ ใบเตยก็ไปร้องเพลงและนั่งทานข้าว เป็นงานส่วนตัวนิดนึงค่ะ ที่ได้ใกล้ชิดกับท่าน มีคนไม่มาก ได้พูดคุยกันค่ะ”

        “ท่านก็เป็นคนดีในระดับนึง ท่านไม่รู้จักใบเตย เพราะท่านอยู่ต่างประเทศตลอด พอได้เจอฟังเพลงก็เลยรู้จักว่าเราคือใบเตย อาร์สยาม ได้ร้องเพลงเก่าๆ ให้ท่านฟัง ความจริงแล้วใบเตยบอกได้เลยว่าน่าเห็นใจ ท่านอยากฟังเพลงไทยมาก ท่านอยากกลับบ้านเกิด ใบเตยก็มีหน้าที่ส่วนนึงได้ทำให้ท่านรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเกิดได้ฟังเพลงไทย”

        เผยอีกฝ่ายติดต่อผ่านมาทางค่ายและผู้จัดการส่วนตัว แต่ไม่ได้คุยกับตนโดยตรง...“ติดต่อมาทางค่ายและผู้จัดการส่วนตัวโดยตรงค่ะ แต่ไม่มีคุยส่วนตัวค่ะ (ได้เงิน 1 ล้านบาทพร้อมกระเป๋าแบรนด์เนม?) ค่ะ ดีมาก เรียกว่าเป็นการชอปปิ้งมากกว่า จะมีลูกน้องเป็นตัวแทนพาเราไปช้อปปิ้งหลังเสร็จงานแล้ว (เห็นว่าหมู่บ้าน บลูเลอวาร์ด ที่ซื้อก็ได้ส่วนลดด้วย?)...ได้ส่วนลดจากครอบครัวท่านมากกว่าค่ะ”

        เมื่อถูกถามว่ากลัวถูกมองโยงไปเรื่องการเมืองหรือไม่เจ้าตัวบอกไม่อยากให้มองเช่นนั้นแต่อยากให้มองเป็นเรื่องงานที่ตนรับผิดชอบมากกว่า...“ไม่ค่ะ อยากให้มองว่ามันคืองานที่ใบเตยต้องรับผิดชอบ ทำหน้าที่มอบความสุข เรื่องงานก็คือเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว เรื่องสังคมก็คือเรื่องสังคม”

ตกใจกับข่าวมั้ย?...“ไม่เลยค่ะ เพื่อนส่งข่าวมาให้ดู ไม่เอะใจอะไร ความจริงก็คือความจริง ใบเตยชัดเจนอยู่แล้ว หลายฝ่ายรับทราบกับตรงนี้”

        ลั่นแฟนหนุ่มดีเจแมน “พัฒนพล” เข้าใจ ไม่หวั่นคนมองมากกว่ากินข้าว-แถมซื้อบ้านให้ ก่อนบอกคุยกับ “โอ๊ค พานทองแท้” รับอยากจะไปร้องเพลงตอบแทนอีกสัก 3 งาน เชื่อแฟนคลับเข้าใจ
        “โอเคค่ะ พี่แมนเข้าใจ...ไม่มีอยู่แล้วเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เราไปในฐานะ ศิลปินจากค่ายอาร์สยาม (คนมองว่า ท่านซื้อบ้านให้เรา?) ไม่เลยค่ะ ซื้อเอง ให้ก็ดีค่ะ อยากจะไปร้องตอบแทนท่านซัก 3 งานค่ะ (หัวเราะ) ก็คุยกับพี่โอ๊คค่ะ ว่าอยากไป เป็นงานที่แฮปปี้มีความสุข ได้ร้องเพลงได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ”

        “ถามว่าจะมีทริปพิเศษอีกไหม คือใบเตยไม่ได้ซีเรียสเรื่องค่าจ้าง แค่ได้ไปเที่ยวก็มีเป็นกำไรแล้ว นอกเหนือจากนั้นก็อยู่ที่วาระของผู้ใหญ่ ทางทักษิณ ก็สนิทกับทางอาร์เอสกับเฮียอยู่แล้ว ได้เรียกใช้อาร์เอสมาตลอด”

กลัวคนมองว่าเรารับจ๊อบพิเศษหรือเปล่า? “ไม่นะคะ หลายฝ่ายคงเข้าใจ ตามข่าวก็เคลียร์ชัดเจนว่าเราไปทำงาน ไม่ได้เขียนว่าเราไปทำอะไรไม่ดีกับท่าน”

กลัวแฟนคลับแอนตี้ไหม?...“ไม่ค่ะ เข้าใจ ไม่มีฟีดแบ็กอะไรที่ไม่ดีเลย”










//www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000117998




 

Create Date : 19 กันยายน 2556   
Last Update : 19 กันยายน 2556 7:22:02 น.   
Counter : 2865 Pageviews.  

