พฐ.เก็บหลักฐานรถเก๋งพิธีกร News1 ถูกถอดล้อคาดอนเมือง อนาถ! วงจรปิดโดนน้ำท่วมใหญ่ยังไม่ซ่อม นายรณชาติ บุตรแสนคม ผู้ประกาศข่าว และผู้ดำเนินรายการของสถานีโทรทัศน์นิวส์วัน (เอเอสทีวี) ชี้ให้ดูสภาพรถหลังถูกคนร้ายขโมยถอดล้อแม็กซ์ทั้ง 4 ล้อ คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น นายรณชาติ ให้ข้อมูลกับตำรวจ ร่องรอยซึ่งคาดว่าเป็นลายนิ้วมือของคนร้าย เจ้าหน้าที่พฐ.ตรวจเก็บหลักฐาน ตำรวจ สน.ดอนเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ พฐ.ตรวจเก็บหลักฐานในรถยนต์ผู้ประกาศและพิธีกรสถานีโทรทัศน์ NEWS1 หลังถูกคนร้ายขโมยถอดล้อแมกซ์ทั้ง 4 ล้อ ขณะจอดภายในอาคารลานจอดรถสนามบินดอนเมือง พบกล้องวงจรปิดเสียตอนน้ำท่วมใหญ่ยังไม่ได้ซ่อม        วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ร.ต.ท.อนันต์ เหมือนเพชร พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เข้าตรวจสอบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแอคคอร์ด สีขาว ของนายรณชาติ บุตรแสนคม ผู้ประกาศข่าว และผู้ดำเนินรายการของสถานีโทรทัศน์นิวส์วัน (เอเอสทีวีเดิม) หลังถูกคนร้ายขโมยล้อแมกซ์ทั้ง 4 ล้อขณะจอดอยู่ภายในอาคารจอดรถของท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางได้ทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงคนร้าย ขณะตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของลานจอดรถ โดยจุดเกิดเหตุคนร้ายทิ้งแม่แรงไว้ 1 อัน รอบรถมีนอตล้อรถถูกถอนมากองไว้วางอยู่รอบคันรถ โดยรถถูกรองไว้ด้วยอิฐตัวหนอนที่ถอดออกมาจากพื้นบริเวณข้างเคียง        ร.ต.ท.อนันต์กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าอาคารจอดรถดังกล่าวยังไม่ได้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ แต่อนุญาตให้ประชาชนสามารถนำรถมาจอดได้ฟรี โดยไม่เสียค่าบริการ ขณะที่การรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราอยู่บ้างแต่ไม่ได้มีการเดินตรวจตราตลอดทั้งคืน ส่วนกล้องวงจรปิดมีการติดตั้งอยู่ที่บริเวณทางเข้า-ออก และกลางลานจอดรถ แต่จุดที่นายรณชาตินำรถไปจอดเป็นจุดที่อยู่ไกลทำให้กล้องไม่สามารถแพนไปถึง ประกอบกับบริเวณที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1 ซึ่งอาคารจอดรถแห่งนี้ไม่มีรั้วกั้น และอยู่ใกล้กับถนนใหญ่ ใครก็สามารถเดินผ่านเข้าออกได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านทางเข้า-ออก อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้า-ออก และตามจุดต่างที่ใกล้เคียงว่าในช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีบุคคลต้องสงสัยผ่านเข้ามาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดล่าสุดพบว่ากล้องภายในอาคารจอดรถ และประตูทางเข้าเสียตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมทั้งหมดและยังไม่ได้ซ่อมแซม        ด้านนายรณชาติกล่าวว่า สำหรับล้อแมกซ์ที่ถูกคนร้ายขโมยไปเป็นรุ่นใหม่ มูลค่าประมาณ 6 หมื่นบาท ตนเพิ่งเปลี่ยนมาได้ไม่นาน จากการพูดคุยตัวแทนประกันทราบว่าทางประกันจะชดใช้ให้เพียงครึ่งเดียวเนื่องจากล้อแมกซ์เป็นวัตถุเสื่อมสภาพ ส่วนเรื่องการชดใช้จากทางท่าอากาศยานดอนเมืองนั้นยังอยู่ระหว่างการประสานงานกับผู้ใหญ่ว่าจะมีการรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากถึงทางผู้บริหารท่าอากาศยานดอนเมืองให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัย เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุค่อนข้างมืดและเปลี่ยว ประกอบกับสถานที่ค่อนข้างเปิด คนนอกสามารถเดินเข้าออกได้โดยง่าย หากเป็นผู้หญิงและมาจอดรถเพียงลำพังเกรงจะไม่ปลอดภัย ส่วนประเด็นเรื่องการกลั่นแกล้งเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัวยืนยันว่าที่ผ่านมาตนเองไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือมีความขัดแย้งกับใคร คนร้ายน่าจะต้องการขโมยล้อแมกซ์มากกว่า        รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบล่าสุดเจ้าหน้าที่พบว่า กล้องวงจรปิดภายในอาคารจอดรถ และประตูทางเข้าเสียตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมใหญ่และยังไม่ได้ซ่อมแซม งามหน้า! คนร้ายยกรถถอดแม็ก 4 ล้อ รถพิธีกรหนุ่ม รปภ.สนามบินดอนเมืองไม่รู้เรื่อง   Create Date : 06 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 6 ตุลาคม 2557 21:35:13 น.     Counter : 1777 Pageviews.   Share Tweet

