เช็กเส้นทางพระธุดงค์ธรรมชัย 25 ม.ค. ผ่านกลางกรุงหลายจุด เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอบคุณภาพประกอบจาก dmc.tv ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมใหญ่ของวัดพระธรรมกาย สำหรับโครงการธุดงค์ธรรมชัย เส้นทางมหาปูชนียาจารย์พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ปีที่ 2 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-27 มกราคม พ.ศ. 2556 โดยพระสงฆ์ทั่วประเทศ จำนวน 1,128 รูป จะเดินธุดงค์ผ่านพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร รวมระยะเวลา 26 วัน เป็นระยะทางกว่า 446 กิโลเมตร จุดประสงค์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา สืบสานวัฒนธรรมชาวพุทธ เสริมสิริมงคลรับปีใหม่ สร้างบุญใหญ่ให้แผ่นดิน  ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวใกล้จะสิ้นสุดแล้ว หลังจากคณะพระธุดงค์เริ่มออกเดินทางจากวัดพระธรรมกาย มาตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม จนถึงวันที่ 24 มกราคม คณะได้มาหยุดพักที่บริเวณเขตตลิ่งชัน และจะเดินทางต่ออีก 2 วัน เพื่อกลับสู่วัดพระธรรมกายในจุดตั้งต้น สำหรับในวันศุกร์ที่ 25 มกราคมนี้ คณะพระธุดงค์ธรรมชัย จะเดินผ่านในหลายเส้นทางกลางกรุง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนได้ ดังนี้ เวลา 08.45 น. พระธุดงค์ออกเดินทางจากที่ดินตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม. ผ่านถนนฉิมพลี ถนนบรมราชชนนี เวลา 10.56 น. ข้ามสะพานปิ่นเกล้า เวลา 11.10 น. ผ่านตลาดบางลำพู เวลา 11.20 น. ผ่านวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร เวลา 11.45 น. ผ่านกรมแผนที่ทหาร เวลา 11.55 น. ผ่านหน้าสหประชาชาติ แล้วไปหยุดพักที่กระทรวงศึกษาธิการ เวลา 12.00-12.40 น. เวลา 12.40 น. ออกเดินทางต่อ เวลา 12.51 น. ผ่านพระบรมรูปทรงม้า เวลา 13.05 น. ผ่านหน้าสวนสัตว์ดุสิต เวลา 13.52 น. ผ่านโรงพยาบาลพระมงกุฎ เดินทางต่อไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 14.01 น. ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินต่อไปถึงโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี เวลา 15.01 น. ถึงโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี เพื่อพักค้างคืน            รวมระยะทางทั้งหมด 18.87 กิโลเมตร ลองตรวจสอบเส้นทางดังกล่าวตามแผนที่ข้างล่างนี้อีกครั้ง และหากใครไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงการจราจรในเส้นทางดังกล่าวในวันศุกร์ที่ 25 มกราคม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด   Create Date : 24 มกราคม 2556     0 comment Last Update : 24 มกราคม 2556 21:31:13 น.     Counter : 3932 Pageviews.   Share Tweet

ชาวเน็ตจี้ตำรวจเร่งสอบคลิป แฟน แอล โอรส ชวนเสพยาเคผ่านยูทูบ เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ชาวเน็ตร้องสื่อหลังพบคลิป แฟน แอล โอรส ชวนเสพยาเคเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ยูทูบ โดยมียอดคนดูนับแสน และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมทั้งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน             เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน โดยแจ้งว่า ขณะนี้มีคลิปวิดีโอไม่เหมาะสมคลิปหนึ่งเผยแพร่อยู่ในเว็บยูทูบ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบและดำเนินการด้วย โดยคลิปดังกล่าวมีชื่อว่า "เมีย แอว โอรส ชวนเพื่อนเสพยา" มีคนคลิกเข้าชมแล้วกว่าแสนราย ในคลิปมีหญิงสาววัยรุ่น 4-5 คน นั่งล้อมวงกันอยู่บนเตียง จากนั้นมีสาววัยรุ่นคนหนึ่งเผยให้ดูเกล็ดผงสีขาวที่กองอยู่ในธนบัตร พร้อมระบุว่าผงดังกล่าวเป็นยาเสพติดประเภท ยาเค และกล่าวว่า หากใครที่กำลังมีปัญหา หรือกลุ้มใจอะไร ลองมาเสพยาเค เดี๋ยวก็หายเครียด ซึ่งทางผู้โพสต์คลิปขอให้ตำรวจรีบติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของเด็กสาวในคลิปโดยด่วน ทั้งนี้ โอรสเป็นชื่อของแก๊งวัยรุ่นย่านฝั่งธนบุรี ที่พัวพันกับอาวุธปืนและยาเสพติด ล่าสุด วานนี้ (22 มกราคม) ตำรวจนครบาลเพิ่งแถลงข่าวจับกุมสมาชิกแก๊งโอรสบางส่วน รวมถึง อาร์ม โอรส ที่มีการเผยแพร่คลิปอยู่ในยูทูบเช่นเดียวกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก   Create Date : 23 มกราคม 2556     0 comment Last Update : 23 มกราคม 2556 22:12:23 น.     Counter : 2615 Pageviews.   Share Tweet