ว่อนเน็ตชายหน้าคล้ายพระชื่อดังพังงาเปลือยล่อนจ้อนมั่วสีกาที่ภูเก็ต

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ว่อนเน็ตคลิปวีดีโอพระหน้าคลายพระชื่อดังในจังหวัดพังงาย่องมั่วสีกาที่ภูเก็ต ลูกศิษย์ระบุไม่ใช่เจ้าอาวาสชื่อดังแค่เป็นแค่ภาพตัดต่อหวังดิสเครดิตเท่านั้น

       วันนี้ (17ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ได้มีคลิปวีดีโอของพระหน้าคล้ายกับพระชื่อดังและและเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.พังงา กำลังมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง เผยแพร่ในโลกอินเทอร์เน็ตจนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และมีการแชร์ภาพวีดีโอดังกล่าวอย่างกว้างขวาง สำหรับในคลิปวีดีโอดังกล่าว เป็นภาพของพระมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มีทั้งหมด 2 คลืป โดยคลิปแรก มีความยาวประมาณ 19 นาที 26 วินาที เป็นภาพที่พระรูปดังกล่าว เดินทางมาที่บ้านพักที่อยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยมีผู้หญิงออกมาต้อนรับ จากนั้นมีการพูดคุยกันที่โต๊ะอาหารในห้องครัว และในระหว่างนั้น ทั้งคู่ได้นับเงินจำนวนหนึ่งและเก็บไว้ในกระเป๋า หลังจากนั้น ผู้หญิงลุกขึ้นยืน และเดินไปที่ห้องพัก ในขณะที่พระบอกผู้หญิงว่า "ได้เวลาละ" จากนั้นพระได้เดินตามผู้หญิงเข้าห้องนอนไป สำหรับวีดีโอดังกล่าวเชื่อตั้งกล้องแอบถ่ายไว้ในห้องรับแขกของบ้านซึ่งสามารถมองเห็นโต๊ะอาหาร

ส่วนวีดีโอคลิปที่ 2 ความยาว 2 ชั่วโมง 15 นาที 51 วินาที เป็นการตั้งกล้องใกล้เคียงกับจุดเดิม ซึ่งนาทีที่ 3 เห็นภาพผู้หญิงเปิดประตูไปรับพระอย่างชัดเจน และทั้งคู่เดินเข้ามาในห้อง ในนาทีที่ 4.45 พระรูปดังกล่าวถือย่ามสีน้ำเงิน และเอาผ้าอังสะเอามาแขวนบนเก้าอี้ และเมื่อผ่านไปประมาณ 14.40 นาที ผู้หญิงเริ่มถอดเสื้อผ้าและชุดชั้นในทั้งหมดจนเปลือยกายล่อนจ้อน และเดินเข้าไปหาพระที่อยู่ในด้านซ้ายมือของจอภาพ และไม่นานนักนาทีที่ 20.23 ผู้หญิงเดินจูงมือพระที่อยู่ในสภาพเปลือยกายมีเพียงตะกรุดแขวนเอวเท่านั้นออกมา ด้านขวามือของจอภาพ โดยใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง พระยังเดินเปลือยกายเห็นอวัยวะเพศอย่างชัดเจน และทั้งคู่ออกมาแต่งตัว และผู้หญิงออกไปส่งพระ สำหรับหญิงสาวคนดังกล่าว อยู่ในวัยกลางคน เป็นภรรยาเจ้าของร้านธุรกิจชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพพระหน้าคล้ายพระชื่อดังในอินเทอร์เน็ต ได้มีลูกศิษย์ของพระชื่อดังออกมาอ้างว่า ภาพคลิปวีดีโอดังกล่าวมีการตัดต่อและสร้างเรื่องราวขึ้น เพื่อดิสเครดิต เจ้าอาวาสชื่อดัง และภาพที่ปรากฏไม่ใช่ภาพของพระ ดังกล่าว และยังกล่าวย้ำด้วยว่า หากสื่อมวลชนรายใด นำภาพข่าวไปเผยแพร่ทั้งสื่อหลักและในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ต่างๆ จะมีการฟ้องทุกราย



//www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000117457




 

Create Date : 17 กันยายน 2556   
Last Update : 17 กันยายน 2556 21:26:23 น.   
Counter : 26202 Pageviews.  