แรงงานหม่องสารภาพข่มขืนฆ่า 2 นักท่องเที่ยวฝรั่ง อ้างเกิดอารมณ์เห็นทั้งคู่พลอดรัก สุราษฎร์ธานี - ตำรวจรวบ 3 แรงงานพม่าก่อเหตุฆ่า 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษบนเกาะเต่า ภาพวงจรปิดเห็นชัดไปซื้อของร้านสะดวกซื้อมานั่งดื่มกิน-เล่นกีตาร์ใกล้จุดเกิดเหตุ ตำรวจเค้นหนักรับสารภาพแล้ว 1 อีก 2 ยังปฏิเสธ อ้างเห็นนักท่องเที่ยวพลอดรักกัน เกิดอารมณ์ทางเพศ จึงเข้าทำร้ายแล้วลงมือข่มขืนฝ่ายหญิงแล้วทุบซ้ำจนเสียชีวิต        จากกรณีคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ครบ 18 วันเต็ม        ล่าสุด วันนี้ (2 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแรงงานต่างด้าวชาวพม่า จำนวน 2 คน ซึ่งเป็นเด็กเสิร์ฟบาร์ AC TWO และร้านมายา หลังการตรวจสอบพบว่า มีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพกลุ่มบุคลดังกล่าวได้ จำนวน 3 คน ซึ่งได้เข้ามาซื้อบุหรี่ และสุราไปจากร้านสะดวกซื้อ แล้วนำมานั่งดื่มกินที่ขอนไม้ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายหาดทรายรีใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุ ในเบื้องต้นทั้งคู่ให้การรับว่า พากันมานั่งดื่มกินพร้อมเล่นกีตาร์ในบริเวณดังกล่าวจริง แต่ไม่ยอมรับว่ามีส่วนพัวพันต่อการสังหารนักท่องเที่ยวทั้งคู่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังเค้นสอบเครียดอยู่ในเซฟเฮาส์ข้างที่เกิดเหตุ        ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้เข้าควบคุมตัวนายวิน อายุ 22 ปี แรงงานต่างด้าวชาวพม่าลูกจ้างร้านเซฟตี้สต๊อป ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเทียบเรือเกะเต่า ซึ่งได้หลบหนีออกจากเกาะไปกับเรือนอนโดยสาร ที่ออกจากเกาะเต่าเมื่อเวลา 21.00 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ขณะเรือกำลังจะเข้าเทียบท่าเรือเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อค่ืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปเค้นสอบเครียดที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 โดยมี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ และ พล.ต.ต.พิษณุ ม่วงแพศรี รอง ผบช.ภาค 8 เป็นผู้ดำเนินการสอบสวน        สำหรับนายวิน ผลการสอบสวนในเบื้องต้นพบอยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัย 2 คนแรก และได้ย้อมผมเป็นสีทอง หลังเกิดเหตุได้ย้อมผมกลับมาเป็นสีดำ และไหวตัวหลบหนีออกมาจากเกาะแต่ไปไม่พ้น โดยผลการตรวจดีเอ็นเอจะรู้ผลในวันพรุ่งนี้        พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวบนเกาะเต่า 2 คน ไปสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวหรือไม่ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน รับว่าไปนั่งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุจริง แต่ยังไม่ยอมรับว่าได้ก่อเหตุฆ่านักท่องเที่ยวทั้ง 2 ราย ส่วนนายวินแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่จับได้ที่บริเวณท่าเทียบเรือในเขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานีนั้น แรงงานต่างด้าวคนดังกล่าวได้รับสารภาพแล้วว่าก่อเหตุดังกล่าว โดยแรงงานบอกว่า ขณะที่ตน และเพื่อนไปนั่งดื่มกินเหล้ากันอยู่ที่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษทั้ง 2 คนเดินมาด้วยกันแล้วมานั่งคุยกันในที่เกิดเหตุ ทำให้ตนและเพื่อนเกิดอารมณ์ทางเพศ ซึ่งเพื่อนอีกคนหนึ่งได้กลับไปหาภรรยาที่พัก ส่วนตัวเองกับเพื่อนอีกหนึ่งคนได้เข้าไปทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชายและหญิง และลากร่างนักท่องเที่ยวชายไปทิ้งที่ชายทะเล หลังจากนั้น ก็ได้ข่มขืนนักท่องเที่ยวหญิง เมื่อข่มขืนแล้วเสร็จก็ได้ใช้จอบทุบนักท่องเที่ยวหญิงซ้ำอีกครั้งจนเสียชีวิต        พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนี้ จะต้องเอาผลตรวจดีเอ็นเอมาเปรียบเทียบ และยืนยันอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร.บินด่วนลงเกาะเต่าเตรียมแถลงข่าวในค่ำของวันนี้ หลัง 3 แรงงานชาวพม่ารับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ   Create Date : 02 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 2 ตุลาคม 2557 22:09:52 น.     Counter : 1659 Pageviews.   Share Tweet

หวยบ้านเมือง1/10/57 เลขเด็ดหวยบ้านเมือง โชคดีร่ำรวย  หวยบ้านเมือง1/10/57 ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ตุลาคม 2557 หวยบ้านเมือง1/10/57 เจ้าแม่ตะเคียน ม้าสีหมอก เจ้าแม่ตะเคียนทอง เลขเด็ดอาจารย์ดัง เลขเด็ด อีกมากมาย ตรวจรางวัล ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจสลาก เช็ค หวยมาเลย์ หวยบนดิน ข้อมูลเกี่ยวกับ ตรวจลอตเตอรี่ อัพเดทรวดเร็ว ทันใจ คอหวยแน่นอน   Create Date : 30 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 30 กันยายน 2557 21:00:58 น.     Counter : 1134 Pageviews.   Share Tweet

หวยไทยรัฐ งวด 1 ตุลาคม 2557 หวยไทยรัฐ1/10/57  หวยไทยรัฐ1/10/57 ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ตุลาคม 2557 หวยไทยรัฐ1/10/57 เจ้าแม่ตะเคียน ม้าสีหมอก เจ้าแม่ตะเคียนทอง เลขเด็ดอาจารย์ดัง เลขเด็ด อีกมากมาย ตรวจรางวัล ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจสลาก เช็ค หวยมาเลย์ หวยบนดิน ข้อมูลเกี่ยวกับ ตรวจลอตเตอรี่ อัพเดทรวดเร็ว ทันใจ คอหวยแน่นอน   Create Date : 30 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 30 กันยายน 2557 21:00:15 น.     Counter : 1990 Pageviews.   Share Tweet

อธิการสวนนันรับ รุ่นพี่ใช้น้ำตาเทียนหยดรับรุ่นน้องจริง “กำจร” สั่งเร่งรายงานผล ไม่ฟันเอาผิดผู้บริหาร คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น อธิการราชภัฏสวนนัน เสียใจเหตุรับน้องรุนแรงขอโทษสังคมและผู้ปกครอง รับเหตุเกิดในมหา’ลัย ลั่นเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย ชี้ นศ. ทำผิดกฎใน 2 ข้อ ทั้งรับน้องเกินช่วงเวลาที่กำหนดไว้ภายในเดือนสิงหาคม และห้ามถูกตัวรุ่นน้อง ระบุไม่มั่นใจรุ่นพี่กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวที่เคยก่อเหตุชกท้องรุ่นน้องหรือไม่ ด้าน “กำจร” จวกปัญญาชนไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้ สั่งมหา’ลัยเร่งแจง ไม่ฟันธงเอาผิดผู้บริหารขอดูรายงานผล ตามที่มีการเผยแพร่ภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บการน้ำตาเทียนหยดใส่จนเป็นแผลพุพอง ผ่านสังคมออนไลน์และมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งใช้ชื่อว่า Aut Tra Pon ได้โพสต์ข้อความว่า “น้องผมเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา สาขาเทคโนโลยีการพิมพ์ แล้วโดนรุ่นพี่รับน้องแบบป่าเถื่อนมาก แล้วพอไปสอบถามอาจารย์กับได้คำตอบที่ ดีมาก ว่ามันเป็นการ รับน้องของรุนพี่กับ รุนน้อง ที่ทำต่อๆ กันมา แล้วเค้าก็บอกว่าได้เรียก รุนพี่มาตักเตือนแล้ว ถ้าเป็นลูกเป็นหลาน คุณบ้างละ คุณคงไม่อยู่เฉยๆ แน่นอน ผมกับครอบครัวคงไม่ ปล่อยให้เรื่องนี้ จบลงแบบง่ายๆ แน่นอนผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด มันจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์นี้กับใครอีกลบกวนขอความเห็นใจช่วยกันแชร์ทีนะคับ เหตุการณ์แบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นกับน้องคนอื่นๆ อีก “ผมไม่อยากให้เรื่องนี้มัน เงียบหายไปจากพี่ผมไปสอบถามคุณพ่อ คุณแม่ของเด็กบางคนเค้าก็กลัวไม่ก้าไปแจ้งความเพราะกลัวลูก จะถูกรุ่นพี่ทำร้าย ละบางคนก็ไม่มีเวลาพาลูกไปแจ้งความ เพราะความจนงานก็หยุดไม่ได้จะนั่งรถ ไปแต่ละทีค่ารถก็หลายร้อยบาท มันคงจะดูเป็น เงินไม่เยอะสำหรับคน รวย แต่มันเยอะมากนะคับสำหรับคน จนๆ กับการที่ต้องมานั่งลางานแล้วหาเงินค่า รถไปแจ้งความกับการกระทำสิ้นคิดของพวกคุณ” โดย รศ.ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนสุนันทา (มร.สส.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ว่า ตนรับทราบเรื่องดังกล่าว และได้มอบให้คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และทางคณะฯ ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า มีรุ่นพี่จำนวนหนึ่งจัดกิจกรรมรับน้อง และได้กระทำการโดยใช้น้ำตาเทียบหยดใส่แขนรุ่นน้องจริง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ทราบว่ามีรุ่นพี่ที่กระทำดังกล่าวทั้งหมดกี่คน และยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจและจะดำเนินการสอบสวนให้ถึงที่สุด และจะทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ต่อไป “รู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องขออภัยต่อทั้งผู้ปกครองและนักศึกษาที่ถูกกระทำ และจะดำเนินการทุกวิถีทางให้เรื่องยุติและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็วที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่านักศึกษารุ่นพี่มีความผิดจริง โดยผิดใน 2 กรณี คือ 1. เป็นการจัดกิจกรรมรับน้องเกินขอบเขตเวลาที่กำหนด ตามประกาศการจัดกิจกรรมรับน้องของ มร.สส. ที่กำหนดให้ต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ส.ค. แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา 2. การจัดกิจกรรมรับน้อง รุ่นพี่ต้องห้ามแตะต้องตัวรุ่นน้อง อีกทั้งหากนักศึกษารุ่นพี่ชุดนี้เป็นชุดเดียวกับที่เคยถูกพ่อแม่ผู้ปกครองร้องเรียนว่ามีการต่อยท้องรุ่นน้องเมื่อจัดกิจกรรมรับน้องก่อนหน้านี้ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ตักเตือน ลงโทษโดยภาคทัณฑ์บนไปแล้ว หากเป็นชุดเดียวกันก็จะลงโทษโดยพักการเรียน ตามระเบียบสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2548 รวมทั้งต้องไปขอโทษคู่กรณีอย่างเป็นทางการ เพราะถือเป็นการผิดทางวินัยและเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และหากทางพ่อแม่ผู้ปกครองได้ไปแจ้งความก็ต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย”อธิการบดีมร.สส.กล่าว รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ทางมหาวิทยาลัยรายงานผลที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร เกิดความบกพร่องในส่วนไหน เพราะที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้กำชับไปมหาวิทยาลัยทั่วประเทศแล้วให้ดูแลเรื่องการรับน้องอย่างใกล้ชิด และจะต้องไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก และหากเรื่องนี้เป็นจริงมหาวิทยาลัยจะต้องดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิด เพราะมหาวิทยาลัยมีระเบียบในการลงโทษนักศึกษาที่ทำผิดวินัยอยู่แล้ว ส่วนผู้เสียหายจะไปแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมาย ก็สามารถกระทำได้เพราะเป็นสิทธิ์และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การจะลงโทษผู้บริหารมหาวิทยาลัยหรือไม่นั้นต้องขอดูผลการรายงานก่อนว่าเป็นอย่างไร หากผิดก็จะต้องถูกลงโทษเช่นกัน “จากสภาพของนักศึกษาที่ถูกกระทำถือว่าเป็นการถูกประทุษร้าย เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าน้ำตาเทียนร้อน และหากถูกจะเกิดผลอะไรตามมา และการกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นด้วย ส่วนที่ว่าเป็นประเพณีเคยทำกันต่อมานั้นผมถามว่าทำไปเพื่ออะไร ถ้าคิดว่าตัวเองเคยถูกทำเช่นนี้แล้วจะต้องมาทำคนอื่นต่อไม่ใช่เหตุผล ปัญญาชนเค้าไม่ทำกัน ประเพณีที่ไม่ดีก็ไม่ควรที่จะต้องทำตาม อย่างไรก็ตามหากผลออกมาว่าตั้งใจกระทำผิดต้องลงโทษให้เด็ดขาด” รศ.นพ.กำจร กล่าว //www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9570000112027   Create Date : 29 กันยายน 2557     0 comment Last Update : 29 กันยายน 2557 22:48:25 น.     Counter : 1751 Pageviews.   Share Tweet