ชาวเน็ตจวก! ตำรวจจัดพริตตี้สั้นเสมอหู ต้อนรับอธิบดี DSI เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์ หลังจากมีภาพตำรวจ สภ.โรงช้าง เตรียมสาวพริตตี้นุ่งสั้นมารับรอง เสิร์ฟน้ำให้แก่อธิบดีดีเอสไอ และคณะ ขณะลงพื้นที่           ในวันนี้ (22 มกราคม) ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในกลุ่มสังคมออนไลน์ เมื่อมีทั้งภาพและคลิปเผยแพร่ออกมาให้เห็นกันชัด ๆ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โรงช้าง ได้จัดเตรียมกลุ่มสาวพริตตี้นุ่งชุดกระโปรงรัดรูปชนิด "สั้นเสมอหู" มาไว้คอยรับรอง เสิร์ฟน้ำท่า คอยให้บริการแก่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และคณะ ระหว่างเดินทางมาลงพื้นที่ สภ.โรงช้าง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังถูกผู้รับเหมาทิ้งงาน           จากภาพดังกล่าว ได้สร้างกระแสความไม่พอใจถึงความไม่เหมาะสมให้แก่ผู้คนในสังคมออนไลน์อย่างมาก โดยคนส่วนมากจะวิจารณ์ไปในเชิงต่อว่าถึงความไม่เหมาะสมในการนำสาวพริตตี้มาคอยต้อนรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมของสังคม ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงการขาดความนึกคิด ไม่คำนึงถึงกาลเทศะ           ดังเช่นความคิดเห็นของ ผู้ที่ใช้ชื่อว่า Chai Chai Suwan ที่ได้โพสต์ลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ว่า "ยืนดูกันอยู่ได้นะคะ ไม่อายฟ้าดิน ไม่รู้หรือไงคะว่ามันไม่เหมาะสมเลยจริง ๆ จัดโดยที่ไม่คิด ถ้าไม่ทำแบบนี้พวกที่ลงพื้นที่มันจะตายกันเหรอคะ เหมือนสนองตัณหาแล้วจะได้ดี อายลูกอายหลานมั่งคะ" และความคิดเห็นของผู้ใช้ที่ชื่อว่า  อ้อมใจ บุญประเสริฐ ว่า "ยิ่งนับวัน..ยิ่งเสื่อมทรามลง.. ใครว่ะคิด ไอ้ระดับผู้บริหารที่นั่นมันคิดได้แค่นี้เองเหรอ...คิดแบบนี้ระดับชาวบ้านก็ทำได้.." อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ทีนิวส์   Create Date : 22 มกราคม 2556     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2556 21:07:24 น.     Counter : 2022 Pageviews.   Share Tweet

สรุป 18 หมายเลขผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3           คึกคัก รับสมัครผู้ว่าฯ วันแรก กองเชียร์มาให้กำลังใจเพียบ ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จับสลากได้เบอร์ 16 เสรีพิศุทธ์ ได้เบอร์ 11 ขณะที่ พงศพัศ ได้เบอร์ 9           วันที่ 21 มกราคม 2556 พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การเปิดรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันแรก มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร สถานที่ และเอกสาร ซึ่งขั้นตอนในการรับสมัคร จัดเป็นสัดส่วนเรียบร้อย โดยเปิดห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ส่วนผู้สมัครที่มาถึงแล้วต้องมาลงทะเบียนเพื่อแจ้งความประสงค์ จากนั้นให้นำเอกสารไปให้เจ้าหน้าที่ ที่ห้องเจ้าพระยา เพื่อตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด และกรณีที่มีผู้มายื่นสมัครก่อนเวลาที่กำหนด คือ 08.30 น. ปลัด กทม. จะดำเนินการจับสลาก เพื่อจัดลำดับให้กับผู้สมัครในการจับหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร จึงจะมีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานในการสมัคร เพื่อประกาศหมายเลขประจำตัวผู้สมัครได้อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า เป็นไปด้วยความโปร่งใส           ทั้งนี้ การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิลงสมัครของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อย่างเป็นทางการ จะประกาศได้หลังจากปิดวันรับสมัครไปแล้ว 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ กทม. ได้ประสานกับกรมการปกครอง จัดส่งบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดให้กับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เพื่อรองรับช่วงเลือกตั้งให้ได้เฉลี่ยวันละ 500 ใบ ขณะที่การทำบัตรประชาชนเฉลี่ยแต่ละเขตจะอยู่ที่ 100-150 ใบ รวมทั้งจะมีการพิจารณาให้เขตเปิดทำการทำบัตรประชาชนเพิ่มเติมได้ในวันอาทิตย์จนกว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ด้วย       ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัย ได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 