ลูกบ้าน “ดีคอนโด รามอินทรา” โวย “แสนสิริ” แอบโอนทางเข้า-ออกเป็นทางสาธารณะ

ตัวแทนนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา หอบเอกสารวิ่งโร่ร้องเรียน กรณี “แสนสิริ” โอนถนนทางเข้า-ออกโครงการ โดยไม่แจ้ง หรือขอความเห็นชอบจากเจ้าของร่วม หลังทราบเรื่อง-ข้อเท็จจริงผ่านเอกสารชี้แจงของบริษัท แนเชอรัล พาร์คฯ โดยระบุถึงการใช้ทางสาธารณะประโยชน์หน้าโครงการดีคอนโด รามอินทรา เป็นทางเข้าออกร่วม ด้าน แสนสิริ ยันไม่เคยมีการระบุว่าถนนด้านหน้าโครงการเป็นพื้นที่ของโครงการหรือเจ้าของร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ทางแนเชอรัล พาร์คฯ แจงการดำเนินงานถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ละเมิดสิทธิพื้นที่ส่วนบุคคล

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้อพิพาทปัญหาการยกกรรมสิทธิ์ที่ดินทางเข้าออกโครงการดีคอนโด รามอินทรา ให้เป็นถนนสธารณะ หว่างนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งยังเป็นปัญหาที่ยังไม่ได้ข้อสรุปจากทั้ง 2 ฝ่ายที่เกิดขึ้น ล่าสุด ตัวแทนนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดังกล่าว ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อหนังสือพิมพ์ “ASTVผู้จัดการรายวัน” พร้อมนำหลักฐาน แผ่นพับ เอกสารใบโฆษณาเสนอขายโครงการ และเอกสารแนบท้ายสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด รวมถึงแผนผังที่ตั้งโครงการประกอบการร้องเรียน

       โดยสาระสำคัญที่ตัวแทนนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา กล่าวหาว่า บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้กระทำโดยพลการในการโอนที่ดินอันเป็นพื้นที่ถนนทางเข้า-ออกโครงการอาคารชุดดังกล่าว ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกเพียงเส้นทาง ให้เป็นทางสาธารณะเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกับโครงการอื่นอีก 1 โครงการ ส่งผลให้เจ้าของร่วม และผู้พักอาศัยในโครงการดีคอนโด รามอินทรา เสียประโยชน์โดยตรง

       ผู้แทนนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา กล่าวว่า ตามเอกสารโฆษณาขายโครงการดีคอนโด รามอินทรา ของ แสนสิริ ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า โครงการดังกล่าวมีที่ตั้งติดถนนรามอินทรา (มิใช่ติดทางสาธารณประโยชน์ที่ใช่ร่วมกันกับที่ดินอื่น) ทำให้ผู้ซื้อโครงการดังกล่าวทุกคนรับทราบ และเข้าใจมาโดยตลอดว่า โครงการดีคอนโด รามอินทรา มีที่ตั้งของโครงการติดถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. และสิ่งอำนวยความสะดวก การก่อสร้างถนนทางเข้าออกผิวจราจร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนสวนหย่อม ต้นไม้ และรั้วกันทาง ล้วนเป็นเงินลงทุนในโครงการ

       อย่างไรก็ตาม บริษัท แสนสิริ ได้แอบนำเอาพื้นที่ซึ่งเป็นถนนทางเข้า-ออกโครงการโอนเป็นทางสาธารณะ โดยไม่เคยบอก ไม่เคยแจ้ง ไม่เคยขออนุญาตต่อเจ้าของร่วมที่ซื้อ และจะซื้อโครงการแต่อย่างใด ว่า ถนนทางเข้า-ออกดังกล่าวมิใช่ที่ดินของโครงการ หรือจะโอน หรือได้มีการโอนพื้นที่ถนนทางเข้า-ออกโครงการ ให้เป็นทางสาธารณประโยชน์ไปแล้ว โดยกลุ่มเจ้าของร่วมโครงการดีคอนโดฯ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2556 หลังจากที่พนักงานลูกจ้างของเจ้าของที่ดินโครงการข้างเคียง ได้มารื้อทำรายรั้ว และถอนต้นไม้ของทางโครงการ เพื่อเปิดเป็นทางเข้าออกของโครงการข้างเคียงอีกทางหนึ่ง

