ความรู้สึกของทีมชาติ จะทำอะไรคิดถึงหน้าตาประเทศด้วย
ไม่รู้คนอื่นจะรู้สึกอย่างนี้หรือเปล่า เวลาต้องทำอะไรกับคนต่างชาติ จะรู้สึกเหมือนเราเป็นทีมชาติขึ้นมา ไม่ว่าจะทำอะไรจะรู้สึกพยายามมากขึ้น เพื่อไม่ให้น้อยหน้าเค้า ถ้าพูดถึงสิ่งที่เราแบกอยู่ข้างหลัง จะพบว่าเราทุกคนมีสิ่งที่แบกอยู่ที่หลังกันทั้งนั้น
ออกจากบ้าน เราแบกนามสกุลของเราไว้ ไปเรียนหนังสือ เราแบกชื่อสถาบันไว้ ทำงาน เราแบกชื่อของหน่วยงานไว้ ไปแข่งขันกับนานาชาติ เราแบกชื่อประเทศ
อย่าลืมเราอยู่ที่ไหนก็ตาม เราแบกชื่อต่่างๆ ไว้มากมาย อย่าทำให้มันเสีย ยิ่งเป็นต่างประเทศ เราก็เหมือนกำลังแบกชื่อของประเทศไทยไว้ อย่าทำอะไรที่มันเสียชื่อประเทศชาติ และเมืองไทย เพราะผมเห็นมีหลายคนมากที่ทำพฤติกรรมที่อาจส่งผลเสียต่อประเทศไทย รวมไปถึง หญิงไทย ในสายตาชาวต่างชาติหลายๆ ชาติ เค้ามองภาพ หญิงไทย ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นเราต้องช่วยกันระวัง แต่ก็มีหญิงไทยหลายคน แสดงพฤติกรรมที่ผมว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าที่ควร ซึ่งผมก็พยายามเตือนบ้าง ตามแต่โอกาส แต่เพราะบางคนเค้าอายุมากกว่า เราไปเตือนเค้า เค้าคงไม่พอใจนัก (แก่แล้วแก่เลย) เอาเป็นว่าจะหญิงหรือชายจะทำอะไรก็คิดๆ หน่อยว่า คนอื่นจะมองเราซึ่งเป็นคนไทยอย่างไร
"อย่างไรก็ตามก็ไม่ต้องเครียดมากนักเกี่ยวกับเรื่อง ชื่อ ที่เราแบกไว้ แต่ก็ไม่ควรลืมเรื่อง ชื่อ ที่เราต้องแบกไว้เช่นกัน"
วันเสาร์ที่ 22 มี.ค. 2551 ผมต้องมาทำกิจกรรมที่มหาลัย เป็นการจัดบอร์ดประกวด ผมได้เจอพฤติกรรมของหญิงไทยคนหนึ่งที่นับว่าแย่ ขอเรียกหญิงไทยคนนั้นว่า "ป้าไอ" นะครับ "ป้าไอ" เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงประมาณว่า "ข้าเก่งสุด" ทุกคนต้องฟังข้า ชอบดูถูกคนอื่น เป็นต้นว่า ถ้าคนอื่นเรียนนระดับสูงกว่าแก แต่ตอบคำถามแกไม่ได้แกจะเริ่มดูถูก
มีครั้งนึงพูดเรื่องอะไรจำไม่ได้แล้ว แต่มันคงไม่ตรงกับความคิดแก แกทำท่าจะตี ผมง้างขาจะแตะ แล้วเตือน "ผมไม่เกรงใจแล้วนะ" ให้มันรู้ไปว่าตีนกูกับมือมึงใครจะแน่หว่ากัน เคยโดนตีมาหลายทีละ เพราะความเห็นไม่ตรงกัน (ประมาณว่า 5 คนบอกซ้าย แกคนเดียวบอกขวา) เห็นเป็นป้า ผมเลยปล่อยไป แต่นี่มันเกินไป ใครทนได้ก็บ้าแล้ว อายุก็ไม่น้อยแล้วทำตัวอย่างกับเด็ก ขนาดอายุยังต้องปิดยังเลย ป้าเอ้ย....