300 นาย รวมถึง เจ้าหน้าที่เทศกิจ ที่เข้าเสริมการปฏิบัติหน้าที่ตลอดวันรับสมัครด้วย  ด้านบรรยากาศการรับสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. วันแรก ที่ศาลาว่าการ กทม. เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เนื่องจาก บรรดาผู้สมัครบางคน ได้เดินทางมาถึงตั้งแต่เช้า อาทิ นายวรัญชัย โชคชนะ ในนามอิสระ, พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัคร ในนามพรรคเพื่อไทย ซึ่งทันทีที่เดินทางมาถึงได้มีสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็ได้เดินทักทายกับผู้ที่มาให้กำลังใจ ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์และเข้ากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายใน ศาลาว่าการ กทม. เพื่อเข้าสู่กระบวนการรับสมัคร ในเวลา 08.30 น.           พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา นอนหลับฝันดี และไม่ได้รู้สึกกังวลใจว่าจะได้หมายเลขอะไร ซึ่งก่อนออกจากบ้านก็ได้หอมแก้มภรรยาเป็นการเอาฤกษ์ นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงในช่วงที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชนและส่วนใหญ่ประชาชนจะคุ้นเคย เพราะทำโครงการฝากบ้านกับตำรวจ มานาน กว่า 13 ปี การลงพื้นที่ส่วนใหญ่จึงเป็นการไปคาราวะขอพรจากผู้หลักผู้ใหญ่ในชุมชนและรับฟังปัญหา ทั้งนี้ หากวันนี้ได้หมายเลขก็จะเข้าสู่กระบวนการหาเสียงนโยบายอย่างเต็มรูปแบบ โดยในเย็นวันนี้ก็จะเปิดเวทีปราศรัยเป็นวันแรกที่ลานคนเมือง เพื่อชี้แจงถึงที่มาที่ไป และรับฟังเสียงคน กทม. ว่าอยากจะแก้ปัญหาเรื่องอะไร ส่วนทีมงานจะมีการตั้งทีมที่ปรึกษาขึ้นมา เพื่อหารือเกี่ยวกับการวางยุทธศาสตร์การทำงานต่อไป ทั้งนี้ มั่นใจในกระบวนการและนโยบายที่จะนำเสนอให้ประชาชน อย่างไรก็ดี สำหรับการรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ ได้มีการตั้งจุดตรวจจุดเข้าออก โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจจากสำนักงานเขตพระนคร 200 นาย และตำรวจนครบาลอีก 200 นาย           ขณะที่ทางด้านบรรดาผู้สนับสนุน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่เดินทางกันมาอย่างหนาตา ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ก็ได้มีการยกธงพรรค พร้อมชูป้ายนโยบาย รักกรุงเทพฯ ร่วมสร้างกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังได้นำเครื่องขยายเสียงเปิดเพลงที่บรรจุเนื้อหาแนะนำตัวผู้สมัครและนโยบายของพรรคที่สังกัด ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก    อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเผยว่า ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้ทำการจับสลากเบอร์ประจำผู้สมัครในวันแรกแล้ว ดังนี้... หมายเลข 1 นายวิละ อุดม หมายเลข 2 นายวรัญชัย โชคชนะ หมายเลข 3 ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ หรือ ตู่ ติงลี่ ผู้สมัครขาประจำ หมายเลข 4 นายโสภณ พรโชคชัย นักวิชาการด้านอสังหาริมทรัพย์ หมายเลข 5 นายสมิตร สมิทธินันท์ ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ขาประจำ หมายเลข 6 นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 7 นายณัฏฐ์ดนัย ภูเบศอรรถวิชญ์ เจ้าของธุรกิจศักดิ์สิทธิ์อัลลอย หมายเลข 8 นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล หมายเลข 9 นายพงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 10 นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครอิสระ อดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ หมายเลข 11 พล.ต.อ เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หมายเลข 12 น.ส.จงจิตร์ หิรัญลาภ หมายเลข 13 นายวศิน ภิรมย์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 14 นายประทีป วัชรโชคเกษม หมายเลข 15 นายจำรัส อินทุมาน หมายเลข 16 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 17 โต้ สุหฤท สยามวาลา หมายเลข 18 นางนันท์นภัส โกไศยกานนท์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก   Create Date : 21 มกราคม 2556     0 comment Last Update : 21 มกราคม 2556 22:44:20 น.     Counter : 2231 Pageviews.   Share Tweet