       สำหรับ โครงการข้างเคียงดังกล่าวมีทางสาธารณประโชยน์เป็นทางเข้าออกอยู่แล้วคือ ซอยรามอินทรา 47 และในเวลาต่อมา เจ้าของร่วมโครงการดีคอนโดฯ ได้รับทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวจากเอกสาร จากบริษัทเนเชอร์รัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) ว่า จะดำเนินการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เป็นอาคารสูง 23 เมตร 1 อาคาร จำนวน 212 ยูนิต บนที่ดินของ บริษัท เนเชอร์รัล พาร์คฯ โดยจะใช้ทางสาธารณประโยชน์หน้าโครงการดีคอนโด รามอินทรา เป็นทางเข้าออกร่วมกัน

       “ดังนั้น ลูกค้า และเจ้าของร่วมโครงการดีคอนโดฯ ซึ่งเป็นลูกค้า แสนสิริ จึงได้รับทราบความจริงว่า แสนสิริ ได้แอบนำที่ดินพื้นที่ถนนของโครงการดีคอนโดฯ จำนวน 92 ตารางวา อันเป็นทางเข้าออกด้านหน้าโครงการฯ และเป็นถนนเข้า-ออกเพียงแห่งเดียวของโครงการฯ โอนให้เป็นทางสาธารณประโยชน์ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยไม่มีเจ้าของร่วมโครงการอาคารชุดดีคอนโด รามอินทรา ผู้ใดรับทราบมาก่อน”

ขณะที่นายสุริยะ วรรณบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการ และการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวชี้แจงต่อกรณีที่เกิดขึ้นว่า แสนสิริ ได้ยกพื้นที่ด้านหน้าโครงการดีคอนโด รามอินทรา รวมทั้งสวนหย่อมในบริเวณด้านหน้าเป็นสาธารณะตั้งแต่ พ.ศ.2554 และไม่เคยมีการระบุว่าถนนด้านหน้าโครงการเป็นพื้นที่ของโครงการ หรือเจ้าของร่วมแต่อย่างใด

ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อขอคำชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น จากบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) กว่า 1 สัปดาห์ ล่าสุด บริษัทฯได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า กรณีคำถามเกี่ยวกับพื้นที่ทางเข้าคอนโดมิเนียม พาร์ค รามอินทรานั้น บริษัท แนเชอรัล พาร์คฯ ขอเรียนชี้แจ้งว่า ทางบริษัทได้รับใบอนุญาตในการเชื่อมเข้าออกโครงการกับทางสาธารณะด้านหน้าโครงการจากหน่วยงานราชการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น บริษัทฯ ไม่ได้ละเมิดสิทธิพื้นที่ส่วนบุคคลอื่นใด

ล่าสุด แสนสิริ ได้ส่งหนังสือเชิญคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา และลูกบ้านโครงการดังกล่าว ให้เดินทางไปที่อาคารสิริภิญโญ เพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นร่วมกันในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ในเวลา 09.00 น.




//www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000116846




 

Create Date : 16 กันยายน 2556   
Last Update : 16 กันยายน 2556 21:28:57 น.   
Counter : 1935 Pageviews.  

“แบม-มิงค์-มะนาว” สาวบันเทิงของ “บรรหาร” และบ้านใครหว่า!?