มีคนสอบ HSK ได้ระดับ 6 แกก็พูดออกมาได้ว่า "เฮ้ย เป็นไปไม่ได้ อย่ามาหลอกกันเลย" ทำไมต้องหลอก ทำไมต้องดูถูก อาจเป็นเพราะแกไม่สามารถไปถึงระดับนั้นได้ แกเลยพูดอย่างนี้ก็เป็นได้
การทำงานเป็นกลุ่มย่อมมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ยิ่งภาษาต่างกันยิ่งลำบาก คนเกาหลี ก็เร่ง "ป้าไอ" แต่ป้าแกดันพูดออกมาได้ว่า
"我不是你的孩子" (กูไม่ใช่ลูกมึงนะเฟ้ย) ถ้าเค้าสวนกลับมาล่ะว่า "你算了是什么东西" (มึงถือว่ามึงเป็นตัวอะไรวะ) จะว่าไง ตัวเองมาทำกิจกรรมช้ายังมีหน้าไปว่าเค้า หาว่าเค้าสั่ง พูดออกมาไม่อายปากว่า "ช้าแค่ครึ่งชั่วโมงเอง"
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัย ได้จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อไม่ให้นักเรียนต่างชาติรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเรียน กิจกรรมก็มีหลายหลายรูปแบบ เช่น ร้องเพลง, เขียนอักษรจีน, วาดภาพจีน, กังฟู, การแสดง ฯลฯ ซึ่งผมก็ไปเข้าร่วมกับเค้าด้วย ที่สำคัญฟรีครับ
วันพฤหัสที่ 20 มี.ค. 2551 ผมก็เข้าร่วมกิจกรรมตามเคย ระหว่างที่นั่งฟังอาจารย์บรรยายเพื่อนผมบังเอิญ เจอโทรศัพท์มือถือ Sony Ericsson S500 เราตัดสินใจตามหาเจ้าของเพื่อส่งคืน มันไม่น่าจะตามหายาก เพราะดูภาษาในเครื่องเรารู้ว่าเจ้าของเป็นคนเวียดนาม และเคยมานั่งเรียนห้องที่ผมนั่งทำกิจกรรม ที่สำคัญก็เป็นนักเรียนต่างชาติเรียนที่เดียวกัน ผมเลยยอมเสียเวลาตามหาเจ้าของ (เพื่อนผมเค้าพึ่งเริ่มเรียนภาษาจีนน่ะ เลยยังพูดไม่ค่อยได้ เลยรบกวนผมช่วยหน่อย) แต่ใจผมก็ดันคิดในทางลบว่า "คนอื่นจะมองผมอย่างไร เพราะไม่แน่เค้าอาจจะมองเราเป็นไอ้โง่ก็ได้ แทนที่จะเอาไปขายก็ได้เงินมาอย่างน้อยๆ ก็ 300 หยวน แต่เสือกโง่เอาไปคืน" ความคิดขัดแย้งมันเกิดขึ้น แต่ผมก็คิดถึงนิทานเรื่องนึงขึ้นมาว่า
มี เด็ก 1 คน คนแก่ 1 คน ลา 1 ตัว ( = คือคนทั่วไปมองว่า) เด็กขี่ลา คนแก่เดิน = ทรมานคนแก่ คนแก่ขี่ลา เด็กเดิน = ทรมานเด็ก ขี่ลาทั้ง 2 คน = ทรมานสัตว์ ไม่ขี่ลาทั้ง 2 คน = โง่
"ไม่ว่าทำอย่างไรก็ไม่พ้นขี้ปากคนอยู่ดี ตราบใดที่เราเป็นคน เราก็ต้องโดนด่า" ผมเลยพยายามตามหาเจ้าของ ในวันศุกร์และไม่นาน เราก็ตามหาเจ้าของเจอจนได้ ผมพยายามทดสอบว่าเป็นเจ้าของตัวจริงหรือไม่ ด้วยวิธีการต่างๆ จนแน่ใจว่าใช่เจ้าของจึงส่งมือถือคืน เจ้าของมือถือกล่าวขอบคุณใหญ่ ผมเลยบอกเค้าว่า ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก เพราะผมไม่ได้เป็นคนเก็บได้ เพื่อนผมต่างหากที่คุณควรไปขอบคุณ
ผมเข้าใจความรู้สึกของเจ้าของดี เพราะผมก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่เป็นกระเป๋าตังค์ไม่ใช่มือถึอ และผมดีใจมากที่มีคนส่งคืน ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองผมยังไง หรือในสายตาชาวต่างชาติจะมองอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ผมสบายใจ และได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีก 1 คน วันจันทร์ที่จะถึงนี้ เราจะไปกินข้าวกัน
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาฟัง
Create Date : 23 มีนาคม 2551 |
|
32 comments |
Last Update : 23 มีนาคม 2551 14:06:37 น. |
Counter : 1208 Pageviews. |
|
|
|