ค่าแรง 300 ทำพิษ! สหพัฒน์ปิดโรงงานรองเท้า- จ่อขึ้นราคามาม่า สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล   ค่าแรง 300 ทำพิษ! สหพัฒน์ปิดโรงงานรองเท้า ราคามาม่าสุดอั้น อาจปรับเพิ่มขึ้นหากแบกรับต้นทุนไม่ได้ เนื่องจาก น้ำมันปาล์ม-แป้งสาลี ราคาสูงขึ้น ขณะที่ ยูนิลีเวอร์-พีแอนด์จี ปรับกลยุทธ์ เน้นสินค้าคุณภาพดี ราคาสูง เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่มากขึ้น                จากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่รัฐบาลประกาศให้มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศนั้น นอกจากจะส่งผลไปยังผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SME ในแง่ของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีหลายโรงงานที่ต้องปิดกิจการไป ยังส่งผลกระทบผู้ผลิตรายใหญ่อย่างเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย                โดยวานนี้ (19 มกราคม) นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเกี่ยวกับค่าแรง 300 บาทว่า ถึงแม้การส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น แต่อีกด้วยก็ทำให้ผู้ผลิตปิดตัวโรงงานไปหลายรายเช่นกัน คนงานจำนวนไม่น้อยก็ต้องตกงาน ส่วนโรงงานไหนที่แข็งแรงอยู่ ก็ต้องถึงกับกัดฟันสู้เหมือนกัน ในส่วนของโรงงานเครือสหพัฒน์นั้น นายบุญชัย กล่าวว่า ส่วนใหญ่ยังสามารถประคองตัวได้ ทุกบริษัทยังสามารถทำกำไรได้ดี มีเพียงอุตสาหกรรมรองเท้าเท่านั้น ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากต้นทุนสูงสู้หลาย ๆ ประเทศไม่ได้ และเมื่อเจอค่าแรง 300 บาท ที่ปรับขึ้น 7 จังหวัดเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยเฉพาะ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมศรีราชาของเครือสหพัฒน์ สำหรับเฟส 2 ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย สิ่งที่บริษัททำคือปิดโรงงานรองเท้าให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อควบคุมต้นทุน                นอกจากนี้ นายบุญชัย ยังระบุถึงปัจจัยที่มีผลกระทบชัดเจนต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคว่า สถานการณ์ของแพง ซึ่งค่าแรง 300 บาท ก็อาจจะทำให้ข้าวของแพงขึ้น ราคาอาหารต่าง ๆ ปรับเพิ่มมากขึ้น และสิ่งที่กังวลมากในขณะนี้ก็คือ ราคาวัตถุดิบที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะราคาน้ำมันปาล์ม และแป้งสาลี ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  และทางเราก็ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นได้ ถ้าวัตถุดิบขึ้นเยอะ ๆ แล้วเราไม่สามารถรักษาสภาพต้นทุนไว้ได้ ก็ต้องขึ้นราคา ขณะที่ นายบาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทไม่ได้มีปัญหาเรื่องต้นทุนจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเร่งทำนั้น คือพัฒนาทักษะแรงงานของไทยให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพของการแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ เนื่องจากคนมีกำลังซื้อมากขึ้น สังเกตได้จากยุทธศาสตร์ของบริษัทที่ผ่านมา ก็จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในราคาที่สูงขึ้น เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนในเมือง                ส่วนทางด้าน นายวรศิษย์ ตุรงค์สมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประจำประเทศไทย บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กำลังซื้อของประชาชนกำลังเป็นไปในทางที่ดี โดยแนวทางการทำตลาดของบริษัทนำเสนอกลยุทธ์ คุณภาพสินค้าในราคาที่เข้าถึงได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็คือ ผู้บริโภคยอมที่จะจ่ายแพงเพื่อได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดอุปโภคบริโภคปัจจุบันจึงปรับไปสู่ตลาดพรีเมี่ยม    ด้าน นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตอนนี้สินค้าในกลุ่มอุปกรณ์สำนักงานและสเตชันนารี่ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด  แต่ถ้าหากผู้ผลิตที่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าแรง ค่าน้ำมัน รวมถึงค่าไฟฟ้าได้ คาดว่าจะได้เห็นภาพของการปรับราคาขึ้นในไตรมาส 2 โดยทางผู้ผลิตจะแจ้งหนังสือให้ร้านค้าทราบล่วงหน้า 1-2 เดือน เพื่อเตรียมตัวอยู่แล้ว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก   Create Date : 20 มกราคม 2556     0 comment Last Update : 20 มกราคม 2556 22:32:43 น.     Counter : 2323 Pageviews.   Share Tweet