ลือสนั่นสุพรรณบุรี ปรองดองฉบับน้องพี่ก็ไม่ใช่ ฉบับปู่หลานน่าจะใกล้เคียง สำหรับเรื่องราวข่าวลือของ “มะนาว ศรศิลป์ มณีวรรณ์” มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2008 ถึงกับต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวโต้ความสัมพันธ์กับนักการเมืองรุ่นปู่อย่าง “เติ้ง” บรรหาร ศิลปอาชา” เพราะภาพที่ถ่ายคู่กัน จนเป็นข่าวฉาวบ้านเล็กบ้านน้อยของอีกฝ่ายจนคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชาหนีไปบวชชี ซึ่งดาราสาวยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน

       เรียกว่ากระหึ่มวงการบันเทิงและการเมืองไม่น้อยกับภาพที่ถูกมือดีโพสต์ขึ้นโลกโซเชียลมีเดีย ของนักการเมืองดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี อย่าง “เติ้ง” หรือ “บรรหาร ศิลปอาชา” แม้ว่าอายุอานามจะปาเข้าไป 82 แล้ว แต่นี่คงเป็นอีกครั้งที่นักการเมืองคนดังกล่าวมีข่าวพัวพันกับดาราสาวรุ่นราวคราวหลาน หลังจากที่ในอดีตนั้น นายบรรหารเคยตกเป็นข่าวกับ “แบม จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์” อดีตโฆษกพรรคชาติไทย ที่ต้องบอกว่าเป็นขวัญใจของป๋าเติ้งและทำงานร่วมกันมานาน จนรู้อกรู้ใจ แต่จนแล้วจนรอดแบมก็แต่งงานมีลูกมีเต้าไปเรียบร้อยโรงเรียน “โบ๊ท บุตรรัตย์ จรูญสมิทธิ์” นักธุรกิจหนุ่มเรียบร้อย แม้จะมีเรื่องให้งอนกันบ้างในทางการเมือง ข่าวย้ายพรรคบ้าง ทำให้เกิดการห่างเหิน จนสุดท้ายถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทำให้เธอออกมาทำธุรกิจกับสามีแต่แบมยืนยันว่านับถือนายบรรหารเป็นผู้ใหญ่ในชีวิต ที่แม้จะมีข่าวลือก็ไม่ได้รู้สึกใดๆท่ามกลางข่าวลือต่างๆที่เกิดขึ้นกับนายบรรหารในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทย และในวันแต่งงานของแบมนายบรรหารยังเดินทางไปเป็นประธานในพิธีอีกด้วย ปัจจุบันแบมมีทายาท 2 คนแล้ว

       สาวบันเทิงคนต่อมาที่มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่แทนแบม คือ “มิงค์ ปอรรัชม์ ยอดเณร” อดีตนักแสดง พิธีกร ปัจจุบันอายุ 34 ปี บุตรคนกลางในบรรดาบุตรทั้ง 3 คน ของนายแพทย์ปิยเมธิ อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานคร กับ มาณวิกา ยอดเณร อดีตผู้ประกาศข่าวช่อง 3 มิงค์จบการศึกษาศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต เอกนาฏศิลป์ตะวันตก (บัลเลต์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีผลงานเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์รายการต่าง ๆ ในสังกัดอาร์.เอส.โปรโมชั่น รวมทั้งแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ฝันติดไฟ หัวใจติดดิน ในปี พ.ศ. 2540 และละครโทรทัศน์ชุด พ่อ ในปี พ.ศ. 2542 และเป็นครูสอนการเต้นรำ นอกจากนี้แล้วยังเป็นอาจารย์พิเศษในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

       ปี พ.ศ. 2548 มิงค์ได้เข้าสู่แวดวงการเมือง โดยการชักชวนของจณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ สมาชิกพรรคที่เคยอยู่ในแวดวงบันเทิงด้วยกันมาและเคยทำงานร่วมกันจองชัย เที่ยงธรรมมาก่อน และนายบรรหารได้ส่งมิงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เขต 5 กรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วยเขตปทุมวันและเขตราชเทวี สังกัดพรรคชาติไทย ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 แต่ว่าไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่หลังจากนั้นก็ได้มีตำแหน่งเป็นรองโฆษกพรรค จนกระทั่งในปลายปี พ.ศ. 2551 ในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 ซึ่งทางพรรคชาติไทยถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารทั้งหมดเป็นเวลา 5 ปี ปอรรัชม์ก็เป็นหนึ่งในกรรมการผู้บริหารพรรคจึงถูกตัดสิทธิทางการเมืองในครั้งนั้นด้วย ซึ่งแม้ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่มิงค์ได้ตำแหน่งรองโฆษกพรรคชาติไทยในสมัยนั้น

       จนมาถึงยุคของโซเชียลมีเดียกระฉ่อน เรื่องราวภาพของบรรหารและ “มะนาว ศรศิลป์ มณีวรรณ์” นางงามเวทีเล็ก มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2011 และดารานักแสดงของช่อง 7 ที่เพิ่งมีผลงานเรื่อง “ลูกไม้หลากสี” ในบทของ “แอน” หรือ “กฤติยา” และยังมีผลงานที่รอการถ่ายทำอยู่ ทันทีที่มีข่าวดังกล่าวมะนาวโพสต์อินสตาแกรมชี้แจงเรื่องดังกล่าว ก่อนจะแถลงข่าวที่ช่อง 7 และเดินทางไปแจ้งความไว้ที่สน.บางซื่อ ให้หาตัวคนปล่อยข่าวดังกล่าวในทันที

       สำหรับความสัมพันธ์ในภาพ เจ้าตัวยืนยันว่าได้ถ่ายภาพกับนายบรรหาร ศิลปอาชาจริง และเป็นคนโพสต์ขึ้นอินสตาแกรมด้วยตัวเอง อีกทั้งยืนยันว่าสถานที่ถ่ายภาพไม่ใช่ในห้องวีไอพีที่ตนขอเข้าไปถ่ายแต่ประการใด แถมยังถ่ายต่อจากนักร้องชื่อดังคนสุพรรณฯเหมือนกันอย่าง “ตูน บอดี้สแลม” และ “ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ” ก็อยู่ในงานนั้นด้วย ซึ่งมะนาวและดาราคนอื่นๆได้ไปชมฟุตบอลนัดสำคัญที่นายบรรหารได้เดินทางมาชมการแข่งขันด้วยเท่านั้น อีกทั้งมะนาวยังยืนยันว่าเคารพและรักกันเหมือนครอบครัวเดียวกัน ส่วนเรื่องราวของการถ่ายภาพในลักษณะโอบกอดนั้น มะนาวยอมรับว่าครอบครัวตำหนิและให้ระมัดระวังมากขึ้นถึงการวางตัวเพื่อไม่ให้การเกิดวิจารณ์ไปต่างๆนานา

       หลังจากการกระแสข่าวดังกล่าว “ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา” ลูกชายของนายบรรหารได้เข้าไปให้กำลังใจมะนาวด้วย อย่างไรก็ตามมะนาวยืนยันว่าสองครอบครัวสนิทกันและไม่เคยคิดเรื่องทำนองนี้มาก่อน อีกทั้งมีความเคารพคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชาและครอบครัวนี้มานาน อีกทั้งไม่ใช่เรื่องผิดปกติหากตนอยากถ่ายภาพกับพ่อเมืองสุพรรณฯ เนื่องจากได้มีโอกาสร่วมงานของจังหวัดสุพรรณบุรีบ่อยอยู่แล้ว อีกทั้งนายบรรหารยังถามเรื่องเรียนและถามเรื่องโรคจิตที่คอยโทร.ตามจนเป็นข่าวมาแล้วอีกด้วย แต่ในฐานะลูกหลานมะนาวตกเป็นข่าวกับมีหนุ่มในวงการกีฬาอย่า “ตอง” หรือ “กวิน ธรรมสัจจานันท์” แม้ไม่ระบุว่าเป็นคนรักแต่ฝ่ายชายก็ยืนยันว่าจะรอ และทั้งสองครอบครัวก็มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี

       สำหรับมะนาว นั้นปัจจุบันอายุ 21 ปี เกิดที่อำเภอเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 และเป็นเจ้าของตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2008 ปัจจุบันเล่นละคร ซิตคอม และเป็นพิธีกรรายการฟุตบอล ให้กับทางช่อง และกำลังมีผลงานละครอีกหลายเรื่องแต่ยังไม่ถึงขั้นระดับนางเอกแถวหน้า มะนาวจบชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนสงวนหญิง ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยรังสิต นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว มะนาวยังมีโอกาสได้ร่วมงานของจังหวัดสุพรรณบุรีบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นบ้านเกิด ไม่ว่าช่วงน้ำท่วม งานสำคัญของจังหวัดมักมีรายชื่อของมะนาวเข้าร่วมด้วยเสมอ อีกทั้งในอินสตาแกรมของมะนาว ชื่อ “manow28” ก็โพสต์ภาพบุคคลสำคัญที่ได้พบเจอเป็นประจำ ซึ่งภาพของมะนาวและนายบรรหารนั้นเป็นภาพที่มะนาวโพสต์ขึ้นไอจีด้วยตัวเองหลังจากไปชมฟุบอลนัดพิเศษที่สุพรรณบุรีและขอถ่ายภาพกับนายบรรหารพร้อมกับศิลปินดาราท่านอื่นในวันนั้นด้วยจนเกิดเป็นข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์กที่วิพากษ์วิจารณ์จนมะนาวต้องออกมาแถลงข่าวและเข้าแจ้งความหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป

       ต่อความสัมพันธ์ดังกล่าวน่าจะเป็นการเข้าใจผิดและผูกเรื่องเข้ากับภาพที่เป็นคนบันเทิงอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงการเมือง และหลายคนตั้งข้อสันนิษฐานวิจารณ์ว่าข่าวของนายบรรหารและมะนาวไม่น่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากมะนาวอยู่ในแวดวงการแสดงและทำงานทุกวัน ไม่ได้หายหน้าไปไหนเพียงแต่ยังไม่ใช่นางเอกแถวหน้าและรับงานอีเวนต์ในจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นหลักจึงไม่แปลกที่จะมีโอกาสเจอและสนิทสนมกับนายบรรหาร อีกทั้งยังเป็นนักเรียนทุนของนายบรรหารมาตั้งแต่สมัยเรียนอีกทั้งในวันถ่ายภาพก็ยังมีหลายคนอยู่ในเหตุการณ์และไม่ได้ทำในที่ลับแต่ประการใด ส่วนกับสาวคนอื่นในวงการบันเทิงนั้นยังไม่ปรากฏชัดถึงความสัมพันธ์ที่ยังคลุมเครือ
       ส่วนนายบรรหาร ศิลปอาชา ชี้แจงเพียงว่าตนเองโดนดิสเครดิตทางการเมืองแน่นอนในเรื่องข่าวกับมะนาว และยืนยันว่าไม่เคยมีประวัติด้านนี้มาก่อน

       “วันนั้นที่มีรูปผมจะเล่าให้ฟังว่าเป็นวันที่มีการแข่งฟุตบอลระหว่างทีมสุพรรณบุรีเอฟซีและบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในห้องรับรองมีหลายคน ตูน บอดี้สแลม ท็อป (วราวุธ ศิลปอาชา) สมศักดิ์ ปริศนานันทกุลและเด็กมะนาวก็อยู่ด้วย นั่งคุยกัน เสร็จเรียบร้อยตูนเขาก็ขอถ่ายรูปด้วยผมก็จับเข่าตูนทำไมไม่เอาไปลงล่ะ มะนาวก็ขอมาถ่ายด้วย เป็นลูกเป็นหลานปกติไม่มีอะไร ทีนี้มาลงกันไม่รู้เพราะอะไร ดิสเครดิตผมหรือเปล่า”

       ส่วน “กัญจนา ศิลปอาชา” ลูกสาวนายบรรหารยอมรับว่าเรื่องนี้ บิดาโดนกลั่นแกล้งจากผู้ไม่หวังดี เพราะกำลังทำเรื่องปฏิรูปการเมืองอยู่ และมีคนแซวว่าอาจต้องปฏิรูปครอบครัวตัวเองก่อนในคราวนี้

       “ตอนนี้คุณพ่อกำลังจะทำเรื่องปฏิรูปการเมือง คุณพ่อมีเจตนาดีที่จะทำเรื่องปรองดอง เพื่อให้ทุกฝ่ายจับมือกัน ให้บ้านเมืองสงบสุข ให้ประเทศไทยเราได้ก้าวไปข้างหน้า การปล่อยข่าวออกมาช่วงนี้ เป็นการดิสเครดิตคุณพ่อ รู้ค่ะข่าวแบบนี้คนจะสนใจ เพราะตอนนี้คุณพ่อกำลังทำเรื่องปฏิรูปบ้านเมือง ก็มีคนบอกว่าไปปฏิรูปบ้านตัวเองก่อนดีมั้ย”

       กรณีข่าวของนายบรรหาร ยังมีการพาดพิงไปถึง “คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา” ที่หายหน้าหายตาไป ไม่ค่อยได้ออกงานกับนายบรรหาร เดินทางไปบวชศึกษาธรรมะที่วัดใหญ่ชัยมงคล จ.อยุธยา หรือบางครั้งเดินทางไปยังภาคอีสานเพื่อปฏิบัติธรรม ปฏิรูปชีวิตด้วยธรรมะ ปล่อยให้นายบรรหาร “ปฏิรูปการเมือง” และ “และ “ปฏิรูปการมุ้ง” ไปในเวลาเดียวกันนี้

อย่างไรก็ตามทันทีที่มีข่าวของนายบรรหารและน้องมะนาว ก็ทำให้เกิดกระแสเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากสุพรรณบุรีว่ามีบ้านหลังใหญ่ ใน อ. สองพี่น้อง ว่ากันว่าคือบ้านของคนสำคัญที่นายบรรหารรู้ดีว่าคือบ้านของใคร!? ซึ่งคนย่านนั้นยืนยันว่าไม่ใช่ของ “มะนาว” แน่นอน แล้วตกลงบ้านหลังงามหลังนั้นคือบ้านใครกัน คำตอบนั้นยังคงต้องติดตามกันต่อไป



//www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000115805




 

Create Date : 15 กันยายน 2556   
Last Update : 15 กันยายน 2556 20:10:44 น.   
Counter : 4312 Pageviews.  

ดีเอสไอมึน! เอาผิด “แอปเปิล” ละเมิดลิขสิทธิ์ CTH ยาก เหตุแอปสโตร์จดทะเบียนเมืองนอก



ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ เผย CTH จี้จับผู้ประกอบการละเมิดลิขสิทธิ์เผยแพร่บอลพรีเมียร์ลีกเพื่อการค้า ชี้คดีที่จะเอาผิด “แอปเปิล” ยาก เนื่องจากจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ต้องตรวจสอบว่าแอปสโตร์เป็นของบริษัทในไทยหรือไม่!

       วันนี้ (13 ก.ย.) พ.ต.ท.ชินโชติ พุฒิวรรธธาดา ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีบริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ภาพฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2013-2014 ร้องทุกข์ให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ว่า ที่ผ่านมาผู้แทนบริษัท ซีทีเอช เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ กับร้านอาหารและโรงแรมที่ติดตั้งเคเบิลทีวีของซีทีเอชเพื่อรับชมภายในที่พัก แต่กลับนำสัญญาณภาพไปเผยแพร่ในที่สาธารณะเพื่อประโยชน์แห่งการค้า

       นอกจากนี้ยังกล่าวโทษให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับลูกค้าเคเบิลทีวีจำนวนหนึ่งที่ก๊อบปี้ข้อมูลจากกล่องรับสัญญาณซีทีเอชแล้วนำไปกระจายขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ผู้แทนซีทีเอชยังต้องการให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับผู้ที่ซื้อกล่องเคเบิลทีวีแอปสโตร์ที่ให้บริการในประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ มารับสัญญาณภาพในประเทศไทยด้วย เนื่องจากในประเทศไทยซีทีเอชเป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์เพียงรายเดียว อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีจะเน้นการปราบปรามผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์ทางการค้าเท่านั้นไม่ส่งผลกระทบถึงผู้บริโภค

       พ.ต.ท.ชินโชติ กล่าวอีกว่า ส่วนคดีที่ซีทีเอชยื่นฟ้องบริษัท แอปเปิล อิงค์ จำกัด บริษัท แอปเปิล เชาท์ เอเชีย ประเทศไทย (จำกัด) ซึ่งละเมิดลิขสิทธิ์เผยแพร่สัญญาณภาพฟุตบอลพรีเมียร์ลีกผ่านแอปพลิเคชัน สปอร์ต แชนแนล และอีก 5 แอปฯ ที่เปิดให้ดาวโหลดทางแอปสโตร์ของแอปเปิลนั้น ในส่วนของดีเอสไอคงไม่สามารถเข้าไปดำเนินคดีอาญาได้ เว้นแต่จะมีการนำสัญญาณภาพจากแอปสโตร์ไปเผยแพร่ต่อสาธารณะเพื่อประโยชน์ทางการค้า เนื่องจากบริษัท แอปเปิล เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในส่วนของแอปสโตร์ก็ไม่ใช่บริษัทในประเทศไทย จึงต้องตรวจสอบว่าแอปสโตร์ได้สิทธิ์ในการเผยแพร่หรือไม่



//www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000115742




 

Create Date : 13 กันยายน 2556   
Last Update : 13 กันยายน 2556 21:52:34 น.   
Counter : 1448 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]